ถ้ามีอารยะธรรมที่เก่าแก่ มากกว่า20,000-30,000 ปี เราต้องแก้ ปวศ.โลกขนาดไหน

[sariora123]

คือมันเป็นเรื่องทึ่สงสัยน่ะครับ ว่า
ปัจจุบัน กระแสหลักคือ อารยะธรรมโลกเรา เริ่มเมื่อราวๆ 6,000-7,000 ปีที่แล้วตามพื้นที่ต่างๆของโลก


ผมเคยเล่าไว้ล่ะว่าด้วยเทคโน ปัจจุบันทำให้ตรจสอบได้ละเอียดขึ้น เลยมีการค้นพบใหม่ๆ ว่า อาจมี อารยธรรมเก่าแก่กว่านี้   

ซึ่งยังไม่ใช่กระแสหลัก เพราะว่าเพิ่งเริ่มขุดสำรวจได้เพียงเล็กน้อย

อย่างเช่นใน อิรัก มีการขุดโบราณสถาน เท่าที่ตรวจเบื้องต้นคือ 10,000ปีที่แล้ว
ตามความเชื่อเดิมคือ 10,000ปีที่แล้ว มนุษย์ยังอยู่แบบชยเผ่าล่าสัตว์ ไม่รวมตัวเป็นอารยะ เท่าที่ขุดพบคือ
รวมตัวเป็นอารยะธรรม มีสิ่งปลูกสร้างที่มีการรวมตัวอยู่กันเป็นเมืองใหญ

 ทางอิยิป ยังมีการสันนฐานกันว่า ก่อนหน้าอิยิป ในพื้นทีานี้อาจมีอารยะธรรมอื่น อยู่มาก่อน แต่ล่มสลายไปก่อนที่อิยิปจะมาครอบครองพื้นที่
       พีรมิด ในอินโดเนเซีย ก็ยืนยันกันไปแล้วว่ามีอายุกว่า 25,000ปี ขาดแค่สำรวจอย่างเต็มรูปแบบ
ถ้าจริงคือช่วงนั้นเดิมยังเชื่อว่ามนุษย์ยังไม่รู้จักการเกษตร  มีชีวิตโดยการล่าสัตว์หาของป่า อาจเรียกได้ว่า ดีกว่าลิง สักหน่อย ล่ะมั้ง

       ตอนนี้ก็มีนักสำรวจ ได้ออกมาอกล่าวถึงเนินภูเขาในบอสเนีย ที่มีรูปแบบเดียวกับของ อินโดเนเซีย เดิม เชื่อว่าเป็นภูเขา แต่ขุดๆไปข้างใต้เป็พีระมิดที่โดนกลบ(ปัจจุบันก๋ยังไม่ได้ขุดนี่แหละ)   เนินที่ว่ามี4 ด้าน แบบ พีระมิด ทั้ง4ด้านหันตามแนวเข็มทิศ แบบพอดีมาก ตามที่กว่าวอ้างคือ เนินภูเขา มี3ลูก ยอดของทั้ง3เนิน ทำมุมเป็นรูป3เหลี่ยมด้านเท่าพอดี  ซึ่งนักสำรวจคนดังกล่าว พบหลักฐานทางโบราณคดี เป็นการสลักลายบนแผ่นหิน กับเศษรูปสลักบางอย่าง วัดอายุจาก วัตถุอินทรีย์โดยรอบ  อายุราวๆ 35,000ปี   ตอนนึ้คือ ไม่มีงบในการขุดสำรวจ

คือ หลังๆ มานี้ ตำราเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์
รี่ก็แก้กันเรื่อยๆ อย่างแรงโน้มถ่วง สมัยนิวตั้น คือแรง

ของไอสไตน์คือมันทำการโคงงอ กาลและอวกาศ
ของใหม่ตอนนี้ ไม่ใช่แรง แต่เป็ปรากฏการณ์( Effect )  ทึ่อธิบาย ได้งงกว่าของเดิมมาก

อีกหน่อย ปวศฌลก กำเนิด มนุษยชาติ นี่ต้องแก้ กันอีกเยอะแน่ๆ หากมีการยืนยันได้ว่า มนุษย์มีอารยะธรรมอายุ 20,000-30,000 ปีที่แล้ว 


เะิ่มเติ่ม รู้สึกว่า มีการค้นพบวิธี ที่อิยิป ใช้ตัดหินแกรนิต ที่เดิมคาดว่าอิยิปไม่น่าจะคัดได้  เพราะยังใช้ทองแดง กับสำริด  เห็นมีข่าวว่าเคื่รองมือตัดหิน ที่ว่า
ในอเมริกาใต้ ก็มีคล้ายๆ กัน และยังใช้กันมือถึงปัจุบันในการตัดหินแบบ (สั้นๆเลยคือใช้หินที่เเข็งกว่า ตัด)   ทีนี้ ก็เหลือแค่วิธีการย้ายหิน

• Tweet

[samuison]

ผมสนใจพวกออสเตรเลียน่ะครับ




เห็นว่ามีคนพื้นเมืองกว่าห้าหมื่นปีแล้วว่างั้น


...




เทคโนโลยีหาย


เขาว่าเป็นไปได้ครับ


ประมาณเราพึ่งจะถอดสูตรซีเมนต์ของโนมันได้


แต่ตอนนี้ยังถอดสูตร กรีกไฟ ยังไม่ไดั




เห็นว่าพวกไฟสีเขียวในมหาศึกชิงบัลลังก์ก็เอามาจาก กรีกไฟ นั่นล่ะครับ แต่สูตรยังเป็นปริศนา

[Black7nos]

คือมันเป็นเรื่องทึ่สงสัยน่ะครับ ว่า
ปัจจุบัน กระแสหลักคือ อารยะธรรมโลกเรา เริ่มเมื่อราวๆ 6,000-7,000 ปีที่แล้วตามพื้นที่ต่างๆของโลก


ผมเคยเล่าไว้ล่ะว่าด้วยเทคโน ปัจจุบันทำให้ตรจสอบได้ละเอียดขึ้น เลยมีการค้นพบใหม่ๆ ว่า อาจมี อารยธรรมเก่าแก่กว่านี้   

ซึ่งยังไม่ใช่กระแสหลัก เพราะว่าเพิ่งเริ่มขุดสำรวจได้เพียงเล็กน้อย

อย่างเช่นใน อิรัก มีการขุดโบราณสถาน เท่าที่ตรวจเบื้องต้นคือ 10,000ปีที่แล้ว
ตามความเชื่อเดิมคือ 10,000ปีที่แล้ว มนุษย์ยังอยู่แบบชยเผ่าล่าสัตว์ ไม่รวมตัวเป็นอารยะ เท่าที่ขุดพบคือ
รวมตัวเป็นอารยะธรรม มีสิ่งปลูกสร้างที่มีการรวมตัวอยู่กันเป็นเมืองใหญ

 ทางอิยิป ยังมีการสันนฐานกันว่า ก่อนหน้าอิยิป ในพื้นทีานี้อาจมีอารยะธรรมอื่น อยู่มาก่อน แต่ล่มสลายไปก่อนที่อิยิปจะมาครอบครองพื้นที่
       พีรมิด ในอินโดเนเซีย ก็ยืนยันกันไปแล้วว่ามีอายุกว่า 25,000ปี ขาดแค่สำรวจอย่างเต็มรูปแบบ
ถ้าจริงคือช่วงนั้นเดิมยังเชื่อว่ามนุษย์ยังไม่รู้จักการเกษตร  มีชีวิตโดยการล่าสัตว์หาของป่า อาจเรียกได้ว่า ดีกว่าลิง สักหน่อย ล่ะมั้ง

       ตอนนี้ก็มีนักสำรวจ ได้ออกมาอกล่าวถึงเนินภูเขาในบอสเนีย ที่มีรูปแบบเดียวกับของ อินโดเนเซีย เดิม เชื่อว่าเป็นภูเขา แต่ขุดๆไปข้างใต้เป็พีระมิดที่โดนกลบ(ปัจจุบันก๋ยังไม่ได้ขุดนี่แหละ)   เนินที่ว่ามี4 ด้าน แบบ พีระมิด ทั้ง4ด้านหันตามแนวเข็มทิศ แบบพอดีมาก ตามที่กว่าวอ้างคือ เนินภูเขา มี3ลูก ยอดของทั้ง3เนิน ทำมุมเป็นรูป3เหลี่ยมด้านเท่าพอดี  ซึ่งนักสำรวจคนดังกล่าว พบหลักฐานทางโบราณคดี เป็นการสลักลายบนแผ่นหิน กับเศษรูปสลักบางอย่าง วัดอายุจาก วัตถุอินทรีย์โดยรอบ  อายุราวๆ 35,000ปี   ตอนนึ้คือ ไม่มีงบในการขุดสำรวจ

คือ หลังๆ มานี้ ตำราเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์
รี่ก็แก้กันเรื่อยๆ อย่างแรงโน้มถ่วง สมัยนิวตั้น คือแรง

ของไอสไตน์คือมันทำการโคงงอ กาลและอวกาศ
ของใหม่ตอนนี้ ไม่ใช่แรง แต่เป็ปรากฏการณ์( Effect )  ทึ่อธิบาย ได้งงกว่าของเดิมมาก

อีกหน่อย ปวศฌลก กำเนิด มนุษยชาติ นี่ต้องแก้ กันอีกเยอะแน่ๆ หากมีการยืนยันได้ว่า มนุษย์มีอารยะธรรมอายุ 20,000-30,000 ปีที่แล้ว 


เะิ่มเติ่ม รู้สึกว่า มีการค้นพบวิธี ที่อิยิป ใช้ตัดหินแกรนิต ที่เดิมคาดว่าอิยิปไม่น่าจะคัดได้  เพราะยังใช้ทองแดง กับสำริด  เห็นมีข่าวว่าเคื่รองมือตัดหิน ที่ว่า
ในอเมริกาใต้ ก็มีคล้ายๆ กัน และยังใช้กันมือถึงปัจุบันในการตัดหินแบบ (สั้นๆเลยคือใช้หินที่เเข็งกว่า ตัด)   ทีนี้ ก็เหลือแค่วิธีการย้ายหิน

ประวัติศาสตร์ ความหมายถึง การบันทึก
หลักในทางประวัติศาตร์ เราแบ่งออกเป็นก่อนประวัติศาสตร์ กับ ยุคหลังประวัติศาสตร์
ยุคก่อน หมายถึงยุคที่เราไม่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ยังไม่มีการจดบันทึกใดๆ ให้คนรุ่นหลังสืบทอดองค์ความรู้ได้ อาจจะเป็นยุคที่การถ่ายทอดเป็นปากต่อปาก
แต่เราสามารถแบ่งยุคก่อนเป็นย่อยๆ ผ่านการแยกเครื่องมือการใช้งานของมนุษย์
1.ยุคหิน
1.1 ยุคหินเก่า 2,500,000 ปี ถึง 10,000 ปีก่อนคริสตกาล เครื่องมือทำจากหินและมีลักษณะหยาบๆ ไม่มีความปราณีต
1.2 ยุคหินกลาง 10.000 ปี ถึง 6,000 ปีก่อนคริสตกาล เครื่องมือที่ทำจากหินมีลักษณะปราณีตขึ้นผ่านการกะเทาะ มีการลับเหลี่ยมคม
1.3 ยุคหินใหม่ 6,000 ถึง 4,000 ปีก่อนคริสตกาล เครื่องมือถูกสร้างอย่างปราณีตกว่าเดิม เริ่มมีงานฝีมือ มีการปั้นเครื่องปั้นดินเผา มีการทอผ้า เริ่มมีการทำการเกษตร มนุษย์เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเร่ร่อนเป็นการตั้งหลักแหล่งเพื่อการทำการเกษตร


2.ยุคสัมฤทธิ์ การเริ่มต้นยุคนี้ของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน แต่เริ่มประมาณ 4,000 ปี ถึง 3,200 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์เริ่มเข้าใจศาสตร์โลหะมากขึ้น มีการทำเหมืองโลหะ สามารถถลุงโลหะบางประเภท เช่น ทองแดง กับ ดีบุก เอามาทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ วิถีชีวิตเปลี่ยนมาเป็นตั้งรกรากเป็นหลักแหล่ง และเกิดหมู่บ้านเกิดชุมชนจนเริ่มกลายเป็นเมือง โดยมีแหล่งอารยธรรมสำคัญคือ
- อารยธรรมแม่น้ำไนล์(อียิปต์)
- อารยธรรมแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
- อารยธรรมแม่น้ำไทกริส-ยูเฟตริส(เมโสโปเตเมีย เช่น ตุรกี อิรัก ซีเรีย จอร์แดน และอาหรับ)
- อารยธรรมแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลือง(จีน)
ยุคนี้มีสงครามที่ใหญ่สุด คือ สงครามกรุงทรอย

3.ยุคเหล็ก เริ่มประมาณ 3,200 ปี ก่อนคริสตกาล องค์ความรู้ของมนุษย์ด้านโลหะศาสตร์พัฒนาขึ้นไปอีกขึ้น มนุษย์สามารถถลุงและขึ้นรูปเหล็กเป็นเครื่องมือได้แล้ว ยุคนี้มนุษย์เริ่มสามารถทำปศุสัตว์ได้เป็นครั้งแรก หลักฐานเจอที่ไทย ที่บ้านโนนวัด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เมื่อ 1,650 ปี ถึง 1,250 ปีก่อนคริสตกาล ได้พบว่ามนุษย์เลี้ยงไก่บ้านเป็นปศุสัตว์แบบจริงๆจังๆ
ยุคนี้มีอารยธรรมที่ใหญ่ คือ กรีก โรมัน เปอร์เซีย จีน และอินเดีย

[pol]

ถ้าวิทยาการเก่าแก่ขนาดนั้นสูญหายไปก็คิดได้อย่างเดียวว่าต้องมีมหันตภัยขนาดใหญ่มากๆเกิดขึ้นครับ  อาจจะเป็นมหาสงครามนิวเคลียร์หรือซอมบี้ระบาด(ฮา)  จนทำให้นักวิชาการและบันทึกต่างๆสูญหายไปหมดสิ้น  อย่างโลกเราตอนนี้ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้วยังมีคนรอดชีวิตอยู่พอที่จะสร้างสังคมมนุษย์อยู่ต่อไปได้ ผมว่าวิทยาการน่าจะย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17-18

[Black7nos]

ถ้าวิทยาการเก่าแก่ขนาดนั้นสูญหายไปก็คิดได้อย่างเดียวว่าต้องมีมหันตภัยขนาดใหญ่มากๆเกิดขึ้นครับ  อาจจะเป็นมหาสงครามนิวเคลียร์หรือซอมบี้ระบาด(ฮา)  จนทำให้นักวิชาการและบันทึกต่างๆสูญหายไปหมดสิ้น  อย่างโลกเราตอนนี้ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้วยังมีคนรอดชีวิตอยู่พอที่จะสร้างสังคมมนุษย์อยู่ต่อไปได้ ผมว่าวิทยาการน่าจะย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17-18

มีครับ การล่มสลายของอารยธรรม เขาเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "การล่มสลายปลายยุคสัมฤทธิ์" ซึ่งมันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างยุคสัมฤทธิ์ไปสู่ยุคเหล็ก
โดยเฉพาะภูมิภาคอนาโตเลีย ทะเลอีเจียน แนวเขาคอเคซัส แอฟริกาเหนือ(อียิปต์) ทะเลบอลข่าน
โดยอาณาจักรใหญ่ในยุคนั้นอย่าง อาณาจักรฮิตไตท์ในอนาโตเลีย(ตุรกี) อียิปต์เกิดการล่มสลาย แล้วเริ่มแตกกลายเป็นนครรัฐย่อยๆ
ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยังหาข้อสรุปจริงๆจังๆไม่ได้ ได้แต่คาดเดาสาเหตุ เช่น เกิดจากปัญหาภัยแล้ง ความล้มเหลวด้านการปกครอง สังคมที่เริ่มเปลี่ยน รวมถึงการรุกรานจาก "ชาวทะเล"

รูปบนกำแพงของวิหารเมดิเน็ตฮาบู แสดงภาพชาวอียิปต์ต่อสู้กับชาวทะเล ในยุทธการสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์


เรื่องของชาวทะเล เป็นคำเรียกของกลุ่มคนหลายเผ่ารวมกันเป็นสมาพันธ์เข้าโจมตีอียิปต์โบราณ และหลายอาณาจักรในทะเลเมดิเตอเรเนียนตะวันออก และทำให้สิ้นสุดยุคสัมฤทธิ์
ซึ่งปัจจุบันไม่มีใครรู้ว่าเป็นชนเผ่าไหน และชาติพันธุ์ใดอย่างแน่ชัด

[BlackLucky]

ถ้าวิทยาการเก่าแก่ขนาดนั้นสูญหายไปก็คิดได้อย่างเดียวว่าต้องมีมหันตภัยขนาดใหญ่มากๆเกิดขึ้นครับ  อาจจะเป็นมหาสงครามนิวเคลียร์หรือซอมบี้ระบาด(ฮา)  จนทำให้นักวิชาการและบันทึกต่างๆสูญหายไปหมดสิ้น  อย่างโลกเราตอนนี้ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้วยังมีคนรอดชีวิตอยู่พอที่จะสร้างสังคมมนุษย์อยู่ต่อไปได้ ผมว่าวิทยาการน่าจะย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17-18

ไม่ต้องแรงขนาดนั้นก็ได้ เอาแค่ตอนโรมันตะวันตกล่ม ความรู้ต่าง ๆ ในยุโรปสูญหายความเจริญก็ตกฮวบๆแล้ว

แต่โลกเราตอนนี้ ถ้าเกิดสงครามโลกก็ไม่ย้อนไปขนาดยุคนั้นหรอก อย่างมากก็ย้อนไปแถวต้นๆ1900ก่อนสงครามโลก เพราะความรู้มันกระจายไปมากพอจนส่วนที่กันดารก็ยังมีความรู้สมัยใหม่เข้าถึง
แถวแอฟริกาที่มีสงครามเต็มไปหมด ความรู้สมัยใหม่ยังเข้าถึงเลย ถึงจะเอาไว้ช่วยตีหัวกันก็เถอะ ฮา

[KAGUYA]

[quote/]

ไม่ต้องแรงขนาดนั้นก็ได้ เอาแค่ตอนโรมันตะวันตกล่ม ความรู้ต่าง ๆ ในยุโรปสูญหายความเจริญก็ตกฮวบๆแล้ว

แต่โลกเราตอนนี้ ถ้าเกิดสงครามโลกก็ไม่ย้อนไปขนาดยุคนั้นหรอก อย่างมากก็ย้อนไปแถวต้นๆ1900ก่อนสงครามโลก เพราะความรู้มันกระจายไปมากพอจนส่วนที่กันดารก็ยังมีความรู้สมัยใหม่เข้าถึง
แถวแอฟริกาที่มีสงครามเต็มไปหมด ความรู้สมัยใหม่ยังเข้าถึงเลย ถึงจะเอาไว้ช่วยตีหัวกันก็เถอะ ฮา

อย่ากลายเป็นยุคมืดแบบยุคกลางหรือดีสโทเปียแบบแมดแม็กก็พอ แต่เอาเถอะทั้งหลายแหล่มันขึ้นกับสเกลของความเสียหายที่ได้รับและเราเหลืออะไรบ้างล่ะนะ

[Black7nos]

[quote/]

ไม่ต้องแรงขนาดนั้นก็ได้ เอาแค่ตอนโรมันตะวันตกล่ม ความรู้ต่าง ๆ ในยุโรปสูญหายความเจริญก็ตกฮวบๆแล้ว

แต่โลกเราตอนนี้ ถ้าเกิดสงครามโลกก็ไม่ย้อนไปขนาดยุคนั้นหรอก อย่างมากก็ย้อนไปแถวต้นๆ1900ก่อนสงครามโลก เพราะความรู้มันกระจายไปมากพอจนส่วนที่กันดารก็ยังมีความรู้สมัยใหม่เข้าถึง
แถวแอฟริกาที่มีสงครามเต็มไปหมด ความรู้สมัยใหม่ยังเข้าถึงเลย ถึงจะเอาไว้ช่วยตีหัวกันก็เถอะ ฮา

แต่มันก็พูดยากนะ ความรู้ถามว่าหายไปมั้ยก็ไม่นะ
อย่างโรมันตะวันตกล่มสลาย องค์ความรู้ก็ยังไม่ได้หายไปไหนแต่อยู่กับโรมันตะวันออกหรือไบแซนไทน์ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวแทน
แล้วตอนโรมันตะวันออกล่มสลาย แทนที่องค์ความรู้จะหาย กับแพร่สะพัดจากตะวันออกสู่ตะวันตก
ทำให้เปลี่ยนผ่านจากยุคกลางสู่ยุคเรเนอซองค์ครับ


ผมว่ามันแล้วแต่กรณีมากกว่าครับ สงครามและการล่มสลายของอาณาจักรไม่ใช่หมายความว่าอารยธรรมและองค์ความรู้จะล่มสลายเสมอไปครับ

[pol]

[quote/]


แต่มันก็พูดยากนะ ความรู้ถามว่าหายไปมั้ยก็ไม่นะ
อย่างโรมันตะวันตกล่มสลาย องค์ความรู้ก็ยังไม่ได้หายไปไหนแต่อยู่กับโรมันตะวันออกหรือไบแซนไทน์ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวแทน
แล้วตอนโรมันตะวันออกล่มสลาย แทนที่องค์ความรู้จะหาย กับแพร่สะพัดจากตะวันออกสู่ตะวันตก
ทำให้เปลี่ยนผ่านจากยุคกลางสู่ยุคเรเนอซองค์ครับ


ผมว่ามันแล้วแต่กรณีมากกว่าครับ สงครามและการล่มสลายของอาณาจักรไม่ใช่หมายความว่าอารยธรรมและองค์ความรู้จะล่มสลายเสมอไปครับ

ความรู้ไม่ใช่ย้ายไปตะวันออกกลาง(อิสลาม)เหรอครับ?

[KAGUYA]

[quote/] ความรู้ไม่ใช่ย้ายไปตะวันออกกลาง(อิสลาม)เหรอครับ?

แล้วหลังสงครามครูเสธเลยเริ่มไหลกลับยุโรป ถ้าจำไม่ผิด

[sariora123]

ผมสนใจพวกออสเตรเลียน่ะครับ




เห็นว่ามีคนพื้นเมืองกว่าห้าหมื่นปีแล้วว่างั้น


...




เทคโนโลยีหาย


เขาว่าเป็นไปได้ครับ


ประมาณเราพึ่งจะถอดสูตรซีเมนต์ของโนมันได้


แต่ตอนนี้ยังถอดสูตร กรีกไฟ ยังไม่ไดั




เห็นว่าพวกไฟสีเขียวในมหาศึกชิงบัลลังก์ก็เอามาจาก กรีกไฟ นั่นล่ะครับ แต่สูตรยังเป็นปริศนา

ชนเผ่า ใน ออสเตเรีย ถือว่า มีมนต์ขลังดีนะครับ


คือมีหลักฐานชี้ชัด ได้ว่า   ชาวอะบอริจิ้น โบราณเคยอยู่
ในยุค Mega beast  หรือยุคสัตว์เลึ้ยงลูกด้วยนมขนาดยักษ์ ทั้งหลาย    นักบรรพชีวะ หรือโบราณคดี เคยคิดว่า  สัตว?ยักษ์มันสูญพันไปก่อนหน้ามนุษย์  เะราะหากอยู่ร่วมยุคคือ  มนุษย์ตายแน่ 100% ไม่มีทางสู้ไดเลย
   แต่ชาว อะบอริจิ้น มีภาพฝาผนังหิน เกี่ยวกับสัตว์ร้ายตัวใหญ่  ซึ่งคนพื้นเมืองกลัวมากจน ตำนาน แทบไม่เล่าถึง  แบบชื่อ ลอร์ด โวลเดอมอร์ ครับ แค่ชื่อมันก็ไม่กล้าเรียก เลยมีหลักฐานน้อยมาก [size=78%]  หลักฐานทางโบราณคดี ก็ไปทางที่เชื่อได้ว่า สัตว์ยักษสูญพันธ์ ไปเมื่อประมาณ70,000- 80,000 ปีที่แล้ว  เริ่มมีหลักฐาน[/size]
ของมนุษยุคหิน ก็ราวๆ 70,000-75,000 ปีก่อน  ประมาณว่า สัตว์ยักสูญพันธ์ บรรพบุรุษมนุษย์ เลยได้ ลืมตาอ้าปาก


บางส่วน ก็ยังเชื่อว่า 70,000 ปีก่อน มนุษย์ยังแทบไม่ต่างจากลิงด้วยซ๊ำ


อันนึ้ ยังไม่เป็นข่าวมากนะนะครับ  คือ มีการสำรวจใต้ทะเล ยานใต้น้ำ ไปเจอโครงกระดูกยาวเป็น 10เมตรที่ใต้ทะเลลึก    แวปแรกคิดว่ากระดูกวาฬ แต่ไม่ใช่เพราะมีโครงสร้างต่างจากสัตว์้ลึ้ยงูกด้วยนม  ปลา ก็ไม่ใช่ อีก    ซึ่งโครงกระดูกมันคลายของสัตว์เลื้อยคลานมากกว่า  เลยจะเก็บกลับมาตรวจ  แต่ โคงกระดูกถูกัดกล่อนไปมากจนมือจับของยานใต้น้ำ ไปโดน มันก็ผุแตกไปเลย จับไม่ได้


      เลยได้แต่ควาดการว่าน่าจะเป็นสัตว์ทะเลโบราณบางชนิด
ที่สูญพันไปแล้ว และยังเหลือซากที่สลายตัวไม่หมดมาให้เห็น

[quote/] ความรู้ไม่ใช่ย้ายไปตะวันออกกลาง(อิสลาม)เหรอครับ?

ตอนนี้ ว่าที่ (ยังไม่ได้ตั้งอย่างเป็นทางการ) อารยธรรมเก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ อยู่ในตะวันออกกลางนะครับ แถวๆ อีรัก
10,000 ปีที่แล้ว นี่ น่าจะยังอยู่ในยุคน้ำแข็งเลยนะครับ












จริงๆ แล้ว ผมมีข้อสังเกตนะครับว่า   ซาก ฟอสซิล คือ ซากที่เกิดการทับถมสิ่งมีชีวิตฝ่านกระบวนการทางธรณีวิทยา เลยกลายเป็น ฟอสซิล
      ซึ่งไอ้การโดนทับถมแบบนี้มันต้องเกิดโดยกาถูกภัยพิงัติอะไรสักอย่าง ททำให้ดินทับถม ไม่อย่างนั้นปกติซากที่ตายบนผิวดิน มักจะโดนย่อยสลายโดย จุลชีพต่างๆ

[BlackLucky]

[quote/]


แต่มันก็พูดยากนะ ความรู้ถามว่าหายไปมั้ยก็ไม่นะ
อย่างโรมันตะวันตกล่มสลาย องค์ความรู้ก็ยังไม่ได้หายไปไหนแต่อยู่กับโรมันตะวันออกหรือไบแซนไทน์ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวแทน
แล้วตอนโรมันตะวันออกล่มสลาย แทนที่องค์ความรู้จะหาย กับแพร่สะพัดจากตะวันออกสู่ตะวันตก
ทำให้เปลี่ยนผ่านจากยุคกลางสู่ยุคเรเนอซองค์ครับ


ผมว่ามันแล้วแต่กรณีมากกว่าครับ สงครามและการล่มสลายของอาณาจักรไม่ใช่หมายความว่าอารยธรรมและองค์ความรู้จะล่มสลายเสมอไปครับ

พูดถึงในแค่ยุโรปพื้นที่อิทธิพลโรมันตะวันตกเก่าเท่านั้นแล
แล้วเพราะความรู้จากโรมันตะวันออกย้อนกลับเข้ายุโรปเริ่มยุคเรเนซองส์ก่อนที่จะล่มสลายแล้ว พวกคนมีความรู้เลยมีที่ทางให้ทะลักเข้ายุโรปล่ะน้อ

องค์ความรู้ถ้าได้แพร่ไปวงกว้างก่อนที่อารยธรรมจะล่มสลายจากอะไรก็ตามก็จะคงอยู่ได้ง่ายกว่าพวกความรู้เก็บกรุอยู่แล้วล่ะน้อ
ไม่เหมือนพวกตระกูลมีความรู้ในเอเชียตะวันออก ความรู้ข้าใครอย่าแตะ แต่โดนฆ่ายกตระกูลทีก็หายเรียบ

[Black7nos]

[quote/] ความรู้ไม่ใช่ย้ายไปตะวันออกกลาง(อิสลาม)เหรอครับ?

ไม่ใช่ครับ ในยุคกลางความรู้ใหญ่ๆแบ่งออกเป็น 4 ส่วนครับ
ส่วนที่ 1 อยู่กับศาสนจักรที่กรุงโรม ซึ่งที่นั่นความรู้ทั้งหมดเป็นภาษาลาติน ใครอยากมีความรู้ ต้องบวชเป็นบาทหลวงถึงจะได้เรียน
ส่วนที่ 2 อยู่กับไบแซนไทน์ ที่นั่นความรู้เป็นภาษากรีก
ส่วนที่ 3 อยู่กับ House of Wisdom เมืองแบกแดด อาณาจักรอาบาซิดของอิสลาม
ส่วนที่ 4 อยู่กับจีน หลายราชวงศ์โดยเฉพาะราชวงศ์ถัง


หลังจากโรมตะวันตกล่มสลายผู้ที่เก็บกักความรู้ไว้ส่วนหนึ่งก็คือศาสนจักรคาทอลิกที่กรุงโรม โดยอย่างที่ผมบอกความรู้คืออำนาจอย่างหนึ่ง
มันทำให้ศาสนจักรใช้การที่ภาษาละตินเป็นภาษากลางสื่อสารเป็นผู้ที่ให้ความชอบธรรมในการแต่งตั้งกษัตริย์ของยุโรปตะวันตก
ทำให้ชนชั้นกษัตริย์ กับ นักบวช สมผลประโยชน์กัน โดยยุคกลางนั้นเป็นยุคที่คนยุโรปค่อนข้างโง่และงมงาย เพราะถูกกดไว้ไม่ให้คนทั่วไปได้เรียน
เพื่อที่จะสงวนสิทธิอำนาจแก่กษัตริย์กับนักบวช


จากนั้นมันก็เกิดเหตุการณ์ที่มองโกลบุกตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก ตอนนี้มองโกลตีอาณาจักรอิสลาม อย่างควาเรซเมียน และอะบาซิดแตก
ซึ่งการที่จักรวรรดิ์อะบาซิดของราชวงศ์อะบาซิยะแตก กรุงแบกแดกโดนเผา ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งแรกๆของโลกอย่าง House of Wisdom โดนเผา
ทำให้องค์ความรู้จำนวนมากถูกทำลาย แต่โชคยังดีที่นักปรัชญาของ House of Wisdom
สามารถขนหนังสือกว่าหลายหมื่นเล่มหนีออกจากการล้อมกรุงแบกแดดของมองโกลได้ทันก่อนที่มองโกลจะเผ่ากรุงแบกแดด
ทำให้พวกอิสลามที่แต่เดิมนัั้นมีองค์ความรู้มากกว่าฝั่งยุโรปก็เลยเกิดความรู้สูญหาย

ส่วนความรู้เริ่มไหลจริงๆ และคนยุโรปเริ่มจะเลิกงมงายศาสนา คือ หลังจากกรุงคอนสแตนติโนเบิ้ล(อิสตัลบูล)ของไบแซนไทน์แตกโดยสุลต่านเมเม็ดที่สองแห่งออตโตมัน
ทำให้ความรู้ของกรีกที่ไบแซนไทน์มีไหลไปหาฝั่งตะวันตก อันทำให้เกิดยุคเรเนอซองค์ เกิดศิลปินและนักปรัชญามากมาย เช่น เลโอนาโด ดาวินชี ไมเคิล แองเจลโล ฯลฯ
ยุคนี้คือยุคที่ศาสนจักรคาทอลิกเริ่มเสื่อมอำนาจลง

[blakaros]

กลับไปที่หัวเรื่องก่อน




ถ้ามีหลักฐานชี้ชัดจริงๆ   ประวัติศาสตร์แก้กันยกใหญ่เลยละครับ   ทั้งความเชื่อที่ว่ามนุษย์พัฒนาอารยธรรมได้แค่ราวๆหมื่นปีเนี่ย   หรือมนุษย์สายพันธ์โฮโมซาเปียนที่วิวัฒนาการมาราวๆ 2 แสนปี   มันอาจจะย้อนไปได้ไกลกว่านั้น   หรืออาจมีสายพันธ์ุมนุษย์โบราณสายพันธ์อื่นอีกที่สร้างอารยธรรมพวกนี้ขึ้นมาอีก




นอกนั้นก็พวกทฤษฎีที่พอจะมีเค้า   แต่ฟังดูประหลาดๆอย่างพระเจ้าจากอวกาศอาจจะกลับมาบูมอีกรอบก็ได้

[KAGUYA]

กลับไปที่หัวเรื่องก่อน




ถ้ามีหลักฐานชี้ชัดจริงๆ   ประวัติศาสตร์แก้กันยกใหญ่เลยละครับ   ทั้งความเชื่อที่ว่ามนุษย์พัฒนาอารยธรรมได้แค่ราวๆหมื่นปีเนี่ย   หรือมนุษย์สายพันธ์โฮโมซาเปียนที่วิวัฒนาการมาราวๆ 2 แสนปี   มันอาจจะย้อนไปได้ไกลกว่านั้น   หรืออาจมีสายพันธ์ุมนุษย์โบราณสายพันธ์อื่นอีกที่สร้างอารยธรรมพวกนี้ขึ้นมาอีก




นอกนั้นก็พวกทฤษฎีที่พอจะมีเค้า   แต่ฟังดูประหลาดๆอย่างพระเจ้าจากอวกาศอาจจะกลับมาบูมอีกรอบก็ได้

พระเจ้าจากอวกาศคงไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ทฤษฎีทวีปที่สาบสูญอย่างมูหรือแอตแลนติสนี่น่าจะมาแน่ๆ

[sariora123]

กลับไปที่หัวเรื่องก่อน




ถ้ามีหลักฐานชี้ชัดจริงๆ   ประวัติศาสตร์แก้กันยกใหญ่เลยละครับ   ทั้งความเชื่อที่ว่ามนุษย์พัฒนาอารยธรรมได้แค่ราวๆหมื่นปีเนี่ย   หรือมนุษย์สายพันธ์โฮโมซาเปียนที่วิวัฒนาการมาราวๆ 2 แสนปี   มันอาจจะย้อนไปได้ไกลกว่านั้น   หรืออาจมีสายพันธ์ุมนุษย์โบราณสายพันธ์อื่นอีกที่สร้างอารยธรรมพวกนี้ขึ้นมาอีก




นอกนั้นก็พวกทฤษฎีที่พอจะมีเค้า   แต่ฟังดูประหลาดๆอย่างพระเจ้าจากอวกาศอาจจะกลับมาบูมอีกรอบก็ได้

โดยการคาดการคือ ยุค เก่ากว่าแสนกว่าปี
สายพันกลุ่ม homo มีหลาย สปีชี่ แต่พอมาถึงช่วง แสน ปีก่อน
สายพีนอื่นหาย สูญพันไปหมด เหลือแค่โฮโมเซเปี่ยน (มนุษย์นี่แหละ
   ความเชื่อเดิมคือ ราวๆ 70,000 กว่าปีก่อน คาดการว่ามนุษย์ยุคแรกนี่ไม่ได้ต่างจากลิงมากนัก  หลายๆ อย่างคนเรายังคงมีสืบทอดมาจากสมัยที่ยังไม่วิวัฒนาแยกจากลิง


เช่นกล้ามเนื้อข้อมือ ที่ใช้โหน  ยังมีเหลืออยู่ในมนุษย์ปัจจุบันราวๆ 40% ของประชากร  หรือกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังที่มีมาตั้งแต่ยุคที่มนุษย์ยังมีขน ก็ยังมีอยู่นะ


หากพูดถึง หลักฐานการมีอารยะเก่าๆล่ะก็[size=78%]จีนนี่แหละ[/size]


เคยมีรายงานว่า จีน มีการค้นพบสิ่งที่เหมือท่อ ระบบส่งน้ำปะปา  ในชั้นดินที่อายุราวๆ 300,000ปี
ยุคนั้น มนุษย์ยังไม่วิวัฒนาการเลยมั้ง


หรือแบบเก่าๆ ไม่มาก ก็คง ทวีป มู


ที่คาดว่าเคยอยู่แถวๆ แปซิฟิคมีบันทึกเก่าๆ แถบเอเชีย บอกไว้ว่า พวกเรานั้นมาจากมูอีกด้วย


แถบอินเดีย กับอาฟริกา ก็คาดว่ามี ทวีปที่จมน้ำไปแล้วเช่นกัน
บันทึกของเมืองโบราณแถวๆตะวันออกกลาง อินเดีย มีดล่าวถึงชื่อเมืองที่ปัจจุบันไม่มี หรือยังหาไม่เจอ
 และสภาพ ทางชีวะวิทยาของอินเดียตอนใต้ กับอาฟริกาตะวันออก นั้นมีความใกล้เคียงกัน แต่กลับไม่มีพื้นที่เชื่มติดกัน
มีความเป็นไปได้ว่า ระหว่าอินเดีย และอาฟริกา เคยมีแผ่นดิน หรือทวีป เชื่อมถึงกัน  แต่จมทะเลไปแล้ว




ส่วนเรื่องพระเจ้าโบราณที่มีความเป็นไปได้ว่า อาจเป๋นพระเจ้าจากต่างดาว


ผมเคยยกตัวอย่างไว้ว่า  พระเต้าของ อิยิป  มายา แอชเทค อินคา  มีความคล้ายกันในบางแง่มุม  แถมเคยเจอศพมียางไม้ที่ไม่มีในทวีป อเมริกาใต้ อีกด้วย


หลายๆ อย่างทำให้ผมคิดว่า ในอดีตกาล  อาจไม่ใช่แค่มนุษที่มีสติปัญญา อาจมีสายพันธ์อื่นที่วิวัฒนาดารจนมีอารยะธรรมก็เป็นได้  พระเจ้าโบราณนี่มีหัวเป็นสัตว์ทั้งนั้นเลย นี่นา

หลักฐานของสายพันธ์มนุษย์ มีแค่ราวๆ 3-4แสนปี
แต่หลักฐานของสิ่งมีชีวิต มันตั้ง หลายร้อยล้านปี
บางสายพันธ์ อยู่มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์  เป็นไปไม่ได้เลยเหรอว่ามันจะไม่วิวัฒนาการจนมีสติปัญญา

แบบ ริค&  มอตี้ ที่ไดโนเสาร์มีสติปัญญา และก้าวหน้าจน เดินทางไปนอกโลกจนหมด


คิดเล่นๆ ว่า หากวันนึง มนุษย์เกิดหายไป และหมากับแมวครองโลกแทนและมีอารยะธรรม  เรื่องราวมนุษย์จะถูกเล่าไว้แบบไหน


ุ้าหใ้พูดแบบเวิ่นเว้อ ไร๊สาระ  อย่าง ดาวเทียม black knight เป็นวัตถุ อวกาศทึ่ยุคสำรวจอวกาศขึ้นไปก็ไปเจอ มันเข้า
หลายความเห็น ออกไปในทางที่ว่าเป็ยานของโซเวียดที่ล้มเหลว ระเบิด แล้วซากลอยอยู่ในวงโคจร จำไม่ผิด น่าจะวงโคจรขั้วโลก(คือโคจรขึ้นลงเหนือใต้ วงโคจรดาวเทียม ส่วนมากจะเป็นแนวทะเเยงกับการหนุนของโลก
สายสมคบคิดจะพผุด  ประมาณว่า black knight คือเศษซากของยานต่างดาว หรือดาวเทียมของอารยะธรรมที่รุ่งเรืองมาก่อนหน้ามนุษย์

[pol]

[quote/]พระเจ้าจากอวกาศคงไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ทฤษฎีทวีปที่สาบสูญอย่างมูหรือแอตแลนติสนี่น่าจะมาแน่ๆ

ถ้ามามุขนี้ก็สามารถยอมรับได้ง่ายขึ้นนะครับ เพราะจะได้อธิบายได้ว่าวิทยาการที่ล้ำสมัยมันหายไปไหนหมด คำตอบก็จมไปกับทวีปมูหรือแอตแลนติสไปยังไงล่ะโยม     แต่พูดถึงทวีปมูนี่คิดถึงมังงะญี่ปุ่นเก่าๆนะครับพูดถึงทวีปมูบ่อยมาก

[sariora123]

[quote/] ถ้ามามุขนี้ก็สามารถยอมรับได้ง่ายขึ้นนะครับ เพราะจะได้อธิบายได้ว่าวิทยาการที่ล้ำสมัยมันหายไปไหนหมด คำตอบก็จมไปกับทวีปมูหรือแอตแลนติสไปยังไงล่ะโยม     แต่พูดถึงทวีปมูนี่คิดถึงมังงะญี่ปุ่นเก่าๆนะครับพูดถึงทวีปมูบ่อยมาก

ถ้าจำไม่ผิด บันทึกเก่าๆ ที่มีกล่าวถึงมู ก็อยู'แถวๆ เอเชีย จีน ยุ่น


จริงๆ วิทยาการสดล้ำที่ว่า อย่างอิยิบ วัตถุเเข็งกว่าทองแดงยังไม่มีสร้างในยุคอิยิแ  แต่ตัดกินแกรนิตได้

ก็เพิ่งหาคำตอบได้ครับ เป็นวิธีโบราณด้วยซ๊ำ


โมอายที่หนักหลายตันก็เพิ่งคนพบวิธีเครื่อนย้ายไม่กี่ปีก่อน คือค่อนข้างง่ายด้วย


     นักวิทย์เขาเลยพูดกันว่า วิธีมันมีอยู่ เพียงแค่มนุษย์ลืมมันไปตามกาลเวลา


หรือวิทยาการสมัยนี้พื้นฐานบนน้ำมัน โลหะ ไฟฟ้า แต่สมัยก่อนใช้หิน มันมีแนวคิดทางเทคโนโลยีที่ต่างกันเราเลยไม่เข้าใจ 
บางอย่างอาจปกติของเขา แต่ไม่ปกติของเรา

[Black7nos]

จริงๆ แผนที่โลกผืนดินกับทะเลเปลี่ยนอันนี้คือเรื่องจริงครับ แต่ที่ไม่จริง คือ เมืองหรือแผ่นดินมันไม่ได้จมใต้น้ำแบบตำนานแอตแลนติส
แต่แผ่นดินมันสูงขึ้นครับ


เอาจากของจริงกันเลยดีกว่า อย่างลพบุรีเมื่อก่อนมันคือภูมิศาสตร์ที่เป็นบริเวณหาดทรายติดทะเลครับ
เพราะว่าดินลพบุรีเวลาขุดขึ้นมาจะมีซากเปลือกหอยทะเลที่ฝังดินอยู่ ซึ่งซากเปลือกหอยเหล่านี้ถ้ามันทับถมนานๆมันจะละเอียดและกลายเป็นดินสอพองที่มีมากในลพบุรี


พูดถึงอารยธรรมที่หายไปใกล้ตัวเข้ามาหน่อย ก็คือ ศรีเทพฯ ที่พึ่งเป็นมรดกโลก
ศรีเทพเป็นเมืองที่อยู่บริเวณเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นทางผ่านจากล้านนาลงสู่พื้นที่ภาคกลางของไทย
มันเป็นจุดบรรจบของหลายวัฒนธรรมทั้งมอญ ขอม อินเดีย และยังขุดค้นพบสินค้าที่มาจากจีนอีกด้วย
เมืองนี้มีลักษณะเป็นนครรัฐ มีอายุประมาณปีคริสศตวรรษที่ 6 ถึง 13
ผังเมืองมีการผสมของมอญ และขอม แต่น่าจะสร้างต่างปีกันห่างกันอยู่
ปัจจุบันยังไม่มีใครสรุปได้ว่าทำไมศรีเทพกลายเป็นเมืองร้าง และอารยธรรมและองค์ความรู้ของศรีเทพ มันก็หายไปหมดเลย ไม่แม้แต่อยู่ในนิทานหรือพงศาวดารที่เล่าปากต่อปากเสียด้วยซ้ำ
ทั้งที่เมืองนี้มีความสำคัญในฐานะ Hub ที่เป็นทางแยกไปทางอาณาจักรหริภุญชัย(มอญ) และขอม รวมถึงทวารวดี ละโว้ มันอยู่ในยุคเดียวกันนะ


.................


ปกติแล้วต่อให้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มันจะห่างจากปัจจุบันนานแค่ไหน แต่องค์ความรู้บางส่วนและความทรงจำมันจะถูกเล่าสืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นอาจจะผิดเพี้ยนจากเดิม หรือเสริมแต่ง แต่ยังไงมันก็ต้องมี
ยกตัวอย่างเรื่องราวการก่อตั้งล้านนา ก็จะต้องมีเรื่องเล่าของ ปู่เจ้าลาวจก หรือ ลวจักราช ซึ่งเป็นผู้นำของชาวลัวะที่คาดว่าเป็นต้นเชื้อสายของพระเจ้ามังราย
เมื่อก่อนมันจะมีเรื่องเล่าว่า คนไทปลูกข้าวเก่ง ขณะที่คนของเผ่าลัวะจะเก่งงานโลหะ ดังนั้นสองเผ่าจึงทำ Deal กัน โดยคนไทจะซื้อเครื่องมือทำการเกษตรจากชาวลัวะ
ขณะที่ชาวลัวะก็จะซื้อข้าวจากคนไท เรียกว่าต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งคำว่า "จก" มันแปลว่า จอบ หรือเครื่องมือที่ใช้ขุดดินทำนา
แล้วปู่เจ้าลาวจก(จริงๆ คนไทสมัยก่อนบันทึกผิด จริงๆต้องบันทึกว่า ปู่เจ้าลัวะจก หรือ ลวจกราช ซึ่งมันควรแปลว่า กษัตริย์ชาวลัวะผู้มีจอบจำนวนมาก)
ซึ่งเป็นผู้นำชาวลัวะที่เป็นเจ้าของเครื่องมือจอบและเครื่องมือทำนาจำนวนมาก
เมื่อมีเครื่องมือมาก ก็เท่ากับว่ามีอำนาจมากเช่นกัน เพราะมีเครื่องมือมากก็ขายเครื่องมือให้คนไทเอาไปทำนาได้มาก
และได้มีการให้ลูกหลานตัวเองแต่งงานดองญาติกับคนไทภาคเหนือ ทำให้เกิดเป็นต้นสายของราชวงศ์มังรายขึ้นมา


ดังนั้นในพิธีการครองราชย์ของล้านนา มันจะมีการเชิญชาวลัวะมารับประทานอาหาร เพราะชาวไทล้านนาถือว่าต้องให้เกียรติชาวลัวะซึ่งเป็นคนที่อยู่มาก่อน
เหตุผลก็เพราะเป็นชาวลัวะเป็นเผ่าที่เคยทำ Deal ขายจอบขายเครื่องมือการเกษตรให้กับคนไททำมาหากินได้
จนทำให้คนไทสามารถผลิตอาหารจำนวนมาก จนทำให้ประชากรมากขึ้นจนขยายจากเผ่า กลายเป็นเมืองได้


...................


แต่ศรีเทพ มันน่าประหลาดที่เรื่องราวมันหายไป จะเรื่องเล่าก็ดี นิทานก็ดี หรือ พงศาวดาร กลับไม่มีการเล่าสืบทอดต่อมา
เมืองใหญ่โตมโหฬารระดับนครรัฐ เป็น Hub อยู่ทางแยกการเดินทางไปอาณาจักรต่างๆ แต่กลับไม่มีอยู่ในความทรงจำของรุ่นสู่รุ่นเลย
มันเลยเป็นจุดที่น่าแปลก มันเหมือนกับอารยธรรมมันหายไปและขาดตอนไปดื้อๆเลย

[Rumia]

เอาตามจริงนะครับไอ้เรื่องที่ไม่สามารถพิสูตรได้อย่างมนุษย์ต่างดาวเอาทิ้งไปก่อน ความจริงผมว่ายากครับที่อารยธรรมชันสูงจะหายไปหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากตูมเดียวหายเรียบหมดไม่เหลือสักคนเพราะไม่ว่าจะรูปแบบไหนมันต้องมีหลักฐานเหลือรอดมาบ้างครับ ไม่ไช่มีแต่ภาพแกะหินผมยกตัวอย่างง่ายๆสมมุติตอนนี้โลกล่มสลาย ไม่ว่าจะเหตุอะไรก็ตามคิดว่าจะไม่เหลืออะไรรอดไปเลยเหรอครับ ขนาดหลายล้านปีก่อนไดโนเสาร์ยังเหลือซากนะมันเป็นไปไม่ได้ครับถ้าวิทยาการยุคเก่า เหนือยิ่งกว่ายุคนี้มันสูณหายไปนะอย่างแรกจำนวนประชากรมันต้องสูงมาก อย่างน้อยต้องมากกว่าหรือเทียบเท่ายุคปัจจุบันกระจายไปทัวโลกไม่มีเหตุผลที่ถ้าวิทยาการในอดีตถ้าสูงกว่าปัจจุบันจะมีแค่เมืองเดียว ดังนั้นวิทยาการมันยากที่จะสูณหายทังหมดครับถ้าจะหายมันก็จะมีล้างแต่ไม่มีทางเกิน50%แน่นอน การที่จะค้นพบอารยธรรมเก่ากว่าที่เราเคยรู้มีความเป็นไปได้ครับ แต่สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคืออารธรรมหยุดนิ่งครับ เช่นก่อนยุคหินเก่าคนเราก็มีวิทยาการแบบเดียวกับยุคหินเก่าอยู่แล้ว ในยุคหินเก่าอาจจะพัทนาขึ้นนิดหน่อยดังนั้นเมื่อเจอสิ่งที่เก่ากว่ามากๆแต่วิทยาการเทียบเท่ายุคหืนเก่าจึงมีความเป็นไปได้ ผมยกตัวอย่างจีนมีวิทยาการหยุดนิ่งมา4000ปีปัจจุบันชนบทเองยังมีเหมือนเมื่อ4000ปีก่อน มันมีการที่ต่อเวลาผ่านไปอย่างยาวนานแต่มนุษย์ก็ไม่ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งในอดีตมันเป็นแบบนี้มานานครับความจริงไอ้วิทยาการที่พัตนาไวนี่เอาจริงๆยังไม่ถึงพันปีด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้คือแทบจะหยุดนิ่งหรือพัตนาแบบช้าๆ