แผ่นดินไหวเมื่อครู่ เป็นอะไรกันไหมครับ?

[Black7nos]

จากประสบการณ์และความรู้ของผมในฐานะวิศวกร
ปกติแล้วสูตรคำนวนออกแบบสิ่งก่อสร้างของวิศวกรจะเผื่อ Safety ไว้อยู่แล้วให้เกิน Yield
นอกจากนี้มันจะคูณ Safety Factor เพิ่มเข้าไปอีก ส่วนใหญ่อาคารจะไม่พังเพราะ Design
แถมแนวคิดการออกแบบอาคาร จะเลือกให้พังที่เหล็กก่อนคอนกรีต หมายความว่า ถ้าเหล็กเกิน Yield Strength มันจะยืดออกจนเห็นรอยร้าว(ถ้าพังที่คอนกรีต อาคารจะระเบิด)
ดังนั้นการที่อาคารจะถล่ม % จึงต่ำมากๆ เรียกว่าต่ำกว่า 0.01% เสียอีก


แล้วเมื่อวานผมกับเพื่อนลองเอาภาพตึกสตง.ใหม่มาพิจารณากันทีละเฟรม Shot by Shot ว่าอันไหนพังก่อน
ปรากฎว่าที่พังก่อน คือ ส่วนของ Shear Wall


อะไรคือ Shear Wall?
กำแพงที่ถูกออกแบบเพื่อให้สามารถรับแรงต้านด้านข้าง โดยเฉพาะแรงลมและแผ่นดินไหว

ปกติแล้วถ้าอาคารสูงที่ไม่มี Shear Wall ถูกแรงลม หรือ ถูกแรงแผ่นดินไหว มันจะมีพฤติกรรมแบบนี้

แล้วเพื่อป้องกันตึกมันบิดเป็นเกลียว Shear Wall ต่ำสุดที่จะต้องใส่คือ 2 อัน เพื่อป้องกันตึกบิดจากแรงด้านข้าง
ซึ่ง Shear Wall เป็นอะไรที่แข็งแรงมากๆ โดยจุดของอาคารที่มักจะถูกใส่ Shear Wall คือ 1.ผนัง Core ลิฟท์ 2.บันไดหนีไฟ
แล้วในการออกแบบ Shear Wall เขาจะเผื่อค่า Safety ไว้เยอะมาก


ทีนี้ปัญหาที่ผมกับเพื่อนวิศวกรมีวิเคราะห์ดูที่เป็นไปได้นะ
1.Designer ตั้งสมมุติฐาน Assume Load ผิด แล้วผิดแบบเยอะด้วย แบบเกินเท่าตัว ซึ่งปกติแล้ว มันไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมันผ่านการตรวจสอบกันหลายต่อมากๆ
แถมผมได้ข่าววงในว่าคนออกแบบเป็นคนเขียน Code วิศวกรรมที่ใช้กันระดับสากลโลกด้วย ผมเลยคิดว่าข้อนี้ไม่น่าเป็นไปได้
2.ใช้เหล็กที่ Yield Strength ไม่ถึงตามที่กำหนด ซึ่งอันนี้ต้องเช็คเอกสาร Material Approval จากผู้รับเหมาอีกที(ไม่รู้ว่าใช่เอกสารที่บริษัทจีนรีบหอบหนีไปหรือเปล่า)
3.Method การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เช่น ใส่เหล็กบริเวณ Shear Wall ขาด แล้วต้องขาดเยอะมากๆ เยอะแบบครึ่งต่อครึ่งเลย เพราะค่า Safety มันเผื่อเกือบเท่าตัว
4.อีกกรณีคือก่อสร้างและออกแบบถูกต้องได้มาตรฐานทุกอย่าง แต่ความสูงของอาคารดันไปตรงกับความยาวคลื่นของแผ่นดินไหวพอดีทำให้เกิด Resonance(สั่นพ้อง) ถ้าเป็นกรณีนี้คือเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไม่มีใครผิด เป็นเพียงความซวยที่ไม่อาจโทษใครได้


ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากให้เปิดเผยเอกสาร คือ
1.เอกสาร Material Approval เช็คที่มาว่าวัสดุก่อสร้างมาจากที่ไหนบ้าง และค่า Yield Strength ของวัสดุก่อสร้างทุกอัน
2.แบบแปลน Shop Drawing เพื่อดูวิธีการใส่เหล็ก การทาบเหล็ก และ การงอเหล็ก ทุกจุด


ซึ่งคนที่จะมีเอกสารเหล่านี้มี 3 Party
1.บริษัทผู้ออกแบบ Designer
2.บริษัทที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง
3.บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก็คือ ITD กับ บริษัทจีนไชน่า-เรลเวย์


นอกจากนี้ที่ต้องดูอีกเรื่องหนึ่งคือ การก่อสร้างนี้เป็นการตั้งบริษัทค้าร่วม หรือ Joint Venture
อาจจะต้องไปดูว่าในหุ้นส่วน Joint Venture นี้ ระหว่าง ITD กับ บริษัทจีน ใครถือหุ้นมากกว่ากัน และถือกันเท่าไหร่

[KAGUYA]

จากประสบการณ์และความรู้ของผมในฐานะวิศวกร
ปกติแล้วสูตรคำนวนออกแบบสิ่งก่อสร้างของวิศวกรจะเผื่อ Safety ไว้อยู่แล้วให้เกิน Yield
นอกจากนี้มันจะคูณ Safety Factor เพิ่มเข้าไปอีก ส่วนใหญ่อาคารจะไม่พังเพราะ Design
แถมแนวคิดการออกแบบอาคาร จะเลือกให้พังที่เหล็กก่อนคอนกรีต หมายความว่า ถ้าเหล็กเกิน Yield Strength มันจะยืดออกจนเห็นรอยร้าว(ถ้าพังที่คอนกรีต อาคารจะระเบิด)
ดังนั้นการที่อาคารจะถล่ม % จึงต่ำมากๆ เรียกว่าต่ำกว่า 0.01% เสียอีก


แล้วเมื่อวานผมกับเพื่อนลองเอาภาพตึกสตง.ใหม่มาพิจารณากันทีละเฟรม Shot by Shot ว่าอันไหนพังก่อน
ปรากฎว่าที่พังก่อน คือ ส่วนของ Shear Wall


อะไรคือ Shear Wall?
กำแพงที่ถูกออกแบบเพื่อให้สามารถรับแรงต้านด้านข้าง โดยเฉพาะแรงลมและแผ่นดินไหว
[img/]
ปกติแล้วถ้าอาคารสูงที่ไม่มี Shear Wall ถูกแรงลม หรือ ถูกแรงแผ่นดินไหว มันจะมีพฤติกรรมแบบนี้
[img/]
แล้วเพื่อป้องกันตึกมันบิดเป็นเกลียว Shear Wall ต่ำสุดที่จะต้องใส่คือ 2 อัน เพื่อป้องกันตึกบิดจากแรงด้านข้าง
ซึ่ง Shear Wall เป็นอะไรที่แข็งแรงมากๆ โดยจุดของอาคารที่มักจะถูกใส่ Shear Wall คือ 1.ผนัง Core ลิฟท์ 2.บันไดหนีไฟ
แล้วในการออกแบบ Shear Wall เขาจะเผื่อค่า Safety ไว้เยอะมาก


ทีนี้ปัญหาที่ผมกับเพื่อนวิศวกรมีวิเคราะห์ดูที่เป็นไปได้นะ
1.Designer ตั้งสมมุติฐาน Assume Load ผิด แล้วผิดแบบเยอะด้วย แบบเกินเท่าตัว ซึ่งปกติแล้ว มันไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมันผ่านการตรวจสอบกันหลายต่อมากๆ
แถมผมได้ข่าววงในว่าคนออกแบบเป็นคนเขียน Code วิศวกรรมที่ใช้กันระดับสากลโลกด้วย ผมเลยคิดว่าข้อนี้ไม่น่าเป็นไปได้
2.ใช้เหล็กที่ Yield Strength ไม่ถึงตามที่กำหนด ซึ่งอันนี้ต้องเช็คเอกสาร Material Approval จากผู้รับเหมาอีกที(ไม่รู้ว่าใช่เอกสารที่บริษัทจีนรีบหอบหนีไปหรือเปล่า)
3.Method การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เช่น ใส่เหล็กบริเวณ Shear Wall ขาด แล้วต้องขาดเยอะมากๆ เยอะแบบครึ่งต่อครึ่งเลย เพราะค่า Safety มันเผื่อเกือบเท่าตัว
4.อีกกรณีคือก่อสร้างและออกแบบถูกต้องได้มาตรฐานทุกอย่าง แต่ความสูงของอาคารดันไปตรงกับความยาวคลื่นของแผ่นดินไหวพอดีทำให้เกิด Resonance(สั่นพ้อง) ถ้าเป็นกรณีนี้คือเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไม่มีใครผิด เป็นเพียงความซวยที่ไม่อาจโทษใครได้


ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากให้เปิดเผยเอกสาร คือ
1.เอกสาร Material Approval เช็คที่มาว่าวัสดุก่อสร้างมาจากที่ไหนบ้าง และค่า Yield Strength ของวัสดุก่อสร้างทุกอัน
2.แบบแปลน Shop Drawing เพื่อดูวิธีการใส่เหล็ก การทาบเหล็ก และ การงอเหล็ก ทุกจุด


ซึ่งคนที่จะมีเอกสารเหล่านี้มี 3 Party
1.บริษัทผู้ออกแบบ Designer
2.บริษัทที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง
3.บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก็คือ ITD กับ บริษัทจีนไชน่า-เรลเวย์


นอกจากนี้ที่ต้องดูอีกเรื่องหนึ่งคือ การก่อสร้างนี้เป็นการตั้งบริษัทค้าร่วม หรือ Joint Venture
อาจจะต้องไปดูว่าในหุ้นส่วน Joint Venture นี้ ระหว่าง ITD กับ บริษัทจีน ใครถือหุ้นมากกว่ากัน และถือกันเท่าไหร่

ที่ท่านอยากจะพูดคืออาจมีการฮั้วกันกินค่าวัสดุกอสร้างแบบมโหฬารเลยสินะครับ?

[Black7nos]

[quote/]ที่ท่านอยากจะพูดคืออาจมีการฮั้วกันกินค่าวัสดุกอสร้างแบบมโหฬารเลยสินะครับ?

ตอบยากครับ มันต้องเปิดเผยเอกสารที่ผมบอกแล้วต้องตรวจสอบก่อน เอกสารนั้นคือ
1.Material Approval
2.Shop Drawing


อันแรกคือดูว่า มีการทุจริตวัสดุก่อสร้างหรือเปล่า เช่น ไปเอาเหล็กที่ค่า Yield ไม่ถึงตามที่ออกแบบไว้มาใช้หรือเปล่า
อันสองคือดูว่า การก่อสร้างนั้นออกแบบถูกมั้ย? ใส่เหล็กงอเหล็กถูกวิธีมั้ย ทาบเหล็กต่อเหล็กถูกมั้ย จำนวนเหล็กใส่ถูกมั้ย ตำแหน่งเหล็กถูกมั้ย


เพื่อสรุปว่า
1.ทุจริตหรือไม่
2.ประมาทเลินเล่อขณะก่อสร้างหรือเปล่า

แต่ตอนที่บริษัทจีนขนเอกสารออกไป อันนี้ไม่รู้ว่าใช่เอกสาร 2 ตัวที่ผมกล่าวมาหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็แสดงว่าส่อเค้าปกปิดการกระทำที่ส่อทุจริตแล้ว

ที่ผมมั่นใจตอนนี้ เหตุการณ์นี้ต้องมีคนเข้าคุกแน่ๆแล้ว เพราะคนเสียชีวิตมันเยอะมาก แต่จะเป็นใครหรือปาร์ตี้ไหนบ้างที่จะโดน

[KAGUYA]

[quote/]


ตอบยากครับ มันต้องเปิดเผยเอกสารที่ผมบอกแล้วต้องตรวจสอบก่อน เอกสารนั้นคือ
1.Material Approval
2.Shop Drawing


อันแรกคือดูว่า มีการทุจริตวัสดุก่อสร้างหรือเปล่า เช่น ไปเอาเหล็กที่ค่า Yield ไม่ถึงตามที่ออกแบบไว้มาใช้หรือเปล่า
อันสองคือดูว่า การก่อสร้างนั้นออกแบบถูกมั้ย? ใส่เหล็กงอเหล็กถูกวิธีมั้ย ทาบเหล็กต่อเหล็กถูกมั้ย จำนวนเหล็กใส่ถูกมั้ย ตำแหน่งเหล็กถูกมั้ย


เพื่อสรุปว่า
1.ทุจริตหรือไม่
2.ประมาทเลินเล่อขณะก่อสร้างหรือเปล่า

แต่ตอนที่บริษัทจีนขนเอกสารออกไป อันนี้ไม่รู้ว่าใช่เอกสาร 2 ตัวที่ผมกล่าวมาหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็แสดงว่าส่อเค้าปกปิดการกระทำที่ส่อทุจริตแล้ว

ที่ผมมั่นใจตอนนี้ เหตุการณ์นี้ต้องมีคนเข้าคุกแน่ๆแล้ว เพราะคนเสียชีวิตมันเยอะมาก แต่จะเป็นใครหรือปาร์ตี้ไหนบ้างที่จะโดน

แถมเราไม่รู้ด้วยว่าที่เข้าคุกเป็นคนผิดจริงหรือว่าเป็นแค่แพะ

[Black7nos]

[quote/]แถมเราไม่รู้ด้วยว่าที่เข้าคุกเป็นคนผิดจริงหรือว่าเป็นแค่แพะ

ปัญหาอีกข้อหนึ่งคือ บริษัทจีนที่ทำคือ ไชน่า-เรลเวย์
ซึ่งบริษัทนี้เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยรัฐบาลจีน
ดังนั้นก็อาจจะพูดได้ว่า รัฐบาลจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไม่มากก็น้อย
ผมก็เลยชักไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มันจะจบแบบไหน

[thepingman]

[quote/]


ตอบยากครับ มันต้องเปิดเผยเอกสารที่ผมบอกแล้วต้องตรวจสอบก่อน เอกสารนั้นคือ
1.Material Approval
2.Shop Drawing


อันแรกคือดูว่า มีการทุจริตวัสดุก่อสร้างหรือเปล่า เช่น ไปเอาเหล็กที่ค่า Yield ไม่ถึงตามที่ออกแบบไว้มาใช้หรือเปล่า
อันสองคือดูว่า การก่อสร้างนั้นออกแบบถูกมั้ย? ใส่เหล็กงอเหล็กถูกวิธีมั้ย ทาบเหล็กต่อเหล็กถูกมั้ย จำนวนเหล็กใส่ถูกมั้ย ตำแหน่งเหล็กถูกมั้ย


เพื่อสรุปว่า
1.ทุจริตหรือไม่
2.ประมาทเลินเล่อขณะก่อสร้างหรือเปล่า

แต่ตอนที่บริษัทจีนขนเอกสารออกไป อันนี้ไม่รู้ว่าใช่เอกสาร 2 ตัวที่ผมกล่าวมาหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็แสดงว่าส่อเค้าปกปิดการกระทำที่ส่อทุจริตแล้ว

ที่ผมมั่นใจตอนนี้ เหตุการณ์นี้ต้องมีคนเข้าคุกแน่ๆแล้ว เพราะคนเสียชีวิตมันเยอะมาก แต่จะเป็นใครหรือปาร์ตี้ไหนบ้างที่จะโดน

พูดถึงการก่อสร้าง คนบางคนในเนตชอบอ้างว่าตึกร้างสาธรโดนแผ่นดินไหวแล้วยังไม่พัง ไม่ร้าว เลย ขณะที่คอนโดสมัยใหม่ร้าวกันระนาว แล้วก็สรุปว่าคนสมัยก่อนสร้างเทพกว่าคนสมัยนี้ ตัดตอนเยอะ คอรัปชั่นเยอะ
แล้วก็มีวิศวกรเขียนในเฟสบุคที่พ่อผมเปิดให้ดู บอกว่าจริงๆ ตึกแบบเก่าที่ไม่ร้าวน่ะอันตรายกว่ามาก เพราะคอนโดถ้ามันร้าวก็เพราะว่าอาคารมันรับแรงแล้วไหวไปมาเหมือนไผ่ลู่ลมซึ่งเปิดโอกาสให้คนหนีออกมาได้ แต่อาคารที่โดนแผ่นดินไหวแล้วไม่ร้าวคือมันโครงสร้างแบบแข็งทำให้ถ้าหากแรงแผ่นดินไหวไม่เกินมันก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเกินเมื่อไหร่ก็จะพังทันทีแบบไม่มีเวลาให้ตั้งตัวเลย
มันใช่หรือเปล่าน่ะครับ

[Black7nos]

[quote/]
พูดถึงการก่อสร้าง คนบางคนในเนตชอบอ้างว่าตึกร้างสาธรโดนแผ่นดินไหวแล้วยังไม่พัง ไม่ร้าว เลย ขณะที่คอนโดสมัยใหม่ร้าวกันระนาว แล้วก็สรุปว่าคนสมัยก่อนสร้างเทพกว่าคนสมัยนี้ ตัดตอนเยอะ คอรัปชั่นเยอะ
แล้วก็มีวิศวกรเขียนในเฟสบุคที่พ่อผมเปิดให้ดู บอกว่าจริงๆ ตึกแบบเก่าที่ไม่ร้าวน่ะอันตรายกว่ามาก เพราะคอนโดถ้ามันร้าวก็เพราะว่าอาคารมันรับแรงแล้วไหวไปมาเหมือนไผ่ลู่ลมซึ่งเปิดโอกาสให้คนหนีออกมาได้ แต่อาคารที่โดนแผ่นดินไหวแล้วไม่ร้าวคือมันโครงสร้างแบบแข็งทำให้ถ้าหากแรงแผ่นดินไหวไม่เกินมันก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเกินเมื่อไหร่ก็จะพังทันทีแบบไม่มีเวลาให้ตั้งตัวเลย
มันใช่หรือเปล่าน่ะครับ

ให้ผมได้อธิบายก่อน ตึกที่ไม่ร้าวไม่ใช่ว่าไม่เสียหายครับ เพราะมันอาจจะสะสมความเครียดในโครงสร้างและพร้อมจะพังเมื่อไหร่ก็ได้ในภายภาคหน้าก็ได้
วิธีการออกแบบตึกสมัยใหม่ คือ ตึกจะต้องมีความยืดหยุ่นครับ กล่าวคือมีการให้ตัวได้ หรือก็คือตึกสามารถเคลื่อนได้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสม
ขยายความเพิ่มเติมคือ พฤติกรรมของ Support ที่ใช้จะส่งผลต่อพฤติกรรม แรงหรือโมเม้นภายในได้ครับ


ซึ่ง Support ในทางวิศวฯจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ
1.Roller เสมือนวางเปล่าๆ หรือ เป็นแบบล้อ รับแรงได้เฉพาะแกน Y(แนวดิ่ง) แต่รับแรงแนว X ไม่ได้ ทำให้มีการเคลื่อนตัวแนวนอน และรับโมเม้น(หมุน)ไม่ได้
2.Hinge หรือ Pin เหมือนโครงสร้างติดกับน็อต&สกรู สามารถรับแรงได้ทั้งแกน Y และ X แต่ไม่สามารถรับแรงโมเม้น(หมุน)
3.Fixed โครงสร้างจะยึดติดแน่น ทำให้รับแรงแกน X(นอน), Y(ดิ่ง) รวมถึงโมเม้น(หมุน)ได้





ทีนี้โครงสร้างสมัยก่อนมักจะเป็นแบบข้อที่ 3 (รูปคานสีเหลืองซ้ายล่าง) ซึ่งจริงอยู่ว่ามันรับแรงได้ทั้ง 2 แกนและรับการหมุนได้ แต่มันจะเกิดการสะสมแรงภายในโครงสร้าง
ซึ่งมันจะสร้างภาระกับชิ้นส่วนโครงสร้างเป็นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้อายุอาคารน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเกิดความเครียดสะสมภายใน


อาคารสมัยใหม่ จะเป็นแบบ Pin หรือ Hinge (รูปซ้ายบน) คือ มีรับแรงแกน X และ Y ได้ แต่สามารถหมุนได้ ทำให้ความเครียดสะสมภายในน้อย


อาคารสมัยใหม่ แม้เราจะเห็นผนังแตกร้าว แต่ผนังไม่ใช่ส่วนโครงสร้างที่รับแรง ส่วนโครงสร้างหลักยังปลอดภัยดีและสลายแรงออกไป(สู่ผนัง)จากการเคลื่อนตัวของอาคาร
แต่อาคารสมัยเก่า มันจะสะสม วันดีคืนดีก็อาจจะพังก็ได้ แล้วเป็นการพังแบบทันทีทันใด ถล่มครืนเลย


ส่วนรูปขวาล่าง คือ เป็นแบบ Roller อันนี้มันจะรับแรงได้เฉพาะแกน Y(ดิ่ง) ซึ่งมันสามารถเคลื่อนที่ตามแนว X(แนวนอน) ได้

[Black7nos]

อันนี้คือกราฟแรงเฉือนและโมเม้นของโครงสร้างแบบ Fixed
1.ภาพแรก คือ ลักษณะโครงสร้างและแรงกระทำแบบสม่ำเสมอตลอดทั้งคาน
2.ภาพสอง คือ กราฟแรงเฉือน
3.ภาพสาม คือ กราฟโมเม้น(การหมุน)


คุณจะเห็นว่าภาพสามมันจะเกิดโมเม้นติดลบที่ปลายสองข้างของคาน
นี่คือสิ่งที่ผมจะบอกว่ามันเกิดสิ่งที่เรียกโมเม้นภายใน ซึ่งมันจะสะสมในอาคารได้



ให้คุณดูภาพขวา ภาพขวาสุดคือโครงสร้างแบบ Pin+Roller ที่ถูกกระทำโดยแรงที่สม่ำเสมอตลอดทั้งคานเช่นเดียวกับรูปภาพอันแรกที่ผมลง ต่างกันตรงประเภท Support
จะเห็นได้ว่ากราฟที่ 3 คือ กราฟโมเม้น มันจะไม่เกิดโมเม้นที่ปลายคานเลย ดังนั้นมันจะไม่สะสมโมเม้นในโครงสร้าง

ถ้าจะลงลึกกว่านั้น แบบสูตรคำนวน
Integrate ของกราฟ Shear จะได้กราฟ Moment

[thepingman]

แล้วแบบนี้บ้านเก่าๆ ที่เสากับคานรับน้ำหนักไม่มีรอยร้าวให้เห็นเลยก็อันตรายสิใช่ไหมครับ ว่าจะพังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

หรือว่าบ้านไม่เหมือนกับอาคาร เพราะขนาดเล็กกว่าทำให้รับ load น้อยกว่าน่ะครับ

[Black7nos]

แล้วแบบนี้บ้านเก่าๆ ที่เสากับคานรับน้ำหนักไม่มีรอยร้าวให้เห็นเลยก็อันตรายสิใช่ไหมครับ ว่าจะพังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

หรือว่าบ้านไม่เหมือนกับอาคาร เพราะขนาดเล็กกว่าทำให้รับ load น้อยกว่าน่ะครับ

ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น บ้านเก่า วัสดุมันก็เสื่อมตามอายุ เมื่อเสื่อม ค่า Yield Strength ของวัสดุมันก็ดรอปลง
ไม่เห็นรอยร้าว ก็อย่าพึ่งมั่นใจขนาดนั้นครับว่าจะปลอดภัย 100% กลับกันก็คือ การมีรอยร้าวก็อย่าพึ่งตกใจว่ามันจะพัง
เพราะรอยร้าวบางรอยร้าวก็ไม่เกี่ยวกับความเสียหายของโครงสร้างหลัก อย่างคานหรือเสา



ลองเดินเช็คตามนี้เลยครับ กรณีไม่เจอก็ไม่เป็นไร แต่กรณีเจอก็ลองปรึกษาวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างให้มาตรวจสอบให้อีกทีเพื่อความชัวร์

หลักๆ คือ การร้าวเพราะแรงเฉือนจะทำมุม 45 องศาเป็นส่วนใหญ่ ถ้ารอยร้าวมุม 45 องศา พาดยาวจากเสาถึงเสา
อันนี้ค่อนข้างอันตรายครับ ควรปรึกษาวิศวกรฯในการซ่อมแซมอาคาร
เพราะแรงเฉือน กราฟ V จะเกิดที่บริเวณหัวเสาหรือใกล้หัวเสา ขณะที่โมเม้นจะเกิดที่กลางคาน
ดังนั้นจุดพังหรือรอยร้าวที่อันตราย จะอยู่บริเวณหัวเสามุม 45 องศา

ปล.อย่าให้ผู้รับเหมาซ่อมมั่วๆนะครับ ให้วิศวกรด้านโครงสร้างเช็คให้ก่อน ได้ยินช่วงนี้เขามีตรวจอาคารสูงฟรี แนะนำให้แจ้งให้เขามาตรวจ
วันนี้เห็นทางการร่วมกับวิศวกรของพรรคประชาชนกำลังเดินตรวจอาคารฝั่งปริมณฑล

[Black7nos]

เมื่อกี้ผมลองเช็คข้อมูลเพิ่ม ปรากฎว่าช่วงหลังบริษัท ไชน่า เรลเวย์ จะรับงานรัฐของไทยรัวๆเลย แล้วเยอะมาก
ผมไปเจอ อีกโครงการหนึ่งที่รับทำโดยบริษัทนี้เป็นของ สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

[thepingman]

บ้านผมเป็นบ้านสองชั้นน่ะครับ คงไม่เข้าข่ายได้ตรวจฟรีหรอกครับ แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

[KAGUYA]

เมื่อกี้ผมลองเช็คข้อมูลเพิ่ม ปรากฎว่าช่วงหลังบริษัท ไชน่า เรลเวย์ จะรับงานรัฐของไทยรัวๆเลย แล้วเยอะมาก
ผมไปเจอ อีกโครงการหนึ่งที่รับทำโดยบริษัทนี้เป็นของ สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
[img/]

ดูยังไงก็วาระแอบแฝงทางการเมืองชัดๆเลย

[providence_gundam]

ที่น่ากลัวคือเหล็กปลอม ปีก่อนจีนสั่งกวาดล้างปิดโรงงานเหล็กไป500บริษัท แต่ว่ากันว่าเหล็กด้อยคุณภาพ60ล้านตันกระจายไปทั่วแล้ว

พวกเอกชนใหญ่ๆ ห้างใหญ่ๆไม่น่ากลัวครับ แต่ไปทำธุระกับทางรัฐก็ระวังหน่อยละกัน

[gundam666]

ตอนนี้ดราม่าตึก สตง.  กำลังร้อนแรง  แผ่นดินไหวครั้งเดียวตึกใหม่ๆ พังเละเทะ  บริษัทที่ จีนที่มีส่วนร่วมไล่ปิดผลงาน  แต่สงสัยอย่าง สตง. หลุด QC ได้ไงหว่า  หรืออาจเป็นเพราะ  เป็น สตง. เลยไม่ต้องผ่าน QC ก็ได้

[ichamkung]

สตง ต้องไปซื้อตึกสาธรทำต่อก็ได้

[Black7nos]

จริงๆ พอพูดถึงบริษัทจีน ผมมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเหมือนกัน
ตอนก่อนผมไปทำงานก่อสร้างรถไฟฟ้าที่บังคลาเทศแล้วผมก็อ่านรายงานก่อนหน้า ของบริษัทก่อสร้างอื่นที่ไปทำรถไฟฟ้าที่บังคลาเทศ
มันก็มีพวกบริษัทต่างชาติจากหลายชาติ เช่น มิซุยของญี่ปุ่น โตกิวของญี่ปุ่น และก็มีจีนอย่างซิโน-ไฮโดร


เท่าที่ผมจำได้คือสัญญาส่วนที่เป็นของซิโน-ไฮโดรซึ่งเป็นอีกหนึ่งรัฐวิสาหกิจก่อสร้างของจีนเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย แถมมีอุบัติเหตุที่มีคนงานบังคลาเทศตายด้วย 1 คนมั้งครั้บ

[Black7nos]

อันนี้ในเพจข่าวจีนกำลังโชว์ผลงานว่าเทคอนกรีตขั้นสุดท้ายเสร็จแล้ว เหลือตกแต่งอาคาร
https://news.goalfore.cn/topstories/detail/63177.html?fbclid=IwY2xjawJV5lNleHRuA2FlbQIxMAABHUxemAAL55pot3l7aSBRM32uivbCTK2-wawlq89z8z2Od4c_MLvfjI32zQ_aem_KSlBI1fP9uemvXi0PF4BEg

แล้วจากภาพคือในอาคารน่าจะเดินงานระบบเกิน 50% ไปแล้วแน่ๆด้วย


ประเด็นเรื่อง Strength ของคอนกรีตยังไม่แข็งแรงเกิน 95% กล่าวคือไม่เกิน 28 วัน อันนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะดูจาก Progress อันนี้คือเกินแน่ๆ
เพราะถ้า Progress ขนาดนี้ ยังไงโครงสร้างหลักคือเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่งานตกแต่งภายในอาคาร งานเปลือกอาคารเท่านั้น และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า


ทีนี้มาดูกันว่าใครจะติดคุกบ้าง

...................

อัพเดตเพิ่มเติม ผมได้ข้อมูลเพิ่มว่าบริษัท ไชน่า-เรลเวย์ก่อตั้งบริษัทลูก เคยไปรับงานที่ประเทศเซอเบีย(ยุโรปตะวันออก)
โดยเป็นโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟ Novi Sad งานก่อสร้างดำเนินไปจนมาเกิดโศกนาฏกรรมวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ปีที่ผ่านมาเอง
มีคนตายจากงานก่อสร้างที่เกิดจากบริษัทลูกของ ไชน่า-เรลเวย์

อันนี้คือภาพสถานีรถไฟ Novi Sad ที่ประเทศเซอเบีย ซึ่งบริษัท ไชน่า-เรลเวย์ รับงานมารีโนเวท แต่เกิดอุบัติเหตุจนมีคนตายปีที่แล้ว

ตอนแรกตึกสตง.ใหม่ถล่ม ใจหนึ่งผมก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุและสุดวิสัยจริงๆหรือเปล่า แต่ดูจากประวัติการทำงานที่บริษัทเดียวกันทำตึกถล่มหลายๆครั้งติดกัน
อันนี้ผมว่าอาจจะจงใจเจตนาเล่นไม่ซื่อบางอย่างแล้วแน่ๆ

ประสบการณ์วิศวกรฯของผมและเพื่อนผมการันตีได้เลยครับ สร้างให้ตึกให้ถล่มเนี่ยแม่งยากกว่าสร้างตึกให้ไม่ถล่มเสียอีก % ที่อาคารถล่มจริงๆ มันต่ำกว่า 0.01% เสียอีก
สูตรคำนวนวิศวกรรมโยธา ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีแบบ Strength Design(New Method) กับ Working Design(Old School Method) มันก็เผื่อความปลอดภัยมาอยู่แล้ว
แถมตามกฎหมายการก่อสร้างอาคาร คุณยิ่งต้องคูณ Safety Factor เข้าไปอีก มันยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย

แต่บริษัทนี้กับก่อสร้างอาคารถล่มหลายครั้งติดๆกัน อันนี้ยังไงมันก็แปลกมากๆ ความน่าจะเป็นพอกับๆถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1

..................

อัพเตดอีกเรื่องหนึ่งตอนนี้เวลาผ่านไปเกิน 48 ชม.แล้ว พรุ่งนี้คือวันสุดท้ายที่จะครบ 72 ชม.
ตามหลักการการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถ้าเกิน 72 ชม. ยอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งพรวดทันที เพราะขาดน้ำ
ยังไงก็อยากให้เจ้าหน้าที่และทีมงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

[pol]

ช่วงนี้สำหรับสมาชิกทั้งหลายที่อยู่ที่กรุงเทพฯนะครับผมแนะนำให้ระวังอีกนิดนึงเพราะสำหรับแผ่นดินไหวมันจะมี After Shock ตามมาอีกหลายครั้ง ตึกบางหลังไม่ได้ถล่มจากแผ่นดินไหวครั้งแรกแต่มันจะมาถล่มหลังจาก After Shock นี่ล่ะครับ 

[gundam666]

อันนี้ในเพจข่าวจีนกำลังโชว์ผลงานว่าเทคอนกรีตขั้นสุดท้ายเสร็จแล้ว เหลือตกแต่งอาคาร
https://news.goalfore.cn/topstories/detail/63177.html?fbclid=IwY2xjawJV5lNleHRuA2FlbQIxMAABHUxemAAL55pot3l7aSBRM32uivbCTK2-wawlq89z8z2Od4c_MLvfjI32zQ_aem_KSlBI1fP9uemvXi0PF4BEg

แล้วจากภาพคือในอาคารน่าจะเดินงานระบบเกิน 50% ไปแล้วแน่ๆด้วย


ประเด็นเรื่อง Strength ของคอนกรีตยังไม่แข็งแรงเกิน 95% กล่าวคือไม่เกิน 28 วัน อันนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะดูจาก Progress อันนี้คือเกินแน่ๆ
เพราะถ้า Progress ขนาดนี้ ยังไงโครงสร้างหลักคือเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่งานตกแต่งภายในอาคาร งานเปลือกอาคารเท่านั้น และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า


ทีนี้มาดูกันว่าใครจะติดคุกบ้าง

...................

อัพเดตเพิ่มเติม ผมได้ข้อมูลเพิ่มว่าบริษัท ไชน่า-เรลเวย์ก่อตั้งบริษัทลูก เคยไปรับงานที่ประเทศเซอเบีย(ยุโรปตะวันออก)
โดยเป็นโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟ Novi Sad งานก่อสร้างดำเนินไปจนมาเกิดโศกนาฏกรรมวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ปีที่ผ่านมาเอง
มีคนตายจากงานก่อสร้างที่เกิดจากบริษัทลูกของ ไชน่า-เรลเวย์
[img/]
อันนี้คือภาพสถานีรถไฟ Novi Sad ที่ประเทศเซอเบีย ซึ่งบริษัท ไชน่า-เรลเวย์ รับงานมารีโนเวท แต่เกิดอุบัติเหตุจนมีคนตายปีที่แล้ว

ตอนแรกตึกสตง.ใหม่ถล่ม ใจหนึ่งผมก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุและสุดวิสัยจริงๆหรือเปล่า แต่ดูจากประวัติการทำงานที่บริษัทเดียวกันทำตึกถล่มหลายๆครั้งติดกัน
อันนี้ผมว่าอาจจะจงใจเจตนาเล่นไม่ซื่อบางอย่างแล้วแน่ๆ

ประสบการณ์วิศวกรฯของผมและเพื่อนผมการันตีได้เลยครับ สร้างให้ตึกให้ถล่มเนี่ยแม่งยากกว่าสร้างตึกให้ไม่ถล่มเสียอีก % ที่อาคารถล่มจริงๆ มันต่ำกว่า 0.01% เสียอีก
สูตรคำนวนวิศวกรรมโยธา ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีแบบ Strength Design(New Method) กับ Working Design(Old School Method) มันก็เผื่อความปลอดภัยมาอยู่แล้ว
แถมตามกฎหมายการก่อสร้างอาคาร คุณยิ่งต้องคูณ Safety Factor เข้าไปอีก มันยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย

แต่บริษัทนี้กับก่อสร้างอาคารถล่มหลายครั้งติดๆกัน อันนี้ยังไงมันก็แปลกมากๆ ความน่าจะเป็นพอกับๆถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1

..................

อัพเตดอีกเรื่องหนึ่งตอนนี้เวลาผ่านไปเกิน 48 ชม.แล้ว พรุ่งนี้คือวันสุดท้ายที่จะครบ 72 ชม.
ตามหลักการการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถ้าเกิน 72 ชม. ยอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งพรวดทันที เพราะขาดน้ำ
ยังไงก็อยากให้เจ้าหน้าที่และทีมงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

  เอาเรื่องนี้ไปลง Darma-addict ดีมัย  น่าจะแรงพอให้ เก้าอี่สะดุ้ง