หรือว่าบางทีประเทศไทยจะเหมาะปกครองด้วยระบอบอนาธิปไตย

[Black7nos]

จากที่ผมเห็นปัญหาหลายครั้ง ทั้งเหตุกราดยิงโคราช น้ำท่วม หรือล่าสุดอย่างแผ่นดินไหว
สุดท้ายสิ่งที่ช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนกลับเป็นแต่ละ Community นั้นๆ แทนที่จะเป็นรัฐ

อนาธิปไตย(Anarchy) คือ อะไร?
อนาธิปไตยคือระบอบปกครองแบบไม่มีรัฐบาล ไม่มีคณะผู้ปกครอง ไม่มีกษัตริย์ เป็นการกระจายอำนาจแบบสุดทาง ปกครองกันเอง บริหารกันเอง
ซึ่งตรงกันข้ามกับระบบรัฐชาติในแบบปัจจุบัน ที่มีการรวมศูนย์กลางอำนาจ มีเมืองหลวง มีระบบ Command แบบกระทรวง ทบวง กรม ไล่ลำดับลดหลั่นลงมา

อนาธิปไตยจะเน้นความเป็น Community หรือ ชุมชน เน้นดูแลกันเอง พึ่งพาอาศัยกันเอง มีเศรษฐกิจแลกเปลี่ยนสินค้ากันในชุมชนเอง
ไม่มีการเก็บภาษี มีแต่การช่วยกันลงขันเพื่อลงทุนสาธารณูปโภคที่ใช้กันเฉพาะในชุมชน มีกฎบังคับใช้กันในชุมชนกันเอง การลงโทษก็เป็นการลงโทษโดยคนในชุมชนเอง

อันนี้ผมขอหยิบยืมข้อความของ โทมัส เพนน์ ผู้เขียนจุลสาร Common Sense(สามัญสำนึก) ในการอธิบายระบบอนาธิปไตยและระบบรัฐชาติ
- สังคมในทุกสภาวะคือสิ่งประเสริฐ แต่รัฐบาลแม้ในสภาวะที่ดีที่สุดก็แค่ความชั่วร้ายที่จำเป็น รัฐบาลก็เฉกเช่นอาภรณ์
มันคือตราประทับของความบริสุทธิ์ที่สูญหาย วังหรือศูนย์ราชการใดๆถูกสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของร่มเงาแห่งสรวงสวรรค์
เพราะหากแรงกระตุ้นของมโนธรรมมีความแจ่มชัด เป็นหนึ่งเดียว และปฏิบัติโดยไม่ขัดขืน มนุษย์ย่อมไม่จำเป็นต้องมีผู้บัญญัติกฎหมายอื่นใดอีก
แต่เมื่อมิได้เป็นเช่นนั้น มนุษย์จึงพบว่ามีเหตุให้ต้องสละทรัพย์สมบัติบางส่วน(ภาษี)เพื่อจัดหาเครื่องมือ(รัฐบาล)คุ้มครองสมบัติส่วนที่เหลือ

นี่เป็นการตั้งคำถามของผมเกี่ยวกับว่า กรณีรัฐของไทยไม่สามารถรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนจนอยู่ในสภาวะรัฐล้มเหลวแล้ว
จะดีหรือไม่ ถ้าเกิดการรวมกลุ่มกันดูแลกันเองแบบเป็น Community หรือชุมชน โดยพึ่งพาอาศัยเศรษฐกิจและความปลอดภัยของคนในชุมชนกันเอง

• Tweet

[sechan]

ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เพราะคนไทยไม่มีความรับผิดชอบในตนเองแล้วเลือกจะตามผู้นำ ซึ่งโดนปลูกฝังมานานแล้ว

[Black7nos]

ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เพราะคนไทยไม่มีความรับผิดชอบในตนเองแล้วเลือกจะตามผู้นำ ซึ่งโดนปลูกฝังมานานแล้ว

แต่ผมกลับมองว่าสิ่งที่ทำให้คนไทยรอดหลายครั้งหรือเสียหายน้อยลงจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา คือ แนวคิดแบบ Community นะครับ
อย่างตัวอย่างที่ชัดสุดก็พวกเพจต่างๆ เช่น Drama Addict หรืออะไรทำนองนี้ที่ลูกเพจอยู่กับเจ้าของเพจแบบ Community ครับ ตอนเหตุการณ์กราดยิงโคราชนี่ก็ชัดเลยว่าช่วยได้เยอะ


หรือแบบเพจแนว marketplace ที่ขายของออนไลน์ผ่านโซเชียล ก็เป็นแนวคิด community อย่างหนึ่ง
หรืออย่างเพจนายท่าน ชุมชนคุณหมี ก็ถือเป็นแนวคิด Community อย่างหนึ่งเช่นกันครับ

[sechan]

เปล่า ผมจะบอกว่าผู้นำกลุ่มนึงออกล่าอำนาจต่อๆ แต่คนไทยไม่มีความมุ่งมั่นพอจะปกป้องกลุ่ม ถึงเวลากลุ่มแตก ที่ดูเหมือนดีเพราะมันไม่ต้องแบกไม่ต้องเสี่ยงไง รองมีติดคุกเจอไล่ฆ่า เจอยัดคุกแบบกฏหมายโยนทิ้งไปแบบปัจจุบัน  ชุมชนไทยไม่ปกป้องกันเองพอที่จะจับอาวุธมาต่อสู้กับกลุ่มที่ใหญ่กว่า อย่างจีนมาหลายคนก็บอกให้กราบ

[gundam666]

เละครับ ปัญหาจริงๆก็คือคนบางกลุ่มมีอำนาจมากเกินไปมากจนสามารถบิดเบือนตัวกฎหมายที่มีอยู่ได้โดยไม่โดนใครมาทำอันตราย  แค่เสียงคนกลุ่มๆเดียวสามารถทำให้เสียงคนทั้งประเทศไม่มีค่าอะไรเลย  เอาเข้าจริงๆระบบแบบไหนมันก็ไม่สมบูรณ์ซักอย่างนั้นล่ะ   

[deaddy]

ไม่เชิงครับ คือ การปกครองด้วยรัฐมันจะช้าและไม่ทั่วถึง
รอบนี้ ข้าราชการก็เป็นผู้ประสพภัยด้วยเช่นกัน แต่คนที่พร้อมจะช่วยคนอื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนรัฐ 
มันเลยว่องไวกว่า แต่การปกครองความเรียบร้อยปรกติ ใช้คนที่ส่วนกลางเทรนมาให้เป็นมาตรฐานตามที่ตั้งได้


ส่วนใหญ่ก็งี้แหล่ะครับ แม้กระทั่งแนวซอมบี้ รัฐต้องใช้เวลาซักระยะนึงในการรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจ


ถ้าให้เทียบก็ราวๆ ข้อมูลต้น ส่งไปหัวหน้าๆ จนไปเข้าทีมที่ผู้นำแต่งตั้งสรุปส่ง แล้วให้ผู้นำคัดสินใจแล้วสั่งการ


แต่พอให้คอมมูจัดการ ข้อมูลต้นมา ก็แชร์ทันที แล้วสรุปข้อคิดเห็นทันที จะทำไงก็จบทันที


สรุปคือ เวลาเจอภัยพิบัติ จะมารอรัฐน่ะไม่ทันหรอก 

[KAGUYA]

ไม่เชิงครับ คือ การปกครองด้วยรัฐมันจะช้าและไม่ทั่วถึง
รอบนี้ ข้าราชการก็เป็นผู้ประสพภัยด้วยเช่นกัน แต่คนที่พร้อมจะช่วยคนอื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนรัฐ 
มันเลยว่องไวกว่า แต่การปกครองความเรียบร้อยปรกติ ใช้คนที่ส่วนกลางเทรนมาให้เป็นมาตรฐานตามที่ตั้งได้


ส่วนใหญ่ก็งี้แหล่ะครับ แม้กระทั่งแนวซอมบี้ รัฐต้องใช้เวลาซักระยะนึงในการรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจ


ถ้าให้เทียบก็ราวๆ ข้อมูลต้น ส่งไปหัวหน้าๆ จนไปเข้าทีมที่ผู้นำแต่งตั้งสรุปส่ง แล้วให้ผู้นำคัดสินใจแล้วสั่งการ


แต่พอให้คอมมูจัดการ ข้อมูลต้นมา ก็แชร์ทันที แล้วสรุปข้อคิดเห็นทันที จะทำไงก็จบทันที


สรุปคือ เวลาเจอภัยพิบัติ จะมารอรัฐน่ะไม่ทันหรอก 

ที่สำคัญคือพวกหน่วยงานรัฐนะชอบโยนกันไปมาเพราะไม่อยากรับผิดชอบ กว่าจะลงมือช้ามากกกก

[Black7nos]

[quote/]ที่สำคัญคือพวกหน่วยงานรัฐนะชอบโยนกันไปมาเพราะไม่อยากรับผิดชอบ กว่าจะลงมือช้ามากกกก

ผมมองว่าที่หน่วยงานรัฐโยนกันไปกันมา เพราะ กฎหมายไม่กำหนดอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบให้ชัดเจน
ไม่ก็ความรับผิดชอบหรืออำนาจมันดันซ้อนกันระหว่างหน่วยงาน มันเลยไม่รู้ว่าใครกันที่ต้องเป็นเจ้าภาพลงมือทำ


จริงๆ ผมมองว่าเราน่าลองทำแบบระบบผสมนะครับ พบกันครึ่งทาง คือ เป็นระบบรัฐชาติเหมือนเดิมก็ได้
แต่ว่าอำนาจจะต้องถูกซอยย่อยให้ท้องถิ่นและ Community มากขึ้นในการมีสิทธิขาดในการตัดสินใจได้ทันทีโดยไม่ต้องแทงเรื่องขึ้นเบื้องบน
ผมมองว่าระบบผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ถ้าปฏิรูปดีๆ ผมมองว่าจะทำให้ระบบ Community ใช้ได้จริงและมีความเข้มแข็งขึ้น พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้นโดยไม่ต้องรอรัฐ

[samuison]

ทางเทคนิค ผมมองพวก drama addict เหมือนพ่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนสมัยก่อน




การปกครองท้องที่ ที่เป็นหน่วยย่อยที่สุด ตอบสนองความต้องการชาวบ้านได้ดีที่สุด...แต่ความโลภ ความชั่วทำให้เกิดปัญหา




แทนที่จะแก้ปัญหาขาวบ้าน กลับใข้อำนาจกดขี่ข่มเหง แย่งที่ทำกิน ขัดขวางการทำธุรกิจฯลฯ




จึงเป็นที่มาของปัญหาทุกวันนี้




ผมเจอกำนันผู้ใหญ่บ้านหลายครั้งเข้าจึงสรุปได้ว่าคนมีอำนาจไม่ใข่คนฉลาดหรือไม่ใช่คนที่ใช้สมองเพื่อชุมชน


แต่ใช้อำนาจเพื่อกอบโกยเพราะพวกเขามองเป็นเรื่องธรรมดา

[Black7nos]

ทางเทคนิค ผมมองพวก drama addict เหมือนพ่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนสมัยก่อน




การปกครองท้องที่ ที่เป็นหน่วยย่อยที่สุด ตอบสนองความต้องการชาวบ้านได้ดีที่สุด...แต่ความโลภ ความชั่วทำให้เกิดปัญหา




แทนที่จะแก้ปัญหาขาวบ้าน กลับใข้อำนาจกดขี่ข่มเหง แย่งที่ทำกิน ขัดขวางการทำธุรกิจฯลฯ




จึงเป็นที่มาของปัญหาทุกวันนี้




ผมเจอกำนันผู้ใหญ่บ้านหลายครั้งเข้าจึงสรุปได้ว่าคนมีอำนาจไม่ใข่คนฉลาดหรือไม่ใช่คนที่ใช้สมองเพื่อชุมชน


แต่ใช้อำนาจเพื่อกอบโกยเพราะพวกเขามองเป็นเรื่องธรรมดา

ผมก็คิดเหมือนกับคุณ @samuison พวก Influencer ไม่ได้ต่างอะไรกับกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านเลยในแง่ของการเป็นผู้นำ Community
แต่ผมคิดว่าควรมีการปรับปรุงอะไรบางอย่างให้มันสอดคล้องและใช้งานได้จริง


จริงๆ ประเทศไทยเรามีกฎหมายการจดทะเบียนนิติบุคคลแบบไม่หากำไรอยู่แล้ว เช่น สมาคมต่างๆ มูลนิธิต่างๆ
แล้วเราก็แนวคิดระบบ Member เข้ามาใช้ร่วม เช่น จะเข้าร่วมเป็นคนใน Community นี้ ต้องมีคุณสมบัติและทำตามเงื่อนไขแบบนี้แบบนั้น
ที่นี้ถ้าเอาผนวกรวมกันกับระบบผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน แล้วพัฒนาให้มันใช้งานได้จริง ผมมองว่ามันจะได้กลไก Community ที่เข้มแข็งขึ้นและตอบสนองต่อคนใน Community ได้มากขึ้น


.............


ยกตัวอย่าง คนในหมู่บ้านก.ไก่ รวมตัวกันจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นชื่อ "ชุมชน ก.ไก่"
มีการเลือกตั้งกรรมการและสภาชุมชน แล้วแต่ละสมาชิกในชุมชนต้องจ่ายค่าส่วนกลาง(แทนภาษี)
ชุมชนก.ไก่ก็จะมีเงินกองกลางเอาไว้ทำเรื่องต่างๆ เช่น ความสะอาด สุขอนามัย ความปลอดภัย หรือ อยากทำสวนสาธารณะเพิ่มก็ตามการเห็นชอบของคนในชุมชน
แล้วเวลาฉุกเฉินจริงๆ ชุมชน ก.ไก่ก็สามารถดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกได้เลย เพราะมีเงินกองกลางของชุมชนสะสมเอาไว้อยู่แล้ว

[samuison]

ผมคิดว่ามันเป็นปัญหาจากรากฐานแนวคิด
ผมไปเจอเรื่องแนวคิดที่ว่าในชุมชนทางวัดักบทางชาวบ้านต้องการทำถนนของทางเข้าหน้าววัดใหม่เพระาเป้นหลุมบ่อมานานปี
แต่โดนทางรัฐห้ามเอาไว้มาตลอด
แม้จะมีเงินงบประมาณที่จะออกกันเองแล้วก้ตาม

ผมค่อนข้างเชื่อจากใจเลยนะ
หากจะกลบหลุมบ่อหน้าบ้านได้ ผู้คนจะยอมออกงเินกันเองแน่นอนคนละสองสามพันรวบรวมได้หลายหมื่นหากรัฐเปิดโอกาสแต่รัฐจะไม่เปิดโอกาสให้มีการทำชเ่นนั้นเกิดขึ้น
มันอาจจะมีการมีพวกลูกสมุนกี๊กี๊พูดจปาระชดว่า
"ออกเงินเองไหมล่ะ"

ซึ่งพวกกี๊กี๊อาจจะลืมไปว่ามันมีชาวบ้านที่รำคาญของพวกนี้จริงๆ
อย่างชาวบ้านแถวพระรามสองหากบอกว่ารวบรวมเงินสิบล้านได้ พระรามสองจะเสร็จหยุดสร้างทันที
ผมเชื่อว่ารวบรวมเงินสิบล้านได้ภายในหนึ่งสัปดาห์
ไม่ใช่เพราะประชาชนมีจิตใจดีงามที่พร้อมเสียสละ
แต่เพราะรัฐนนั้นห่วยเกินมาตรฐานมนุษย์
ผมเชื่อจากใจว่าชาวบ้านหลายร้อยคนยอมกินชข้าวคลุกน้ำปลาหากพระรามสองมันจะหยุดสร้างจริงๆแต่รัฐจะไมเ่ปิดโอกาสให้มีการสนทนาในรูปแบบนี้เด็ดขาดนั่นเอง