หลักๆขอให้จ่ายหาบิลได้ก็จ่ายไป แต่ถ้าเงียบ มันจะมีจดหมายมา ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเขาจะมาหาถึงบ้าน จดทรัพย์สินที่คุณมีแล้วรีดเลือดย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ยซึ่งโหดมาก ดังนั้นจงจ่ายซะจ่ายไม่เต็มไม่เป็นไรหาบิลค่าใช้จ่ายมาให้สมเหตุสมผลกับหน้าร้านนิด ถ้าคุณซื้อของบริษัทใหญ่ บริษัทเขาจะส่งของในชื่อคุณ หนีไม่ได้หรอก ย่าเคยทำส่งแล้วไม่จดภาษี เจอย้อนหลังหลายล้านขายของกำไรปิดเดียวชิ้นละบาทสองบาท ถ้าไม่จดทะเบียนเจ้าหน้าที่มันไม่สนหรอกว่าคุณกำไรเท่าไหร่ แม่งนับเป็น%เป็นรายได้ไปคิดภาษีจากยอดขายคาดคะเน ทำการค้าจดภาษีใบซื้อมีเท่าไหร่เก็บให้หมด บิลน้ำมันบิลค่าไฟ รถถ้าซื้อให้จดในนามร้านค้า หักภาษีได้ ตอนนี้โซล่าเซลล์ก็หักได้ ทุกบิลค่าใช้จ่ายจะเอาไปลดกำไรสุทธิได้ ที่บ้านโดนภาษีจากกำไรสุทธิ20%โดยประมาณ ก็คือบิลน้ำมัน1000นึง เอาไปลดภาษีที่ต้องเสียได้200บาท
บิลขายเมคได้ไม่ยากหรอกบอกไม่ใช้ระบบ แต่บิลซื้อเก็บเลือกไว้ให้ดี
แล้วก็ธุรกิจส่วนตัว จดทะเบียนการค้าอย่าลืมเงินเดือนพนักงานและเงินเดือนตัวเอง เงินเดือนพนักงานต้องเอาตามจริง ใส่ ภงด1 ส่วนเงินเดือนตัวเอง ถ้ามีพี่น้องที่ได้รับมรดกร่วมกันหรือลูกจากกิจการนั้นๆใส่ชื่อในกรรมการแบ่งเงินลงไปในจุดที่เขาไม่ต้องรับภาระส่วนนี้ก็ได้ สามารถหักรายได้สุทธิที่สุดท้ายจะไปคำนวนที่ต้องจ่ายได้อีก แต่อย่าลืมว่าจ่ายไปแล้วถ้าเกินเกณฑ์ต้องเสียภาษีให้ทำหัก ณ ที่จ่ายไปเลยจะได้ไม่เป็นภาระคนแบ่งเงินเดือนปลอมทีหลัง อันนี้คือการกำหนดเงินเดือนตัวเองในธุรกิจเพื่อจัดการภาษี ที่มีข่าว สส ก้าวไกลไม่เสียภาษีเพราะเขาจัดตรงนี้ไม่ให้เสียภาษี แต่ภาษีจากกิจการเขาต้องจ่ายจากธุรกิจของเขาที่จดการค้าอยู่แล้วขึ้นอยู่กับการจัดการ ถ้าเขาเขียนเงินเดือนตัวเองเยอะ ธุรกิจที่จดทะเบียนจะเสียน้อยลง แต่จะกลายเป็นกำไรสะสมที่สุดท้ายต้องเอามาแบ่งลงให้หุ้นส่วนธุรกิจ ซึ่งตอนแบ่งออกมาก็ต้องโดนบังคับเสียภาษี ไม่ก็ต้องเอาส่วนนี้ไปขยายกิจการเปลี่ยนเป็นอาังหารในนามกินการแทน ที่เขาเอาไปซื้อรถซื้อบ้านกัน