[quote/]
ก็ ตามประวัติ ของ โอกินาว่าคาราเต้ จริง ๆ ก็ คือ ตัววิชาคาราเต้ พัฒนามาจาก กังฟูเส้าหลิน ครับ
เพียวแต่ สิ่งที่ คาราเต้ นำมา คือการฝึกร่างกายครับ ด้าน กระบวนท่านี่ น่าจะคล้ายกันแค่ ท่ายืนมวย ที่เหลือ ก็ไม่มีอะไรเหมือนแล้ว
บางครั้งเราก็ต้องยอมรับว่าวิชาพัฒนาไปตามกาลเวลาเห็นเขาว่าแซมโบ้รัสเซียก็พัฒนามาจากการศึกษาคาราเต้อะไรนี่ล่ะ
แต่แซมโบ้กลายเป็นดูออกเร็วมากในการต่อสู้เพระาตัดอะไรที่ชาวรัสเซียมองว่าไม่จำเป็นออกไปจนหมด
ตามแนวคิดวิชาสัมพันธ์จิตใจนั่นเองชาวรัสเซียจิตใจอีกอย่างหนึ่งจึงออกมาเป็นแซมโบ้
ผมว่าที่มวยไทยเน้นท่ายืนท่าชกไม่เน้นการทุ่มหรือท่านอนก็ถือว่าคิดถูกแล้วครับ เพราะมันจะกลายเป็นจุดเด่นของวิชาการต่อสู้แบบนี้ ไม่เหมือนวิชาการต่อสู้บางอย่างที่ทำได้หลายอย่างมันก็เลยไม่เด่นดูแล้วเหมือนเป็ดมากกว่า โดยส่วนมากถ้าคนจะเรียนวิชาที่เน้นท่ายืนท่าชกเขาก็มาเรียนมวยไทยส่วนถ้าจะเรียนท่าทุ่มเขาก็ไปเรียนวิชาสายอื่นแทนซึ่งมันตอบโจทย์มากกว่า
ช่วงนี้พวกสาวก mma อวยพวกทุ่มน่ะครับอวยว่าหากจับได้แม้แต่มวยไทยก็แพ้ว่างั้นประมาณว่า tap out ยอมแพ้
ผมยังคิดอยู่ตลอดว่าไปรัดขามวยไทยด้วยการก้มตัวพรรค์นั้นทำไมไม่มีมวยไทยอารมณ์ขึ้นและเจาะหัวด้วยศอกสักทีแต่อย่างว่า คนเราต่อสู้เพื่อหาเงิน
ไปทำผิดกติกาโดนปรับก็คงจะไม่ใช่เรื่อง
ถึงได้บอกว่ากติกามันผูกล่ามเราเอาไว้ทำให้มวยไทยไม่ค่อยจะแมสในกลุ่มชาวโลกเท่าไรอาจจะเพราะหากเล่นกันจริงๆมันจะได้เลือดตลอด
และที่ฝึกท่ากอดรัดมามันจะกลายเป็นหลีกเลี่ยงท่ากอดไป ฝรั่งไม่ชอบอีก
[quote/]
ผมไม่ได้บอกว่า มวยไทยไม่มีท่าทุ่มนะครับ ผมแค่บอกว่าในยุคแรกเริ่ม มันไม่มีเฉย ๆ แล้วท่าต่าง ๆ ก็ ถูกเพิ่มเข้ามาผ่านกาลเวลา ผมเพียงนำมายกตัวอย่างเรื่อง การ ผสมวิชา โดยที่ยัง รักษา อัตลักษณ์ และ วัฒนธรรม ของ วิชาเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็น สนามไหน มวยไทย ก็ ยังไม่เสียอัตลักษณ์ ของตัวเอง เท่านั้น
ซึ่ง กังฟู กับ คาราเต้ ทำไม่ได้
ผมมองว่าอย่างที่ว่ามันเป้นเรื่อของกาลเวลา กับอุดมการณ์ของแต่ละชาติผมไม่ได้ตำหนิแนวคิดที่ว่าควรจะเซฟร่างกายนักกีฬานะ
แต่รู้สึกเจอฝรั่ง mma อวยท่ากอดปล้ำแล้วผมค่อนข้างโมโห ฮา
มีท่าทุ่ม แต่ไม่เยอะครับ ออกแนวเหมือน ปรมจารย์ คาราเต้ ที่บอกไว้ว่า ไม่ต้องยอะอะไรง่ายๆ ได้ผล จบ
ผมจำไม่ผิด ท่าทุ่มมีใช้ในมวยโบราณกับบางค่ายยังสอนกันบ้าง เป็นท่าขัดขา , ทุ่มด้วยเอวแบบยูโด แต่เป็นทางมวยไทยจริงๆ น่าจะมีราวๆ 5-10ท่า พวกที่ใช้เก่งๆ คือ วงในผิดเหลี่ยมก็หัวทิ่ม
ผมจำได้ำม่เยอะ แต่มีพวกแนวๆ ดึง แล้วขัดขา หรือผลัก น่าจะมีแบบช้อนขาทุ่ม อีก เอาไว้ตอนวงใน แต่แัจจุบัน ท่าะวกนี้โดนแบนบนเวธีกันหมด จนมีไม่กี่ค่ายที่สอน เพราะมันเอาไปใช่บนเวทีไม่ได้
ท่าทุ่มปัจจุบันน่าจะยังไม่หมด แค่ คนทั่วไปไม่รู้จักว่ามี
นักมวยรุ่นหลังๆ บัวขาว ออกไปเวทีระดับนานาชาติ ก็ใช้จนโดนแบน
ตอนนี้
น่าจะจัดอยู่ในประเภทมวยไทยโบราณไปแล้ว เพราะโดนห้ามบนเวทีไปหมด
สังเกตว่าฝรั่งเห็นว่าอะไรไทยใช้เป้ฯมันแบนหมด
ทำ mma ของพวกนั้นให้กลายเป็นท่ามวยปล้ำ กอดรัดกันไปมา
รักมวยปล้ำขนาดนั้นทำไมไม่ไไปเล่นมวยปล้ำเสียเลยนั่นล่ะที่ผมคิดครับ ฮา
มวยไทย เรานี่ท่านปรมจารย์ข้ามทะเลมาจากฟิลิปินส์ครับ
วิชามวยฟิลิปินส์ ? เปล่ามวยสากล จากอเมริกาแท้ๆ เลย
สมัยราวๆ ร5- ร6
นักมวยฟิลิปินส์ฝึกจากค่ายมวยอเมริกายุคมวยสากลบูมมาชกมวยสากลในไทย
แต่เผอิญ มวยสากลไม่ค่อยมีชก เลยหันมาเอาดีมวยไทยแทน
ฝีมือดีพอจะปะมือกับยอดมวยไทยสมัยนั้นได้ ก็เลยแลกเปลี่ยนวรยุทธกัน
มวยไทยเลยได้จังหวะมวยสมัยใหม่มากลายเป็นมวยโบราณที่ตามจังหวะ
มวยสากลทันผิดกับมวยโบราณอื่นๆ
ส่วนท่าทุม เราก็เอาออกไปนานแล้วมวยไทยเป็นกีฬาที่เน้นการชนะ
พอกฎไม่เอาท่าทุม ท่าทุมเราก็ไม่พัฒนา เป็นท่าที่อยู่ในตำรา
นักมวยก็ไม่ชินกับการรับมือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ควรใช้ทำอะไร ใช้ในสถานการณ์ไหน
ขนาดท่ายืนก็กลายเป็นการยืนที่เน้นการเตะได้ประสิทธิภาพไม่สนใจ
การป้องกันท่าพุ่งแทคเกิลเลยด้วยซ้ำ
ถือว่ามวยไทยของเราได้ของดีมาเยอะ
แม้กระทั่งโจ โรแกน พอดแคสก็ยังชมแสนไชยของเรานะครับ
ว่าแสนไชยการเคลื่อนไหวเหมือนง่ายแต่นั่นแสดงความเก่งของมวยไทยมากๆและเป็นสายมทวยไทยแท้บอกว่าแสนไชยไม่เคยเรียนวิชาอื่นว่างั้น อันนี้แสนไชยบอกเองตอนโดน youtube คนอื่นถามเรื่องเรียนวิชาอะไรมาบ้าง
[quote/]
ผิดล่ะครับ มวยไทยมีท่าทุ่ม จับล็อกก็มีเก่าๆ มี หลักฐานป็น ภาพฝาผนัง
แต่ท่าจับมันแพ้น้ำมันมวย เลยเลิกกันไป
ส่วนท่าทุ่มมีมายันปัจจุบัน แต่ ทุ่มล้มไม่มีคะแนนครับ
พวกนักมวยสายป้องกันตัวกับสายโบราณยังมีการสอน
แต่บนเวธ โดนแบนทั้งในกับนอกประเทศ
ฟังไม่ผิดครับ โดนแบบนในประเทศ ไปแข่งสากลก็ยังโดนแบน เพราะนักมวยไทยใช้เก่งเกินล้มซ๊ำได้คือ เละ
ขุนยักษ์พานาง ท่านี้โดนแบนในระดับโลกเลยนะ
นี่ล่ะ ฝรั่งรักท่าจับล็อคหักทุ่มมาก พอเราใช้ชองเราบ้างดันแบนเสียอย่างนั้น ฮา
ผมว่าฝรั่งควรจะชอบ เพระาเอะอะอะไรก็ซับมิสชั่นจับล้อค
แต่ดันเกลียดของเราเสียอย่างนั้น
...
กลับมาที่แนวคิดของยุคแปดศูนย์
ผมมองว่าคนเรามองวิชาการต่าสู้ไม่ได้นิยมแบบสมัยก่อนมั้ง
Shamo นักสู้สังเวียนเลือด อุตส่าห์บิ้วต์มาอย่างดีก็บอกว่าบริษัทจัดทัวร์นาเมนต์นั้นเจ๊งไปเสียอย่างนั้น
นึกถึง บิล แอนด์ เท็ดของ คีอานูรีฟตอนหนุ่มภาคต่อเล่นมุกว่า
คุณเคยเล่นคอนเสิร์ตต่อนห้าคนทั้งโลกในยุคแปดศูนย์
ปัจจุบันคุณเล่นในผับที่คนไม่ถึงสิบคน
ความบ้าคลั่งคาราเต้ของสังคมปัจจับันลดน้อยลง ฮา
