แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนตาซี-เอาอักขระที่ซับซ้อนออกทำให้ร่ายได้เร็วและแรงขึ้น?  (อ่าน 2262 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
กลับมาคิดเรื่องนี้อีกแล้วครับ
ว่าจากการที่คนญี่ปุ่นใช้อักษรคันจิหรือเอาตัวอักษรอักขระเวทย์ออก

และทำให้ร่ายได้เร็วและแรงขึ้น...ก็เกิดคำถามที่ว่า
แล้วไอ้อักขระก่อนหน้านั้นมันใส่ไว้ทำไม?

มีคนแซวสตาวอส์ว่า เรย์บายพาสคอมเพรสเซอร์ และมีภาพยานระเบิดเพราะไม่มีครอมเพสเซอร์ในช่วงที่บินแบบไฮเปอร์ไดรว์ ???

เหมือนกับจะบอกว่า
เอ้า รถวิ่งได้แล้ว
ไม่ต้องสนอุปกรณ์ที่เราเอาออกไปจากรถ ของพวกนี้ทำให้รถวิ่งได้ช้าลง....

เราจะเชื่อถ้าคนบอกกับเราอย่างนี้หรือเปล่าครับ?
ว่าเห็นรถอยู่ดีดี คนหนึ่งเอาประตูหน้าต่างออกและบอกว่าจะทำให้รถแรงและเร็วมากขึ้น

อุปกรณ์ที่บริษัทผลิตรถทำมาน่ะมันกระจอก เอามันออกไป


แน่นอน มันก็ม่ีีคนที่แต่งรถเพื่อเป้าหมายความสนุกของตนเองทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้
แต่พวกนั้นก็ต้องหาอุปกรณ์ที่ดีกว่า จูนเครื่องต่างๆแต่งไปจากเดิม ไม่ได้ทำให้เรียบง่ายน้อยลงแต่อาจจะซับซ้อนมากขึ้นอีกน่ะครับ

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?
ผมอาจจะแถให้ว่า

วงเวทย์ที่ซับซ้อนน่ะ

เมหือนกับการมีล้อช่วยขี่จักรยานของจอมเวทยื

ว่านักเวทย์ในอิเซไคไม่ใช่ตัวประลหาดเฒ่าของจีน

ยังห่วงความเป็นตายของลุกศิษย์อยู่
ดังนั้นวงเวทย์มาตรฐานเลยค่อนข้างวางมาตรการป้องกันไว้ดีแล้วในการร่ายว่าจะไม่เกิดอันตรายหากร่ายผิดพลาด

แต่เนื่องจากปลอดภัยมากและแพร่หลายมากเกินไป

ไม่มีใครคิดจะเอาตัวป้องกันนั้นออก หากใช้ในการต่อสู้จริงๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
เปล๊า วงเวทย์สมัยก่อนคือ เอาไว้เท่ห์ๆ ครับ  :) :) :) :)   ยิ่งวาดวงเวทย์ได้ดูดี มันยิ่งขลัง  ความคลาสสิกของเวทมนตร์แบบโบราณๆ

ส่วนสมัยนี้  วงเวทแทบไม่มีความจำเป็น เพราะแนวเวทมนตร์ยุคนี้ มันคือ เกมหมด  แค่กด F1 F2 F3 แบบที่ผมเคยพูดบ่อยๆ

ไม่ก็ใช้ อุปกรณ์ช่วยประมวลผลวงเวทแบบ Mahouka   หรือ วิทยาการล้ำหน้าจนสูตรเวทย์สั้นลง  แยยเรี่อง นาโนฮะ
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,001
  • ถูกใจแล้ว: 4599 ครั้ง
  • ความนิยม: +300/-441
เครื่องจัก ไอน้ำ กับ เครื่องจักรน้ำมันยุคปัจุบันล่ะมั้งถ้าจะให้เทียบ




ผมมองว่าทุกอย่างนั้นมันควรมีจุดที่เป็หลักการจริงๆ ของมัน
แต่หากเราไม่เข้าใจ เราไม่สามารถเอามาใช้ได้โดยตรง ต้องใช้ทางอ้อมๆ


แบบเครื่องจักไอน้ำ ที่สมับก่อนเรายังไม่มี น้ำมัน
เราใช้ถ่านหินไปต้มน้ำ สร้างแรงดันเอามาสร้างพลังงานอีกที
ยุคนี้ใช้น้ำมันสร้างพลังงานขึ้นมาแทบจะโดยตรง ขนาดเครื่องเล็กกว่า เครื่องจักไอน้ำมากๆ


 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,379
  • ถูกใจแล้ว: 2053 ครั้ง
  • ความนิยม: +191/-398
  • เพศ: ชาย
ละไว้ในฐานที่เข้าใจรึเปล่า แบบแฮรี่ หลังๆก็ไม่พูดละ ยิงเลย
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
เปล๊า วงเวทย์สมัยก่อนคือ เอาไว้เท่ห์ๆ ครับ  :) :) :) :)   ยิ่งวาดวงเวทย์ได้ดูดี มันยิ่งขลัง  ความคลาสสิกของเวทมนตร์แบบโบราณๆ

ส่วนสมัยนี้  วงเวทแทบไม่มีความจำเป็น เพราะแนวเวทมนตร์ยุคนี้ มันคือ เกมหมด  แค่กด F1 F2 F3 แบบที่ผมเคยพูดบ่อยๆ

ไม่ก็ใช้ อุปกรณ์ช่วยประมวลผลวงเวทแบบ Mahouka   หรือ วิทยาการล้ำหน้าจนสูตรเวทย์สั้นลง  แยยเรี่อง นาโนฮะ

oั่นคือเหตุผล meta
ผมอยากจะอธิบายเหตุผลตามจักรวาลของเนือ้เรือ่งนั้นๆน่ะครับ
ว่าแนว the witcherที่วิทเชอร์ร่ายคาถาสั้นๆ เร็วๆเพราะต้องใช้ในการต่อสู้จริง
แต่กับคาถาระดับย้ายมิติผ่าจักรวาลนั้น ก็ต้องอาศัยพ่อมดที่เน้นการศึกษาค้นคว้าจริงๆ ไม่ใช่ใครอยากทำก็ทำได้อธิบายว่าการกด f1 f2 f3 มันอาจะจใช้ไดแต่ในฉากต่อสู้ส่วนคาถาที่รุนแรงกว่านั้น ไม่สามารถใช้ในฉากต่อสู้ได้ ปรากฎแต่ในฉากคัทซีนเท่านั้นน่ะครับ
ละไว้ในฐานที่เข้าใจรึเปล่า แบบแฮรี่ หลังๆก็ไม่พูดละ ยิงเลย
คือที่เราเห้นกันมันแสดงว่าการต่อสู้จริงในแฮร์รี่ก็สมจริงระดับหนึ่งว่าคนที่สามารถใช้คาถาในกาต่อสู้ได้ดีคือคนที่ใช้คาถาได้แบบเงียบๆ ฝ่ายตรงข้ามจะไม่รู้ว่าเราร่ายว่าอะไรหรือคนที่มีคุณสมบัติโกงแบบแฮร์รี่ ที่ไม้กายสิทธิ์ทำงานแบบออโต้น่ะครับ
ว่าหลายคนอาจจะลืมไปว่าแฮร์รี่นี่มันตัวโกงตัวหนึ่งของเรื่องเลยนะครับ
เครื่องจัก ไอน้ำ กับ เครื่องจักรน้ำมันยุคปัจุบันล่ะมั้งถ้าจะให้เทียบ




ผมมองว่าทุกอย่างนั้นมันควรมีจุดที่เป็หลักการจริงๆ ของมัน
แต่หากเราไม่เข้าใจ เราไม่สามารถเอามาใช้ได้โดยตรง ต้องใช้ทางอ้อมๆ


แบบเครื่องจักไอน้ำ ที่สมับก่อนเรายังไม่มี น้ำมัน
เราใช้ถ่านหินไปต้มน้ำ สร้างแรงดันเอามาสร้างพลังงานอีกที
ยุคนี้ใช้น้ำมันสร้างพลังงานขึ้นมาแทบจะโดยตรง ขนาดเครื่องเล็กกว่า เครื่องจักไอน้ำมากๆ



อาจจะเป็นแนวคิด ความเข้าใจต่างไป ทำให้เราสามารถหาวิธีที่ย่นย่อได้ก็ว่างั้นล่ะครับแต่มันก็มีปัญหาความทนทานล่ะมั้งครับ
ไปเจอคนวิจารรืรถฟอร์ดในอเมริกาว่า พยายามจะเพิ่มประสิทธิภาพจนมากที่สุด ทำให้ใช้งานจริงๆสักพักก็พัง
แต่โตโยต้า เทคโนโลยีล้าหลังกว่า แต่ผุ้ใช้ชอบมากวก่ามาก
วิ่งฝ่าทะเลทราย ฝ่าระเบิดในอัฟกันก็ยังวิ่งต่อไปได้
ผมมองว่ามันคือเป้าหมายต่างกันน่ะครับ
ฟอร์ดทำแบบแนวคดิอเมริกาเป๊ะๆเลยคือ เพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นแม้เพียงจะนิดหน่อยก้ยอม
ส่วนโตโยต้าก็เน้นคงทนไปเลยถูกใจผู้ก่อการร้าย
หรือสงครามยุเครนนี้ เอารถถังเยอรมันไปใช้ในสงครามก็เครียดกับการหาอะไหล่เปลี่ยนทั้งที่คุณสมบัติเทพมากๆ
ผมอยากจะแถว่า ไม่ใชซไคคิดผิดแต่เป้าหมายคือหากใช้ด้วยความรวดเร็วและแรงก็นับว่าถูกต้องอยู่เพระาไม่ได้ต้องการความซับซ้อนของคาถามากนักอย่างคาถาในฉากคัทซีน
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Exboss

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,565
  • ถูกใจแล้ว: 1091 ครั้ง
  • ความนิยม: +96/-116
ยกตัวอย่าง อารมณ์แบบในเรื่องระบบของ น้องแมงมุม จาก เรื่องแมงมุมแล้วไง ข้องใจเหรอค่ะ แล้วกันเวทมนตร์ ในเรื่องนี้ จะมีระบบค่อยช่วยในการร่ายเสมอ ควบคุม ทำให้คนที่ไม่มีความเข้าใจในรายละเอียดก็ร่ายเวทมนตร์ได้ ขอแค่ระดับสกิลถึงพอแต เวทมนตร์จริงๆของแท้ในเรื่องจะใช้คำว่า ศาสตร์เวท เป็นการที่ต้องเริ่มการร่ายเอง สร้างวงเวทเอง ควบคุมเอง กะระดับ ใส่คุณสมบัติเอง ต้องทำเองทุกอย่าง ต้องมานั่งแกะจากเวทในระบบที่ตัวเองพอจำได้ว่า ตรงไหนของวงเวทมีไว้ทำอะไรค่อยๆลองไปทีละส่วน และขาดคุณสมบัติใช้ร่วมกับระบบไป
ยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งที่ จอมมารและผู้กล้าในอดีต ได้ใช้เวทมนตร์โจมตีที่ โดย ใช้ผ่านเวทห้วงมิติ ตอนที่ยังอยู่ในขอบเขตของระบบก็โจมตีส่งผ่านไปได้แต่ พอหลุดจากขอบเขตของระบบเวทก็หลุดการควบคุมทันที่ เพราะ ตัวเจ้าของเวทไม่เคยมีพื้นฐานของการควบคุมพลังระดับนี้แบบนี้ด้วยตัวเอง
 น้องแมงมุมได้ยกตัวอย่างคือ เหมือนคนในระบบได้ขี่จักรยานที่มีล้อช่วยในการทรงตัว แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในระบบคือ มอไซร์ที่ไม่มีล้อช่วยทรงตัวจักรยานขี่ง่ายกว่า วิ่งเร็วไป ก็ไม่ล้มมีล้อช่วย มอไซร์แรงกว่า เร็วกว่า แต่ไม่มีตัวช่วยใดๆ ต้องควบคุมเอง แถมยังยากยิ่งกว่า แต่ไปได้เร็วและไกลกว่าจักรยานแน่นอน
 ในบ้างเรื่องก็บอกว่า วงเวทที่มันมีจุดไม่จำเป็นหรือจุดที่เป็นลิมิต ก็ เพื่อการฝึกสอน หรือ ความปลอดภัยของผู้ใช้งานทั่วไป หรือ เพราะ เป็นการซ่อมแซมความรู้ที่ขาดหายไป เรื่องเกินๆขาดๆ ไม่รู้รายละเอียดว่าตรงไหนเวททำอะไรบ้างใส่ๆมาแล้วใช้ได้ก็สอนๆกันไปแบนั้น ???
 การขับรถนี้ถ้าเอาแค่วิ่งแบบเดียวคือใส่แค่เครื่องยนต์ ไม่สนใจความปลอดภัยของคนขับ ก็ เร็วได้ตามฝันแน่นอน แต่แลกชีวิตละนะ  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 12, 2022, 08:59:22 PM โดย Exboss »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
ยกตัวอย่าง อารมณ์แบบในเรื่องระบบของ น้องแมงมุม จาก เรื่องแมงมุมแล้วไง ข้องใจเหรอค่ะ แล้วกันเวทมนตร์ ในเรื่องนี้ จะมีระบบค่อยช่วยในการร่ายเสมอ ควบคุม ทำให้คนที่ไม่มีความเข้าใจในรายละเอียดก็ร่ายเวทมนตร์ได้ ขอแค่ระดับสกิลถึงพอแต เวทมนตร์จริงๆของแท้ในเรื่องจะใช้คำว่า ศาสตร์เวท เป็นการที่ต้องเริ่มการร่ายเอง สร้างวงเวทเอง ควบคุมเอง กะระดับ ใส่คุณสมบัติเอง ต้องทำเองทุกอย่าง ต้องมานั่งแกะจากเวทในระบบที่ตัวเองพอจำได้ว่า ตรงไหนของวงเวทมีไว้ทำอะไรค่อยๆลองไปทีละส่วน และขาดคุณสมบัติใช้ร่วมกับระบบไป
ยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งที่ จอมมารและผู้กล้าในอดีต ได้ใช้เวทมนตร์โจมตีที่ โดย ใช้ผ่านเวทห้วงมิติ ตอนที่ยังอยู่ในขอบเขตของระบบก็โจมตีส่งผ่านไปได้แต่ พอหลุดจากขอบเขตของระบบเวทก็หลุดการควบคุมทันที่ เพราะ ตัวเจ้าของเวทไม่เคยมีพื้นฐานของการควบคุมพลังระดับนี้แบบนี้ด้วยตัวเอง
 น้องแมงมุมได้ยกตัวอย่างคือ เหมือนคนในระบบได้ขี่จักรยานที่มีล้อช่วยในการทรงตัว แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในระบบคือ มอไซร์ที่ไม่มีล้อช่วยทรงตัวจักรยานขี่ง่ายกว่า วิ่งเร็วไป ก็ไม่ล้มมีล้อช่วย มอไซร์แรงกว่า เร็วกว่า แต่ไม่มีตัวช่วยใดๆ ต้องควบคุมเอง แถมยังยากยิ่งกว่า แต่ไปได้เร็วและไกลกว่าจักรยานแน่นอน
 ในบ้างเรื่องก็บอกว่า วงเวทที่มันมีจุดไม่จำเป็นหรือจุดที่เป็นลิมิต ก็ เพื่อการฝึกสอน หรือ ความปลอดภัยของผู้ใช้งานทั่วไป หรือ เพราะ เป็นการซ่อมแซมความรู้ที่ขาดหายไป เรื่องเกินๆขาดๆ ไม่รู้รายละเอียดว่าตรงไหนเวททำอะไรบ้างใส่ๆมาแล้วใช้ได้ก็สอนๆกันไปแบนั้น ???
 การขับรถนี้ถ้าเอาแค่วิ่งแบบเดียวคือใส่แค่เครื่องยนต์ ไม่สนใจความปลอดภัยของคนขับ ก็ เร็วได้ตามฝันแน่นอน แต่แลกชีวิตละนะ  ;D
ก็นั่นละ่ครับ
ผมไปเจอโรลเพลย์มาคล้ายๆแนวน้องแมงมุมบอกว่าหากใช้ระบบในการเติบโต เราจะเมหือนกับอนไซ ระบบจะรู้ว่าเราเติบโตแค่ไหน

ความจริงคนก้๕วรจะคิดได้อยู่การมีระบบแปลว่าน่าจะมีสิ่งทีี่ควบคุมความเป็นจริงอยู่ว่างั้น

แต่ปัญหาที่ผมเจอพวกฝรั่งวิจารณ์์
คอืพวกสายวิทย์เป็นคนที่ชอบค้นคว้าน่ะครับ
บอวก่าแปลกใจที่ดูคนไม่ค่อยค้นคว้า
พวกชอบสายโรมันอย่างฝรั่งก็วิจารณ์เรื่องเกทว่า


นักปราชญ์ชาวกรีกน่ะ วิจาณร์เรือ่งดลกกลมไว้พอสมควรตั้งนานแล้ว
และไม่ใช่คนที่จะต่อต้านความคิดของนักปราชญ์ด้วยกันขนาดนั้น

ว่ามีการค้นคว้าอยู่เสมอ

คณิตศาสตร์สมัยก่อน สี่เหลี่ยมมหัศจรรย์ก็มีการคิดักนมาหลายพันปีะลแ้วน่ะคัรบ

ผมเชื่อว่าหากเราบอกสูตรคณิตศาสตร์ปัจจุบันไป นักปราชญ์อย่างอาคีดีมีสก็เข้าใจนั่นล่ะ ไม่ใช่ปัญหาเลย

อาจจะพออธิบายว่าสมการเวทย์มีการพันาตามกาลเวลาก็อาจจะได้

ว่าศาสตร์คณิตศาสตรืและโปรแกรมในปัจจุบัน ทำให้สามารถเขียนสิ่งที่ต้องการได้ดีกว่า

แต่พระเอกอิเซไค ไม่เคยใส่ใจเรือ่งการรักาาาความปลอดภัยของตนเองอาจจะอ้างว่าเพระามีการควบคุมเวทย์ทีเ่หนือกว่าคนในยดลกนั้นก็ได้ครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
แบบร่ายๆยาวๆ มันก็จะดูขลังๆแบบนี้   ??? ??? ???

แบบใช้อุปกรณ์ "ช่วยยิง"   :) :) :)
 

ออฟไลน์ jatupal

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,530
  • ถูกใจแล้ว: 632 ครั้ง
  • ความนิยม: +30/-33
ขึ้นอยู่กับแนวคิดของเรื่องมากกว่า เช่นโจทย์ให้คำนวณพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านละ 10ซม.

คนนึงวาดวงกลม ครอบสี่เหลี่ยม จากนั้นคำนวณหาส่วนเกินเพื่อเอาไปลบกับพื้นที่ของวงกลม เพื่อให้เหลือพื้นที่ของสี่เหลี่ยมข้างใน

กับอีกคนเอากว้างคูณยาว คิดว่าใครจะคำนวณเสร็จเร็วกว่า
 

ออฟไลน์ According to

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,556
  • ถูกใจแล้ว: 436 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-29
ขึ้นกับว่าเวทมนตร์ใช้ได้ด้วยวิธีไหนล่ะมั้ง ตอนนี้ผมนึกออกสองแบบ


แบบที่ 1 เวทมนตร์มาจากพลัง ไม่จำเป็นเข้าใจว่ามันออกมาจากไหน ขอแค่มีพลังเวทก็ใช้ได้ทุกคน คอนเซปต์นี้ควรใช้การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม นั่นคือยิ่งมีความยากในการร่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงนั่นเอง เวทที่ไม่ต้องสร้างวงเวท(หรือพวกเวทไร้ร่าย)ยิงได้เร็วสุดแต่เบา เวทที่ใช้วงเวทเล็ก ๆ(หรือเวทคำร่ายยาว ๆ)จะเสียเวลาแต่จะแรงขึ้น ยิ่งมีการใช้วงเวทซับซ้อนก็ยิ่งเตรียมการนานขึ้น ทำให้แรงขึ้นไปอีก


แบบที่ 2 เวทมนตร์มาจากจินตนาการ นั่นคือต้องมีความเข้าใจในตัวเวท กลไกการใช้เวทว่าออกมาจากไหน กรณีนี้วงเวทที่ซับซ้อนจะเป็นเหมือนพื้นฐานที่สุด เตรียมการยุ่งยากแต่เข้าใจง่ายที่สุด ใช้งานได้ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ เหมือนการแก้สมการคณิตศาสตร์ ตอนเริ่มเรียนแค่จะบวกลบคูณหารเราก็ต้องทำทีละอย่าง แต่เมื่อชำนาญแล้วก็จะเริ่มรวบรัดทำหลายขั้นตอนพร้อมกันในใจได้ เช่นเดียวกับจอมเวทที่ชำนาญแล้วย่อมสามารถดัดแปลงวงเวทตามใจชอบได้ เช่นลบส่วนนี้ออกเพื่อยิงเร็วขึ้นแม้จะเบาลง หรือเพิ่มส่วนนี้เข้าไปทำให้ควบคุมยากแต่ยิงแรงขึ้น ซึ่งจอมเวทที่ยังไม่เก่งจะทำไม่ได้เพราะยังไม่เข้าใจกลไกเวทดีพอ ยังต้องใช่วงเวทที่ซับซ้อนเพราะเห็นภาพชัดเจนเข้าใจง่ายกว่า เหมือนที่เทียบกับรถ ช่างที่เก่งจะรู้ว่าถอดอะไรออกเพิ่มอะไรเข้ารถถึงเร็วขึ้น แม้จะเสียฟังก์ชั่นบางอย่างไปแต่ก็จะได้ฟังก์ชั่นที่ต้องการดีขึ้น ส่วนช่างที่ไม่เก่งทำไม่ได้เพราะไม่เข้าใจว่าถอดหรือเพิ่มอะไรจะส่งผลยังไงต่อรถบ้าง
 

ออนไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,201
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
เอิ่มผมว่ามันอยู่ที่คนเขียนจะวางไห้เป็นแบบไหนครับจะวางว่าถ้าร่ายจะแรงขึ้นหรือไม่ร่ายจะเร็วขึ้น มันแล้วแต่ว่าจะวางบทแบบไหนเลยครับการร่ายมีวงเวท มันจะดูขลังอลังการเหมาะกับการเล่าไห้ดูเท่ครับการไม่ต้องร่ายไม่มีวงเวท ทำไห้ดูสมเหตุผลว่าเวลาสู้สมจริงแต่นะครับมันคือแฟนตาซีครับจะทำแบบไหนมันแล้วแต่ความถนัดของคนเขียนครับ

ออฟไลน์ warakornboy

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 471
  • ถูกใจแล้ว: 182 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-9
หลักการทั่วไป; เวทย์ = จินตนาการของกลุ่มคนสติเฟื่อง ที่เอาแต่ฝันและคิดแต่จะย่ำยีคนเลว (ในมุมของตน) รักสนุก ทุกข์ถนัด เติมเต็มความใคร่ให้ตัวเอง สารพัดรูปแบบ หารู้ไม่ว่าชีวิตจริงก็คือคนที่คอยหลอกตัวเองให้มีความสุข ทั้งที่ล้มเหลวไปเสียทุกอย่าง


ทฤษฎีจากเกม; เพราะนึกหรือท่องคาถาในหัว ใช้เวลานานกว่ามาก เมื่อต้องเจอกับการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ หรือสัตว์ป่า ที่เคลื่อนไหวได้เร็วระดับ 1/2 วินาที หรือแม้แต่ยิงหน้าไม้เข้าหัว ขว้างหอกใส่ ถ้าเป็น Theme medieval สากล ดังนั้น วิธีร่ายเวทย์ดั้งเดิมไม่มีวงแหวน แค่เป็นการประดับให้ดูดีเท่านั้น


ณ ที่นี้ จอมเวทย์เก่งๆอย่างในเรื่อง Kumo Desu ga, Nani ka? ยังไม่สามรถเป็น Master 4 Elements ได้ เพราะความไม่เข้ากับคุณลักษณะเฉพาะ คาถาที่ Shiro ใช้เรียกว่าเวทย์ได้จริงนั้น มีไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่จะรับคุณลักษณะเฉพาะพันธุกรรมผ่านวิวัฒนาการ แล้วประยุกต์ให้เหมาะกับตนมากกว่า เขี้ยว ใยแมงมุม และพิษ


ทำให้กว่าจะเข้าถึงหลักการคิดเวทย์ได้เองคือต้อง G-Bomb เข้าไปจน LV UP เป็นเทพ ขณะที่ร่างปกติการใช้เวทย์มนต์มากไปจะทำให้ MP + SP ลดลงตามระยะเวลา อาจด้วยต้นเหตุเป็นอย่างนั้น การเรียนเวทย์จึงต้องมีคนสอนต่อไปทอดๆอย่าง Final Fantasy I และต้องยึดตามสายด้วยมากกว่า


อย่างไรก็ตาม Shining Soul series; ระบุแค่ว่าคาถาบางอย่างที่อาจจะมีต้นแบบจาก Diablo series คือความรู้ที่สาปสูญ จึงต้องตามเก็บหนังสือที่ถูกขโมยหรือถูกทิ้งจนลืมไปตามเวลาภายหลัง ทั้งหมดนี้ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเวทย์ศาสตร์จะพัฒนาได้แค่ 1 แขนง / 1,000 ปีของโลกอารยธรรม ดังนั้นกว่าเวทย์ระดับ Apocalyptic จะกำเนิด คงตัองไปเจอกับสงครามอวกาศ + Mobile Suit ไปเสียก่อน
 

ออฟไลน์ cemeteryzx

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 842
  • ถูกใจแล้ว: 210 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-5
  • เพศ: ชาย
แค่ปลดเซฟตี้ ก็แรงสามเท่าแล้วไงครับ  :)
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
[youtube/]
แบบร่ายๆยาวๆ มันก็จะดูขลังๆแบบนี้   ??? ??? ???

[youtube/]
แบบใช้อุปกรณ์ "ช่วยยิง"   :) :) :)
slayer oั่นเป้นคาถาระดับทำลายจักรวาลที่มีมิติพิเศษทีเ่ก้ฐรักษาคาถาต่างๆด้วยนี่ครับ?คือตาม Lore o่ะมันไม่ใช่เรื่องธรรมดานะ ???
แค่ปลดเซฟตี้ ก็แรงสามเท่าแล้วไงครับ  :)
ก็งั้นล่ะครับ
แต่คนใช้อย่างพระเอกอิเซไคสามารถใช้ได้แบบไม่มีข้อเสียเลยน่ะครับผมพยายามหาทางแถว่า เพระาพระเอกอิเซไคมีพรสวรร๕ืในการควบคุมพลังเวทย์เนหือกว่าคนอื่นๆทำให้ไม่ได้รับผลเสียหากคนอื่นจะลองทำตามบ้าง
หลักการทั่วไป; เวทย์ = จินตนาการของกลุ่มคนสติเฟื่อง ที่เอาแต่ฝันและคิดแต่จะย่ำยีคนเลว (ในมุมของตน) รักสนุก ทุกข์ถนัด เติมเต็มความใคร่ให้ตัวเอง สารพัดรูปแบบ หารู้ไม่ว่าชีวิตจริงก็คือคนที่คอยหลอกตัวเองให้มีความสุข ทั้งที่ล้มเหลวไปเสียทุกอย่าง


ทฤษฎีจากเกม; เพราะนึกหรือท่องคาถาในหัว ใช้เวลานานกว่ามาก เมื่อต้องเจอกับการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ หรือสัตว์ป่า ที่เคลื่อนไหวได้เร็วระดับ 1/2 วินาที หรือแม้แต่ยิงหน้าไม้เข้าหัว ขว้างหอกใส่ ถ้าเป็น Theme medieval สากล ดังนั้น วิธีร่ายเวทย์ดั้งเดิมไม่มีวงแหวน แค่เป็นการประดับให้ดูดีเท่านั้น


ณ ที่นี้ จอมเวทย์เก่งๆอย่างในเรื่อง Kumo Desu ga, Nani ka? ยังไม่สามรถเป็น Master 4 Elements ได้ เพราะความไม่เข้ากับคุณลักษณะเฉพาะ คาถาที่ Shiro ใช้เรียกว่าเวทย์ได้จริงนั้น มีไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่จะรับคุณลักษณะเฉพาะพันธุกรรมผ่านวิวัฒนาการ แล้วประยุกต์ให้เหมาะกับตนมากกว่า เขี้ยว ใยแมงมุม และพิษ


ทำให้กว่าจะเข้าถึงหลักการคิดเวทย์ได้เองคือต้อง G-Bomb เข้าไปจน LV UP เป็นเทพ ขณะที่ร่างปกติการใช้เวทย์มนต์มากไปจะทำให้ MP + SP ลดลงตามระยะเวลา อาจด้วยต้นเหตุเป็นอย่างนั้น การเรียนเวทย์จึงต้องมีคนสอนต่อไปทอดๆอย่าง Final Fantasy I และต้องยึดตามสายด้วยมากกว่า


อย่างไรก็ตาม Shining Soul series; ระบุแค่ว่าคาถาบางอย่างที่อาจจะมีต้นแบบจาก Diablo series คือความรู้ที่สาปสูญ จึงต้องตามเก็บหนังสือที่ถูกขโมยหรือถูกทิ้งจนลืมไปตามเวลาภายหลัง ทั้งหมดนี้ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเวทย์ศาสตร์จะพัฒนาได้แค่ 1 แขนง / 1,000 ปีของโลกอารยธรรม ดังนั้นกว่าเวทย์ระดับ Apocalyptic จะกำเนิด คงตัองไปเจอกับสงครามอวกาศ + Mobile Suit ไปเสียก่อน
ผมไปเจอหลายคนเล่นมุกว่า เวทยืแบบเดียวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วงเวทย์คือโปรแกรมคอมก็อาจจะพอได้แต่ผมมองว่ามันต้องมีคนอย่างอาคีมีดีสอยู่ที่หากอธิบายสูตรให้คนอย่างอาคีมีดีสหรือไอแซคนิวตันฟัง พวกเขาก็เข้าใจ
ว่าหากไปตบกับเด็กเห่อหมอยของลูกขุนนางอาจจะได้ผลแต่มัน่าแปลกที่พวกจอมเวทย์แก่ๆ ไม่เอาสูตรต่างๆมาปรับปรุงเวทย์ตนเองน่ะครับ
เอิ่มผมว่ามันอยู่ที่คนเขียนจะวางไห้เป็นแบบไหนครับจะวางว่าถ้าร่ายจะแรงขึ้นหรือไม่ร่ายจะเร็วขึ้น มันแล้วแต่ว่าจะวางบทแบบไหนเลยครับการร่ายมีวงเวท มันจะดูขลังอลังการเหมาะกับการเล่าไห้ดูเท่ครับการไม่ต้องร่ายไม่มีวงเวท ทำไห้ดูสมเหตุผลว่าเวลาสู้สมจริงแต่นะครับมันคือแฟนตาซีครับจะทำแบบไหนมันแล้วแต่ความถนัดของคนเขียนครับ
คือผมไปเจอตอนรลเพย์มาพยายามจะเล่นมุกว่าคาถาที่ใช้สู้ได้คือ คาถาที่ใช้ได้ในการขยับมือทีเดียวหรือพริบตาเดียวน่ะครับ
ว่าหากต้องร่ายๆนานๆก็ไม่ทันกิน สู้กับวีรชนที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเสียงอย่างแลนเซอร์ดดนหอกเสียบตายก่อนพอดี
ขึ้นกับว่าเวทมนตร์ใช้ได้ด้วยวิธีไหนล่ะมั้ง ตอนนี้ผมนึกออกสองแบบ


แบบที่ 1 เวทมนตร์มาจากพลัง ไม่จำเป็นเข้าใจว่ามันออกมาจากไหน ขอแค่มีพลังเวทก็ใช้ได้ทุกคน คอนเซปต์นี้ควรใช้การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม นั่นคือยิ่งมีความยากในการร่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงนั่นเอง เวทที่ไม่ต้องสร้างวงเวท(หรือพวกเวทไร้ร่าย)ยิงได้เร็วสุดแต่เบา เวทที่ใช้วงเวทเล็ก ๆ(หรือเวทคำร่ายยาว ๆ)จะเสียเวลาแต่จะแรงขึ้น ยิ่งมีการใช้วงเวทซับซ้อนก็ยิ่งเตรียมการนานขึ้น ทำให้แรงขึ้นไปอีก


แบบที่ 2 เวทมนตร์มาจากจินตนาการ นั่นคือต้องมีความเข้าใจในตัวเวท กลไกการใช้เวทว่าออกมาจากไหน กรณีนี้วงเวทที่ซับซ้อนจะเป็นเหมือนพื้นฐานที่สุด เตรียมการยุ่งยากแต่เข้าใจง่ายที่สุด ใช้งานได้ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ เหมือนการแก้สมการคณิตศาสตร์ ตอนเริ่มเรียนแค่จะบวกลบคูณหารเราก็ต้องทำทีละอย่าง แต่เมื่อชำนาญแล้วก็จะเริ่มรวบรัดทำหลายขั้นตอนพร้อมกันในใจได้ เช่นเดียวกับจอมเวทที่ชำนาญแล้วย่อมสามารถดัดแปลงวงเวทตามใจชอบได้ เช่นลบส่วนนี้ออกเพื่อยิงเร็วขึ้นแม้จะเบาลง หรือเพิ่มส่วนนี้เข้าไปทำให้ควบคุมยากแต่ยิงแรงขึ้น ซึ่งจอมเวทที่ยังไม่เก่งจะทำไม่ได้เพราะยังไม่เข้าใจกลไกเวทดีพอ ยังต้องใช่วงเวทที่ซับซ้อนเพราะเห็นภาพชัดเจนเข้าใจง่ายกว่า เหมือนที่เทียบกับรถ ช่างที่เก่งจะรู้ว่าถอดอะไรออกเพิ่มอะไรเข้ารถถึงเร็วขึ้น แม้จะเสียฟังก์ชั่นบางอย่างไปแต่ก็จะได้ฟังก์ชั่นที่ต้องการดีขึ้น ส่วนช่างที่ไม่เก่งทำไม่ได้เพราะไม่เข้าใจว่าถอดหรือเพิ่มอะไรจะส่งผลยังไงต่อรถบ้าง
ขอบคุณครับ ผมไเจอแนวคิดคล้าๆยกันประมาณว่าพระเอกแนวมีความทรงจำชาติก่อน
เจอคนประมาณเมอร์ลินบอกว่า วงเวทย์สมดุลย์เกินไป
ว่าหากเน้นพลังเวทย์ ปรับเป็น สามสิบเจ็ดสิบจะดีกว่า เมหาะกับเป้าหมายมากกว่า
แสดงความเทพของคนแก่อย่างเมอร์ลินว่า
ที่พวกเขาเก่งกาจเพระาเขาเข้าใจเวทย์มากกว่าคนธรรมดาและสามารถดัดแปลงได้ตามต้องการ
meta magic
ประมาณคาถาที่มีผลต่อคาถาเองอย่างโมมอนกะ maximum effiency อะไรเทือกนั้นน่ะครับ
หรือมุกแนวอิเซไคปัจจุบันมาแนวปราชญ์เทพว่างั้น
จนผมสงสัยว่าแล้วตกลงจอมเวทย์ดั้งเดิมมันไม่มีดีเลยเรอะ?
ขึ้นอยู่กับแนวคิดของเรื่องมากกว่า เช่นโจทย์ให้คำนวณพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านละ 10ซม.

คนนึงวาดวงกลม ครอบสี่เหลี่ยม จากนั้นคำนวณหาส่วนเกินเพื่อเอาไปลบกับพื้นที่ของวงกลม เพื่อให้เหลือพื้นที่ของสี่เหลี่ยมข้างใน

กับอีกคนเอากว้างคูณยาว คิดว่าใครจะคำนวณเสร็จเร็วกว่า
ผมคิดว่าเป็นเด็กเกรียนของโรงเรียนเวทย์อาจจะโดนกระทืบแล้วจบกันไป
แต่คนระดับเมอร์ลินของจักรวาลนั้นๆจะเอาสูตรของพระเอกอิเซไคไปปรับปรุงเวทย์ของตนเองได้น่ะครับ
แต่เราไม่ค่อยเห็นมีการดำเนินเรื่องไปอย่างนั้นเท่าไรผมแซวว่าแนวนี้ทำแบบแนวปราณยุทธอยู่คือคนมองว่าวงเวทย์คือเรื่องที่ต้องมี แบบประเพณีหรือวัฒนธรรมมากกว่าที่จะเป็นศาสตร์ที่ต้องศึกษาจริงจัง
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ renrenmimura

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 53
  • ถูกใจแล้ว: 23 ครั้ง
  • ความนิยม: +1/-1
อัพ dex เกิน160 ก็ไม่มีวงร่ายแล้วนี่
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
อัพ dex เกิน160 ก็ไม่มีวงร่ายแล้วนี่
อย่าลืมหักลบ คลิป Pen กันร่ายหลุดด้วยนะครับ  :)    (แต่ cooldown +5 %)   Dex 160 ก็จริงโดนตีก็เด้งนะเออ
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
อัพ dex เกิน160 ก็ไม่มีวงร่ายแล้วนี่
สายแอสต่างหากที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างที่ท่านเคยว่าไว้น่ะครับ :P
หากนึกดูแบบเอาระบบมาเป็นการสุ้จริงก็อย่างที่ท่านว่านั่นล่ะ โจมตีเร็วไว้ก่อนจะได้เปรียบกว่า
[quote/]
อย่าลืมหักลบ คลิป Pen กันร่ายหลุดด้วยนะครับ  :)    (แต่ cooldown +5 %)   Dex 160 ก็จริงโดนตีก็เด้งนะเออ

เกมส์อะไรไม่รู้จัก แก่
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออนไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,201
  • ถูกใจแล้ว: 3876 ครั้ง
  • ความนิยม: +297/-400
[quote/]
slayer oั่นเป้นคาถาระดับทำลายจักรวาลที่มีมิติพิเศษทีเ่ก้ฐรักษาคาถาต่างๆด้วยนี่ครับ?คือตาม Lore o่ะมันไม่ใช่เรื่องธรรมดานะ ??? [quote/]
ก็งั้นล่ะครับ
แต่คนใช้อย่างพระเอกอิเซไคสามารถใช้ได้แบบไม่มีข้อเสียเลยน่ะครับผมพยายามหาทางแถว่า เพระาพระเอกอิเซไคมีพรสวรร๕ืในการควบคุมพลังเวทย์เนหือกว่าคนอื่นๆทำให้ไม่ได้รับผลเสียหากคนอื่นจะลองทำตามบ้าง[quote/]ผมไปเจอหลายคนเล่นมุกว่า เวทยืแบบเดียวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วงเวทย์คือโปรแกรมคอมก็อาจจะพอได้แต่ผมมองว่ามันต้องมีคนอย่างอาคีมีดีสอยู่ที่หากอธิบายสูตรให้คนอย่างอาคีมีดีสหรือไอแซคนิวตันฟัง พวกเขาก็เข้าใจ
ว่าหากไปตบกับเด็กเห่อหมอยของลูกขุนนางอาจจะได้ผลแต่มัน่าแปลกที่พวกจอมเวทย์แก่ๆ ไม่เอาสูตรต่างๆมาปรับปรุงเวทย์ตนเองน่ะครับ[quote/]
คือผมไปเจอตอนรลเพย์มาพยายามจะเล่นมุกว่าคาถาที่ใช้สู้ได้คือ คาถาที่ใช้ได้ในการขยับมือทีเดียวหรือพริบตาเดียวน่ะครับ
ว่าหากต้องร่ายๆนานๆก็ไม่ทันกิน สู้กับวีรชนที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเสียงอย่างแลนเซอร์ดดนหอกเสียบตายก่อนพอดี
[quote/]
ขอบคุณครับ ผมไเจอแนวคิดคล้าๆยกันประมาณว่าพระเอกแนวมีความทรงจำชาติก่อน
เจอคนประมาณเมอร์ลินบอกว่า วงเวทย์สมดุลย์เกินไป
ว่าหากเน้นพลังเวทย์ ปรับเป็น สามสิบเจ็ดสิบจะดีกว่า เมหาะกับเป้าหมายมากกว่า
แสดงความเทพของคนแก่อย่างเมอร์ลินว่า
ที่พวกเขาเก่งกาจเพระาเขาเข้าใจเวทย์มากกว่าคนธรรมดาและสามารถดัดแปลงได้ตามต้องการ
meta magic
ประมาณคาถาที่มีผลต่อคาถาเองอย่างโมมอนกะ maximum effiency อะไรเทือกนั้นน่ะครับ
หรือมุกแนวอิเซไคปัจจุบันมาแนวปราชญ์เทพว่างั้น
จนผมสงสัยว่าแล้วตกลงจอมเวทย์ดั้งเดิมมันไม่มีดีเลยเรอะ?[quote/]ผมคิดว่าเป็นเด็กเกรียนของโรงเรียนเวทย์อาจจะโดนกระทืบแล้วจบกันไป
แต่คนระดับเมอร์ลินของจักรวาลนั้นๆจะเอาสูตรของพระเอกอิเซไคไปปรับปรุงเวทย์ของตนเองได้น่ะครับ
แต่เราไม่ค่อยเห็นมีการดำเนินเรื่องไปอย่างนั้นเท่าไรผมแซวว่าแนวนี้ทำแบบแนวปราณยุทธอยู่คือคนมองว่าวงเวทย์คือเรื่องที่ต้องมี แบบประเพณีหรือวัฒนธรรมมากกว่าที่จะเป็นศาสตร์ที่ต้องศึกษาจริงจัง

ครับร่ายนานไม่ทันกินในเฟสไช่ไหมครับแต่ผมเห็นเจ้าชิโร่แม่งร่ายอัลติเมทเบลทเวิกนานแบบโคตรพ่อโคตรแม่นาน ผมก็เห็นมันร่ายได้ทุกที่ขนาดมันไช้กับตู้ทองที่เปิดสูตรโกงสกิลไม่มีคูลดาวไม่มีการร่ายทุกการโจมตีเท่ากับร่ายโฮกุ แต่ผมก็เห็นชิโร่มันก็ร่ายคาถายาวเหยียดได้ตลอดแถมแม้จะเป็นจักวาลอื่นอย่่างเช่นภาคอิลิยา ผมก็เห็นมันร่ายโคตรพ่อโคตรแม่ยาวได้อยู่ดีไม่เกี่ยวกับร่ายนานไม่ทันกินหรือไร้ร่ายไวกว่าแม้แต่นิดเดียวครับ มันอยู่ที่จะเขียนเรื่องมาได้เท่แค่ไหนต่างหากครับต่อไห้ไร้ร่ายร่ายไวก็ต้องเขียนไห้เท่ไห้น่าสนใจครับ ไม่ไช่เขียนสู้กันด้วยเวทแล้วโจมตีก่อนชนะเลยแล้วมันจะมีความหมายอะไรคิดว่ามันจะน่าสนใจจะมีคนอ่านไหม ผมยกตัวอย่างการไช้การร่ายยาวเหยียดชนะไร้ร่ายไร้คูลดาวอย่างชิโร่ไป คิดว่ามันเท่มันน่าสนใจไหมครับทังๆที่ตามหลักตู้ทองที่ไม่ต้องร่ายไม่มีคูลดาวแถมแรงกว่าแบบโดนที่เดียวจอดควรชนะ ที่นี่ผมยกตัวอย่างที่ไร้ร่ายไร้หลอดแล้วชนะแบบดูเท่นะครับเช่นเทพทัตสึยะที่ร่าวไวแค่กระดิกนิ้ว แต่เมื่อสู้ก็ต้องบรรยายว่าเวทโจมตีไปอย่างไรเมื่อปะทะกับเวทเกิดอะไรขึ้นไช้เวทแบบไหน สรุปมันก็ต้อเขียนบรรยายโคตรยาวจนคนอ่านคิดตามว่าแม่งเท่ชิบหายไห้ได้ครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับร่ายเร็วร่ายนานไร้ร่ายของพวกนั้นมันอยู่ที่เซ็ตติ้งครับ สุดท้ายเมื่อไช้เวทในเรื่องมันก็ต้องเขียนไห้มันน่าสนใจไห้ได้ครับ แบบที่ร่ายยาวโคตรพ่อโคตรแม่อย่างชิโร่แต่ดูแล้วแม่งโคตรเท่หรือนิ่งๆไม่ต้องร่ายอะไรแบบ เทพทัตแต่เน้นบรรยายว่าทำอะไรยังไงเกิดผลอะไรอ่านแล้วเท่ชิบหายต่างหากถึงจะผ่าน ไอ้ร่ายนานแล้วแรงหรือร่ายไวยิงก่อนได้เปรียบมันไร้สาระครับสุดท้าย ตัวเอกมันต้องชนะแบบเท่ๆอยู่แล้วครับไม่ว่าจะทำยังไง อยู่ที่จะเขียนไห้มันเท่ได้ไหมแค่นั้นร่ายเร็วร่ายช้าไม่มีความสำคัญเลยครับ จะวางบทไห้ร่ายนานแต่แอบร่ายหรืออ่อนแอจนศัตรูประมาทสุดท้ายร่ายเสร็จพลิกเกม หรือโชว์เหนือไร้ร่ายโจมตีก่อนชนะเลยมันก็ต้องเขียนไห้เท่หรือน่าสนใจอยู่ดีครับ
ปล.สมมุติว่าชิโร่กับเทพทัตสู้กันฝ่ายหนึ่งร่ายนานโคตรๆกับอีกฝ่ายไม่ร่ายเลย แต่พลังต่อสู้ทังคู่พอเปรียบเทียบแล้วเท่ากันท่านว่าแบบไหนดูเท่และน่าสนใจกว่ากันครับ สำหรับผมที่มองอย่างเป็นกลางไม่เกี่ยวเลยว่าจะร่ายไวหรือร่ายนานอยู่ที่บท มันจะน่าสนใจแค่ไหนต่างหากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2022, 04:16:12 PM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 945
  • ถูกใจแล้ว: 365 ครั้ง
  • ความนิยม: +17/-18
ควบคุมสัดส่วน : ดิน + น้ำ -> oil
ควบคุมสัดส่วน : oil + อากาศ + ไฟ -> เสาไฟ
ควบคุมสัดส่วน : เสาไฟ + ลมแรง -> มังกรพ่นไฟ
แบบนี้ ขั้นตอนเยอะ จำกัดความแรง แต่ง่าย ประหยัดพลังและปลอดภัย




ดิน + น้ำ -> oil
oil + อากาศ + ไฟ -> เสาไฟ
เสาไฟ + ลมแรง -> มังกรพ่นไฟ
แบบนี้เร็วกว่า ประหยัดพลัง แรง-เบาตามพลังที่ใส่ แต่ต้องควบคุมพลังเอง และอันตรายกว่า(ผสมผิดสัดส่วน)




ไฟ + ลมแรง -> มังกรพ่นไฟ
พื้นสุดๆ ร่ายเร็ว แต่เปลืองพลัง

 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,251
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
Death march  .. ..เปิดตัว  กดอัลติ F1 ดาวตกล้างเผามังกร   ??? ??? ??? ???
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก