แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คุยไร้สาระ-ข้อจำกัดของการเล่นแร่แปรธาตุควรจะมีอย่างไรบ้าง?  (อ่าน 1560 ครั้ง)

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,005
  • ถูกใจแล้ว: 396 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-22
alchemy มันกว้างมาก ความหมายมันรวมเกือบทั้งหมด
1. เคมี แน่นอนตรงตัวที่สุด ผสมสารนู่นนี่นั่น
2. ฟิสิกส์ เช่นต้มน้ำเดือดปุดๆที่ลงไปแช่แล้วแค่อุ่นๆ
3. การปรุงยา น้ำอมฤต
4. การถลุงแร่ รีไฟนารี่
5. การผสมโลหะ การสร้างโลหะแฟนตาซี
6. วัสดุศาสตร์ การสร้างวัสดุอโลหะแฟตาซี
7. วิญญาณเทียม AI
8. โรโบติก โกเล็ม
9. พันธุวิศวกรรม การสร้างคิเมร่า และเนโครแมนเซอร์
10. ศิลานักปราชญ์/หินนิ่ม/ผลึกแห่งความรู้/หินวิญญาณ (คำอธิบายที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Bio Optical Computer)
11. โฮมูนครูซ(homunculus) ชีวิตเทียม
12. การย้ายวิญญาณ การเปลี่ยนร่าง เช่นย้ายวิญญาณจากมนุษย์ไปสู่เครื่องจักร หรือเปลี่ยนจากมนุษย์ไปเป็นเซเลสไทต์(celestite) หรือสิ่งมีชิวิตระดับอวกาศ
ปล. ผมแก้คำอธิบายเพิ่มนิดหน่อยเพราะกลัวคนอ่านจะเข้าใจผิด


เอาจริงๆ alchemy นี่มันพอๆกับการบำเพ็ญพรตเพื่อเป็นเซียนของลัทธิเต๋าเลยครับ คือมันครอบคลุมเกือบทุกศาสตร์ ไม่อยู่ในกรอบจำกัดใดๆ เพราะมันเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อฉีกออกนอกกรอบนั้นๆ เช่นถ้าคุณบอกว่ามันอยู่ภายใต้กฏอนุรักษ์พลังงาน alchemy ก็มีการค้นหา อีเทอร์
และอนุภาคแฟนตาซีอื่นๆ(เหมือนควันตัมฟิสิกส์) ซึ่งความเชื่อเรื่องขี้เถ้า(จากการเผาศพ)ของพระเจ้า หรืออนุภาคที่ให้กำเนิดพลังงานจากความว่างเปล่า ก็มีมานานแล้ว โดยรวมอยู่ใน alchemy เหมือนกัน และนอกจากพลังานอนันต์แล้ว ยังมีความพยายามมองหาอนุภาคที่เดินทางข้าเวลาอีกด้วย อย่างที่บอกว่าพอกับการเป็นเซียนเลย กรอบของ alchemy ผมคิดว่าไปหยุดที่การย้ายร่างไปเป็น สิงมีชวิตระดับอวกาศที่เดินทางข้ามเวลาได้ เดินทางข้ามอวกาศได้ นั่นแหละครับ กรอบอื่นๆอย่างกฏเคมี กฏฟิสิกส์ หรือกฏแฟนตาซีอย่างเวทมนต์ จริงๆแล้วเป้นเพียงข้อจำกัดทางความรู้ของตัวบุคคลเอง แต่เนื้อหาของ alchemy จริงๆนั้นกว้างและครอบคลุมแทบจะไร้ขีดจำกัด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2024, 09:02:32 AM โดย humandroy »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,573
  • ถูกใจแล้ว: 3436 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-284
alchemy มันกว้างมาก ความหมายมันรวมเกือบทั้งหมด
1. เคมี แน่นอนตรงตัวที่สุด ผสมสารนู่นนี่นั่น
2. ฟิสิกส์ เช่นต้มน้ำเดือดปุดๆที่ลงไปแช่แล้วแค่อุ่นๆ
3. การปรุงยา น้ำอมฤต
4. การถลุงแร่ รีไฟนารี่
5. การผสมโลหะ การสร้างโลหะแฟนตาซี
6. วัสดุศาสตร์ การสร้างวัสดุอโลหะแฟตาซี
7. วิญญาณเทียม AI
8. โรโบติก โกเล็ม
9. พันธุวิศวกรรม การสร้างคิเมร่า และเนโครแมนเซอร์
10. ศิลานักปราชญ์/หินนิ่ม/ผลึกแห่งความรู้/หินวิญญาณ (คำอธิบายที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Bio Optical Computer)
11. โฮมูนครูซ(homunculus) ชีวิตเทียม
12. การย้ายวิญญาณ การเปลี่ยนร่าง เช่นย้ายวิญญาณจากมนุษย์ไปสู่เครื่องจักร หรือเปลี่ยนจากมนุษย์ไปเป็นเซเลสไทต์(celestite) หรือสิ่งมีชิวิตระดับอวกาศ
ปล. ผมแก้คำอธิบายเพิ่มนิดหน่อยเพราะกลัวคนอ่านจะเข้าใจผิด


เอาจริงๆ alchemy นี่มันพอๆกับการบำเพ็ญพรตเพื่อเป็นเซียนของลัทธิเต๋าเลยครับ คือมันครอบคลุมเกือบทุกศาสตร์ ไม่อยู่ในกรอบจำกัดใดๆ เพราะมันเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อฉีกออกนอกกรอบนั้นๆ เช่นถ้าคุณบอกว่ามันอยู่ภายใต้กฏอนุรักษ์พลังงาน alchemy ก็มีการค้นหา อีเทอร์
และอนุภาคแฟนตาซีอื่นๆ(เหมือนควันตัมฟิสิกส์) ซึ่งความเชื่อเรื่องขี้เถ้า(จากการเผาศพ)ของพระเจ้า หรืออนุภาคที่ให้กำเนิดพลังงานจากความว่างเปล่า ก็มีมานานแล้ว โดยรวมอยู่ใน alchemy เหมือนกัน และนอกจากพลังานอนันต์แล้ว ยังมีความพยายามมองหาอนุภาคที่เดินทางข้าเวลาอีกด้วย อย่างที่บอกว่าพอกับการเป็นเซียนเลย กรอบของ alchemy ผมคิดว่าไปหยุดที่การย้ายร่างไปเป็น สิงมีชวิตระดับอวกาศที่เดินทางข้ามเวลาได้ เดินทางข้ามอวกาศได้ นั่นแหละครับ กรอบอื่นๆอย่างกฏเคมี กฏฟิสิกส์ หรือกฏแฟนตาซีอย่างเวทมนต์ จริงๆแล้วเป้นเพียงข้อจำกัดทางความรู้ของตัวบุคคลเอง แต่เนื้อหาของ alchemy จริงๆนั้นกว้างและครอบคลุมแทบจะไร้ขีดจำกัด


ผสมโลหะไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีนะครับ มันแค่เป็นการทำให้คุณสมบัติของโลหะดีขึ้น แต่ถูกลงเท่านั้นเอง
เช่น ทองเหลือง = ทองแดง + สังกะสี, นาก = ทองแดง + ทองคำ + เงิน, เหล็กกล้า = เหล็ก + โครเมี่ยม + แมงกานีส, นิโครม = นิกเกิ้ล + โครเมี่ยม, สำริด = ทองแดง + ดีบุก


นอกจากนี้ก็จะมี ทองคนโง่ = เหล็ก + กำมะถัน (อันนี้มีการทำปฏิกิริยาทางเคมีกัน)
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,005
  • ถูกใจแล้ว: 396 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-22
[quote/]


ผสมโลหะไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีนะครับ มันแค่เป็นการทำให้คุณสมบัติของโลหะดีขึ้น แต่ถูกลงเท่านั้นเอง
เช่น ทองเหลือง = ทองแดง + สังกะสี, นาก = ทองแดง + ทองคำ + เงิน, เหล็กกล้า = เหล็ก + โครเมี่ยม + แมงกานีส, นิโครม = นิกเกิ้ล + โครเมี่ยม, สำริด = ทองแดง + ดีบุก


นอกจากนี้ก็จะมี ทองคนโง่ = เหล็ก + กำมะถัน (อันนี้มีการทำปฏิกิริยาทางเคมีกัน)
ผมแค่อธิบายว่า การเล่นแร่แปรธาตุ มันครอบคลุมถึงการผสมโลหะ และการสร้างโลหะแฟนตาซีด้วยครับ
โลหะแฟตาซีอย่าง มิธทริล อดามันไทต์ และ โอริฮาลคัม คือไม่จำเพาะว่า ผสมโลหะเพื่อสร้างโลหะผสม แต่หมายถึง การสร้างโลหะผสม และการค้นคว้าสร้างโลหะแฟนตาซี เหตุผลที่ไม่จับเรื่องโลหะแฟนตาซีไปไว้ในหัวข้อการถลุงแร่ ก็เพราะว่ามันอยู่ในเรื่องของ"การแปรธาตุ" หมายความว่า มันไม่ได้สร้างโลหะแฟนตาซีจากแร่แฟนตาซี แต่มันแปรธาตุจากสิ่งอื่มกลายมาเป้นโลหะแฟนตาซี
 ???  may the กาว be with you.
 

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 665
  • ถูกใจแล้ว: 309 ครั้ง
  • ความนิยม: +22/-20
จุดสูงสุดของวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ที่ยกย่องกันคือ


เปลี่ยนโลหะให้เป็นทอง
สร้างยาอมะตะ
สร้างมนูษย


ซึ่ง นักเล่นแร่แปรธาตุเชื่อว่าหากสร้างศิลานักปราชญได้จะสามารถทำทั้ง 3 อย่างนี้ได้
จริงๆมันก็คือการเหยียบเข้าไปในดินแดนของพระเจ้านั่นแหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2024, 09:32:28 AM โดย DDAvatar »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: NyoronXD

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,183
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
คำถาม คือ ถ้าชีวิต มนุษย์ มีค่ามากถึงขนาดเอามาแลกเปลี่ยนอะไรก็ได้
ทำไมเราไม่ทำฟาร์มเพาะพันธ์มนุษย์มาใช้ละ ถ้าทำเช่นนั้นหมายถึงเราได้
แหล่ง พลังงานไม่จำกัด เพาะพันธ์เด็กมาทำเตาพลังงานอนันต์กันเลย


และ มันมาสู่คำถามต่อว่า ถ้าการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
ชีวิตมนุษย์ เอาคุณค่าเหล่านั้นมาจากไหน แหล่งกำเนิดของชีวิต มันได้พลังาน
เหล่านั้นมาได้ไง


แหล่งของชีวิต มันคืออะไร และมันมีไม่จำกัดจริงหรือไม่ ถ้าแบบนาสุ ใช้ไปมากๆ
โลกก็แห้งตายแทนไง


นิยายจีนการปรุงยา ก็ต้องเอาวัตถุดิบเทพๆ มาใช้ แต่ก็เคยเห็นพรรคมารเอามนุษย์มากลั่นยาแทนใช้สัตว์อสูรก็มี

ส่วน การปรุงยาของจีนนี่พี่แกแบ่ง วัตถุดิบเป็น วัตถุดิบแบบมีชีวิตกับไม่มีชีวิตนะ

ไอ้ ผสมแล้วได้ดินปืนออกมา ไอ้ที่ใส่ๆ ไปคงไม่ใช่แค่ วัตถุดิบมีชีวิตแน่ๆ

ผมว่ามันมาจากรากฐานศีลธรรมของมนุษย์ครับเรื่องคุณค่าของวิญญาณมนุษย์นี่

ผมไปเจอหลายคนใช้มุกนี้ผมก็ตลกเหมือนกันแต่มันน่าจะมาจากแนวคิดที่นิยายหรือไลท์โนเวลหลายเรื่องใช้บ่อยยๆดดยไม่รู้ตัวจนไม่ว่าเรื่องไหนก็เมหือนกับเห็นตรงกันมีกฎจักรวาลเดียวกันโดยอ้อมๆไปแล้ว

อย่างจักรวาลนาสุหรือแขนกลอยู่กันคนละจักรวาลก็ยอมรับว่าหากฆ่าคนจะมีพลังมากพอในการทำพิธีกรรมปรกติที่ไม่สามารถทำได้เช่นปลุกชีพท่านพ่อ
หรือ

สร้างจอกที่ทำให้ได้เวทย์ที่แท้ทรู

ว่าเราดันเผลอกำหนดให้การฆ่าคนนับพันล้านหรือใช้วิญยาณวีรชนหกคนถึงจะทำได้
ทำไมไม่คิดบ้างว่าจะมีคนเลืกฆ่าคนพันล้าน?
มันคือจุดอ่อนของนักเขียนต่างๆทีก่ำหนดเนือ้เรือ่งให้ตื่นเต้น
แต่ลืมนึกไปแบบฝรั่งครับว่าหากเผลอให้คนฆ่าคนได้พลังมากเท่านั้นจริงๆโลกที่เหลือจะมีผลเป็นอย่างไร

ในจักรวาลนาสุก็มีบอกว่าอดีตมาสเตอร์ของเมเดียใช้ทาสและถังวิญยาณมนุษย์แต่โดนฆ่าไปก่อนเราอจจะมองว่าชั่วช้าสารเลวแต่ทำไมล่ะ?มันได้ผผลไหม? ???
ถ้าได้ผลแล้วหาว่าเขาทำผิดได้หรือ?เมือ่ได้ผลเราก็ต้องคิดให้มากๆว่าผลกระทบต่อสังคมในภาพรวมจะเป็นอย่างไร
ซึ่งอ.นาริตะที่เขียนภาค starge fake -องจักรวาลเฟทก็กำหนดให้พวกมาเฟียเม็กซิโกฆ่าคนไปหลายหมื่นคนเพื่อสร้างผลึกพลังวิญญาณเพื่อให้เฮราคลีสจะได้สแปมพลังได้เรื่อยๆแบบไม่หมด :P
ความคิดแบบอ.นาริตะ ถือว่าใกล้เคียงกับพวกเนิร์ดฝรั่งมากกว่าล่ะครับคนที่ชอบเล่นเกมสืกระดานจะมีนิสัยชอบมองกฎและพยายามจะแหกกฎอย่างที่ว่ามา
จุดสูงสุดของวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ที่ยกย่องกันคือ


เปลี่ยนโลหะให้เป็นทอง
สร้างยาอมะตะ
สร้างมนูษย


ซึ่ง นักเล่นแร่แปรธาตุเชื่อว่าหากสร้างศิลานักปราชญได้จะสามารถทำทั้ง 3 อย่างนี้ได้
จริงๆมันก็คือการเหยียบเข้าไปในดินแดนของพระเจ้านั่นแหละ
สังเกตดีดีที่ว่ามาคือไม่ใช่พลังที่ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแต่คือสิ่งที่ตอบสนองความอยากของมนุษย์มากกว่า
ดังนั้นหากจะแปลว่าเล่นแร่แปรธาตุไม่ใช่ด้านการต่อสู้ แต่คือด้านการตอบสนองต่อความปรถรถนาของมนุษย์น่าจะตรงประเด็นกว่า
เช่นการจะบูชายัญ
ที่ผมเจอมุกคือ
สิ่งสำคัญในกระบวนการไม่ใช่"วิญญาณ"ของมนุษย์ที่ตายไปแต่คือ
ความรู้สึก
ของคนที่ทำพิธีต่างหาก

ที่จะทำให้พิธีกรรมการแลกเลปี่ยนคืนชีพนั้นมีผล
แต่หากใช้มุกนั้นกมกุของตัวร้ายในนิยายไลท์โนเวล โชวเน็นเนหือธรรมชาติต่างๆจะไปไม่เป็นทันที

เพราะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมในพิธีคืนชีพของ "ท่านผู้นั้น"

ตัวร้ายถึงได้ฆ่าคนจำนวนมากกันง่ายๆโดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรกับเหยื่อที่ตนเองฆ่า ???
[quote/]
ผมแค่อธิบายว่า การเล่นแร่แปรธาตุ มันครอบคลุมถึงการผสมโลหะ และการสร้างโลหะแฟนตาซีด้วยครับ
โลหะแฟตาซีอย่าง มิธทริล อดามันไทต์ และ โอริฮาลคัม คือไม่จำเพาะว่า ผสมโลหะเพื่อสร้างโลหะผสม แต่หมายถึง การสร้างโลหะผสม และการค้นคว้าสร้างโลหะแฟนตาซี เหตุผลที่ไม่จับเรื่องโลหะแฟนตาซีไปไว้ในหัวข้อการถลุงแร่ ก็เพราะว่ามันอยู่ในเรื่องของ"การแปรธาตุ" หมายความว่า มันไม่ได้สร้างโลหะแฟนตาซีจากแร่แฟนตาซี แต่มันแปรธาตุจากสิ่งอื่มกลายมาเป้นโลหะแฟนตาซี
 ???  may the กาว be with you.
มุกตามปราณยุทธจีนการเล่นแร่แปรธาตุปรุงยาคือธาตุทองหรือโลหะที่ไม่ใ่แปลว่าธาตุทองตามความหมายทั่วไปแต่ความหมายคือการเปลี่ยนแปลงครับ
กาวกันให้มันมึนๆไปข้างหนึ่ง
[quote/]


ผสมโลหะไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีนะครับ มันแค่เป็นการทำให้คุณสมบัติของโลหะดีขึ้น แต่ถูกลงเท่านั้นเอง
เช่น ทองเหลือง = ทองแดง + สังกะสี, นาก = ทองแดง + ทองคำ + เงิน, เหล็กกล้า = เหล็ก + โครเมี่ยม + แมงกานีส, นิโครม = นิกเกิ้ล + โครเมี่ยม, สำริด = ทองแดง + ดีบุก


นอกจากนี้ก็จะมี ทองคนโง่ = เหล็ก + กำมะถัน (อันนี้มีการทำปฏิกิริยาทางเคมีกัน)

เรื่องนี้ผมเห็นต่างเล็กน้อยครับในสายตาของชาวบ้านระหว่างการทำสบู่กับดพชั่นโดยอัลเคมิสต์ไม่ต่างกันเท่าไรครับ ???
มุกจักรวาล warhammer oั่นล่ะว่าอัลเคมิสต์เป็นทีต้องการตัวมากจากการทำน้ำหอม สบู่ ดินปืน ฯลฯที่เป็นที่ต้องการของประชาชนด้วยค่าจ้างแพงๆ
แต่อัลเคมิสต์นั้นหยิ่งมากไม่คิดจะไปทำของธรรมดาอย่างนั้นอยากหาความลับของจักรวาลมากกว่า
alchemy มันกว้างมาก ความหมายมันรวมเกือบทั้งหมด
1. เคมี แน่นอนตรงตัวที่สุด ผสมสารนู่นนี่นั่น
2. ฟิสิกส์ เช่นต้มน้ำเดือดปุดๆที่ลงไปแช่แล้วแค่อุ่นๆ
3. การปรุงยา น้ำอมฤต
4. การถลุงแร่ รีไฟนารี่
5. การผสมโลหะ การสร้างโลหะแฟนตาซี
6. วัสดุศาสตร์ การสร้างวัสดุอโลหะแฟตาซี
7. วิญญาณเทียม AI
8. โรโบติก โกเล็ม
9. พันธุวิศวกรรม การสร้างคิเมร่า และเนโครแมนเซอร์
10. ศิลานักปราชญ์/หินนิ่ม/ผลึกแห่งความรู้/หินวิญญาณ (คำอธิบายที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Bio Optical Computer)
11. โฮมูนครูซ(homunculus) ชีวิตเทียม
12. การย้ายวิญญาณ การเปลี่ยนร่าง เช่นย้ายวิญญาณจากมนุษย์ไปสู่เครื่องจักร หรือเปลี่ยนจากมนุษย์ไปเป็นเซเลสไทต์(celestite) หรือสิ่งมีชิวิตระดับอวกาศ
ปล. ผมแก้คำอธิบายเพิ่มนิดหน่อยเพราะกลัวคนอ่านจะเข้าใจผิด


เอาจริงๆ alchemy นี่มันพอๆกับการบำเพ็ญพรตเพื่อเป็นเซียนของลัทธิเต๋าเลยครับ คือมันครอบคลุมเกือบทุกศาสตร์ ไม่อยู่ในกรอบจำกัดใดๆ เพราะมันเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อฉีกออกนอกกรอบนั้นๆ เช่นถ้าคุณบอกว่ามันอยู่ภายใต้กฏอนุรักษ์พลังงาน alchemy ก็มีการค้นหา อีเทอร์
และอนุภาคแฟนตาซีอื่นๆ(เหมือนควันตัมฟิสิกส์) ซึ่งความเชื่อเรื่องขี้เถ้า(จากการเผาศพ)ของพระเจ้า หรืออนุภาคที่ให้กำเนิดพลังงานจากความว่างเปล่า ก็มีมานานแล้ว โดยรวมอยู่ใน alchemy เหมือนกัน และนอกจากพลังานอนันต์แล้ว ยังมีความพยายามมองหาอนุภาคที่เดินทางข้าเวลาอีกด้วย อย่างที่บอกว่าพอกับการเป็นเซียนเลย กรอบของ alchemy ผมคิดว่าไปหยุดที่การย้ายร่างไปเป็น สิงมีชวิตระดับอวกาศที่เดินทางข้ามเวลาได้ เดินทางข้ามอวกาศได้ นั่นแหละครับ กรอบอื่นๆอย่างกฏเคมี กฏฟิสิกส์ หรือกฏแฟนตาซีอย่างเวทมนต์ จริงๆแล้วเป้นเพียงข้อจำกัดทางความรู้ของตัวบุคคลเอง แต่เนื้อหาของ alchemy จริงๆนั้นกว้างและครอบคลุมแทบจะไร้ขีดจำกัด
ผมไปเจอการบรรยายของฝรั่งว่าการบ่มเาพะที่แท้จริงคือInternal alchemy
ที่บอกว่าคือการเพาะสร้างเมล้ดจินตันในร่างกายเราเปลี่ยนตนเองเป้นยาส่วนตะวันตกพยายามจะเปลี่ยนสิ่งของภายนอกเป็นยา
ซึ่งว่ากันตามตรงสองแนวคิดนี้ไม่ได้ขัดแย้งกันครับเพระามันแปลว่ารับจับมนุษย์มาปรุงเป็นยาได้เช่นกัน ???
ที่ผมบอกว่าไม่มีความเท่าเทียมในการแปรธาตุและยกเอาซีรี่อาทิลิเย่มาเพราะฟลูเมทัล มันมองยังไงก็เวทจอมเวททุกอย่างที่มีในเรื่องจะแกนแท้ประตูทุกๆอย่างเว้นไอเทม บางอย่างที่เรารู้จักอย่างเช่นศิลานักปราญถ้าเป็นจากคำว่าแปรธาตุเป็นคำว่าเวทมนต์ มันจะไม่มีอะไรแปลกเลยและแปรธาตุไม่มีคำว่าเท่าเทียมเอาของที่เรารู้จักอย่างศิลานักปราญ ที่ไห้ชิวิตอมตะและความมังคังไม่สิ้นสุดคำถามคือจะเอาอะไร ที่เท่าเทียมไปแลกเปรียนมันไม่มีเลยต่อไห้เอาคนทังโลกหรือโลกทังใบผมว่ส ก็ไม่มีทางเท่าเทียมกับของที่ทำไห้เป็นอมตะและผลิตทรัพยากรได้ไร้ขีดจำกัด แม้แต่เครืองจักรนิรันที่ทำงานได้ไม่มีวันหมดผมว่าก็ไม่มีอะไรแลกเปรี่ยนได้แล้ว การเล่นแร่แปรธาตุอย่างที่ผมเคยบอกมันคือเอาเงินบาทเดียวไปแลกเงินแสนและไร้ขีดจำกัด มันไม่ไช่อะไรที่เท่สเทียมฟูลเมทัลก็จะสร้างศิลานักปราญที่ทำไห้เป็นอมตะ แต่ไช้คนหลายแสนหลายล้านก็แลกไร้ขีดจำกัดได้เนี่ยเหรอความเท่าเทียม แค่่ตบแปะเรียกตึกดีดีนี้วเผาคน นี่ก็ไม่เห็นต้องไปไช้อะไรแลกถ้าบอกว่สไช้เวทตัวเอง มันต่างจากเวทตรงไหนเดิมที่คำว่าแลกเปรี่ยนที่เท่าเทียมมีแต่เวทเท่านั้น ถ้าระบุเรื่องก็เวทนิรมิตของชานะที่ทำอะไรก็ได้ถ้ามีสิ่งแลกเปรี่ยนที่เท่าเทียม แต่คำว่าแปรธาตุสุดท้ายก็จะเอาสิ่งแลกเปรี่ยนเล็กน้อยไปแลกสิ่งยิ่งใหณ่ชนิดไร้ขีดจำกัดอยู่ดี จะบอกว่าแค่มีความรู้ก็สร้างอมตะขึ้นได้เหรอสิ่งแลกเปรี่ยนน้อยเกินไปไหม ดังนั้นถ้าจะถามขีดจำกัดของการแปรธาตุอาทิลิเย่มันสมเหตุผลที่สุดแล้ว คุณจะสร้างอะไรก็ได้แต่ต้องมีความรู้พลังวัตถุดิบ
นั่นล่ะครับประเด็นล่ะ
หากคิดอย่างนั้นอัลเคมิสต์คือสายวิชาที่ pay to win มันอันตรายมากๆต่อเนือ้เรื่องหากกำหนดวิชาไปเช่นนั้น
ผมนกึถึงมุการ์ตูนแร็กนาร็อกสมัยก่อนที่มีสาวน้อยสายแม่ค้าใช้พลังเงินตราในการโจมตีระดับบอสจนตายได้ ???
มันหมายความวว่าหากมีเงินมากพอ
บอสจะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไปผมมองว่ามันอันตรายในจุดนี้ล่ะครับ ???
ในแขนกลฯวิญญาณมนุษย์ใช้แล้วหมดไปครับ ตอนจบพ่อของพระเอกสู้กับบอสใหญ่ของเรื่องจากที่มีวิญญาณเป็นหมื่นดวงใช้ไปใช้มาเหลือแค่วิญญาณของตัวเอง ส่วนบอสใหญ่ก็ใช้ไปจนเกือบหมดเหมือนกัน
นั่นเราอาจจะแถว่าเพระาระดับยอดฝีมือสู้กันเองและดันมีศิลาอาถรรพ์ทั้งสองฝ่ายแต่ตามสายตานักแปรธาตุโดยทั่วไปทั้งสองท่านพ่อทำตัวไม่ต่างจกาเทพเจ้าหรือบุคคลในตำนานที่ทำสิ่งที่คนทั่วไปทำไมไ่ด้น่ะครับ
ผมไปเจอคนแต่งนิยาย/เควสต์ของฝรั่งในจักรวาลแขนกลที่มองว่าตนเองเสียดวงตาไปจกาการหาประตูของแก่นแท้
แต่ไมไ่ด้คิดอะไรมองว่าดวงตาแลกกับความรู้ด้านการเล่นแร่แปรธาตุถือว่าเท่าเทียมกันแล้ว :(
เปรียบเปรยประมาณพระเอกเรื่อง
Ajin

ล่ะมั้งครับที่ทำตัวเป็นคนมีเหตุผลจนไม่น่าคบคนที่ทรมานผ่าตัดร่างกายตนเองก็ยังสามารถคุยกันได้ตามปรกติหลังจากเรื่องนั้นผ่านไปแล้ว
มันน่ากลัวแบบแปลกๆเหมือนกัน
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 665
  • ถูกใจแล้ว: 309 ครั้ง
  • ความนิยม: +22/-20
ไม่ใช่สนอง ความอยากของมนุษย์ หรอกครับ
ถ้าสนองนีด ทองกับความอมตะนี่พอเข้าใจแต่จะสร้างมนุษย์ ไปทำไม


การสร้างทอง คือการสร้าง วัตถุจากไม่มีเป็นมี
การเป็นอมะตะ คือการ เข้าสู่ความเป็นนิรันดร์
การสร้างมนุษย์ คือ การเป็นผู้สร้างชีวิต



มันคือคอนเซ็ปต์ของพระเจ้าตะวันตกครับ  พระเจ้าคือผู้สร้างชิวิต เป็นอมะตะ และสร้างสรรพสิ่งจากความว่างเปล่า
จริงๆ วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ก็คือ ลัทธปรัชญาสาขานึงแหละครับ ดังนั้น คอนเซ็ปต์ กับปรัชญาจะสอดคล้องกัน

วิชาเล่นแร่แปลธาตุจะมีเป้าหมายที่เรียกว่า Great Work หรือ Magnum Opus
การเข้าถึง Great Work คือเป้าหายของนักเล่นแร่แปรธาตุทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2024, 03:22:46 PM โดย DDAvatar »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: NyoronXD

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ผมบอกไว้ก่อนนะครับการบูชาพระเจ้าอย่างถวายเครื่องสังเวยนะไม่ไช่การเเละกเปรี่ยน แต่แค่เป็นการทำไห้พระเจ้าพอใจดังนั้นในพูลเมทัลมันเอาตรงนี้มายำครับ พระเจ้ามีพลังอยู่แล้วแต่จะไห้หรือไม่อยู่ที่ความพอใจการสังเวยเป็นหนึ่งในวิธี แต่ฟลูเมทัลเล่นเอาสังเวยมายำรวมเฉยผมถึงต้องไห้ย้อนไปดูว่า แต่ละอย่างทำอะไรได้แปรธาตุมันแยกมาจากเวทครับด้วยเวทนะต้องแลกเปรียนกับ อะไรบางอย่างแบบเราเสียเปรียบหรือเท่าเทียมแลกกับปาติหารต่างๆ แปรธาตุแยกมาจากเวทที่ต้ องการเอาของน้อยไปแลกของใหณ่ ใครบอกว่ามันไม่เกี่ยวกันผมถามแค่แล้วนักเวทไช้และสร้างการแปรธาตุได้ไหม มีอะไรแปลกที่ผมจะบอกว่าจอมเวทเล่นแร่แปรธาตุได้ แต่กลับกันนักเล่นเเร่แปรธาตุไช้เวทมันแปลกๆไหมครับในตอนนี้ผมว่ามันปนกันมั่วไปหมด ในการตีความศาสตร์ต่างๆ

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,183
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
ไม่ใช่สนอง ความอยากของมนุษย์ หรอกครับ
ถ้าสนองนีด ทองกับความอมตะนี่พอเข้าใจแต่จะสร้างมนุษย์ ไปทำไม


การสร้างทอง คือการสร้าง วัตถุจากไม่มีเป็นมี
การเป็นอมะตะ คือการ เข้าสู่ความเป็นนิรันดร์
การสร้างมนุษย์ คือ การเป็นผู้สร้างชีวิต



มันคือคอนเซ็ปต์ของพระเจ้าตะวันตกครับ  พระเจ้าคือผู้สร้างชิวิต เป็นอมะตะ และสร้างสรรพสิ่งจากความว่างเปล่า
จริงๆ วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ก็คือ ลัทธปรัชญาสาขานึงแหละครับ ดังนั้น คอนเซ็ปต์ กับปรัชญาจะสอดคล้องกัน

วิชาเล่นแร่แปลธาตุจะมีเป้าหมายที่เรียกว่า Great Work หรือ Magnum Opus
การเข้าถึง Great Work คือเป้าหายของนักเล่นแร่แปรธาตุทุกคน
  • หมายถึงว่าสิ่งที่ดูว่ายิ่งใหญ่คือสิ่งที่มนุษย์ปรารถนามากที่สุดน่ะครับ
  • อาจจะแสดงข้อจำกัดและความปรถนาของคนในโลกนั้นๆที่พี่น้องเอ็ดได้เจอกับกำแพงว่าแม้แต่วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็มีสิ่งที่ทำได้และไม่ได้และการทำเรื่องที่ผิด
  • "ข้อห้าม"
  • นั้นคือความน่ากลัวและความพิเศษของ
  • ศิลาอาถรรพ์
  • ที่ทำในสิ่งที่จอมเวทย์ธรรมดาไม่น่าจะทำได้
  • Great work ,Magnum Opus
  • อย่างที่ท่านว่าล่ะครับ
  • ว่าหากเป็นเกมส์ DnD
  • กว่าจะทได้สายอัลเคมิสต์ก็ปาไปเลเวล 20 แล้ว
  • ระดับที่คนอื่นๆนั้นชกหน้ากับเทพปีศาจได้แล้วนั่นล่ะครับ ???
ผมบอกไว้ก่อนนะครับการบูชาพระเจ้าอย่างถวายเครื่องสังเวยนะไม่ไช่การเเละกเปรี่ยน แต่แค่เป็นการทำไห้พระเจ้าพอใจดังนั้นในพูลเมทัลมันเอาตรงนี้มายำครับ พระเจ้ามีพลังอยู่แล้วแต่จะไห้หรือไม่อยู่ที่ความพอใจการสังเวยเป็นหนึ่งในวิธี แต่ฟลูเมทัลเล่นเอาสังเวยมายำรวมเฉยผมถึงต้องไห้ย้อนไปดูว่า แต่ละอย่างทำอะไรได้แปรธาตุมันแยกมาจากเวทครับด้วยเวทนะต้องแลกเปรียนกับ อะไรบางอย่างแบบเราเสียเปรียบหรือเท่าเทียมแลกกับปาติหารต่างๆ แปรธาตุแยกมาจากเวทที่ต้ องการเอาของน้อยไปแลกของใหณ่ ใครบอกว่ามันไม่เกี่ยวกันผมถามแค่แล้วนักเวทไช้และสร้างการแปรธาตุได้ไหม มีอะไรแปลกที่ผมจะบอกว่าจอมเวทเล่นแร่แปรธาตุได้ แต่กลับกันนักเล่นเเร่แปรธาตุไช้เวทมันแปลกๆไหมครับในตอนนี้ผมว่ามันปนกันมั่วไปหมด ในการตีความศาสตร์ต่างๆ
ผมว่าหากเรียกเป็นเวทย์เรียกว่า
เวทย์พิธีกรรมRitual Magicน่าจะเหมาะกว่าเพระามทรงพลังมากวก่าทำสิ่งที่เวทย์ปรกติไม่สามารถทำได้แต่ต้องมีเงื่อนไขในการใช้มากกว่าอย่างที่บอก
ซึ่งทางเทคนิคของมันต้องมีเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพระาการปลุกชีพจอมมารหรือ"ท่านผู้นั้น"ในนิยายและการ์ตูนมันต้องเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่มันต้องหาทางอธิบายว่าเพราะอะไรเราถึงปลุกชีพจอมมารด้วยพิธีกรรมนี้ไม่ใช่แค่ด้วยคาถาธรรมดาที่ใครก็ทำได้แต่ต้องเอาคนระดับสุดยอดจอมเวทย์ของทัพจอมมารมารวมกับวิญญาณประาชนจำนวนมหาศาลถึงจะทำสำเร็จ ???
เอากฎทั่วไปมาใช้ไม่ได้กับเวทย์พิธีกรรมนี้ซึ่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันคือกฎของอัลเคมิสต์ที่ครอบคลุมเวทย์พิธีกรรรมอีกทีครับว่าเราจะทำอะไรโดยไม่มีค่าตอบแทนไม่ได้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,095
  • ถูกใจแล้ว: 1315 ครั้ง
  • ความนิยม: +50/-25
ถ้าผมเขียนคงตีกรอบให้แค่สามารถจัดการโครงอะตอมได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ เช่น
ใช้พลังทำให้น้ำในขวด H2O แยกเป็น 2H2 O2 แล้วควบคุมแก๊สให้เกิดการสันดาปกลายเป็นระเบิด เป็นต้น
หรือพวกเก่งๆ ก็ให้ควบ H2 เป็นระเบิดฟิวชั่น HE2 + e ไปเลย  ;D

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]
  • หมายถึงว่าสิ่งที่ดูว่ายิ่งใหญ่คือสิ่งที่มนุษย์ปรารถนามากที่สุดน่ะครับ
  • อาจจะแสดงข้อจำกัดและความปรถนาของคนในโลกนั้นๆที่พี่น้องเอ็ดได้เจอกับกำแพงว่าแม้แต่วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็มีสิ่งที่ทำได้และไม่ได้และการทำเรื่องที่ผิด
  • "ข้อห้าม"
  • นั้นคือความน่ากลัวและความพิเศษของ
  • ศิลาอาถรรพ์
  • ที่ทำในสิ่งที่จอมเวทย์ธรรมดาไม่น่าจะทำได้
  • Great work ,Magnum Opus
  • อย่างที่ท่านว่าล่ะครับ
  • ว่าหากเป็นเกมส์ DnD
  • กว่าจะทได้สายอัลเคมิสต์ก็ปาไปเลเวล 20 แล้ว
  • ระดับที่คนอื่นๆนั้นชกหน้ากับเทพปีศาจได้แล้วนั่นล่ะครับ ???
[quote/]
ผมว่าหากเรียกเป็นเวทย์เรียกว่า
เวทย์พิธีกรรมRitual Magicน่าจะเหมาะกว่าเพระามทรงพลังมากวก่าทำสิ่งที่เวทย์ปรกติไม่สามารถทำได้แต่ต้องมีเงื่อนไขในการใช้มากกว่าอย่างที่บอก
ซึ่งทางเทคนิคของมันต้องมีเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพระาการปลุกชีพจอมมารหรือ"ท่านผู้นั้น"ในนิยายและการ์ตูนมันต้องเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่มันต้องหาทางอธิบายว่าเพราะอะไรเราถึงปลุกชีพจอมมารด้วยพิธีกรรมนี้ไม่ใช่แค่ด้วยคาถาธรรมดาที่ใครก็ทำได้แต่ต้องเอาคนระดับสุดยอดจอมเวทย์ของทัพจอมมารมารวมกับวิญญาณประาชนจำนวนมหาศาลถึงจะทำสำเร็จ ???
เอากฎทั่วไปมาใช้ไม่ได้กับเวทย์พิธีกรรมนี้ซึ่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันคือกฎของอัลเคมิสต์ที่ครอบคลุมเวทย์พิธีกรรรมอีกทีครับว่าเราจะทำอะไรโดยไม่มีค่าตอบแทนไม่ได้



อย่างที่ผมบอกครับกฏของอัลเคมิสมีอย่างเดียวคือเอาเงินบาทเดียวไปแลกเงินร้อยเงินล้านจนไปถึงไร้ขีดจำกัด ไม่มีความเท่าเทียมการเล่นแร่แปรธาตุคือความต้องการ โกง เอาของน้อยไปแลกของใหณ่ ผมบอกไปแล้วเวทนะเดิมคือการแลกเปรี่ยนแต่มันก็ไม่เท่าเทียม เพราะคนกำหนดคือคนที่ไห้พลังอัลเคมิสก็เช่นกันแต่มันกลับกันตรง อัลเคมิสต้องการเป็นคนกำหนดสิ้งที่ต้องการ ดังนั้นความต้องการสร้างศิลานักปราญคือสิ่งยืนยันครับว่า พวกแม่งต้องการกำไรมหาศาลโดยแลกเปรียนนิดเดียว และผมไม่เห็นเรื่องไหนที่อัลเคมิสแลกเปรี่ยนเท่าเทียมสักครั้ง ถ้ามีความรู้น้อยมีพลังน้อยก็ต้องไช้ของมากแลกเปรียนได้น้อย ถ้ามีความรู้มากมีพลังมากก็ไช้ของน้อยแลกเปรี่ยนได้มาก ผมเห็นแบบนี้ทุกเรื่อง ตังแต่นิทานยันนิยายอดีตถึงปัจจุบัน เยซูในไบเบิลไช้เศษดินเล่นแร่แปรธาตุสร้างโกเลมมาถล่มกองทัพนะครับ เศษดินแลกโกเลมเศษข้าวแลกขนมปังไร้ขีดจำกัดคือมันมีตรงไหนที่เท่าเทียม

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,005
  • ถูกใจแล้ว: 396 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-22
Alchemy มันคือสิ่งที่เกิดมาก่อนที่วิทยาศาสตร์จะเป็นรูปเป็นร่าง
ไม่มีใครรู้ว่าใครเริ่ม แต่มันมีมาก่อนนิยายต่างที่ทำให้เรารู้จักมัน
ในความเชื่อของพวก Alchemy ที่มีมานาน


1 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เกิดออกมาจากความว่างเปล่า แลพเป็นรากฐานของทุกสิ่ง หรือ ขี้เถ้าของพระเจ้า เรื่องนี้ขัดแย้งกับกฏอนุรักษ์พลังงานหรือกฏการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ปัจบันนักวิทย์เชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นที่ขอบของหลุมดำ


2 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เดินทางข้ามระยะทางทุกมิติรวมถึงข้ามเวลาได้


3 เชื่อว่ามี อนภาคที่เป็นรากฐานของชีวิต


4 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เป็นรากฐานของวิญญาณ

 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,183
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
ถ้าผมเขียนคงตีกรอบให้แค่สามารถจัดการโครงอะตอมได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ เช่น
ใช้พลังทำให้น้ำในขวด H2O แยกเป็น 2H2 O2 แล้วควบคุมแก๊สให้เกิดการสันดาปกลายเป็นระเบิด เป็นต้น
หรือพวกเก่งๆ ก็ให้ควบ H2 เป็นระเบิดฟิวชั่น HE2 + e ไปเลย  ;D
ผมว่านั่นอยู่ในขอบเขตของ"ความเป็นไปได้"
ครับเท่าที่ตกอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของฟิสิกส์เป็นไปได้ทั้งหมดตามมุกจักรวาลนาสุว่าที่เวทย์ที่แท้ทรูคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำไม่ได้
อย่างแฟูลเมทัลก็เล่นมุกว่าดึงพลังชีวิตมาเพื่อช่วยรักษาบาดแผลได้อะไรได้
...
เรื่องดึงพลังมารักษาบาดแผลผมเจอคนแต่งแฟนฟิควันพีซ เล่นมุกว่า
ลูฟี่หัวใจวายตายตอนอายุสี่สิบเพราะดันใช้พลังชีวิตมากไปตอนยังหนุ่มๆในการต่อสู้และการรักษาบาดแผล ???
แนวว่าแซวเรื่อง"สละพลังชีวิตเพื่อชัยชนะ"ตามแบบแนวพระเอกโชวเน็นโดยแสดงให้เห็นถึงผลของการที่ทำอย่างนั้นจริงๆ
Alchemy มันคือสิ่งที่เกิดมาก่อนที่วิทยาศาสตร์จะเป็นรูปเป็นร่าง
ไม่มีใครรู้ว่าใครเริ่ม แต่มันมีมาก่อนนิยายต่างที่ทำให้เรารู้จักมัน
ในความเชื่อของพวก Alchemy ที่มีมานาน


1 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เกิดออกมาจากความว่างเปล่า แลพเป็นรากฐานของทุกสิ่ง หรือ ขี้เถ้าของพระเจ้า เรื่องนี้ขัดแย้งกับกฏอนุรักษ์พลังงานหรือกฏการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ปัจบันนักวิทย์เชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นที่ขอบของหลุมดำ


2 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เดินทางข้ามระยะทางทุกมิติรวมถึงข้ามเวลาได้


3 เชื่อว่ามี อนภาคที่เป็นรากฐานของชีวิต


4 เชื่อว่ามี อนุภาคที่เป็นรากฐานของวิญญาณ


ขอบคุณครับผม
หากให้ผมมองจะเรียกว่ามันเมหือนเป็นสายความรู้แต่คือสายความรู้ที่ครอบคลุมกฎเกณฑ์ของเวทย์ที่ทุกสายใช้อยู่ก็ว่าได้น่ะครับว่าเรือ่งพัลงอาจจะไม่เท่าสายอื่น แต่เรื่องผลักดันขอบเขตของเวทย์ไม่มีสายไหนสู้สายนี้ได้
[quote/]


อย่างที่ผมบอกครับกฏของอัลเคมิสมีอย่างเดียวคือเอาเงินบาทเดียวไปแลกเงินร้อยเงินล้านจนไปถึงไร้ขีดจำกัด ไม่มีความเท่าเทียมการเล่นแร่แปรธาตุคือความต้องการ โกง เอาของน้อยไปแลกของใหณ่ ผมบอกไปแล้วเวทนะเดิมคือการแลกเปรี่ยนแต่มันก็ไม่เท่าเทียม เพราะคนกำหนดคือคนที่ไห้พลังอัลเคมิสก็เช่นกันแต่มันกลับกันตรง อัลเคมิสต้องการเป็นคนกำหนดสิ้งที่ต้องการ ดังนั้นความต้องการสร้างศิลานักปราญคือสิ่งยืนยันครับว่า พวกแม่งต้องการกำไรมหาศาลโดยแลกเปรียนนิดเดียว และผมไม่เห็นเรื่องไหนที่อัลเคมิสแลกเปรี่ยนเท่าเทียมสักครั้ง ถ้ามีความรู้น้อยมีพลังน้อยก็ต้องไช้ของมากแลกเปรียนได้น้อย ถ้ามีความรู้มากมีพลังมากก็ไช้ของน้อยแลกเปรี่ยนได้มาก ผมเห็นแบบนี้ทุกเรื่อง ตังแต่นิทานยันนิยายอดีตถึงปัจจุบัน เยซูในไบเบิลไช้เศษดินเล่นแร่แปรธาตุสร้างโกเลมมาถล่มกองทัพนะครับ เศษดินแลกโกเลมเศษข้าวแลกขนมปังไร้ขีดจำกัดคือมันมีตรงไหนที่เท่าเทียม
มุกจักรวาลนาสุ พระเยซูทำคือปาฏิหาริย์ เวทย์ทแท้ทรูไม่อยู่ในขีดจำกัดของเวทย์ทั่วไปครับ ฮา
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,095
  • ถูกใจแล้ว: 1315 ครั้ง
  • ความนิยม: +50/-25
สเกลพลังกว้างเกินไปสุดท้ายเนื้อเรื่องจะคุมยากเกิดหลุมบนพล็อตได้ง่ายครับ แถมมันจะมีคำถามตามมาว่าถ้าทำแบบนู่นนี่นั่นได้ทำไมไม่ทำนั่นนู่นนี่ล่ะ
อย่างเช่นบอกว่าในฟูลเมทอลเอาพลังชีวิตมารักษาแผลได้ รักษาแผลติดเชื้อ โรคติดต่อ โรคจากพันธุกรรมได้ไหม ความเสียหายที่เกิดจากกัมมันตภาพรังสีและรังสีที่ตกค้าง
ถ้าได้หมดเดียวก็จะไปหักกับกฏของการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมที่เกริ่นมาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง
แบบเรื่องแอทแมนที่บอกว่าการที่ตัวเล็กลงเพราะการย่นระยะห่างของอะตอมนั้นย่อมทำให้น้ำหนักเท่าเดิมแต่เกาะหนวดโทนี่เฉยเลย

พวกแนวพลังสไตลเกมส์ที่ตามแนวของเดอะเกมส์เมอร์มานี่ระดับสเกลพลังเละกันซะมาก
ยิ่งพวกระบบของจีนแล้วยิ่งไปใหญ่อย่างน้อยๆ ต้องหลุดไประดับจักรวาล จักรภพ ทั้งๆ ที่เริ่มต้นพวกเองแค่ระดับจอมยุทธฟันบ้านพังเองนะเฟ้ย

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]
ผมว่านั่นอยู่ในขอบเขตของ"ความเป็นไปได้"
ครับเท่าที่ตกอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของฟิสิกส์เป็นไปได้ทั้งหมดตามมุกจักรวาลนาสุว่าที่เวทย์ที่แท้ทรูคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำไม่ได้
อย่างแฟูลเมทัลก็เล่นมุกว่าดึงพลังชีวิตมาเพื่อช่วยรักษาบาดแผลได้อะไรได้
...
เรื่องดึงพลังมารักษาบาดแผลผมเจอคนแต่งแฟนฟิควันพีซ เล่นมุกว่า
ลูฟี่หัวใจวายตายตอนอายุสี่สิบเพราะดันใช้พลังชีวิตมากไปตอนยังหนุ่มๆในการต่อสู้และการรักษาบาดแผล ???
แนวว่าแซวเรื่อง"สละพลังชีวิตเพื่อชัยชนะ"ตามแบบแนวพระเอกโชวเน็นโดยแสดงให้เห็นถึงผลของการที่ทำอย่างนั้นจริงๆ
[quote/]
ขอบคุณครับผม
หากให้ผมมองจะเรียกว่ามันเมหือนเป็นสายความรู้แต่คือสายความรู้ที่ครอบคลุมกฎเกณฑ์ของเวทย์ที่ทุกสายใช้อยู่ก็ว่าได้น่ะครับว่าเรือ่งพัลงอาจจะไม่เท่าสายอื่น แต่เรื่องผลักดันขอบเขตของเวทย์ไม่มีสายไหนสู้สายนี้ได้
[quote/]
มุกจักรวาลนาสุ พระเยซูทำคือปาฏิหาริย์ เวทย์ทแท้ทรูไม่อยู่ในขีดจำกัดของเวทย์ทั่วไปครับ ฮา

ประเด็นคือมันไม่ไช่แค่เยซูไงเปรโตและอื่นๆก็ทำได้แบบเดียวกันว่าง่ายๆในไบเบิล ขอแค่แปะคำว่านักเล่นแร่แปรธาตุอย่างกากสุดคือต้องเอาขนมปังหนึ่งปอนแลกเป็นพันปอนได้ นี่คือกากสุดครับแต่เดิมการแปรธาตุแบบกากๆคือเอาของแบบเดียวกัน ไปทำไห้ปริมาณเพิ่มขึ้นครับการเปรี่ยนดินเป็นทองคือชั้นสูงที่ทำไห้ของไร้ค่ามีค่า และไอ้ที่เราดูๆกันการไช้ชิวีตสร้างศิลานักปราญที่ทำไห้มีชิวีตอมตะ มันคือแนวคิดการเล่นแร่แบบห่วยที่สุดนะครับที่ไช้ชิวีตจำนวนมากแลกชิวีตอมตะ มันก็คือหลักการแปรธาตุแบบพื้นฐานสุดๆแบบเดียวกับเอาขนมปังหนึ่งปอนไปทำไห้เป็นพันปอนนั้นแหละครับ ในคำภีศิลานักปราญถูกสร้างโดยหลายคนมากหนึ่งในนั้นคือเยซู สิ่งที่ผมตลกที่สุดคือมีแค่คนเดียวที่ไช้ชิวีตคนจำนวนมากสร้างศิลาขึ้นมา แต่วิิธีนี้ดันดังที่สุดซะงั้นวีธีอื่นๆเช่นเสกออกมาจากความว่างปล่าวไช้หัวใจมังกร ไช้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ ไช้พลังเวท พลังศรัทธา ที่แย่ที่สุดคือชิวีตคน แต่ดันมีแต่คนจำได้แค่ไช้ชิวีตคนซึ่งห่วยที่สุดผิดพลาดง่ายที่สุด

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,183
  • ถูกใจแล้ว: 3002 ครั้ง
  • ความนิยม: +171/-429
สเกลพลังกว้างเกินไปสุดท้ายเนื้อเรื่องจะคุมยากเกิดหลุมบนพล็อตได้ง่ายครับ แถมมันจะมีคำถามตามมาว่าถ้าทำแบบนู่นนี่นั่นได้ทำไมไม่ทำนั่นนู่นนี่ล่ะ
อย่างเช่นบอกว่าในฟูลเมทอลเอาพลังชีวิตมารักษาแผลได้ รักษาแผลติดเชื้อ โรคติดต่อ โรคจากพันธุกรรมได้ไหม ความเสียหายที่เกิดจากกัมมันตภาพรังสีและรังสีที่ตกค้าง
ถ้าได้หมดเดียวก็จะไปหักกับกฏของการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมที่เกริ่นมาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง
แบบเรื่องแอทแมนที่บอกว่าการที่ตัวเล็กลงเพราะการย่นระยะห่างของอะตอมนั้นย่อมทำให้น้ำหนักเท่าเดิมแต่เกาะหนวดโทนี่เฉยเลย

พวกแนวพลังสไตลเกมส์ที่ตามแนวของเดอะเกมส์เมอร์มานี่ระดับสเกลพลังเละกันซะมาก
ยิ่งพวกระบบของจีนแล้วยิ่งไปใหญ่อย่างน้อยๆ ต้องหลุดไประดับจักรวาล จักรภพ ทั้งๆ ที่เริ่มต้นพวกเองแค่ระดับจอมยุทธฟันบ้านพังเองนะเฟ้ย
ผมไปเจอฝรั่งวิจารณ์มาว่าบางครั้งแนวปราณยุทธแม้จะไม่อะฺบายบางอย่างไปอ่าอนีกเรื่องก็อ่านรู้เรื่องเพระากฎของจักรวาลจะเมหือนกันหรือเรียกว่าคือความเป็นจริงที่คนอ่านรับรู้อยู่แล้วไม่สามารถแก้เป็นอย่างอื่นได้ ???

อย่างแนวที่ผมแซว
"การปลุกชีพท่านผู้นั้น"
ตามมุกแนวโชวเน็นต่อสู้ที่ต้องรวบรวมของให้ครบ"ท่านผู้นั้น"
ถึงจะคืนชีพขึ้นมาได้
เป็นเรื่องที่ทั้งคนอ่าน คนเขียน ทุกคนยอมรับการมีตัวตนของ
"พิธีกรรมปลุกชีพท่านผู้นั้น"
กันหมดไม่มีใครสงสัยอะไรว่าการคืนชีพท่านผู้นั้นต้องทำได้แน่นอนหากเงื่อนไขครบถ้วน
เรียกว่ามันเป็น Foundation รากฐานของเรื่องราวที่ไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องเดียวแต่กระจายไปทุกเรื่องน่ะครับ ???
นั่นล่ะครับที่ผมมองว่ามันก่อปัญหาตามมาภายหลัง
แน่นอนฟางหยวนจากเทพปีศาจหวนคืนก็เป็นคนประเภทที่ว่าใช้การสังเวยชาวบ้านทำให้ตนเองเก่งขึ้นไ้ดจริง
จักรวาลมันจะกลายเป็นแบบนั้นล่ะครับหากเราเผลอให้คนไร้ศีลธรรมมาเป้นพระเอกแต่กฎเกณฑ์ของจักรวาลยังคงแบบเดิมอยู่


[quote/]
ประเด็นคือมันไม่ไช่แค่เยซูไงเปรโตและอื่นๆก็ทำได้แบบเดียวกันว่าง่ายๆในไบเบิล ขอแค่แปะคำว่านักเล่นแร่แปรธาตุอย่างกากสุดคือต้องเอาขนมปังหนึ่งปอนแลกเป็นพันปอนได้ นี่คือกากสุดครับแต่เดิมการแปรธาตุแบบกากๆคือเอาของแบบเดียวกัน ไปทำไห้ปริมาณเพิ่มขึ้นครับการเปรี่ยนดินเป็นทองคือชั้นสูงที่ทำไห้ของไร้ค่ามีค่า และไอ้ที่เราดูๆกันการไช้ชิวีตสร้างศิลานักปราญที่ทำไห้มีชิวีตอมตะ มันคือแนวคิดการเล่นแร่แบบห่วยที่สุดนะครับที่ไช้ชิวีตจำนวนมากแลกชิวีตอมตะ มันก็คือหลักการแปรธาตุแบบพื้นฐานสุดๆแบบเดียวกับเอาขนมปังหนึ่งปอนไปทำไห้เป็นพันปอนนั้นแหละครับ ในคำภีศิลานักปราญถูกสร้างโดยหลายคนมากหนึ่งในนั้นคือเยซู สิ่งที่ผมตลกที่สุดคือมีแค่คนเดียวที่ไช้ชิวีตคนจำนวนมากสร้างศิลาขึ้นมา แต่วิิธีนี้ดันดังที่สุดซะงั้นวีธีอื่นๆเช่นเสกออกมาจากความว่างปล่าวไช้หัวใจมังกร ไช้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ ไช้พลังเวท พลังศรัทธา ที่แย่ที่สุดคือชิวีตคน แต่ดันมีแต่คนจำได้แค่ไช้ชิวีตคนซึ่งห่วยที่สุดผิดพลาดง่ายที่สุด

เยซู พระคริวต์ผมยกไว้ให้คนหนึ่งครับเพราะตำนานของพระเจ้าการมีกำเนิดจากความวว่างเปล่านั้นเป็นสไตล์ของแกอยู่แล้ว
..
หากให้ผมวิเคราะห์เพราะมนุษย์?ี่ห่วยแตกที่สุดนั้นหาง่ายที่สุดครับ
เป็นแนวความคิดแบบเทพปีศาจหวนคืน ฟางหยวนหรือแนวจอมมารในโลกปราณยุทธ
ที่เอาคนทั้งทวีปมาเพิ่มพลังของตนเอง
สัประยุทธทะลุฟ้าที่เป้ฯสายหลักก้บรรยายว่าทวีปฟากที่จอมมารอยู่กลายเป็นดินแดนรกร้างไม่เลหือสิ่งมีชีวิตเลยว่างั้นเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงเก่งกาจจนสู้กับพระเอกได้
หรือกล่าวคือ
"ความหาง่าย"เอาชนะทุกอย่างครับท่านอาจจะต้องไปหาโลหิตพระคริสต์หรือหัวใจมังกรทั่วแผ่นดินและต้องสู้กับคนที่เก่งกาจมากมายกว่าจะได้มา

แต่ชาวบ้านธรรมดานี่แค่ท่านเ่กงกาจหรือมีอำนาจมากหน่อยท่านก็ได้วัตถุดิบมาแล้วอย่างที่ผมแซวเรื่องท่านผุ็นั้น
นั่นล่ะครับ

นารุโตะยังดี
การปลุกท่านผู้นั้นยังต้องใช้สัตว์หางที่ค่อนข้างเอามายากหน่อย
เรื่องอื่นที่ใช้คนธรรมดาได้เลยน่ากลัวมากกว่า ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก