ผมว่าเพราะแนวคิด มีความโรแมนติกมากของคนไทยน่ะครับ
มีความฝัน ควมมหวังว่าจะรวยในสักวัน
คิดว่าที่เราจนอยู่เพราะไม่มีโอกาส พอมีโอกาสมาจึงคว้าไว้จนเจ๊ง
ผมงงเรื่องแชร์มาตั้งแต่เด็ก คิดว่าตนเองโง่ไม่เข้าใจ
ศึกษากม.กับประวัติแชร์จึงร้อง อ๋อ
การใช้เงินทำงานอย่างเดียวจนรวยไม่มีอยู่จริง
หรือไม่มีวันเกิน 5% ต่อเดือนเด็ดขาด
ยิ่งอ้างว่าไม่มีความเสี่ยงยิ่งแล้วมหญ่
ไอ้เรื่องลงทุนให้เงินทำงานน่ะ หากคิดจริงๆ แล้วก็จะรู้ครับว่ากว่าจะทำแบบนั้นได้คุณต้องลงทุนศึกษาด้วย ไม่ใช่ลงไปทำแล้ว ลองผิดลองถูก ซื้อหนังสือไกด์มาอ่านจบสองสามรอบแล้วก็ได้เลย
เวลาทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ถ้าหากคุณจะมาเล่นหุ้นลงทุนให้รวย คุณก็ต้องลงทุนศึกษาเรื่องนี้แบบเหมือนคุณศึกษาสมัยโรงเรียนหรือมหาลัยนั่นแหละมันถึงจะเวิร์ค อันนี้ประสบการณ์ตรงเพราะคนรู้จักทำมาหลายปีแล้วยังไม่เวิร์คเลยเพราะดันมีงานประจำอยู่ต้องทำงานนั้นเพื่อหาเลี้ยงควบไปด้วย จะเอาเวลาที่ไหนมาศึกษาเรื่องลงทุน
ส่วนเรื่องเบอร์หลอกลวงนั้น บางทีเบอร์นี่ผมเจอเบอร์จากต่างประเทศนะครับ ไม่ใช่เบอร์ไทย จะไปทำอะไรได้แบบนั้น หรือบางทีมันอาจจะใช้การปลอมเบอร์ก็ได้เพื่อที่เราจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพราะพอเช็คจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เบอร์ที่มีอยู่จริง เป็นเบอร์ที่ gen มาให้เราเห็นแทนเบอร์จริงของมิจฉาชีพครับ เหมือนกับ spam mail ที่มีช่วงนึงมันส่งมาปลอมหัว mail ชื่อผู้ส่งว่ามาจากผู้รับเองเพื่อลวงว่าเขา hack เมล์เราแล้วเรียกค่าไถ่แบบนั้น
สรุปนะ คือสภาพบ้านเรามันเอื้อให้พวกต้มตุ๋นมันทำมาหากินง่ายทั้งในแง่ตัวบุคคลและความห่วยแตกของระบบ
จริงๆ วิธีการ low tech มันก็เป็นการป้องกันอย่างนึงนะครับ เช่นกรมสรรพากรเงี้ย ทั้งๆ ที่ให้ยื่นภาษีออนไลน์ได้แล้ว แต่หากเขาจะติดต่อเรื่องว่ายื่นเอกสารไม่ครบหรือค้างชำระภาษี เขาไม่ส่ง email แจ้งหรือโทรหา หรือเดินสายตามบ้านนะครับ เขาจะส่งไปรษณีย์มาที่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของเลขประชาชนคนๆ นั้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าหากมีใครโทรศัพท์ หรือ Line หรือใช้การติดต่ออนไลน์ต่างๆ อ้างเป็นสรรพากร นั่นมิจฉาชีพ 100% ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นครับ
บางทีการเลือกใช้วิธี low tech ทั้งที่จะทำ high tech ได้ ก็มีข้อดีเหมือนกันนะผมว่า