The Witcher จากสุดยอดซีรีย์ที่รุ่งโรจน์สู่จุดรุ่งริ่ง

[hackac]

ซีซัน 1 เป็นซีรีย์ที่ดีมาก ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆเป็นอย่างดี
แต่สุดท้ายมาตกม้าตายตอนซีซัน 2 ส่วน 3 เละยับเยิน จนนักแสดงที่เล่นบทพระเอกถึงกลับขอบายตอนปิดซีซัน 3 เลย แบบไม่กลับมารับบทเล่นอีกแล้ว เหตุคนเขียนบทและผู้กำกับ Woke จนตัวซีรีย์มันเละเป็นที่เรียบร้อย
ขนาด อันด์แชย์ ซาคอฟสกีคนเขียนนิยาย The Witcher ยังออกมาบ่นกับสื่อเลยว่า ตอนซีซัน 1 ทีมงานยังรับฟังคำแนะนำของเขาอยู่ แต่พอ 2 กับ 3 นี้คนละเรื่องเลย แบบไม่ว่าเขาจะให้คำแนะนำหรือทวงติงบ้างประเด็นไปเท่าไร ทีมงานไม่รับฟังเลยสักนิด ทำเหมือนเขาเป็นแค่อากาศเท่านั้น

• Tweet

[pol]

Season 1  ก็ไม่ค่อยดีนะครับท่านลืมเกราะหนังไข่แล้วเหรอ? (ไม่ได้หยาบคายนะแต่เขาด่าอย่างนี้จริงๆ)  การยัดเยียดบทบาทให้คนดำเยอะเกินไป  พ่อมดวิลเกอร์ฟอร์ดก็ห่วยบรมทั้งๆที่ในนิยายพี่แกโคตรเก่ง  สิ่งเดียวที่ผมชอบก็คือเพลง Burn Butcher Burn เท่านั้นแหละ ฟังแล้วติดหูกว่า Toss the coin ฯ อีก เพลงโคตรฮา

[KAGUYA]

พวกWokeนี่มันตัวบ่อนทำลายวงการบันเทิงชัดๆ

[gundam666]

แวว มาตั้งแต่ชุดหนังไข่แล้วนั้นล่ะ

[deaddy]

จากซีรี่ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งนิยายยอดฮิต เกมสุดปัง นักแสดงแนวหน้าฮอลลี่วู๊ด งบมหาศาล
สุดท้ายมีปัญหาที่ ผกก. โยน แฟนนิยาย แฟนเกม แม้กระทั่งนักแสดงนำทิ้ง แล้วเปลี่ยนพระเอกใหม่เพื่อให้ไปต่อได้


เจ้าช่างดูถูกแฟนๆเกินไปแล้ว ตั้งแต่พระเอกเปลี่ยนคนซีรี่นี้ก็จบเห่แล้ว คือไม่ใช่ว่า ผกก ไม่เก่ง แต่มันแก้ไม่ได้หรอก ทำได้แค่จบให้ลง
เพราะคนที่จะดูต่อภาค 4 คือคนที่ทนดูถึงภาค 3

[samuison]

มีคนบอกว่า เฮนรี่นี่เป็นแฟนมากๆนะครับ สายเนิร์ด จรีงจังมากกับการทำให้ตรงตาม Lore
แต่ไปขัดใจขาใหญ่ในกองถ่ายเพระาต้องการเน้นตาม Lore มากเกินไป
อย่างว่ามีคนสงสัยว่าที่ฮอลลี่วู้ดทำห่วยแตกเพราะตามใจคนเขียนบทที่ไม่ใช่แฟนอยากจะเปลี่ยนเนือ้เรื่องตามใจตนเองเลยเละนั่นล่ะครับ

ข่าวลือประมาณว่า
เฮนรี่ คาวิลปกป้องคนเขียนบทคนหนึ่งที่เป็นแฟนเหมือนกันพยายามจะทำให้ตรงตามเนือ้เรื่อง
แต่คนเขียนโดนไล่ออก คาวิลเลยอออกมาด้วย
ตอนนี้เลยไปยพายามสร้างซีรี่ย์ warhammer แทน

[Rumia]

จากซีรี่ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งนิยายยอดฮิต เกมสุดปัง นักแสดงแนวหน้าฮอลลี่วู๊ด งบมหาศาล
สุดท้ายมีปัญหาที่ ผกก. โยน แฟนนิยาย แฟนเกม แม้กระทั่งนักแสดงนำทิ้ง แล้วเปลี่ยนพระเอกใหม่เพื่อให้ไปต่อได้


เจ้าช่างดูถูกแฟนๆเกินไปแล้ว ตั้งแต่พระเอกเปลี่ยนคนซีรี่นี้ก็จบเห่แล้ว คือไม่ใช่ว่า ผกก ไม่เก่ง แต่มันแก้ไม่ได้หรอก ทำได้แค่จบให้ลง
เพราะคนที่จะดูต่อภาค 4 คือคนที่ทนดูถึงภาค 3

เอาจริงมันไม่ได้รุ่งอะไรขนาดนั้นมันมาดังจริงไปคือเกมภาค3 ก่อนหน้านี้มันแค่พอมีชื่อเสียงภายในประเทศแน่นอนได้รับความนิยมสูงแต่แค่ในประเทศ ความจริงมันดังสู้พวกเพอซี่แจ็กสันไม่ได้เลยและเทียบไม่ติดกับแฮรี่ วิทเชอร์เป็นเรื่องที่ดังในระดับโลกเพราะเกมภาค3 ไม่เหมือนกับนิยายอื่นๆอย่างแฮรี่ที่นิยายดังทัวโลกก่อนมาเป็นเกม ดังนั้นในเนื้อเรื่องนิยายเองมันสนุกครับแต่ไม่ไช่ระดับท้อปมันยังสู้นิิิยายระดับท้อปจริงฟไม่ได้

[deaddy]

[quote/]
เอาจริงมันไม่ได้รุ่งอะไรขนาดนั้นมันมาดังจริงไปคือเกมภาค3 ก่อนหน้านี้มันแค่พอมีชื่อเสียงภายในประเทศแน่นอนได้รับความนิยมสูงแต่แค่ในประเทศ ความจริงมันดังสู้พวกเพอซี่แจ็กสันไม่ได้เลยและเทียบไม่ติดกับแฮรี่ วิทเชอร์เป็นเรื่องที่ดังในระดับโลกเพราะเกมภาค3 ไม่เหมือนกับนิยายอื่นๆอย่างแฮรี่ที่นิยายดังทัวโลกก่อนมาเป็นเกม ดังนั้นในเนื้อเรื่องนิยายเองมันสนุกครับแต่ไม่ไช่ระดับท้อปมันยังสู้นิิิยายระดับท้อปจริงฟไม่ได้

มันไม่ต้องดังระดับโลกแค่ระดับประเทศมันก็สนุกมากได้ครับ
เพราะระดับโลกไประดับประเทศ หลายเรื่องติดแค่วัฒนธรรมร่วม


เช่น หนังไทยสนุกๆส่วนใหญ่จะดังในกลุ่มเอเชียตะวันออกกับ ตะวันออกเฉียงใต้
เพราะมันเข้าถึงกันได้ง่าย


แต่พวก ระดับโลกมันจะเป็นวัฒนธรรมที่คนส่วนใหญ่ในโลกเข้าถึง นั่นคือพวกอังกฤษ หรืออเมริกา


คือเอาจริงๆ อย่างสามก๊กนี่แฟนๆที่เสพนี่น่าจะเยอะติดอันดับโลกอันดับแรกๆเลย
แต่ตะวันตกเข้าไม่ถึง เลยดูเป็นระดับเอเชียมากกว่า




เพราะงั้น ไม่จำเป็นต้องไปเทียบ the witcher กับ ตัวท็อปของโลกหรอกครับ ผมว่ามันมีค่ามากพอที่จะเผยแพร่อยู่แล้ว


นิยายกากๆแต่ทำหนังรึซีรี่ออกมาได้ดีเชื่อว่าก็มีเยอะ

[Rumia]

[quote/]


มันไม่ต้องดังระดับโลกแค่ระดับประเทศมันก็สนุกมากได้ครับ
เพราะระดับโลกไประดับประเทศ หลายเรื่องติดแค่วัฒนธรรมร่วม


เช่น หนังไทยสนุกๆส่วนใหญ่จะดังในกลุ่มเอเชียตะวันออกกับ ตะวันออกเฉียงใต้
เพราะมันเข้าถึงกันได้ง่าย


แต่พวก ระดับโลกมันจะเป็นวัฒนธรรมที่คนส่วนใหญ่ในโลกเข้าถึง นั่นคือพวกอังกฤษ หรืออเมริกา


คือเอาจริงๆ อย่างสามก๊กนี่แฟนๆที่เสพนี่น่าจะเยอะติดอันดับโลกอันดับแรกๆเลย
แต่ตะวันตกเข้าไม่ถึง เลยดูเป็นระดับเอเชียมากกว่า




เพราะงั้น ไม่จำเป็นต้องไปเทียบ the witcher กับ ตัวท็อปของโลกหรอกครับ ผมว่ามันมีค่ามากพอที่จะเผยแพร่อยู่แล้ว


นิยายกากๆแต่ทำหนังรึซีรี่ออกมาได้ดีเชื่อว่าก็มีเยอะ

ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สนุกนะครับแต่มันไม่ได้ดังจนทำมาหากินได้จริง จนเกมออกภาค3ครับวิทเชอร์ถูกซื้อไปทำเกมด้วยลิขสิทธแสนถูก จนเกมดังมีรายได้เยอะจนเจ้าของนิยายต้องฟ้องเรียกเงินถึง500ล้านนะครับหลายหมื่นเท่าของที่ขายไปคิดดู หมายความว่าแม้นิยายมันจะสนุกแต่มันไม่ได้ดีหรือดังจนทำเงินได้ครับ

[sariora123]

[quote/]
ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สนุกนะครับแต่มันไม่ได้ดังจนทำมาหากินได้จริง จนเกมออกภาค3ครับวิทเชอร์ถูกซื้อไปทำเกมด้วยลิขสิทธแสนถูก จนเกมดังมีรายได้เยอะจนเจ้าของนิยายต้องฟ้องเรียกเงินถึง500ล้านนะครับหลายหมื่นเท่าของที่ขายไปคิดดู หมายความว่าแม้นิยายมันจะสนุกแต่มันไม่ได้ดีหรือดังจนทำเงินได้ครับ

คือ ที่ต้องฟ้อง เะราะเดิม เคยมีคซื้อไปทำละครหรือ/งนี่แหละแล้วเจ๊งยังครับ




เลยขาย ลิขสิทธ์ อบบขายขาดเเทน เพราะคิดว่าเอาไปทำเกมก็น่าขะเจ๊งอีก แต่ผิดคาด เกมเสือกดัง

[Black7nos]

ปัญหาคือมันไม่เข้ากับบริบทของยุคกลาง
Witcher มันเป็นดาร์คแฟนตาซีของยุคกลาง ดังนั้นวิธีคิดหรือแนวคิดบางอย่างที่ไม่เข้ากับยุคกลางมันจะผิดฝาผิดตัวครับ
คนเขียนบทเรื่องนี้ Woke เปล่าผมไม่รู้นะ แต่บทที่เขียนมันผิดแปลกจากยุคกลางมากๆในอะไรหลายๆอย่าง
ซ้ำประเด็นหลักของ Witcher มันมี Keyword ที่เป็น Key เรื่องเดียวเลย
"Evil is evil, lesser,greater, midling make no difference..."
"ความชั่วร้ายคือความชั่วร้าย น้อยกว่า มากกว่า หรือปานกลางนั้นไม่ได้แตกต่างกัน"


แล้วเรื่องของ Witcher จะเล่นเกี่ยวกับประเด็นนี้ตลอด คือ การบังคับให้เกิดการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ยาก
เพราะทุกตัวละครจะต่างชี้หน้าบอกว่าอีกฝ่ายคือ Greater Evil ขณะที่ตนคือ Lesser Evil
ซึ่งประเด็นนี้คนเขียนบทซีรีย์ไม่ได้เข้าใจเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ และก็ไม่ได้ใส่มาในซีรีย์

[pol]

ปัญหาคือมันไม่เข้ากับบริบทของยุคกลาง
Witcher มันเป็นดาร์คแฟนตาซีของยุคกลาง ดังนั้นวิธีคิดหรือแนวคิดบางอย่างที่ไม่เข้ากับยุคกลางมันจะผิดฝาผิดตัวครับ
คนเขียนบทเรื่องนี้ Woke เปล่าผมไม่รู้นะ แต่บทที่เขียนมันผิดแปลกจากยุคกลางมากๆในอะไรหลายๆอย่าง
ซ้ำประเด็นหลักของ Witcher มันมี Keyword ที่เป็น Key เรื่องเดียวเลย
"Evil is evil, lesser,greater, midling make no difference..."
"ความชั่วร้ายคือความชั่วร้าย น้อยกว่า มากกว่า หรือปานกลางนั้นไม่ได้แตกต่างกัน"


แล้วเรื่องของ Witcher จะเล่นเกี่ยวกับประเด็นนี้ตลอด คือ การบังคับให้เกิดการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ยาก
เพราะทุกตัวละครจะต่างชี้หน้าบอกว่าอีกฝ่ายคือ Greater Evil ขณะที่ตนคือ Lesser Evil
ซึ่งประเด็นนี้คนเขียนบทซีรีย์ไม่ได้เข้าใจเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ และก็ไม่ได้ใส่มาในซีรีย์

เอาง่ายๆเลยก็คือมันเป็นนิยายที่เอายุโรปยุคกลางมาเป็นพื้นฐานครับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่คนแอฟริกันจะไปโผล่ในสถานที่นั้นได้ เพราะยังไม่เริ่มมีการค้าทาส หรือถ้าเป็นการเดินทางไปเองก็มีจำนวนไม่มาก แต่คนเขียนบทยัดเยียดให้ตัวละครในเรื่องที่เป็นคนยุโรปเปลี่ยนไปเป็นคนแอฟริกัน ที่สำคัญพวกแม่มดในนิยายจะสวยมากเพราะเจ้แกจะใช้ความงามในการเจรจาต่อรอง ว่าง่ายๆก็คือยั่วยวนนั่นแหละ ดำไม่พอที่สำคัญคือขี้เหร่อีกด้วยครับ     สุดยอดพ่อมดอย่าง วิลเกอร์ฟอร์ด ที่เก่งราวๆไอเซ็น โซสุเกะ ในบลีซ ก็เนิร์ฟพลังจนทุเรศ การเล่าเรื่องก็แย่ถ้าจำไม่ผิดจะสลับไปมาจนดูแล้วไม่รู้เรื่อง อาวุธ ชุดเกราะ ก็สอบตก(โดยเฉพาะชุดหนังไข่ของเนียฟการ์ด)   ตัวละครแย่ บทห่วย  คอสตูมหมาไม่แหลก มันเหมือนกับเรามีเนื้อวัวชั้นดี  เครื่องปรุงรสชั้นยอด  เครื่องมือชั้นเยี่ยม แต่ดันเจอพ่อครัวกากสัสๆ ผลที่ได้ก็เลยเป็นอย่างนี้นี่เอง สาธุ 

[Rumia]

[quote/] เอาง่ายๆเลยก็คือมันเป็นนิยายที่เอายุโรปยุคกลางมาเป็นพื้นฐานครับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่คนแอฟริกันจะไปโผล่ในสถานที่นั้นได้ เพราะยังไม่เริ่มมีการค้าทาส หรือถ้าเป็นการเดินทางไปเองก็มีจำนวนไม่มาก แต่คนเขียนบทยัดเยียดให้ตัวละครในเรื่องที่เป็นคนยุโรปเปลี่ยนไปเป็นคนแอฟริกัน ที่สำคัญพวกแม่มดในนิยายจะสวยมากเพราะเจ้แกจะใช้ความงามในการเจรจาต่อรอง ว่าง่ายๆก็คือยั่วยวนนั่นแหละ ดำไม่พอที่สำคัญคือขี้เหร่อีกด้วยครับ     สุดยอดพ่อมดอย่าง วิลเกอร์ฟอร์ด ที่เก่งราวๆไอเซ็น โซสุเกะ ในบลีซ ก็เนิร์ฟพลังจนทุเรศ การเล่าเรื่องก็แย่ถ้าจำไม่ผิดจะสลับไปมาจนดูแล้วไม่รู้เรื่อง อาวุธ ชุดเกราะ ก็สอบตก(โดยเฉพาะชุดหนังไข่ของเนียฟการ์ด)   ตัวละครแย่ บทห่วย  คอสตูมหมาไม่แหลก มันเหมือนกับเรามีเนื้อวัวชั้นดี  เครื่องปรุงรสชั้นยอด  เครื่องมือชั้นเยี่ยม แต่ดันเจอพ่อครัวกากสัสๆ ผลที่ได้ก็เลยเป็นอย่างนี้นี่เอง สาธุ 

ถ้าสโนไวท์จะผิวดำได้แค่คนดำโพล่ในยุโรปกลางแม่งธรรมดามากครับ เอาจริงๆนะวิทเชอร์มันคล้ายไบโอมากตรงที่เกมสนุกแต่สื่ออื่นๆไม่สนุกเท่าเกม แต่ไบโอจะหนักกว่าตรงหนังทำมายังไงก็แย่

[providence_gundam]

ดีที่ดองไว้ ลบออกจาก watchlist สบายใจ

[pol]

[quote/]
ถ้าสโนไวท์จะผิวดำได้แค่คนดำโพล่ในยุโรปกลางแม่งธรรมดามากครับ เอาจริงๆนะวิทเชอร์มันคล้ายไบโอมากตรงที่เกมสนุกแต่สื่ออื่นๆไม่สนุกเท่าเกม แต่ไบโอจะหนักกว่าตรงหนังทำมายังไงก็แย่

คนดำนะโผล่ได้ครับแต่มันต้องมีเหตุผลที่ยอมรับได้ อย่างแกลดิเอเตอร์เพื่อนของพระเอกเป็นนิโกรมันก็ไม่แปลกเพราะโรมันก่อสงครามไปทั่ว จะจับคนดำมาเป็นทาสมันก็เรื่องปกติ แต่ยุโรปยุคกลางหรือยุคมืดมันเกือบๆจะเป็นสังคมปิดนะ แล้วคนดำมาจากไส?   
ส่วนไบโอฯ นี่พูดกันตรงๆว่าเนื้อเรื่องของมันนะหนังเกรดบีชัดๆ มีเรื่องอีหยังวะเยอะมากๆ ส่วนเดอะวิชเชอร์ถ้าท่านไม่เคยอ่านมันก็จะคล้ายๆกับเกมส์ออฟโทรนนั่นแหละ  คือไม่ดังในระดับแฮร์รี่พอตเตอร์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แต่ก็ดังเอาเรื่องนะครับ

[Black7nos]

[quote/] เอาง่ายๆเลยก็คือมันเป็นนิยายที่เอายุโรปยุคกลางมาเป็นพื้นฐานครับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่คนแอฟริกันจะไปโผล่ในสถานที่นั้นได้ เพราะยังไม่เริ่มมีการค้าทาส หรือถ้าเป็นการเดินทางไปเองก็มีจำนวนไม่มาก แต่คนเขียนบทยัดเยียดให้ตัวละครในเรื่องที่เป็นคนยุโรปเปลี่ยนไปเป็นคนแอฟริกัน ที่สำคัญพวกแม่มดในนิยายจะสวยมากเพราะเจ้แกจะใช้ความงามในการเจรจาต่อรอง ว่าง่ายๆก็คือยั่วยวนนั่นแหละ ดำไม่พอที่สำคัญคือขี้เหร่อีกด้วยครับ     สุดยอดพ่อมดอย่าง วิลเกอร์ฟอร์ด ที่เก่งราวๆไอเซ็น โซสุเกะ ในบลีซ ก็เนิร์ฟพลังจนทุเรศ การเล่าเรื่องก็แย่ถ้าจำไม่ผิดจะสลับไปมาจนดูแล้วไม่รู้เรื่อง อาวุธ ชุดเกราะ ก็สอบตก(โดยเฉพาะชุดหนังไข่ของเนียฟการ์ด)   ตัวละครแย่ บทห่วย  คอสตูมหมาไม่แหลก มันเหมือนกับเรามีเนื้อวัวชั้นดี  เครื่องปรุงรสชั้นยอด  เครื่องมือชั้นเยี่ยม แต่ดันเจอพ่อครัวกากสัสๆ ผลที่ได้ก็เลยเป็นอย่างนี้นี่เอง สาธุ 

เรื่องราวจริงๆของวิทเชอร์ คนเขียนเขาอิงมาจากยุคกลางของโปแลนด์และอาณาจักรโดยรอบของโปแลนด์เลย
เช่น โบฮีเมีย(สาธารณรัฐเช็ก) พวกชาวนอร์ด(สวีเดน) พวกประเทศที่เป็นชนชาติสลาวิคอื่นๆ เช่น ลิทัวเนีย เบลารุส เอสโตเนีย ฯลฯ
อย่างอาณาจักรเรดาเนีย มันก็คือโปแลนด์ยุคกลางแท้ๆเลย
แถมตาม Timeline มันคือยุคกลางต้นๆด้วย คนในเรื่องมันยังนับถือผีไหว้ผีกันอยู่เลย
แถมคนเขียนยังมีจิกกัดเสียดสีสังคมยุคกลางของโปแลนด์ไว้เยอะด้วย
ซึ่งมันจะเป็นสังคมของชาวสลาวิค


จริงๆ จะใช้คนผิวสีก็ใช้ได้แต่มันต้องดูบริบทด้วย จริงๆจะเอาคนผิวสีไปเป็นพวก Dryad เช่น นางไม้ก็พอรับได้อยู่ เพราะมันไม่ได้ระบุชัดเจน
ส่วนสเกลพลังไม่ควรไปเปลี่ยนมัน วิลเกอฟอร์ด มันคือโครตบอสของเรื่อง Witcher เลย มันไม่กากเหมือนในซีรีย์นะ
ขนาดเกราลด์กับเพื่อนรุมวิลเกอฟอร์ด ฝ่ายเกราลด์ยังเกือบเป็นฝ่ายแพ้ซะเองเลย

[Rumia]

[quote/] คนดำนะโผล่ได้ครับแต่มันต้องมีเหตุผลที่ยอมรับได้ อย่างแกลดิเอเตอร์เพื่อนของพระเอกเป็นนิโกรมันก็ไม่แปลกเพราะโรมันก่อสงครามไปทั่ว จะจับคนดำมาเป็นทาสมันก็เรื่องปกติ แต่ยุโรปยุคกลางหรือยุคมืดมันเกือบๆจะเป็นสังคมปิดนะ แล้วคนดำมาจากไส?   
ส่วนไบโอฯ นี่พูดกันตรงๆว่าเนื้อเรื่องของมันนะหนังเกรดบีชัดๆ มีเรื่องอีหยังวะเยอะมากๆ ส่วนเดอะวิชเชอร์ถ้าท่านไม่เคยอ่านมันก็จะคล้ายๆกับเกมส์ออฟโทรนนั่นแหละ  คือไม่ดังในระดับแฮร์รี่พอตเตอร์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แต่ก็ดังเอาเรื่องนะครับ

ไช่ครับมันดังแต่มันไม่ดังพอจะขายได้ห้าพันล้านแบบที่มันฟ้องเกมจริงไหมครับ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สนุกครับแต่ชื่อเสียงและเงินมาจากเกมไม่ไช่นิยายครับ เอาตรงๆ99%ทังเงินทังชื่อเสียงมาจากเกมล้วนๆฟ้องไห้เกมแบ่งรายได้30%และค่าเสียผลประโยชน์5พันล้าน คุณคิดว่าหนังสือมันขายได้ยอดนี้จริงๆดิและมันดังแค่ในโปแลน เกมทำไห้ดังทัวโลกผมถึงบอกว่ามันไม่ได้ดังมาจากตัวมันเองไงครับ จริงอยู่ว่าเรื่องมันสนุกจริงแต่มันก็ไม่มีทางมีมูลค่าสูงขนาดนี้ถ้าไม่มีเกม เกมภาค3ทำไห้วิชเชอร์คูนมูลค่าหลายพันเท่ามันไม่เหมือนนยายเรื่องอื่นที่นิยายดัง แล้วค่อยถูกหยิบมาทำเกมวิชเชอร์มันคือเกมดังแล้วคนค่อยไปหานิยายครับ

[Black7nos]

[quote/]
ไช่ครับมันดังแต่มันไม่ดังพอจะขายได้ห้าพันล้านแบบที่มันฟ้องเกมจริงไหมครับ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สนุกครับแต่ชื่อเสียงและเงินมาจากเกมไม่ไช่นิยายครับ เอาตรงๆ99%ทังเงินทังชื่อเสียงมาจากเกมล้วนๆฟ้องไห้เกมแบ่งรายได้30%และค่าเสียผลประโยชน์5พันล้าน คุณคิดว่าหนังสือมันขายได้ยอดนี้จริงๆดิและมันดังแค่ในโปแลน เกมทำไห้ดังทัวโลกผมถึงบอกว่ามันไม่ได้ดังมาจากตัวมันเองไงครับ จริงอยู่ว่าเรื่องมันสนุกจริงแต่มันก็ไม่มีทางมีมูลค่าสูงขนาดนี้ถ้าไม่มีเกม เกมภาค3ทำไห้วิชเชอร์คูนมูลค่าหลายพันเท่ามันไม่เหมือนนยายเรื่องอื่นที่นิยายดัง แล้วค่อยถูกหยิบมาทำเกมวิชเชอร์มันคือเกมดังแล้วคนค่อยไปหานิยายครับ

จริงๆ เรื่องนี้เป็นนิยายที่ดังอยู่แล้วแต่ดังเฉพาะในโปแลนด์ จริงๆก่อนมีเกมส์ในโปแลนด์ก็เคยทำเป็นหนังมาแล้ว เมื่อปี 2001

อันนี้คือหนังตัวเต็มเมื่อปี 2001 ในโปแลนด์ Witcher จะอ่านว่า Wiedzmin


พอ CD Projekt Red มาทำเป็นเกมส์มันก็เลยดังเป็นพลุแตกเลย โดยเฉพาะภาค 3
เสน่ห์ของ Witcher มันคือการเดินเรื่องโดยเนื้อเรื่องมันจะตั้งคำถามต่อผู้อ่านเรื่องคุณธรรมที่เรายึดถือ เกี่ยวกับ Lesser Evil หรือ Evil is Evil ตลอดการเดินเรื่อง

ล่าสุดมี Anime ของ Netflix Witcher : Sirens of the Deep ดูเหมือนจะปั้นตัวละครตาม Witcher ในเกมส์เลย

[tree1366842]

การแคส นักแสดงมีส่วน เเละ บท ตัวละครที่บางตัว ตาย เฉย

[deaddy]

สรุป นิยายมันมีของให้เอาไปทำได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนไอ้เรื่องดีมากพอไม่มากพอน่ะ มันไม่มีหรอกว่า


นิยายสนุก 100 ส่วน จะขายได้มากกว่า นิยายที่สนุก 50 ส่วนเป็น x เท่า


มันมีแค่ สนุกมากพอไหม แล้วอยู่ในกลุ่มลูกค้าเยอะแค่ไหน


ต่อให้นิยายแฮรี่ สนุกกว่านี้ 100 เท่า แต่แฮรี่เป็นเกย์นิโกร ชอบจ้องก้นมัลฟอย
จนโดนหลายๆประเทศแบน ยอดขายมันก็ไม่เยอะกว่าปัจจุบันหรอก


เพชรพระอุมาสนุกแค่ไหนไม่รู้ แต่สนุกกว่านี้ 10 เท่า
ก็ไม่มีโอกาสได้ทำเป็นอนิเมะฉายไปทั่วโลกหรอก