ในความเป็นจริง ยุ่น หัวการค้า โครตห่วยมากครับ จากประสบการณ์ทำงานกะญี่ปุ่นมา 2แห่ง
ผม จึงจากจะบอกว่า แนวไปค้าขายต่างโลกของยุ่น คนยุ่นน่าจะเจ๊งยับๆ ในความเป็นจริง
ผมรู้สึกว่าคนญี่ปุ่นมีความไว้วางใจในระบบมากวก่าที่เราคิด
คนจีนเมหือนเชื่อฟัง แต่บ้านเมืองที่พวกเขาบรรยายมีแต่คนถืออำนาจบาตรใหญ่
[quote/]
ถ้า มนุษย์ ไม่โง่เผา หอสมุด อเล็กซานเดรีย ในปี 391 โลกเราน่าจะมีเทคโนปัจจุบันตั้งกะปี 1500ล่ะมั้ง
ปี 1200 นาลันทาโดนเติร์กทำลาย นั่นก็ทำเอา ชมพูทวีป ถอยหลังไปเลย
กงกรรมกงเกวียน ไล่ตามทันปี 1250 หอสมุด Seige of bagdadh หรือ house of wisdom โดนมองโกลทำลาย(ทำลายทั้งเมือง) หลังจากนั้นโลกแิสลาทก็ไม่เคยฟื้นตัวจากความเสียหายอีกเลย
ไปเจอคนแซวว่าจะสร้างเทคโนโลยีล้ำโลกได้เราต้องอยู่ห่างๆจากทุ่งหย้าของท่านข่านอังกฤษครองดลกได้เพราะเป็นเกาะ
ท่านข่านโจมตีมาลำบากแบบเดียวกับญี่ปุ่น
[quote/] ในนิยายของญี่ปุ่นเวลาไปต่างโลกพ่อค้าชอบเอาเกลือไปขายและก็ขายได้ราคาดีมากด้วย แต่ประทานโทษคือสมัยก่อนเกลือทั้งมีราคาแพงและเป็นสินค้าควบคุม ถ้าเอาไปขายโดยไม่รู้4 รู้ 8 ผมว่าพ่อค้าถูกจับถลกหนังทั้งเป็นแน่นอนครับ
ผมนึกว่าชาวญี่ปุ่นเน้นน้ำตาล
มองน้ำตาลและการปลุกพืชหมุนเวียนคือรเื่องอัศจรรย์ที่ช่วยพลิกฟื้นประเทศได้
พึ่งอ่านเจอเรื่องหนึ่งแนวไปมาระหว่างโลกน้ำตาล เกลือคือสินค้าควบคุม...
ผมคิดว่าหากจะไปขายในแนวจีน
ไม่ควรขายของจำนวนมาก
แต่ควรจะขายพวกเครื่องแก้ว แว่นตาอะไรแทน
เอาแว่นขยายไปขายให้ท่านผู้เฬ่าประจำตระกุลต่างๆน่าจะได้เงินพอสมควรอย่าไปขายอะไรที่เป็นธุรกิจผูกขาดอย่างเกลือเหล้ก
น้ำตาลไม่ใช่สินค้าควบคุมในจีนเพราะหาง่ายมากกว่า
เท่าที่อ่านมุกแถวราชวงศ์หมิง
น้ำตาลไม่ใช่สินค้าควบคุมในประเทศ แต่เป็นสินค้าควบคุมหากเอาออกไปนอกประเทศ
แถวตี๋เหรินเจี๋ย ทองคำแทบเกาหลีราคาถูกกว่าหากเอามาขายในถังจะได้กำไรมากกว่าก็กลายเป็นสินค้าควบคุมเช่นกัน