ชุมชนแฟน ๆ เกม Dragon Age: The Veilguard ทั้งใน Reddit และ X ถึงกับเดือด หลังจาก Daniel Vávra ผู้กำกับเกม Kingdom Come: Deliverance โพสต์ X เยาะเย้ยว่าเป็นเกมออกใหม่แต่กลับมียอดผู้เล่นน้อยกว่าเกมของเขาที่วางขายมา 7 ปีแล้วเสียอีก
Vávra เป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่แสดงออกจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สนใจทำตามกระแส woke และจะสร้างเกมที่มีคุณภาพพร้อมอิงประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องต่อไป นั่นคือเหตุผลที่เกม Kingdom Come ทั้งภาคแรกและภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายมีแต่ตัวละครผิวขาวล้วน ๆ
[/font]Kingdom Come และทีมพัฒนา Warhorse Studios จากสาธารณรัฐเช็ค ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อฝ่ายซ้ายมาตั้งแต่ปี 2018 ที่วางจำหน่ายเกมนี้ โดยสื่ออย่าง Kotaku หรือ Vice โจมตีว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิวที่ไม่ยอมใส่คนผิวสีเอาไว้ในเกม ทั้งที่เกมมีฉากหลังเป็นโบฮีเมีย (ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของประเทศเช็ค) ซึ่งแน่นอนว่าสมัยนั้นไม่มีคนผิวดำ
นอกจากสื่อหลายเจ้าจะไม่ยอมรีวิวเกมนี้แล้ว ยังไม่ลงข่าวหรือบทความใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกมอีกต่างหาก แต่เกมก็มียอดขายที่ดีและได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, ความสมจริง และบรรยากาศยุโรปยุคกลาง ซึ่งเกมภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมียอดกด wishlist เป็นอันดับ 15 ใน Steam และยอดขายอยู่อันดับ 109
โดนเกมเก่าเยาะเย้ยเรื่องยอดผู้เล่นที่ดันมาน้อยกว่าเกมเขาที่วางขายมา 7 ปี
แต่ TIME ยกให้ Dragon Age ภาคใหม่เป็นเกมที่ "ดีที่สุด" ของปี 2024 และชื่นชมว่าระบบสร้างตัวละครล้ำมากๆ
ทางนิตยสาร TIME จัดอันดับ 10 เกมที่ดีที่สุดของปี 2024 โดยยกให้ Dragon Age: The Veilguard ภาคล่าสุดของเกม RPG ซีรีส์ Dragon Age จาก BioWare ขึ้นแท่นอันดับ 1 เกมที่ดีที่สุดของปีนี้ไปครอบครอง
โดยทาง TIME อธิบายว่า อย่างแรกคือต้องยกนิ้วให้ระบบสร้างตัวละครที่ล้ำที่สุดเท่าที่วิดีโอเกมเคยมีมา มันทำให้ผู้เล่นใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการปรับแต่งรูปลักษณ์ตัวละครได้ทุกอย่าง
[/font]ตั้งแต่โครงสร้างกระดูกไปจนถึงการวางริ้วรอยบนเนื้อเยื่อ ที่ถูกพิจารณามาเป็นอย่างดีทุกแง่มุม และยังมีความหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่ในแง่ของเผ่าพันธุ์ แต่ยังรวมถึงเพศที่เป็นการรวมสรรพนาม Non-binary แล้วยังยืดหยุ่นกับบุคลิกทางกายภาพอย่างทรงผมด้วย ทำให้ผู้เล่น The Veilguard มีรู้สึกว่าตัวละครที่สร้างเป็นตัวเขาเอง แม้แต่ตอนก่อนเกมจะเริ่ม
ในขณะที่ระบบการต่อสู้และฟีเจอร์การออกสำรวจก็น่าประทับใจมากๆ และดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในเกมซีรีส์ Dragon Age เช่นเดียวกับรายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและมีความแตกต่างในยุคที่ชาวเกมเลือกเล่นเกมแนวแฟนตาซีจากกราฟิกที่น่าประทับใจ และตัวละครเพื่อนร่วมทางอีก 6 คน ที่แต่ละคนมีทักษะและบุคลิกภาพแตกต่างกัน และไม่เหมือนเกมอื่นๆ ก่อนหน้าของซีรีส์ เพราะการตอบเห็นด้วยในผังสนทนา จะไม่ได้ให้สิ่งที่ผู้เล่นต้องการเสมอไป
แม้ผู้เล่นบางส่วนอาจจะคิดถึงการเล่าเรื่องในเชิงการเมืองกว่านี้ ในภาคเก่าๆ แต่ The Veilguard ก็มีส่วนเพิ่มเติมที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการเติมความสดใหม่ให้กับซีรีส์ที่ยังคงเน้นหนักที่ Lore แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป จนรบกวนความสนุกของการกำจัดมอนสเตอร์ และหากมีคำพูดเดียว ที่จะอธิบายว่าทำไม Dragon Age: The Veilguard ถึงเป็นเกมที่ดีที่สุดของ TIME นั่นก็คือคำว่า "เติมเต็ม"
ส่วนอันดับอื่นๆ มีดังนี้
2. Astro Bot
3. Final Fantasy VII Rebirth
4. Silent Hill 2
5. Neva
6. Alan Wake 2: Night Springs and The Lake House
7. Black Myth: Wukong
8. Star Wars Outlaws
9. Lego Horizon Adventures
10. Helldivers 2
แม่งรับตังใต้โต๊ะมาเท่าไรฟะ ถึงเชิดชูขนาดนี้ แต่ทำไมยอดผู้เล่นเกมดันเสือกไม่ถึงแสนนี้ฟะ