ผู้กำกับ Dragon Age ภาคใหม่เชื่อ 1 ในเหตุผลที่ทำให้เกมล้มเหลวคือ "พวกปั่นกระแสความเกลียดชัง"
.
Dragon Age: The Veilguard ดูเหมือนจะเป็นเกมที่เปิดตัวได้อย่างน่าผิดหวังครั้งใหญ่สำหรับ BioWare และ EA แม้ว่ายอดรีวิวโดยรวมจะออกมาดี และมียอดผู้เล่นในวันแรกระดับหนึ่ง แต่ตัวเกมก็ทำผลงานได้ดีไม่เท่าภาคก่อนหน้า
.
ซึ่งก็อาจจะมีหลากหลายเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีใครตื่นเต้นกับ Dragon Age: The Veilguard แต่สำหรับผู้กำกับของเกมเชื่อว่า หนึ่งในเหตุผลนั้น ก็คือ
[/font]"กระแสความเกลียดชังที่สร้างขึ้นจากพวกแกนนำในชุมชนชาวเกม" ที่ทำให้ Dragon Age: The Veilguard กลายเป็นศูนย์กลางของสงครามวัฒนธรรมบนโซเชียลมีเดีย
.
จากการให้สัมภาษณ์กับทาง Inverse คุณ Corinne Buche ผู้กำกับ Dragon Age: The Veilguard พูดถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทีเกี่ยวข้องกับตัวเกม โดยเธอพูดถึงการโดนถล่มรีวิวแง่ลบบน Metacritic และความเห็นเกลียดชังที่มีต่อนักพัฒนาเกมในโซเชียลมีเดียว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากความแตกแยกในสังคมทุกวันนี้
.
"ฉันคิดว่าเราควรพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องยาก ฉันเติบโตมาในช่วงเวลาที่ควรจะรู้สึกว่า เราอยู่ตรงนี้เพื่อที่จะฉลองให้กับเกม และมีประสบการณ์ที่แชร์ร่วมกันเหล่านี้ และยังคงขับเคลื่อนจนทุกวันนี้ ฉันคิดว่า กระแสถกเถียงที่เราได้เห็น เป็นผลมาจากความแตกแยกอย่างมากในสังคม และบางทีมันอาจจะไร้เดียงสานิดหน่อย ฉันรู้ว่ามันยากที่จะตั้งคำถามว่า เกมนี้คือเกมสำหรับฉันรึเปล่า? ฉันควรจะอยู่ที่จุดนี้รึเปล่า? และเกมจะดีขึ้น ถ้าเราสามารถตอบไปได้ว่า ใช่ นี่คือที่ของคุณ"
เธอกล่าว
.
สำหรับคุณ Busche แล้ว เกมที่ยอดเยี่ยมจะนำเสนอ "กระจก" ที่จะสะท้อนตัวตน, ลักษณะ และการตัดสินใจของตัวคุณเอง และกล่าวอีกว่า ความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง เป็นส่วนสำคัญกับเกม และหากตัดสิ่งเหล่านี้ออกไป จะส่งผลให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับเกมน้อยลง ที่นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมทีมงานถึงเน้นเรื่องการสำรวจตัวตน และอัตลักษณ์ของตัวละครต่างๆ ในเกม
.
อย่างไรก็ดี คุณ Busche ยอมรับว่า การดำเนินไปของเรื่องราวใน Dragon Age ที่เป็นสโลแกนของเกมว่า "จงเป็นอย่างที่คุณอยากจะเป็น" ทำให้บางทีทีมงานก็อาจจะเน้นเรื่องความหลากหลายไปในทิศทางเดียวมากเกินไป จนก่อให้เกิดกระแสตีกลับอย่างรุนแรงจากผู้เล่นบางส่วนตามมา
.
ซึ่งตอนนี้ทาง EA ยังไม่เปิดเผยว่า Dragon Age: The Veilguard ทำยอดขายได้เท่าใดแล้วในช่วง 2 เดือนที่เกมวางจำหน่าย แต่มีรายงานว่าอาจจะได้ถึง 1 ล้านชุดแล้ว แต่นั่นก็ยังถือว่าน้อย และอาจจะไม่เพียงพอต่อต้นทุนการพัฒนาเกมฟอร์มยักษ์ AAA ในทุกวันนี้
หงายการ์ดโทษผู้เล่นตามระเบียบที่กำหนดไว้ในสมุดหนังหมาของ Woke ตามเคย
กระแสเกมเงียบดังป่าช้า ดูท่าคงขายไม่ถึงล้านแน่นอน