คุยไร้สาระ-โลกล่มสลายเพราะซอมบี้กับชาวแดนอาทิตย์อุทัยในวันสิ้นโลก

[samuison]

ผมแซวนักเขียนนิยายฝรั่งที่เขียนแฟนฟิคอิเซไคไปในเกมส์ไบโอฮาซาร์ดน่ะครับ


ว่าวิธีหรือแนวคิดของชาวอเมริกันคล้ายกับชาวจีน


คือไม่ใข่แค่เตรียมข้าวของ แต่ขโมยหรือปล้นกันดื้อๆเลย

และบรรยายว่าคนอื่นที่ไม่ทำอย่างนั้นคือพวกใจอ่อนหรือโง่


และมีฉากการหยิบข้าวของจากหเางสรรพสินค้าแบบไม่จ่ายเงินแบบไม่คิดอะไร


แตกต่างจากชาสแดนอาทิตย์อุทัยผู้มีเกียรติ


ขนาดเมืองกลายเป็นเมืองร้าง ร้านค้ามีคนตายอนาถ

เวลาหยิบของจากร้านค้าก็จะเขียนกระดาษข้อความและวางเงินไว้ว่าหยิบอะไรไปบ้าง

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?


ทำไมเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นในวันสิ้นโลกถึงแตกต่างกับชาวจีนกับตะวันตกได้ขนาดนี้?


หรือเพราะญี่ปุ่นเจอหายนะบ่อย

เลยปลูกฝังไม่ให้คนก่อความวุ่นวาย เข้าปล้นสิ่งของทำอะไรต้องเป็นระเบียบ


เลยแม้แต่การหยิบของในภาวะฉุกเฉินก็ต้องทิ้งข้อความเอาไว้


คือมันฝังแน่นในสัญชาตญาณของแดนอาทิตย์อุทัยแล้วแก้ไม่ได้


ในขณะที่คนจีนหรือตะวันตกดูมีความสุขกว่ามากเวลาที่โลกล่มสลาย

• Tweet

[Rumia]

ความต่างคือฟรั่งก็แค่อยากบ้าสักครังส่วนณี่ปุ่นเค้ามีความหวังว่าจะถูกกอบกู้กลับมา มันคือแนวคิดที่แตกต่างกัน

[VermillionEnd]

ในบรรดามังงะที่ผมอ่านมา
ผมก็เห็นคนญี่ปุ่น(พระเอกและตัวละครในเรื่อง)หยิบของกันหน้าตาเฉยนะท่าน ไม่ได้ทิ้งกระดาษข้อความอะไรไว้ด้วย

ไม่ว่าจะมังงะเก่าอย่าง Highschool of the Dead (เสียดายที่เรื่องนี้เขียนไม่จบ)
หรือมังงะในช่วงไม่นานมานี้อย่าง Zombie no Afureta Sekai de Ore dake ga Osowarenai (มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่โดนโจมตีในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้)
เพียงแต่เพราะเป็นพระเอก ก็เลยไม่ไปปล้นคนอื่นก่อน

[samuison]

ความต่างคือฟรั่งก็แค่อยากบ้าสักครังส่วนณี่ปุ่นเค้ามีความหวังว่าจะถูกกอบกู้กลับมา มันคือแนวคิดที่แตกต่างกัน

รู้สึกเมหือนแต่ละคนมีความสุขมากที่ได้ปล้นห้างสรรพสินค้าหรืออาศัยในห้างสรรพสินค้าน่ะครับอย่างแนว rise of the dead ที่ชอบมีฉากติดในห้างสรรพสินค้าและเอาเลห้า ยา เสื้อผ้ามาใส่เล่น
ผมว่ามันคือความสุขอย่างหนึ่งของแนวนี้เมหือนกัน ที่คนต้องการความสะใจ

ในบรรดามังงะที่ผมอ่านมา
ผมก็เห็นคนญี่ปุ่น(พระเอกและตัวละครในเรื่อง)หยิบของกันหน้าตาเฉยนะท่าน ไม่ได้ทิ้งกระดาษข้อความอะไรไว้ด้วย

ไม่ว่าจะมังงะเก่าอย่าง Highschool of the Dead (เสียดายที่เรื่องนี้เขียนไม่จบ)
หรือมังงะในช่วงไม่นานมานี้อย่าง Zombie no Afureta Sekai de Ore dake ga Osowarenai (มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่โดนโจมตีในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้)
เพียงแต่เพราะเป็นพระเอก ก็เลยไม่ไปปล้นคนอื่นก่อน

เอามาจาก20 century boy

ที่มีไวรัสทำลายล้างโลกเมืองเป้ฯเมืองร้างอยู่แล้ว ยังเอาเงินวางไว้บนเคาน์เตอร์แคชเชียร์อีกน่ะครับ
ผมเจออีกทีในเรื่อง zom 100
ที่วา่งเงินและจดหมายบนเคาน์เตอร์
หากเป็นแนวจีนหรือฝรั่งคงเอาของไปโดยไม่คิดอะไรไปแล้ว

[sariora123]

จีน น่ะลองมีซอมบี้ ชิชิบหายกว่าฝรั่งเยอะ ลองระบบ โซเชียลเครดิทพังดิ




แบบในไซโคพาส เลยมแหละ

[pol]

คนที่อยากให้บี้ระบาดก็คือพวกเบียวที่คิดว่าตัวเองจะรอดแล้วได้ทำอะไรตามใจฉันนั่นแหละครับ  อยากยิงคน ยิงบี้ ฯลฯ แต่ความเป็นจริงแล้วมันโคตรจะแย่ ไม่มีเนตเล่น ไม่มีแอร์ เจอเข้าไปแป๊บเดียวก็ร้องถีงชีวิตเดิมๆแล้วครับ

[Moos1919]

ส่วนหนึ่งก็ทำเพื่อความสบายใจ

ในวันสิ้นโลกเงินกระดาษแทบจะไร้ค่า สมมุติ ปกติสกุลเงินชนิดหนึ่ง 1000 แลกทองได้หนึ่งบาท แต่ในวันสิ้นโลก ต่อให้ขนไปเป็นล้านล้านเค้าก็ไม่เอาหรอก

คิดซะว่าเป็นเงินกงเต็กส่งวิญญาณไปที่ชอบๆ

[sariora123]

คนที่อยากให้บี้ระบาดก็คือพวกเบียวที่คิดว่าตัวเองจะรอดแล้วได้ทำอะไรตามใจฉันนั่นแหละครับ  อยากยิงคน ยิงบี้ ฯลฯ แต่ความเป็นจริงแล้วมันโคตรจะแย่ ไม่มีเนตเล่น ไม่มีแอร์ เจอเข้าไปแป๊บเดียวก็ร้องถีงชีวิตเดิมๆแล้วครับ

เคยคิดไหมล่ะครับว่า ถ้าไวรัสระบาดในโลก มันจะมีพวกเหี้ย แบบในหนังหรือในเกมที่เอาเชื้อไปเเพร่


ให้มากขึ้น


มัยก่อนก็เคยคิดนะพวกเหี้ยนี้จะมีจริงเหรอ


โควิต พิสูจณ์ให้เห็นแล้วว่า  คนแบบโจ๊กเกอร์  ที่อยากเห็นโลกลุกเป็นไฟ มีจริง


 

[pol]

โควิทนี่มีข่าวลือมาจากลุ่มแม่น้ำว่าบริษัทผลิตยาเป็นคนปล่อย    ปล่อยเข้าไปในยานั่นแหละครับ สังเกตไหมว่าทำไมไวรัสมันอัปเดตไวมาก ขนาดในเกมซอมบี้มันยังไม่เร็วขนาดนั้นเลย
ป.ล อย่าให้มีวันโลกล่มสลายจริงๆเลยครับ ขี้เกียจแบกปืนมันหนัก(ฮา)

[sariora123]

โควิทนี่มีข่าวลือมาจากลุ่มแม่น้ำว่าบริษัทผลิตยาเป็นคนปล่อย    ปล่อยเข้าไปในยานั่นแหละครับ สังเกตไหมว่าทำไมไวรัสมันอัปเดตไวมาก ขนาดในเกมซอมบี้มันยังไม่เร็วขนาดนั้นเลย
ป.ล อย่าให้มีวันโลกล่มสลายจริงๆเลยครับ ขี้เกียจแบกปืนมันหนัก(ฮา)

ผมมองว่าจีนนั่นแหละที่ปล่อย


ตอนนี้ก็ยังทำวิจัยโควิตอยู่ แต่รอบนี้ติดขึ้นสมอง  ตาย แบบไม่ต้องหายา


ส่วนเรื่องยา ความเป็นไปได้คือ ยามันไม่สมบูรณ์ (ก็ไม่สมบูรณ์จริงๆ) กับ มันออกแบบมาให้ ต้านได้นิดหน่อย จะได้ขายได้เรื่อยๆ

[chin]

ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เล่นนะครับ บุกรุกบ้านคนอื่น เข้าไปเปิดตู้ เปิดลิ้นชัก ทุบทำลายไห เพื่อหาของ
แม้แต่หีบสมบัติในพระราชวังก็ไม่สน มีกุญแจผีเมื่อไร ก็เสร็จโจร

[KAGUYA]

ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เล่นนะครับ บุกรุกบ้านคนอื่น เข้าไปเปิดตู้ เปิดลิ้นชัก ทุบทำลายไห เพื่อหาของ
แม้แต่หีบสมบัติในพระราชวังก็ไม่สน มีกุญแจผีเมื่อไร ก็เสร็จโจร

แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ต้องปะยี่ห้อผู้กล้าเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ(ผู้กล้าหรือโจรกันแน่?)

[samuison]

จีน น่ะลองมีซอมบี้ ชิชิบหายกว่าฝรั่งเยอะ ลองระบบ โซเชียลเครดิทพังดิ




แบบในไซโคพาส เลยมแหละ

ผมคิดสเมอว่าการทำตัวเป้น"คนฉลาด" หรือ"เก่ง"แบบที่ไปปล้นชาวบ้านเขาอย่างนี้
ความวุ่นวายจะมากขึ้นเปล่าๆผมถึงจะแซวแต่ค่อนข้างมองว่าชาวญี่ปุ่นทำถูกแล้วนกึถึงตอนสึนามิ
มีคนขโมยข้าวของผู้บริจาค
การขโมยของระหว่างเพลงไหม้โทษถึงได้หนักกว่าปรกติในทางอาญา

[quote/]แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ต้องปะยี่ห้อผู้กล้าเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ(ผู้กล้าหรือโจรกันแน่?)

ถ้าโลกจะล่มสลายเพราะราชาปีศาจแต่ดันให้มาแค่หอกไม้ไผ่กับเงิน 100 g ก็ปล้นมันเถอะครับ

ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เล่นนะครับ บุกรุกบ้านคนอื่น เข้าไปเปิดตู้ เปิดลิ้นชัก ทุบทำลายไห เพื่อหาของ
แม้แต่หีบสมบัติในพระราชวังก็ไม่สน มีกุญแจผีเมื่อไร ก็เสร็จโจร

ค้นดีดีไม่พอยังทุบไหอีกต่างหาก

โควิทนี่มีข่าวลือมาจากลุ่มแม่น้ำว่าบริษัทผลิตยาเป็นคนปล่อย    ปล่อยเข้าไปในยานั่นแหละครับ สังเกตไหมว่าทำไมไวรัสมันอัปเดตไวมาก ขนาดในเกมซอมบี้มันยังไม่เร็วขนาดนั้นเลย
ป.ล อย่าให้มีวันโลกล่มสลายจริงๆเลยครับ ขี้เกียจแบกปืนมันหนัก(ฮา)

ผมรู้สึกว่ามันพัฒนาไวมากยิ่งกว่า t virus อีก
การพัฒนาแบบในหนังไบโอสู้ไม่ได้เลยว่างั้น ฮา

[providence_gundam]

สร้างภาพลักษณ์ทั้งนั้นครับ คนญี่ปุ่นพยายามสร้างภาพตอแหลตั้งแต่แพ้ ww2 มาตลอด เพื่อพยายามลบภาพจำเก่าๆไป ไม่ใช่แบบเยอรมันที่รู้ตัวว่าผิด สำนึก ถ้ามองดีๆพวกญี่ปุ่นมันไม่เคยสำนึกครับ จนมันติดเป็นนิสัยไปแล้วว่าต้องทำแบบนี้ พวกไกจินชั้นต่ำข้างนอกถึงจะถูกใจครับ


ผสมกับชาตินิยม ระเบียบวินัยดั้งเดิมที่มี กลายเป็นสังคมช่วยกันสร้างภาพ มันเลยออกมาดูดีครับ แต่ดีแต่เปลือก


พอลงลึก ก็เน่าเหมือนเดิม ดังนั้นอย่าโดนสื่อหลอกครับ

ไอ้ที่โค้งขอโทษที่ดูดีในสายตาชาวโลก ถ้าไปดูความหมายที่แท้จริงแล้วจะมองอีกแเลยครับ คงามหมายจริงๆของโค้งขอโทษคือ"กรูขอโทษแล้วนะ พวกเมิงจบได้แล้ว เลิกสนใจกรูซะ" ขอโทษให้จบๆไปทั้งนั้น ไม่มีหรอก สำนึกเสียใจ

เวลาเห็นข่าวคนญี่ปุ่นโค้งขอโทษ ผมนี่นึกว่ารายการวาไรตี้ ฮาขี้แตกขี้แตน

[samuison]

สร้างภาพลักษณ์ทั้งนั้นครับ คนญี่ปุ่นพยายามสร้างภาพตอแหลตั้งแต่แพ้ ww2 มาตลอด เพื่อพยายามลบภาพจำเก่าๆไป ไม่ใช่แบบเยอรมันที่รู้ตัวว่าผิด สำนึก ถ้ามองดีๆพวกญี่ปุ่นมันไม่เคยสำนึกครับ จนมันติดเป็นนิสัยไปแล้วว่าต้องทำแบบนี้ พวกไกจินชั้นต่ำข้างนอกถึงจะถูกใจครับ


ผสมกับชาตินิยม ระเบียบวินัยดั้งเดิมที่มี กลายเป็นสังคมช่วยกันสร้างภาพ มันเลยออกมาดูดีครับ แต่ดีแต่เปลือก


พอลงลึก ก็เน่าเหมือนเดิม ดังนั้นอย่าโดนสื่อหลอกครับ

ไอ้ที่โค้งขอโทษที่ดูดีในสายตาชาวโลก ถ้าไปดูความหมายที่แท้จริงแล้วจะมองอีกแเลยครับ คงามหมายจริงๆของโค้งขอโทษคือ"กรูขอโทษแล้วนะ พวกเมิงจบได้แล้ว เลิกสนใจกรูซะ" ขอโทษให้จบๆไปทั้งนั้น ไม่มีหรอก สำนึกเสียใจ

เวลาเห็นข่าวคนญี่ปุ่นโค้งขอโทษ ผมนี่นึกว่ารายการวาไรตี้ ฮาขี้แตกขี้แตน

ผมว่าเรื่องนี้เรื่องโชวกุนแสดงได้ดีว่ามีใบหน้าหลายหน้าแสดงให้โลกรู้ คนใกล้ตัวรู้ และเก้บไว้คนเีดยว

กับแนวความคิดคิดโชวเน็น นารุโตะ เอวานเกเลี่ยน กันดั้มที่ชอบรวมจิตใจของผู้คนเป้นหนึ่งเดียวกัน
ต้นแบบไซไฟของไอแซคอาซิมอฟก็บอกมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว
ว่าการรรวมจิตใจ ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด
คนญี่ปุ่นก้ยังมองว่าคือของดีที่สุดอยู่นั่นล่ะ

[providence_gundam]

[quote/]
ผมว่าเรื่องนี้เรื่องโชวกุนแสดงได้ดีว่ามีใบหน้าหลายหน้าแสดงให้โลกรู้ คนใกล้ตัวรู้ และเก้บไว้คนเีดยว

กับแนวความคิดคิดโชวเน็น นารุโตะ เอวานเกเลี่ยน กันดั้มที่ชอบรวมจิตใจของผู้คนเป้นหนึ่งเดียวกัน
ต้นแบบไซไฟของไอแซคอาซิมอฟก็บอกมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว
ว่าการรรวมจิตใจ ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด
คนญี่ปุ่นก้ยังมองว่าคือของดีที่สุดอยู่นั่นล่ะ

มันขายได้ เพราะคนชาตินี้มันดันทำได้จริงครับ ปลูกฝังกันเก่งมาก ตั้งแต่การเรียนลามไปถึงการ์ตูนก็ยังเจอ อันนี้ต้องยอมรับเลย

ไม่มีอะไรดีที่สุด แต่ประเทศนี้มันดันเจอว่าอะไรเหมาะสมที่สุดครับ

[samuison]

[quote/]


มันขายได้ เพราะคนชาตินี้มันดันทำได้จริงครับ ปลูกฝังกันเก่งมาก ตั้งแต่การเรียนลามไปถึงการ์ตูนก็ยังเจอ อันนี้ต้องยอมรับเลย

ไม่มีอะไรดีที่สุด แต่ประเทศนี้มันดันเจอว่าอะไรเหมาะสมที่สุดครับ

ฝรั่งนักเขียนไซไฟต้นแบับอย่างไอแซคอาซิมอฟมองการรวมจิตใจคือ Bad End ของมนุษยชาติ
แต่ชาวญี่ปุ่นดันมองเป็น Good End เสียอย่างนั้นทั้งในกันดั้ม มาครอส นารุโตะแม้แต่เอวเองเหมือนจะใบ้ว่าโลกในน้ำส้มคือความสุขพอสมควร