รวมความชิบหายของWoke ... (ข่าวร้าย) kadokawa ขายแน่นอน

[providence_gundam]

กลับ เข้าประเด็น






ตอนนี้ มีดราม่าเล็กน้อย เพราะ marvel rival  ไม่มีสื่อเกมเจ้าไหนช่วยทำ ตีข่าวให้
เนื่องจาก สร้างตัวละคร ไม่อุบาถ woke  รุับไม่ได้

มันให้คะแนนน้อย เพราะบอกว่าก็อป OW แต่จริงๆน่าจะกดเพราะดีไซน์ตัวละครไม่ woke มากกว่า


พวกตะวันตกมันก็อวยกันเอง ไล่ด่าเกมตะวันออก เป็นงี้แต่ไหนแต่ไร นับวันหางยิ่งโผล่มาเรื่อยๆว่าพวกนี้มันรับตัง


ปีนี้พวกฝั่งตะวันตกดิ้นเป็นหมาน้ำร้อนลวกที่สุดละ เกมจากประเทศตะวันตกเละเทะ เจ๊งไม่เป็นท่ารัวๆ เกมฝั่งเอเชียมีแต่คนชม เกมที่เข้าชิง GOTY 5 ใน 6 เป็นเอเชีย(มีแค่ balatro ที่เป็นแคนาดา และเข้ามาเพราะโควตาเกมอินดี้) กรรมการแม่มหลอน จนต้องเอา DLC Elden ring มาลงแข่งให้คนเค้าด่าด้วย เพราะเกมที่เข้าไป มีแต่เกมที่กรรมการโง่ๆเกลียดทั้งนั้น

แต่น่าจะลืมไปว่า Elden ring ก็เกมค่ายญี่ปุ่นนะ กรรมการ,ไอ้เจฟหลอนหนักแล้ว 555

[hackac]

ชุมชนแฟน ๆ เกม Dragon Age: The Veilguard ทั้งใน Reddit และ X ถึงกับเดือด หลังจาก Daniel Vávra ผู้กำกับเกม Kingdom Come: Deliverance โพสต์ X เยาะเย้ยว่าเป็นเกมออกใหม่แต่กลับมียอดผู้เล่นน้อยกว่าเกมของเขาที่วางขายมา 7 ปีแล้วเสียอีก



Vávra เป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่แสดงออกจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สนใจทำตามกระแส woke และจะสร้างเกมที่มีคุณภาพพร้อมอิงประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องต่อไป นั่นคือเหตุผลที่เกม Kingdom Come ทั้งภาคแรกและภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายมีแต่ตัวละครผิวขาวล้วน ๆ



[/font]Kingdom Come และทีมพัฒนา Warhorse Studios จากสาธารณรัฐเช็ค ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อฝ่ายซ้ายมาตั้งแต่ปี 2018 ที่วางจำหน่ายเกมนี้ โดยสื่ออย่าง Kotaku หรือ Vice โจมตีว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิวที่ไม่ยอมใส่คนผิวสีเอาไว้ในเกม ทั้งที่เกมมีฉากหลังเป็นโบฮีเมีย (ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของประเทศเช็ค) ซึ่งแน่นอนว่าสมัยนั้นไม่มีคนผิวดำ



นอกจากสื่อหลายเจ้าจะไม่ยอมรีวิวเกมนี้แล้ว ยังไม่ลงข่าวหรือบทความใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกมอีกต่างหาก แต่เกมก็มียอดขายที่ดีและได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, ความสมจริง และบรรยากาศยุโรปยุคกลาง ซึ่งเกมภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมียอดกด wishlist เป็นอันดับ 15 ใน Steam และยอดขายอยู่อันดับ 109


โดนเกมเก่าเยาะเย้ยเรื่องยอดผู้เล่นที่ดันมาน้อยกว่าเกมเขาที่วางขายมา 7 ปี 


แต่ TIME ยกให้ Dragon Age ภาคใหม่เป็นเกมที่ "ดีที่สุด" ของปี 2024 และชื่นชมว่าระบบสร้างตัวละครล้ำมากๆ


ทางนิตยสาร TIME จัดอันดับ 10 เกมที่ดีที่สุดของปี 2024 โดยยกให้ Dragon Age: The Veilguard ภาคล่าสุดของเกม RPG ซีรีส์ Dragon Age จาก BioWare ขึ้นแท่นอันดับ 1 เกมที่ดีที่สุดของปีนี้ไปครอบครอง


โดยทาง TIME อธิบายว่า อย่างแรกคือต้องยกนิ้วให้ระบบสร้างตัวละครที่ล้ำที่สุดเท่าที่วิดีโอเกมเคยมีมา มันทำให้ผู้เล่นใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการปรับแต่งรูปลักษณ์ตัวละครได้ทุกอย่าง [/font]ตั้งแต่โครงสร้างกระดูกไปจนถึงการวางริ้วรอยบนเนื้อเยื่อ ที่ถูกพิจารณามาเป็นอย่างดีทุกแง่มุม และยังมีความหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่ในแง่ของเผ่าพันธุ์ แต่ยังรวมถึงเพศที่เป็นการรวมสรรพนาม Non-binary แล้วยังยืดหยุ่นกับบุคลิกทางกายภาพอย่างทรงผมด้วย ทำให้ผู้เล่น The Veilguard มีรู้สึกว่าตัวละครที่สร้างเป็นตัวเขาเอง แม้แต่ตอนก่อนเกมจะเริ่ม


ในขณะที่ระบบการต่อสู้และฟีเจอร์การออกสำรวจก็น่าประทับใจมากๆ และดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในเกมซีรีส์ Dragon Age เช่นเดียวกับรายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและมีความแตกต่างในยุคที่ชาวเกมเลือกเล่นเกมแนวแฟนตาซีจากกราฟิกที่น่าประทับใจ และตัวละครเพื่อนร่วมทางอีก 6 คน ที่แต่ละคนมีทักษะและบุคลิกภาพแตกต่างกัน และไม่เหมือนเกมอื่นๆ ก่อนหน้าของซีรีส์ เพราะการตอบเห็นด้วยในผังสนทนา จะไม่ได้ให้สิ่งที่ผู้เล่นต้องการเสมอไป


แม้ผู้เล่นบางส่วนอาจจะคิดถึงการเล่าเรื่องในเชิงการเมืองกว่านี้ ในภาคเก่าๆ แต่ The Veilguard ก็มีส่วนเพิ่มเติมที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการเติมความสดใหม่ให้กับซีรีส์ที่ยังคงเน้นหนักที่ Lore แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป จนรบกวนความสนุกของการกำจัดมอนสเตอร์ และหากมีคำพูดเดียว ที่จะอธิบายว่าทำไม Dragon Age: The Veilguard ถึงเป็นเกมที่ดีที่สุดของ TIME นั่นก็คือคำว่า "เติมเต็ม"


ส่วนอันดับอื่นๆ มีดังนี้


2. Astro Bot
3. Final Fantasy VII Rebirth
4. Silent Hill 2
5. Neva
6. Alan Wake 2: Night Springs and The Lake House
7. Black Myth: Wukong
8. Star Wars Outlaws
9. Lego Horizon Adventures
10. Helldivers 2


แม่งรับตังใต้โต๊ะมาเท่าไรฟะ ถึงเชิดชูขนาดนี้ แต่ทำไมยอดผู้เล่นเกมดันเสือกไม่ถึงแสนนี้ฟะ

[providence_gundam]

ชุมชนแฟน ๆ เกม Dragon Age: The Veilguard ทั้งใน Reddit และ X ถึงกับเดือด หลังจาก Daniel Vávra ผู้กำกับเกม Kingdom Come: Deliverance โพสต์ X เยาะเย้ยว่าเป็นเกมออกใหม่แต่กลับมียอดผู้เล่นน้อยกว่าเกมของเขาที่วางขายมา 7 ปีแล้วเสียอีก



Vávra เป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่แสดงออกจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สนใจทำตามกระแส woke และจะสร้างเกมที่มีคุณภาพพร้อมอิงประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องต่อไป นั่นคือเหตุผลที่เกม Kingdom Come ทั้งภาคแรกและภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายมีแต่ตัวละครผิวขาวล้วน ๆ



[/font]Kingdom Come และทีมพัฒนา Warhorse Studios จากสาธารณรัฐเช็ค ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อฝ่ายซ้ายมาตั้งแต่ปี 2018 ที่วางจำหน่ายเกมนี้ โดยสื่ออย่าง Kotaku หรือ Vice โจมตีว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิวที่ไม่ยอมใส่คนผิวสีเอาไว้ในเกม ทั้งที่เกมมีฉากหลังเป็นโบฮีเมีย (ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของประเทศเช็ค) ซึ่งแน่นอนว่าสมัยนั้นไม่มีคนผิวดำ



นอกจากสื่อหลายเจ้าจะไม่ยอมรีวิวเกมนี้แล้ว ยังไม่ลงข่าวหรือบทความใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกมอีกต่างหาก แต่เกมก็มียอดขายที่ดีและได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, ความสมจริง และบรรยากาศยุโรปยุคกลาง ซึ่งเกมภาค 2 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมียอดกด wishlist เป็นอันดับ 15 ใน Steam และยอดขายอยู่อันดับ 109


โดนเกมเก่าเยาะเย้ยเรื่องยอดผู้เล่นที่ดันมาน้อยกว่าเกมเขาที่วางขายมา 7 ปี 


แต่ TIME ยกให้ Dragon Age ภาคใหม่เป็นเกมที่ "ดีที่สุด" ของปี 2024 และชื่นชมว่าระบบสร้างตัวละครล้ำมากๆ


ทางนิตยสาร TIME จัดอันดับ 10 เกมที่ดีที่สุดของปี 2024 โดยยกให้ Dragon Age: The Veilguard ภาคล่าสุดของเกม RPG ซีรีส์ Dragon Age จาก BioWare ขึ้นแท่นอันดับ 1 เกมที่ดีที่สุดของปีนี้ไปครอบครอง


โดยทาง TIME อธิบายว่า อย่างแรกคือต้องยกนิ้วให้ระบบสร้างตัวละครที่ล้ำที่สุดเท่าที่วิดีโอเกมเคยมีมา มันทำให้ผู้เล่นใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการปรับแต่งรูปลักษณ์ตัวละครได้ทุกอย่าง [/font]ตั้งแต่โครงสร้างกระดูกไปจนถึงการวางริ้วรอยบนเนื้อเยื่อ ที่ถูกพิจารณามาเป็นอย่างดีทุกแง่มุม และยังมีความหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่ในแง่ของเผ่าพันธุ์ แต่ยังรวมถึงเพศที่เป็นการรวมสรรพนาม Non-binary แล้วยังยืดหยุ่นกับบุคลิกทางกายภาพอย่างทรงผมด้วย ทำให้ผู้เล่น The Veilguard มีรู้สึกว่าตัวละครที่สร้างเป็นตัวเขาเอง แม้แต่ตอนก่อนเกมจะเริ่ม


ในขณะที่ระบบการต่อสู้และฟีเจอร์การออกสำรวจก็น่าประทับใจมากๆ และดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในเกมซีรีส์ Dragon Age เช่นเดียวกับรายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและมีความแตกต่างในยุคที่ชาวเกมเลือกเล่นเกมแนวแฟนตาซีจากกราฟิกที่น่าประทับใจ และตัวละครเพื่อนร่วมทางอีก 6 คน ที่แต่ละคนมีทักษะและบุคลิกภาพแตกต่างกัน และไม่เหมือนเกมอื่นๆ ก่อนหน้าของซีรีส์ เพราะการตอบเห็นด้วยในผังสนทนา จะไม่ได้ให้สิ่งที่ผู้เล่นต้องการเสมอไป


แม้ผู้เล่นบางส่วนอาจจะคิดถึงการเล่าเรื่องในเชิงการเมืองกว่านี้ ในภาคเก่าๆ แต่ The Veilguard ก็มีส่วนเพิ่มเติมที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการเติมความสดใหม่ให้กับซีรีส์ที่ยังคงเน้นหนักที่ Lore แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป จนรบกวนความสนุกของการกำจัดมอนสเตอร์ และหากมีคำพูดเดียว ที่จะอธิบายว่าทำไม Dragon Age: The Veilguard ถึงเป็นเกมที่ดีที่สุดของ TIME นั่นก็คือคำว่า "เติมเต็ม"


ส่วนอันดับอื่นๆ มีดังนี้


2. Astro Bot
3. Final Fantasy VII Rebirth
4. Silent Hill 2
5. Neva
6. Alan Wake 2: Night Springs and The Lake House
7. Black Myth: Wukong
8. Star Wars Outlaws
9. Lego Horizon Adventures
10. Helldivers 2


แม่งรับตังใต้โต๊ะมาเท่าไรฟะ ถึงเชิดชูขนาดนี้ แต่ทำไมยอดผู้เล่นเกมดันเสือกไม่ถึงแสนนี้ฟะ

ผมว่าน่าจะเยอะอยู่ เริ่มจากยัดตัง ให้ไปเขียนบทความอวย DAV แต่ไม่รู้จะเริ่มไง เพราะปกติไม่ใช่นิตยสารสายนี้ คงไปถามคนในแผนกให้คนเล่นเยอะที่สุดมาเขียนแล้วกัน


มันถึงมี Lego, Outlaws, DLC ของ Alan wake ติดมาด้วยไง ถ้าเทียบ DLC ด้วยกัน Elden ring เหนือกว่าคนละโยชน์

ผมว่าน่าจะเป็น list เกมทั้งหมดที่คนเขียนบทความมันได้เล่นในปีนี้ ซึ่งมันทำให้ time ดูไม่น่าเชื่อถือเข้าไปอีก

คนที่เล่นเกมก็รู้อยู่แล้วว่ายอดขาย,คำวิจารณ์มันเละเทะขนาดไหน

ใครอยากอวยก็อวยไปเหอะ แค่ time มาอวย มันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า วงการเกมไม่มีใครเอามรึง จนต้องไปยัดเงินใส่วารสารที่แทบไม่ได้พูดถึงเรื่องเกมเลย ให้มาพูดเรื่องนี้ แล้วใครมันจะไปเชื่อ?

[sariora123]

ubi soft  ขายแน่นอน เจรจาปรัยโครงสร้างอล้ว

[hackac]

ubi soft  ขายแน่นอน เจรจาปรัยโครงสร้างอล้ว

ขายก็จริงอยู่ แต่ตระกูล Guillemot ที่เป็นเจ้าของและ CEO ของ Ubisoft คนปัจจุบัน มันทุเรศเกิน [/font]
ตระกูล Guillemot ต้องการเป็นผู้ควบคุมและบริหารบริษัท Ubisoft ต่อไป [/font]ในขณะที่ Tencent ขอให้พวกเขามีสิทธิ์และส่วนร่วมมากขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัทในอนาคตเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ตระกูล Guillemot ไม่เห็นด้วยและยังไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ [/font]
สรุปแบบง่ายๆเลยก็คือ ตระกูล Guillemot มันอยากเอาบริษัท Ubisoft ออกจากตลาดหลักทรัพย์เพื่อป้องกันการ[/font]เทคโอเวอร์บริษัทจากที่อื่นรวมถึงการโดนด่าจากเหล่าชาวเกมเมอร์
ดังนั้น Tencent  เลยใช้แผนอดทนไม่รีบ รอ[/font]ให้ตระกูล Guillemot ยอมตกลงกับเงื่อนไขที่ระบุไปข้างต้นเสียซะ ยังไงก็ไม่เกินปีหน้าหรอก เดี่ยว AC Shadow ลูกสุดที่รักของ Guillemot วางขายเมื่อไร ก็เรียบร้อยเอง[/font]

[sariora123]

เทนเซน ไม่โง่หลงกล เะราะรู้ว่าปัญหาหลักมันอยู่ที่โวค ภายใน  รอเจ๊งยับกว่านี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยกดดันได้ง่ายอาจมีเจ้าอื่นมาแข่งซื้อ




จำไม่ผิดฝั่ง อเมริกา ทรั้มเคยหาเสียง/ว้ว่าถ้าเขาได้เป็น ปธน. woke  ต้องตายไปจาก แผ่นดิน อเมริกา


ทรัมป์้ล็งยุบ กรทรวงศึกษาทิ้งเลยนะ น่าจะสร้างใหม่ขึ้นมาแทน ของเก่า เน่าเกินแก้

[providence_gundam]

เจรจาเตือนเฉยๆ เพราะยังไงยูบิลงไปได้มากกว่านี้อีก AC shadow กับเกมที่ปิดตัวปีหน้าอ่ะ


ถ้ายังดันทุรังทำต่อก็เอา แต่มาทำเกม woke ในยุคทรัมป์,อีลอน ก็ลำบากหน่อยนะ

[deaddy]

เทนเซน ไม่โง่หลงกล เะราะรู้ว่าปัญหาหลักมันอยู่ที่โวค ภายใน  รอเจ๊งยับกว่านี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยกดดันได้ง่ายอาจมีเจ้าอื่นมาแข่งซื้อ




จำไม่ผิดฝั่ง อเมริกา ทรั้มเคยหาเสียง/ว้ว่าถ้าเขาได้เป็น ปธน. woke  ต้องตายไปจาก แผ่นดิน อเมริกา


ทรัมป์้ล็งยุบ กรทรวงศึกษาทิ้งเลยนะ น่าจะสร้างใหม่ขึ้นมาแทน ของเก่า เน่าเกินแก้

อีลอนสิ กระทรวง doge สร้างมาเพื่อการนี้เลยมั้ง

[hackac]

มีข่าวลือเกี่ยวกับเกมใหม่ของ Disney นะ
เกม Star wars ที่จะเปิดวางขายปีหน้าและใช้เวลาพัฒนาเกม 5 ปี ตัวเกมเกือบเสร็จแล้ว แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในแผนกถูกคำสั่งที่ส่งตรงมาจากบริษัท Woke จำกัด หรือ Sweet Baby ว่าให้ลบคนขาวออกให้หมดจากตัวเกมไปซะแล้วใส่แต่ตัวละครผิวสี ข้ามเพศไปแทนเท่านั้น
สรุปไม่ต้องสืบเลยนะว่าเกมมันจะรอดหรือไม่ พูดได้เต็มปากเลยว่า เจ๊งยับแน่นอน

[sariora123]

[quote/]


อีลอนสิ กระทรวง doge สร้างมาเพื่อการนี้เลยมั้ง

 อันนี้สร้างมาเพื่อภาพรวม


แต่ กระทรวง ศึกษา. อเมริกาตอนนี้ เหี้ย โว๊ค ขนาดไหน
แม่งยัดหนังสือโป้เกย์้เข้าไว้ในห้องสมุด เด็กในโรงเรียนเด็กประถมครับ
โดยอ้างว่า_ม่ผิดระเบียบ แต่หนังสือโป้ประเภท อื่นไม่มีนะครับ
ตอนนี้คือเน่าจัดแบบว่า แก้ไม่ได้ล่ะ ยุบทิ้งปลดออกให้หมดจ่ายค่าชดเชยเอา สร้างกระทรวงใหม่ง่ายกว่า




แถมพวกโปร มุสซี่ ฮามาสก็เยอะ ซึ่ง น่าจะเป็นพวกวีซ่านักศึกษา
พวกนนี้จะโดนขับออกนอกประเทศไปด้วยพร้อม กะผู้อพยพ


ทรั้มป์มาจะยกเลิกการหนุนEV และการเก็บภาษีพิเศษรถน้ำมัน
ซึ่งมีข่าวว่าถ้าทำจริงต้องคืนเงินส่วนนั้นให้เจ้าของรถ
ผู้ว่า รัฐแคริฟอเนีย เลยจะเอารถเทสล่าออกจากการอุดหนุนของรัฐ แล้วไปหายี้ห้อ EV  อื่น แทน
ซึง เทสล่าเป็น โรงงาน EV เจ้าเดียวในแคริฟอเนีย
อีลอนเลยบอกไปว่า กุเป็น EV เจ้าเดียวในรัฐ แถม ev เจ้าอื่นนอกประเทศกำลังจะโดนำแพงภาษี
ถ้าเอาจริง กุก็ปิดโรงงานย้ายไปที่อื่น แล้วปลดพนักงาน ราวๆ 5แสนคน ออก ที่เหลือปัญหาของเอ็งล่ะ

[providence_gundam]

มีข่าวลือเกี่ยวกับเกมใหม่ของ Disney นะ
เกม Star wars ที่จะเปิดวางขายปีหน้าและใช้เวลาพัฒนาเกม 5 ปี ตัวเกมเกือบเสร็จแล้ว แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในแผนกถูกคำสั่งที่ส่งตรงมาจากบริษัท Woke จำกัด หรือ Sweet Baby ว่าให้ลบคนขาวออกให้หมดจากตัวเกมไปซะแล้วใส่แต่ตัวละครผิวสี ข้ามเพศไปแทนเท่านั้น
สรุปไม่ต้องสืบเลยนะว่าเกมมันจะรอดหรือไม่ พูดได้เต็มปากเลยว่า เจ๊งยับแน่นอน

ตอนแรกคิดว่าภาค Eclipse ของค่าย Quantic Dream ที่ทำ Detroit Become Human, Heavy Rain แต่ไม่น่าใช่เพราะ Netease ซื้อบ.ไปแล้ว ไม่น่ามี woke มาเกี่ยว ไม่ก็โปรเจคโดนล้มไปแล้วมั้ง

[hackac]

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า Ubisoft "อาจปิดตัวลง" และขายแฟรนไชส์เกมต่างๆ ให้บริษัทอื่นในปี 2025


หลังจากที่เกมเปิดตัวอย่างย่ำแย่มาหลายเกม โดนชาวเกมวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปี มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการสร้างสรรค์และการเงินมาหลายครั้ง และความผิดพลาดในการบริหารต้นทุน ดูเหมือนว่า Ubisoft บริษัทผู้สร้างเกมยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสเจ้าของแฟรนไชส์เกมอย่าง Assassin's Creed, Far Cry, Prince of Persia และอื่นๆ  ดูจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังจากที่ทางบริษัทยอมรับว่า [/font]กำลังพิจารณาที่จะให้พาร์ทเนอร์เข้ามาซื้อหุ้นส่วนที่เหลือและเปลี่ยนให้เป็นบริษัทเอกชนแทน ก่อนที่จะมีบริษัทใดเข้ามาครอบครองกิจการ และ Tencent ก็คือ 1 ในพาร์ทเนอร์ดังกล่าว ในขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ของ Ubisoft เป็นของตระกูล Guillemot ผู้ก่อตั้งบริษัท


ล่าสุดคุณ Joost van Dreunen ผู้เชี่ยวชาญในวงการเกม ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ SuperData ออกมาแสดงความเห็นว่า สุดท้ายแล้ว ผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่จากฝรั่งเศส จะเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัทเอกชนและขายบางส่วนของตัวเองไป


"เชื่อว่า Ubisoft มุ่งหน้าสู่การออกจากตลาดหุ้นและปิดตัวลงในปี 2025


ด้วยราคาหุ้นที่ตกลงจาก $28.19 มาเป็น $12.30 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ Ubisoft ตกเป็นเป้าที่จะโดนยึดกิจการ แฟรนไชส์ที่มีค่าของบริษัท โดยเฉพาะ Rainbow Six Siege และ Assassin's Creed อาจมีค่าแยกกันมากกว่ารวมกัน


Assassin's Creed: Shadows ที่กำลังจะวางจำหน่าย ก็ต้องเจอการแข่งขันกับ Ghost of Yotei ของ PlayStation และความล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่า มีปัญหาภายในเชิงองค์กร มากกว่าแค่เรื่องเกมทำยอดขายได้ไม่ดี


แนวทางการพัฒนาเกมของ Ubisoft มันล้าสมัยไปแล้วในยุคที่ต้องการให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและสร้างชุมชนผู้เล่น หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐานของวิธีการพัฒนาและดูแลเกม พวกเขาก็เสี่ยงที่จะทำให้ทั้งนักลงทุนและผู้เล่นรู้สึกแปลกยกมากขึ้น การปิดตัว XDefiant ไม่ใช่แค่อีกเกมที่เปิดตัวล้มเหลว แต่มันคือกาพยายามจะเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้สนใจในเกมของพวกเขา และล้มเหลวที่จะตระหนักถึงความเร่งด่วนในพิจารณาการจัดจำหน่ายของตัวเองใหม่อีกครั้ง"
คุณ Dreunen กล่าว


อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดเดาของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และไม่ได้เป็นการยืนยันใดๆ จากทาง Ubisoft 


ตราบใดที่ตระกูล Guillemot ยังคงครอบครอง Ubisoft อยู่ ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมได้หรอก

[gundam666]

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า Ubisoft "อาจปิดตัวลง" และขายแฟรนไชส์เกมต่างๆ ให้บริษัทอื่นในปี 2025


หลังจากที่เกมเปิดตัวอย่างย่ำแย่มาหลายเกม โดนชาวเกมวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปี มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการสร้างสรรค์และการเงินมาหลายครั้ง และความผิดพลาดในการบริหารต้นทุน ดูเหมือนว่า Ubisoft บริษัทผู้สร้างเกมยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสเจ้าของแฟรนไชส์เกมอย่าง Assassin's Creed, Far Cry, Prince of Persia และอื่นๆ  ดูจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังจากที่ทางบริษัทยอมรับว่า [/font]กำลังพิจารณาที่จะให้พาร์ทเนอร์เข้ามาซื้อหุ้นส่วนที่เหลือและเปลี่ยนให้เป็นบริษัทเอกชนแทน ก่อนที่จะมีบริษัทใดเข้ามาครอบครองกิจการ และ Tencent ก็คือ 1 ในพาร์ทเนอร์ดังกล่าว ในขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ของ Ubisoft เป็นของตระกูล Guillemot ผู้ก่อตั้งบริษัท


ล่าสุดคุณ Joost van Dreunen ผู้เชี่ยวชาญในวงการเกม ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ SuperData ออกมาแสดงความเห็นว่า สุดท้ายแล้ว ผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่จากฝรั่งเศส จะเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัทเอกชนและขายบางส่วนของตัวเองไป


"เชื่อว่า Ubisoft มุ่งหน้าสู่การออกจากตลาดหุ้นและปิดตัวลงในปี 2025


ด้วยราคาหุ้นที่ตกลงจาก $28.19 มาเป็น $12.30 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ Ubisoft ตกเป็นเป้าที่จะโดนยึดกิจการ แฟรนไชส์ที่มีค่าของบริษัท โดยเฉพาะ Rainbow Six Siege และ Assassin's Creed อาจมีค่าแยกกันมากกว่ารวมกัน


Assassin's Creed: Shadows ที่กำลังจะวางจำหน่าย ก็ต้องเจอการแข่งขันกับ Ghost of Yotei ของ PlayStation และความล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่า มีปัญหาภายในเชิงองค์กร มากกว่าแค่เรื่องเกมทำยอดขายได้ไม่ดี


แนวทางการพัฒนาเกมของ Ubisoft มันล้าสมัยไปแล้วในยุคที่ต้องการให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและสร้างชุมชนผู้เล่น หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐานของวิธีการพัฒนาและดูแลเกม พวกเขาก็เสี่ยงที่จะทำให้ทั้งนักลงทุนและผู้เล่นรู้สึกแปลกยกมากขึ้น การปิดตัว XDefiant ไม่ใช่แค่อีกเกมที่เปิดตัวล้มเหลว แต่มันคือกาพยายามจะเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้สนใจในเกมของพวกเขา และล้มเหลวที่จะตระหนักถึงความเร่งด่วนในพิจารณาการจัดจำหน่ายของตัวเองใหม่อีกครั้ง"
คุณ Dreunen กล่าว


อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดเดาของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และไม่ได้เป็นการยืนยันใดๆ จากทาง Ubisoft 


ตราบใดที่ตระกูล Guillemot ยังคงครอบครอง Ubisoft อยู่ ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมได้หรอก

ก็พี่ท่าน เล่นเอาคนดำ มาไล่ฆ่าชาวญี่ปุ่น  แทนที่จะสร้างซามูไรชาวญี่ปุ่นไร้นาม ในอดิตก็เอาคนฃาตินั้นๆ มาเป็นตังเอกประจำภาค แต่ AC ผี DEI เข้าสิง พอเห็นว่ายาซึเกะเป็นคนดำในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเท่านั้น ก็ยัดเข้าเป็นตัวเอกหลักทันที่ พร้อมยัดเพลงแร็ปซึ่งโคตรเข้าธีมญี่ปุ่นแบบงงๆ(ถึงจะเอาออกไปแล้วนะ) มันก็เจ้าสู่ฉากคนดำไล่ฆ่าชาวญี่ปุ่นในเกมส์สู่ดราม่า กะวลีสุดแซ่บในตำนานอย่าง ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ ซึ่งชาวเกมส์เมอร์เราก็สนองให้อย่างเจ็บแสบก็จัดให้ตามนั้น ตูไม่ซื้อก็ได้วะ แล้วทุกวันนี้เป็นไง  ถึงกะขอร้องให้ซื้อเกมส์เล่นหน่อย แล้วเกมส์สนุกมัย? ของขนาด BRF ยังยอมแพ้  เกมส์ก็จืดแสนจืด  ขนาดเกมส์ราคาหลัก 300 ยังเล่นคุ้มกว่า เกมส์ราคา2000+ ทำเหมือนเกมส์ยังทำไม่เสร็จ ซึ่งต่างตาก เอลเดอร์ริงที่จบในตัวของมันเอง แต่มีเนื่อเรื่องเสริมต่อยอดออกไปอีก      แต่สิ่งเดียวที่เสียใจคือเด็กหงานแม่งบรรลุดจุดประสงค์ของมันนั้นทำลายวงการเกมส์ แต่สิ่งที่น่าดีใจคือ อนาคนน่าจะเป็นยุครุ่งเรืองของเกมส์อินดี้

[providence_gundam]

[quote/] ก็พี่ท่าน เล่นเอาคนดำ มาไล่ฆ่าชาวญี่ปุ่น  แทนที่จะสร้างซามูไรชาวญี่ปุ่นไร้นาม ในอดิตก็เอาคนฃาตินั้นๆ มาเป็นตังเอกประจำภาค แต่ AC ผี DEI เข้าสิง พอเห็นว่ายาซึเกะเป็นคนดำในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเท่านั้น ก็ยัดเข้าเป็นตัวเอกหลักทันที่ พร้อมยัดเพลงแร็ปซึ่งโคตรเข้าธีมญี่ปุ่นแบบงงๆ(ถึงจะเอาออกไปแล้วนะ) มันก็เจ้าสู่ฉากคนดำไล่ฆ่าชาวญี่ปุ่นในเกมส์สู่ดราม่า กะวลีสุดแซ่บในตำนานอย่าง ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ ซึ่งชาวเกมส์เมอร์เราก็สนองให้อย่างเจ็บแสบก็จัดให้ตามนั้น ตูไม่ซื้อก็ได้วะ แล้วทุกวันนี้เป็นไง  ถึงกะขอร้องให้ซื้อเกมส์เล่นหน่อย แล้วเกมส์สนุกมัย? ของขนาด BRF ยังยอมแพ้  เกมส์ก็จืดแสนจืด  ขนาดเกมส์ราคาหลัก 300 ยังเล่นคุ้มกว่า เกมส์ราคา2000+ ทำเหมือนเกมส์ยังทำไม่เสร็จ ซึ่งต่างตาก เอลเดอร์ริงที่จบในตัวของมันเอง แต่มีเนื่อเรื่องเสริมต่อยอดออกไปอีก      แต่สิ่งเดียวที่เสียใจคือเด็กหงานแม่งบรรลุดจุดประสงค์ของมันนั้นทำลายวงการเกมส์ แต่สิ่งที่น่าดีใจคือ อนาคนน่าจะเป็นยุครุ่งเรืองของเกมส์อินดี้

หนทางง่ายๆมี เต็มที่ก็โดนล้อเลียนว่าก็อปเทนชู แต่น่าจะรับทรัพย์อื้อซ่าแน่ๆ


แต่พี่เลือกทางนี้ หนักจัด

[sariora123]

ไม่เปรี่ยน /ท่แก้ แต่หนักกส่าเดิม


ขทยเมื่อไรเจ๊งครีบ  ผมล่ะอยากให้มีเจ้าอื่นมาซื้อจริง
มาแย่งซื้อกะ เทนเซน


ซึ่ง ยังไงก็ไม่รอด เทนเซรซื้อได้ด็ปลด CEO พนักง่นเก่าทอ้งหมด และคงไม่มีที่ไหนอยากจ้างต่อ


หรือหากมีเจ้สอื่นเข้ามาซื้อ ถ้าอยู่ฝั่งผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ปลด Ceo อยู่ดีนั่นแหละล้างบางให้หมด




ตอนนี้ที่อาการหนักก็ Xbox ทำเกมโวค ออกมาให้เจ๊งเล่น
ปัญหาของXbox คือ กำไรเพิ่มแต่ตลาดหดตัว(ผู้นเล่น ใช้งานน้อยลง)
 


สภาพนี้ต่อไปคนคงหนีมาPC กันหมดแน่ๆ

[providence_gundam]

[youtube/]


ไม่เปรี่ยน /ท่แก้ แต่หนักกส่าเดิม


ขทยเมื่อไรเจ๊งครีบ  ผมล่ะอยากให้มีเจ้าอื่นมาซื้อจริง
มาแย่งซื้อกะ เทนเซน


ซึ่ง ยังไงก็ไม่รอด เทนเซรซื้อได้ด็ปลด CEO พนักง่นเก่าทอ้งหมด และคงไม่มีที่ไหนอยากจ้างต่อ


หรือหากมีเจ้สอื่นเข้ามาซื้อ ถ้าอยู่ฝั่งผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ปลด Ceo อยู่ดีนั่นแหละล้างบางให้หมด




ตอนนี้ที่อาการหนักก็ Xbox ทำเกมโวค ออกมาให้เจ๊งเล่น
ปัญหาของXbox คือ กำไรเพิ่มแต่ตลาดหดตัว(ผู้นเล่น ใช้งานน้อยลง)
 


สภาพนี้ต่อไปคนคงหนีมาPC กันหมดแน่ๆ

หนีไปมือถือครับ ทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศไทย


PC ถ้าจะเอาเล่นเกมดีๆ ก็ต้องอัพสเปคคอมแรงๆ ซึ่งคนไทยโง่ๆแม่งรายได้น้อย เพราะวันๆเอาแต่ขี้เกียจ เล่นพนัน แดกเหล้า

[sariora123]

ข่าวว่า elon  น่าจะซื้อ DnD

พี่แกจะโดดเข้าวงการสร้างเกมด้วยสินะ

เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า วงการเกม ใหญกว่า วงการหนังกับเพลงรวมกันซะอีกนะ
หลายคนโตมากัยเกมจนเป็นเรื่องปกติ


นึกถึง คลิป พ่อด่าลูกสาว(วัยรุ่นล่ะ)
ว่าเล่นเกมมากเกินไป
เอ็งเล่นมาตั้งนานยังแรงค์Silver  ไม่อัพแรงค์ซักที noob ชิบหาย
 

[sariora123]

เหมือนมีการพยายามปั่นข่าวว่า DA เเวนการ์ดขายได้ถึง 3ล้านชุด   


ต้อง.... เเค่ไหนถึงหลงไปเชื่อได้












ฝั่งเหลี่ยมยังไม่กล้าบอกยอดขายเลยนะ ล่าสุดบอกแค่ว่า รีแล้วไม่พังก็Ok

[hackac]

เหมือนมีการพยายามปั่นข่าวว่า DA เเวนการ์ดขายได้ถึง 3ล้านชุด   


ต้อง.... เเค่ไหนถึงหลงไปเชื่อได้












ฝั่งเหลี่ยมยังไม่กล้าบอกยอดขายเลยนะ ล่าสุดบอกแค่ว่า รีแล้วไม่พังก็Ok

มันต้องปั่นข่าวยอดขายนะ เพราะโดน Daniel Vávra ผู้กำกับเกม Kingdom Come: Deliverance โพสต์ X เยาะเย้ยว่าเป็นเกมออกใหม่แท้ๆ แต่กลับมียอดผู้เล่นน้อยกว่าเกมของเขาที่วางขายมา 7 ปีแล้วเสียอีก [/font]


Kingdom Come และทีมพัฒนา Warhorse Studios จากสาธารณรัฐเช็ค ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อฝ่ายซ้ายมาตั้งแต่ปี 2018 ที่วางจำหน่ายเกมนี้ โดยสื่ออย่าง Kotaku หรือ Vice โจมตีว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิวที่ไม่ยอมใส่คนผิวสีเอาไว้ในเกม ทั้งที่เกมมีฉากหลังเป็นโบฮีเมีย (ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของประเทศเช็ค) ซึ่งแน่นอนว่าสมัยนั้นไม่มีคนผิวดำ

นอกจากสื่อหลายเจ้าจะไม่ยอมรีวิวเกมนี้แล้ว ยังไม่ลงข่าวหรือบทความใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกมอีกต่างหาก แต่เกมก็มียอดขายที่ดีและได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, ความสมจริง และบรรยากาศยุโรปยุคกลาง

Kingdom Come: Deliverance มียอดผู้เล่นสูงสุด 96,000 คน
Dragon Age: The Veilguard มียอดผู้เล่นสูงสุด 89,000 คน เท่านั้น

พวก Woke ที่เห็นเลยรับไม่ได้เลยต้องปั่นข่าวยอดผู้เล่นขึ้นมานะ

[providence_gundam]

ตอนนี้เกิดดราม่าใน X พวกนิโกรเอาตัวละครญี่ปุ่นมาย้อมสีรัวๆพร้อมบอกว่า better than original ที่หนักคือนักพากย์โอคารุนจากเมะเรื่อง dan da dan ฝั่ง eng ก็เห็นดีด้วย ถึงขนาดเอามาตั้งเป็นรูป profile กันเลยทีเดียว


คนญี่ปุ่นเลยเอาคืนบ้าง จับคนดำมาย้อมขาว สู้กันๆ


พวกนี้แม่งปัญญาอ่อนของแท้ ตั้งแต่สมัยก่อนละ ไม่พอใจตอนจบเรื่องไหน แต่งเองใหม่ แล้ว copium กันเองว่านี่คือตอนจบที่แท้จริง echo chamber กันในกะลา


เดี๋ยวนี้ชักเลยเถิด

ทีตอนคนเอเชียวาด Fanart ขาวกว่าปกตินิดหน่อย พวกนี้ถึงกับไล่ขู่ฆ่า แต่ตัวเองกลับเอามาย้อมดำแล้วบอกว่านี่คืองานที่ควรจะเป็น official เฮ้อ