[quote/]
รายงานอย่าง/ม่เป็นทางการ เหมือนมีข่าวมาครับ
ของ อเมริกา (ทางทหารวิจัย) ก็มีทำครับ โดยดารคพนวน คาดว่าน่าจัยืดอายุคนเราออกไปได้ ถึง 200-300 ปี โดยคงสถาพ ช่วง20-30เอาไว้ เหมือนวิจัยเพื่อ คง ประสิทธภาพของทหาร/ว้ให้สูงสุด ยาวนานสุดหรือไงนี่แหละ เพราะ พีคๆ ก็ราวๆ 20-30
ซึ่งำม่ไม่มีข่าวว่าทดลองกับคนอย่างเแ็นทางการ (คิดว่าแม่งแอบทดลองล่ะแน่นอน)
ทางจีน ก็ไม่ได้น้อยหน้าครับ มีข่าวมาว่า เริ่มมีการทดลอง ด็ดแปลงพันธุกรรม มนุษย์ กันแล้วนะ ตามข่าวคือยังทำอยู่กับ ห้องทดลอง ยังไม่ได้สร้างคนขึ้นมาจริงๆ เราอาจได้เห็น มนุยษ์กลายพันธ์ที่มีพลังของสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นก็งานนี้แหละ
อ้อ ทำในขั้นทดลอง กับเซลล์นะครับ เห็นว่า การทดลอง เซลล์ทดลองยังถือว่าเป็นเซลล์ของมนุษย์ แม้จะม่การแบ่งตัวตามอายุไปมากแล้วก็ตาม
แบบในสไปเดอร์แมนนั่นแหละที่เอาพันธุกรรมสัตว์อื่นมาใส่ปนกับคน
การทดลองจำพวกนี้ ถ้าผทเข้าใจไม่ผิดเขาจะ ดลองกับคนไข้บางกลุ่มที่การรักษาตามปกติมันไม่มีทางไปต่อล่ะ พวกนี้ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เช่นกัน
ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ นิวโรลิ้ง ถ้ามาจริง มันคือการก้าวข้ามขีดจำกัดของการบังคับ ผ่านอุปกรณ์ หรือรีโมท ช่วงแรกที่มาผมมองว่ามันช่วยคนพิการได้แน่นอน
และช่วยเรื่องการควบคุม อุปกรณ์เครื่องจักรที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
สงสัยว่าท่านอ่านเม้นผมไม่ละเอียด มั้ง คือ
ตา อีลอนพูด ออกช่องนึงว่า มันสามารถเข้าไปแก้ความผิดปกติในสมองของมนุษย์ได้
หากตีความสุดโต่งเลยคือ นอกจากส่งคำสั่งออกมาภายนอกได้แล้ว สามารถส่งเข้าด้านในสมองได้ด้วย แต่ต้องรอทดลองกับมนุษย์ ปี้ฝหน้าก็เริ่มทดลองแล้ว
นิวโรลิ่ง อีลอนก่อตั้งหลัง สเปชX เสียอีกนะ แต่รู้สึกไปไวพอตัว
ช่องที่ตาอีลอนไปออก ก็มีนักวิจัยที่ทำงานให้องกรณ์ของรัฐเคยมาออกว่ารัฐบาล
ได้มีการทดลอง เกี่ยวกับการฝังชิบเข้าไปในสัตว์ทดลองโดยการใช้เพื่อควบคุมหรือบังคับแบบหุ่นยนต์
ผมมองว่าเทคโนคล้ายๆ กับนิวโรลิ้ง แต่ต่างกันตรงวิธีและเทคนิค ทางคนที่มาออก อ้างว่าทำได้ในระดับที่ใช้งานจริง กับสัตว์ทดลองแล้ววิจัยสำเร็จมาหลายปีแล้วด้วย
เทคโนเกี่ยวกับการควบคุมหรือส่งข้อมูลเข้าออกสมอง กำลังใกล้จะมาเต็มทีล่ะมั้ง แต่กว่าจะใช้งานกับมนุษย์ได้ คงต้องรออีกยาวๆ
ความหวังเอามาเล่ยเกมนี่ ยากครับ เพราะใหม่ๆ มายังไงก็แพงมาแน่ๆ
ถ้าเป็นเอกสารผมไม่ได้อ่านแน่นอน
แต่อุปกรณ์การส่งข้อมูลใส่สมอง ผมไม่เคยได้ยินว่ามีนะ
ส่วนการฝึกสัตว์ กับการส่งข้อมูลมันคนละอย่าง
เหมือน คิดยังไง ยังอ่านได้ แต่การส่งข้อมูลเข้ามันซับซ้อนกว่าเยอะ
เอาง่ายๆ แค่ส่งข้อมูล ปรกติมันใช้ชิพใหญ่แค่ไหน
ทั้งถ่านทั้ง ตัวรับตัวส่ง ยัดเข้าไปในสมอง
ถ้าการคำนวนมีความร้อนสูง ก็โดนสมองตรงๆ
แค่เทคโนโลยี อ่านความคิดให้เป็นภาพ ยังไม่เห็นข่าวเลย
แล้วเข้าไปแก้น่ะถ้าไม่มีข้อมูลละเอียดอย่าเพิ่งเดาเลย เพราะอีกนานชัวๆ
เพราะแผนน่ะคงมี แต่มันยังต้องเก็บฐานข้อมูลอีกเพียบ
ยังไม่นับเรื่องความปลอดภัยอีก
ถ้ามันเป็นเทคโนโลยี ที่ไม่มีผลต่อร่างกายมนุษย์คงมาไวอยู่
แต่ยัดเข้าสมองแบบนั้น เข้าข่ายงานวิจัยที่ต้องมีข้อมูลการทดลองยืนยันอีกนาน
คือต่อให้เทคโนโลยีมาแล้ว ก็ต้องทดลองการใช้จริงอีกเป็น สิบๆปีกว่าจะขาย
เพราะงั้นไม่มาง่ายๆหรอก คือต่อให้ทำได้หมด ยังไงก็ต้องรอผลทดสอบใช้จริงอีก อันนี้เพิ่งขออนุญาติทดลองรุ่นแรกในมนุษย์เอง
ตัวอ่านน่ะผ่านง่าย แต่ตัวเขียนน่ะ ไม่รู้อีกกี่ปีกว่าเขาจะอนุญาติให้ทดสอบ
นี่ยังไม่นับที่เทคโนโลยีการเขียนยังไม่มีเจ้าไหนพูดถึงให้เห็นเลย
ส่วนเทคโนโลยีประเทศต่างๆ ดัดแปลงมนุษย์น่ะมีนานแล้ว แต่มันมีหลายสูตร
สูตรแช่แข็งคือ สเต็มเซล แช่แข็ง แล้วก็โคลนออกมาได้เรื่อยๆ
ส่วนไอ้ที่บอก 2-300 ปีน่าจะเว่อไปครับ
มันมีการทดลองเพื่อหาว่าคนน่าจะมีอายุยืนสูงสุดได้เท่าไหร่
มันมีขีดจำกัดในการแบ่งตัวของ dna รึอะไรซักอย่างอยู่ คือประมาณน่าจะไม่เกิน 150 ปีนะถ้าจำไม่ผิด
คือพอแบ่งตัวครบ มันก็อาจจะเสียรูปไปหมดแล้ว
แต่ถ้ามันทำได้เรื่อยไม่หมดก็อมตะนั่นแหล่ะ
ถ้าแช่แข็งเซลล์ต้นแบบไว้ แล้วเอามาใช้ตอนแก่น่ะได้
แต่ทุกส่วนน่ะอาจจะดปลี่ยนได้ แต่การเปลี่ยนสมองน่ะไม่เคยได้ยินเทคโนโลยีนี้นะ
เพราะงั้น พออายุเยอะมากๆถึงจะเปลี่ยนร่างกายได้หมด ก็เจออัลไซเมอร์ รึสมองฝ่อ สมองตายอยู่ดี
เพราะงั้นถ้าไม่เปลี่ยนให้สมองใช้งานได้ไปตลอด
สุดท้ายร่างใหม่ก็ตายอยู่ดี
ส่วนเทคโนโลยี แช่แข็งแบบหนัง แล้วไปกระตุ้นให้ตื่น
ยังไม่เห็นเจ้าไหนเคลมว่าทำได้
เจอแต่ บ. รับจ้างแช่แข็งไว้ก่อน แล้วไปลุ้นเทคโนโลยีทำให้ฟื้นทีหลัง
เพราะงั้น 2-300 ปีน่ะ อาจจะเป็นเทคโนโลยีการแช่แข็ง
เก็บเซลล์ไว้ 200 ปี แต่ถ้าเป็นคนก็ตายนั่นแหล่ะ
แล้วอาจจะมีคนคิดค้นการคืนชีพคนโดนแช่ในอีก 100 ปีข้างหน้าไรงี้
แต่ครั้งสุดท้ายที่ฟัง ผู้บริหาร บ.ที่รับจ้างแช่แข็งเซลล์
เขาก็ยังไม่เคลมนะว่าจะทำให้เป็นอมตะ