แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้  (อ่าน 4922 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nyoron

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 336
  • ถูกใจแล้ว: 100 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-21
  • nyoron~* สายเปย์
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2016, 05:59:46 AM »
ญี่ปุ่นก็เหมือนเรานั่นแหละครับ ไม่ค่อยมีนักเขียนคนไหนโยงเรื่องของสมเด็จพระจักพรรดิ์ แทบไม่มีเลย เรื่องของสมเด็จพระจักพรรดิ์เขาก็ไม่แตะเหมือนกัน เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ และไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองมาแต่โบราณแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับกฏหมาย แต่มันเป็นสำนึกของคนญี่ปุ่นเขา

จะมีก็แต่โชกุนนักปกครอง จะให้เทียบก็เหมือนกับเป็นเจ้าเมือง เจ้าแคว้นต่าง ๆ หรือขุนศึก เสนาบดี ของไทยสมัยโบราณ

จริง ๆ แล้วเรื่องของกษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยอยุทธยาลงไปนี่ หากเป็นเรื่องแต่งแฟนตาซี ที่ไม่ได้เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ก็แต่งได้นะ ซึ่งหากเขียนบอกไว้ในคำนำว่าเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เป็นแนวแฟนตาซีไม่ใช่แนวอิงประวัติศาสตร์ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนไหนจะมาตำหนิเราได้ ที่อ่านนิยายแนวแฟนตาซีของไทยก็มีหลายเรื่องเลยนะ แต่แต่งเรื่องไปในทางที่ดี บางคนก็แต่งไปในทางดาร์กฮีโร่หน่อย ๆ ก็มี ที่สำคัญในเนื่อเรื่องที่แต่งต้องแสดงออกถึงความเคารพและให้เกียรติ์

หากเป็นพระมหากษัตริย์ไทยยุครัตนโกสินทร์ นี่ก็ต้องระวังให้มากหน่อย เพราะเป็นปัจจุบัน เอามาเป็นตัวละครหลักลำบาก มันเป็นสำนึกหน่ะ ก็เหมือนคนญี่ปุ่นที่เขาไม่นำมาเป็นตัวละครหลักเลย หรือแทบไม่ได้กล่าวถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ์เลยทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้มีกฏหมายบังคับอะไร หากเขาจะนำสมเด็จพระจักรพรรดิ์มาเป็นตัวละครหลัก ก็มักจะสร้างประเทศใหม่ขึ้นมา หรือไม่ก็เป็นแนวต่างโลกไปเลย

มันเป็นเรื่องปกติที่ บุคคลที่เป็นที่เคารพ มักจะไม่นำมาเป็นตัวละครในทางที่ไม่ค่อยจะดีนักในเรื่อง ยกเว้นว่าคนแต่งคนนั้นจะไม่ได้มีความเคารพอะไร ก็จะนำไปแต่งเรื่องราวที่ไม่ค่อยจะดีนัก

คนยุโรปเขาเห็นกษัตริย์เป็นเพียงแค่ นักปกครอง เหมือนดารา เขาก็ไม่ได้มีความเคารพอะไร ก็จะมีเรื่องล้อเลียนเยอะแยะ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่คนยุโรปเขาเคารพ แล้วมีคนไปแต่งเรื่องล้อเลียน ก็โดนสังคมเล่นงานจนไม่มีที่ยืน เรียกว่าตามจองเวรกันไม่จบสิ้นเลยทีเดียว หลายปีแล้วมีคนนำพระเยซู พระสัตตปาปา มาเขียนเป็นการ์ตูนย์ล้อเลียน ก็โดนสังคมเล่นงานไม่จบสิ้นทีเดียว จนกว่าจะออกมาขอโทษ เป็นข่าวดังมากหลายสิบปีที่แล้ว

อย่างในอังกฤษ หากคุณเขียนเรื่องของกษัตริย์อาเธอร์ไปในทางล้อเลียนไปในทางที่ไม่ให้เกียร์ติ คุณไม่มีที่ยืนแน่ เพราะเขาเคารพ แต่หากคุณเขียนเรื่องของกษัตริย์(จำชื่อไม่ได้)ซึ่งมีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ขี้ขลาด ก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณ

บุคคลที่เป็นที่เคารพ ของผู้อื่น และของคนส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยก็ตาม ไม่ควรนำมาแต่งเรื่องในทางเสื่อมเสียล้อเลียน เช่น ศาสดาและผู้นำของแต่ละศาสนา กษัตริย์ จักรพรรดิ์ในบางประเทศ และบุคคลอื่น ๆ ที่มีคุณูปการในด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ ทั้งในอดึตและปัจจุบัน

หากนำมาแต่งในเชิงล้อเลียน ในทางที่ไม่ดี ก็เตรียมรับกับสิ่งที่จะตามมาซึ่งมันมีโทษแรงกว่ากฏหมายเสียอีก

สำหรับเมืองไทย เอาแค่แต่งเรื่องเกี่ยวกับการเมืองโกงกิน คอรัปชั่น แล้วเนื้อเรื่องไปกระทบต่อมนักการเมืองบางคน แค่นี้ก็โดนอำนาจมืดดับกลางอากาศแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้มีกฏหมายอะไรมารองรับด้วยซ้ำไป

ก่อนหน้านี้ ขนาดมีคนด่า มีคนแต่งเรื่องไม่เป็นความจริง ว่าร้าย ใส่ร้าย ในหลวงรัชกาลที่ 9 กันโครม ๆ ต่อหน้าคนนับหมื่นนับแสน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลายคนก็ยังเดินรอยชายอยู่เป็นปกติ ทั้ง ๆ ที่ก็มีกฏหมายอยู่ด้วยซ้ำไป ส่วนคนที่โดนดำเนินคดีติดคุกไป ในหลวงท่านก็ทรงพระราชทานอภัยโทษให้ หากมาว่าร้ายในหลวงตอนนี้เหรอ ต่อให้ไม่มีกฏหมายคน ๆ นั้นได้จมกองบาทานับพันนับหมื่นแน่ ๆ

หากจะแต่งนิยายแฟนตาซีแนวย้อนยุค หรือแนวต่างโลกให้สนุก ก็มีบุคคล หรือหลายสิ่งหลายอย่างให้เขียนได้ตั้งมากมาย ญี่ปุ่นเขาก็ยังเขียนออกมาได้ตั้งเยอะแยะ โดยที่ไม่ได้ไปแตะเรื่องของสมเด็จพระจักรพรรดิ์เลย ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน หรือหากมีก็กล่าวไปในทางให้ความเคารพ

เอาจริงๆแล้วผมกลับเข้าใจว่า ที่คนญี่ปุนเขาไม่แต่งเกี่ยวกับ สมเด็จพระจักรพรรรดิ์ ก็เพราะว่า สมเด็จพระจักรพรรรดิ์ ไม่มีค่อยมีบทบาทอะไรที่มันอิมแพ็คในหน้าปวศ.ของเขามากกว่านะ
เพราะตัวเด่นๆที่เห็นก็มีแต่พวกขุนพลทั้งหลายแหล่ ที่โตเป็นสาวกันหมดแล้ว อย่างที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ ไม่ได้ลึกซึ้งไปในเรื่อง สำนึกยกย่องเชิดชูอะไรหรอก  ยิ่งพวกที่เกิดมาในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่ น่าออกแนวแอนตี้ด้วยซ้ำ

อีกอย่างคือในโลกเสรีเขาไม่ได้มีมุมมองที่จะยกย่องตัวบุคคลให้เป็นสมมุติเทพแบบบ้านเราไง ก็เลยเปิดกว้างแบบ จะทำอะไรก็ทำไปเหอะ ถ้าทำแย่ๆ อย่างมากก็แค่สร้างความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ถึงกับไประรานเขาหรอก
ว่าแต่ กรณีของกระษัตริย์อาเธอร์ นั่นหาอ่านได้จากไหนอ่ะ? เพราะเท่าที่ผมเห็น รายนั้นก็โตเป็นสาวไปแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีกระแสแอนตี้อะไรนะ

มาเซอไววัลด้วยกันเต๊อะ
http://fairview.deadfrontier.com/onlinezombiemmo/index.php
 

ออฟไลน์ one-day

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 27
  • ถูกใจแล้ว: 28 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-4
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2016, 10:09:30 PM »
[quote/]

เอาจริงๆแล้วผมกลับเข้าใจว่า ที่คนญี่ปุนเขาไม่แต่งเกี่ยวกับ สมเด็จพระจักรพรรรดิ์ ก็เพราะว่า สมเด็จพระจักรพรรรดิ์ ไม่มีค่อยมีบทบาทอะไรที่มันอิมแพ็คในหน้าปวศ.ของเขามากกว่านะ
เพราะตัวเด่นๆที่เห็นก็มีแต่พวกขุนพลทั้งหลายแหล่ ที่โตเป็นสาวกันหมดแล้ว อย่างที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ ไม่ได้ลึกซึ้งไปในเรื่อง สำนึกยกย่องเชิดชูอะไรหรอก  ยิ่งพวกที่เกิดมาในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่ น่าออกแนวแอนตี้ด้วยซ้ำ

อีกอย่างคือในโลกเสรีเขาไม่ได้มีมุมมองที่จะยกย่องตัวบุคคลให้เป็นสมมุติเทพแบบบ้านเราไง ก็เลยเปิดกว้างแบบ จะทำอะไรก็ทำไปเหอะ ถ้าทำแย่ๆ อย่างมากก็แค่สร้างความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ถึงกับไประรานเขาหรอก
ว่าแต่ กรณีของกระษัตริย์อาเธอร์ นั่นหาอ่านได้จากไหนอ่ะ? เพราะเท่าที่ผมเห็น รายนั้นก็โตเป็นสาวไปแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีกระแสแอนตี้อะไรนะ

เรื่องที่ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิ์ ไม่ค่อยมีบทบาทหรืออิมแพ็คในหน้าประวัติศาสตร์แล้วไม่นำมาผูกเรื่องแต่งนิยายขึ้นมานั้น ก็พอฟังได้แต่ผมว่ามันก็ยังอ่อนไปอยู่ดี ไม่ใช่เหตุผลหลัก เพราะพวกขุนพล หรือเจ้าเมืองเล็ก ๆ ตระกูลเล็ก ๆ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าตระกูลบ้านนอกนั้น (ไม่ได้มีความหมายในทางดูถูกนะ) มีเพียงแค่ชื่อ ไม่ได้มีบทบาทหรืออิมแพ็คอะไรในหน้าประวัติศาสตร์ ก็ยังมีนักเขียนหลายคนจับมาเป็นตัวละครเอกก็เยอะ เพียงแต่ตระกูลหลักที่มีอิมแพ็คมากก็จะถูกนำไปแต่งเป็นนิยายมากกว่าเท่านั้นเอง เพราะในแนวแฟนตาซี ย้อนยุค ต่างโลก ในความเป็นแฟนตาซี ที่ไม่ได้อิงประวัติศาสตร์อะไร จะเขียนให้มีอิมแพ็คบทบาทมากแค่ไหนก็ทำได้

ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้น ประชาชนรู้สึกแอนตี้สมเด็จพระจักรพรรดิ์ ไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบหรือไม่ต้องการหรือรู้สึกเฉย ๆ นะครับ แต่เพราะหมดศรัทธาในองค์สมเด็จพระจักรพรรดิ์ที่ยอมแพ้สงคราม เพราะคนญี่ปุ่นในสมัยนั้นหรือในอดีตเป็นคนที่หยิ่งทนงในตนเอง ภาคภูมิใจในตนเองอย่างมาก มีความรู้สึกว่าตนเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่หนึ่งในโลกนี้ เวลาไปรบในสงครามก็จะปลุกใจ ตะโกนว่าแด่องค์สมเด็จพระจักรพรรดิ์ และเป็นกำลังใจให้พวกเขาสู้ไม่ถอย พอสมเด็จพระจักรพรรดิ์ถูกอเมริกากดดันให้ประกาศยอมแพ้สงคราม ก็มีนายพลหลายคนที่ต่อต้านไม่ยอมรับ นำทัพออกไปรบครั้งสุดท้ายจนตัวตาย ขอตายไม่ขอยอมแพ้ ในความรู้สึกคนญี่ปุ่นสมัยนั้นมันเป็นความรู้สึกที่เสียเกียรติ์ศักดิ์ศรี และก็มีทหารที่ติดค้างตามเกาะต่าง ๆ ที่ถูกส่งไปแล้วไม่ได้รับข่าวสาร พอมีคนมาบอกก็ไม่เชื่อว่าญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามแล้ว ก็ต้องหาหลักฐานมาแสดงให้เชื่อและรับกลับญี่ปุ่นในฐานะวีรบุรุษ ในการที่ประกาศยอมแพ้สงครามในครั้งนั้น แม้ประชาชนก็ยังรับไม่ได้ เพราะความเหนี่อยยาก ยอมอดอยาก เพื่อองค์จักรพรรดิ์ เพื่อที่ญี่ปุ่นจะยิงใหญ่ในโลก อย่างที่ประกาศไว้นั้นกลับสูญเปล่า กลับกลายเป็นประเทศที่พ่ายแพ้สงคราม

คนญี่ปุ่นรักและเคารพ เชิดชูสถาบันกษัตริย์เป็นอย่างมากนะครับ ไม่ต่างจากคนไทย วัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างของไทยจึงมีความใกล้เคียงกันมาก พอรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบาย ให้บำนาญลองสเตย์ในต่างประเทศ คนญี่ปุ่นจึงมาอาศัยในประเทศไทยในระยะยาว และมาตั้งถิ่นฐานกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นอันดับสองหรือสามนี่หล่ะ อันดับหนึ่งรู้สึกจะเป็นฮาวาย (ไปว่าคนญี่ปุ่นไม่รัก เคารพ เชิดชู สมเด็จพระจักรพรรดิ์เด่วเขาจะโกรธเอานะ แบบกระแสตอนนี้)

การที่่คนญี่ปุ่นมีสำนึกรักและเคารพ เชิดชู สถาบันกษัตริย์ประหนึ่งสมติเทพนั้นมีสาเหตุ เดิมญี่ปุ่นนับถือศาสนาชินโด ที่เชื่อว่า จิตวิญญาณแห่งผืนดินผู้เป็นมารดาโลกเป็นผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้ให้กำเนืดเทพองค์ต่าง ๆ และองค์สมเด็จพระจักรพรรดิ์นั้นเป็นบุตรที่สืบเชื่อสายมาจากเทพ และต่อมาพุทธนิกายเซ็นก็มีอิทธิพล จนนำคุณธรรมและวิถึชีวิตแบบเซ็นมาสู่ราชวงค์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีงามให้กับประชาชน มีจารึตประเพณีที่เคร่งครัดมาก ๆ ซึ่งคนญี่ปุ่นก็ยังบอกเองว่าโบราณคร่ำครึ แต่ในความโบราณคร่ำครึ วิถึชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ การออกพบปะเยื่ยมเยียนประชาชนเนือง ๆ นั้นคนญี่ปุ่นรู้ดีว่านี่คืออัตลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น แต่หากราชวงค์ทำเรื่องเสื่อมเสียคนญี่ปุ่นก็จะประนามกันอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นราชวงค์ญี่ปุ่นจึงมีกฏระเบียบประเพณีที่เคร่งครัดมาก ๆ คนที่รักอิสระรับกฏระเบียบเหล่านี้ไม่ได้แน่ ๆ กระดิกกระเดี้ยอะไรต้องระวังทั้งหมด คนญี่ปุ่นรุ่นเก่า ๆ จะมีความรู้สึกที่แนบแน่นมาก หากเป็นเด็กรุ่นใหม่ ๆ ก็อาจจะเบาบางลงไป

กรณีกษัตริย์อาร์เธอร์ก็ไม่ได้ถึงกับต่อต้านเพียงแค่มีกระแสไม่ชอบตัวละครที่เป็นแบบนั้นเท่านั้นเพราะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ คือยังเป็นฮีโร่อยู่ มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แนวดาร์กฮีโร่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ยังรับกันได้

ในแต่ละประเทศ หรือแต่ละวัฒนธรรม ก็จะมีลิมิตที่ยอมรับได้ที่แตกต่างกัน บางที่รับแบบนี้ได้ รับอีกแบบไม่ได้ ซึ่งคนที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ หรือวัฒนธรรมนั้น ๆ ก็จะรู้ถึงลิมิตตรงนี้ในยุคนั้น ๆ ก็จะเขียนได้แบบไม่มีปัญหามากนัก ซึ่งไม่เกินเลยไปมาก

บ้านเรานั้นเป็นแนวคิดผสมผสาน ไม่ใช่แนวสมมุติเทพอย่างเดียว เป็นแบบพ่อปกครองลูกเป็นครอบครัวใหญ่ที่เป็นแนวคิดอย่างคนธรรมดาที่ไม่ได้วิเศษอะไรของล้านนา ล้านช้าง ผสมกันกับแบบสมติเทพ ที่เป็นเทพลงมาจุติของขอม และแบบเจ้านายและบ่าวของยุโรป(ผมไม่แน่ใจว่าเรียกแบบไหน) ก็เป็นแบบที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน

พวกเราเห็นในหลวงเป็น พ่อ เพราะความรักห่วงใย และการกระทำแบบพ่อที่ทำเพื่อลูก
พวกเราเห็นในหลวงเป็นเทวดา เพราะคุณธรรมที่พระองค์ทรงมี
พวกเราเห็นในหลวงเป็นเจ้านาย เพราะพระเกิยรติยศที่พระองค์มี

ในการที่แต่ละประเทศจะยอมรับให้ใครหรือราชวงศ์ใดเป็นกษัตริย์นั้น ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใดไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ ซึ่งต้องได้รับการยอมรับในหลาย ๆ ด้าน หลากหลายมิติมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคูณธรรมของพระมหากษัตริย์ซึ่งถือเป็นข้อหลักทีเดียว ซึ่งผิดกับนักการเมืองหรือผู้นำประเทศในแบบอื่น ๆ

คุณธรรมของพระมหากษัตริย์ไทย ทีพึงปฏิบัติ มีดังนี้ (ไม่แน่ใจนะครับ อาจจะตกหล่นไปบ้าง)
1. ทศพิธราชธรรม (ธรรมของพระราชาหรือผู้ปกครอง มี 10 ประการ)
2. จักรวรรดิวัตร 12 (วัตรของพระเจ้าจักรพรรดิ, พระจริยาที่พระจักรพรรดิพึงทรงบำเพ็ญสม่ำเสมอ หรือ หน้าที่ของนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่ มี 12 ประการ)
3. ราชสังคหวัตถุ 5 (หลักปฏิบัติของพระราชา, ธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจประชาชน, หลักการสงเคราะห์ประชาชนของนักปกครอง มี 5 ประการ)
4.สัปปุริสธรรม 7 (ธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมที่ทำให้เป็นสัตบุรุษ, คุณสมบัติของคนดี, ธรรมของผู้ดี มี 7 ประการ)
5.อปริหานิยธรรม 7ของกษัตริย์วัชชี หรือ วัชชีอปริหานิยธรรม 7 (ธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียว สำหรับหมู่ชนหรือผู้บริหารบ้านเมือง มี 7 ประการ)

ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประพฤติปฏิบัติได้ทุกข้อไม่ตกหล่น จึงทำให้พระองค์เป็นเทวดาเดินดิน มิใช่เพราะตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งก็ใช่ว่าพระมหากษัตริย์ไทยในอดึตและอนาคตจะปฏิบัติได้ครบหมด แต่มีอยู่เพื่อเป็นหลักยึดปฏิบัติ ให้เหมาะสมกับความเป็นพระมหากษัติร์ย์ มิใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามใจอย่างกษัตริย์ของต่างประเทศ ในประวัติศาสตร์กษัตริย์ที่ไม่ปฏิบัติตามคุณธรรมนี้ก็มีอยู่ และแน่นอนย่อมไม่เป็นที่พึงใจของเหล่าทวยราษฎร์ ก็ย่อมต้องล่มสลายไป

เราคนไทยก็ย่อมรู้ลิมิตนั้นได้เป็นอย่างดีในการเขียนนิยายที่เกี่ยวกับกษัตริย์ ว่าสังคมในยุคนั้นขณะนั้นรับได้แค่ไหน ในสมัยก่อนหากเป็นแนวดาร์กฮีโร่ที่มีด้านมืด สังคมไทยในยุคนั้นรับรองว่ารับกันไม่ได้แน่นอน มาในยุคนี้ก็รับกันได้มากขึ้น

อย่างภาพยนต์เรื่องสมเด็จพระนเรศวร ก็ออกแนวดาร์กฮีโร่หน่อย ๆ พระนเรศในเรื่องก็มีด้านมืดที่แสดงออกมา และเนื้อเรื่องก็มีด้านมืดของกษัตริย์ออกมา สังคมก็ไม่ได้มีเสียงไม่ชอบอะไรออกมา และก็ไม่ได้แสดงออกถึงความที่ไม่ได้เคารพออกมา คนแก่ ๆ บางคนก็ไม่ชอบนิสัยของพระนเรศในเรื่องนะ เพราะมันผิดกับที่เขารู้สึกถึง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับต่อต้านแค่ไม่ชอบ

ผมก็ว่านำพระมหากษัตริย์ในอดึตมาเป็นตัวละครหลักได้ แต่ก็ต้องดูบริบทของสังคมเป็นหลักว่าในยุคนั้น ๆ เราจะแต่งเนื่้อเรื่องด้านมืด เป็นดาร์กฮีโร่ได้มากน้อยแค่ไหน และต้องแสดงออกถึงความเคารพ เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอยู่พอควร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 20, 2016, 10:38:22 PM โดย one-day »
 

ออฟไลน์ siansae

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,480
  • ถูกใจแล้ว: 233 ครั้ง
  • ความนิยม: +28/-24
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 01:02:57 AM »
ที่เคยอ่านว่าเป็นของไทย แต่ไม่ไทยเท่าไร เนื้อเรื่องคือไปเกิดใหม่ต่างโลกแต่มีความทรงจำชาติแรกที่เป็นคนไทยและเล่นมนต์ดำเป็นจอมขมังเวท ไปเกิดชาติใหม่ก็โลกแฟนตาซีนั่นแหล่ะยุโรปยุคกลาง แต่เกิดเป็นก็อปบลิน ส่วนวิธีต่อสู้ก็ใช้คาถาตามหนังไทยที่เคยเห็นกันนั่นแหล่ะ ประเภทเสกหนังควายเข้าท้อง นะจังงัง ใช้พลังเขี้ยวเสือ ประมาณนี้ ???
 

imariagano

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 07:42:16 AM »
ญี่ปุ่นก็เหมือนเรานั่นแหละครับ ไม่ค่อยมีนักเขียนคนไหนโยงเรื่องของสมเด็จพระจักพรรดิ์ แทบไม่มีเลย เรื่องของสมเด็จพระจักพรรดิ์เขาก็ไม่แตะเหมือนกัน เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ และไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองมาแต่โบราณแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับกฏหมาย แต่มันเป็นสำนึกของคนญี่ปุ่นเขา

จะมีก็แต่โชกุนนักปกครอง จะให้เทียบก็เหมือนกับเป็นเจ้าเมือง เจ้าแคว้นต่าง ๆ หรือขุนศึก เสนาบดี ของไทยสมัยโบราณ

จริง ๆ แล้วเรื่องของกษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยอยุทธยาลงไปนี่ หากเป็นเรื่องแต่งแฟนตาซี ที่ไม่ได้เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ก็แต่งได้นะ ซึ่งหากเขียนบอกไว้ในคำนำว่าเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เป็นแนวแฟนตาซีไม่ใช่แนวอิงประวัติศาสตร์ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนไหนจะมาตำหนิเราได้ ที่อ่านนิยายแนวแฟนตาซีของไทยก็มีหลายเรื่องเลยนะ แต่แต่งเรื่องไปในทางที่ดี บางคนก็แต่งไปในทางดาร์กฮีโร่หน่อย ๆ ก็มี ที่สำคัญในเนื่อเรื่องที่แต่งต้องแสดงออกถึงความเคารพและให้เกียรติ์

หากเป็นพระมหากษัตริย์ไทยยุครัตนโกสินทร์ นี่ก็ต้องระวังให้มากหน่อย เพราะเป็นปัจจุบัน เอามาเป็นตัวละครหลักลำบาก มันเป็นสำนึกหน่ะ ก็เหมือนคนญี่ปุ่นที่เขาไม่นำมาเป็นตัวละครหลักเลย หรือแทบไม่ได้กล่าวถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ์เลยทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้มีกฏหมายบังคับอะไร หากเขาจะนำสมเด็จพระจักรพรรดิ์มาเป็นตัวละครหลัก ก็มักจะสร้างประเทศใหม่ขึ้นมา หรือไม่ก็เป็นแนวต่างโลกไปเลย

มันเป็นเรื่องปกติที่ บุคคลที่เป็นที่เคารพ มักจะไม่นำมาเป็นตัวละครในทางที่ไม่ค่อยจะดีนักในเรื่อง ยกเว้นว่าคนแต่งคนนั้นจะไม่ได้มีความเคารพอะไร ก็จะนำไปแต่งเรื่องราวที่ไม่ค่อยจะดีนัก

คนยุโรปเขาเห็นกษัตริย์เป็นเพียงแค่ นักปกครอง เหมือนดารา เขาก็ไม่ได้มีความเคารพอะไร ก็จะมีเรื่องล้อเลียนเยอะแยะ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่คนยุโรปเขาเคารพ แล้วมีคนไปแต่งเรื่องล้อเลียน ก็โดนสังคมเล่นงานจนไม่มีที่ยืน เรียกว่าตามจองเวรกันไม่จบสิ้นเลยทีเดียว หลายปีแล้วมีคนนำพระเยซู พระสัตตปาปา มาเขียนเป็นการ์ตูนย์ล้อเลียน ก็โดนสังคมเล่นงานไม่จบสิ้นทีเดียว จนกว่าจะออกมาขอโทษ เป็นข่าวดังมากหลายสิบปีที่แล้ว

อย่างในอังกฤษ หากคุณเขียนเรื่องของกษัตริย์อาเธอร์ไปในทางล้อเลียนไปในทางที่ไม่ให้เกียร์ติ คุณไม่มีที่ยืนแน่ เพราะเขาเคารพ แต่หากคุณเขียนเรื่องของกษัตริย์(จำชื่อไม่ได้)ซึ่งมีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ขี้ขลาด ก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณ

บุคคลที่เป็นที่เคารพ ของผู้อื่น และของคนส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยก็ตาม ไม่ควรนำมาแต่งเรื่องในทางเสื่อมเสียล้อเลียน เช่น ศาสดาและผู้นำของแต่ละศาสนา กษัตริย์ จักรพรรดิ์ในบางประเทศ และบุคคลอื่น ๆ ที่มีคุณูปการในด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ ทั้งในอดึตและปัจจุบัน

หากนำมาแต่งในเชิงล้อเลียน ในทางที่ไม่ดี ก็เตรียมรับกับสิ่งที่จะตามมาซึ่งมันมีโทษแรงกว่ากฏหมายเสียอีก

สำหรับเมืองไทย เอาแค่แต่งเรื่องเกี่ยวกับการเมืองโกงกิน คอรัปชั่น แล้วเนื้อเรื่องไปกระทบต่อมนักการเมืองบางคน แค่นี้ก็โดนอำนาจมืดดับกลางอากาศแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้มีกฏหมายอะไรมารองรับด้วยซ้ำไป

ก่อนหน้านี้ ขนาดมีคนด่า มีคนแต่งเรื่องไม่เป็นความจริง ว่าร้าย ใส่ร้าย ในหลวงรัชกาลที่ 9 กันโครม ๆ ต่อหน้าคนนับหมื่นนับแสน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลายคนก็ยังเดินรอยชายอยู่เป็นปกติ ทั้ง ๆ ที่ก็มีกฏหมายอยู่ด้วยซ้ำไป ส่วนคนที่โดนดำเนินคดีติดคุกไป ในหลวงท่านก็ทรงพระราชทานอภัยโทษให้ หากมาว่าร้ายในหลวงตอนนี้เหรอ ต่อให้ไม่มีกฏหมายคน ๆ นั้นได้จมกองบาทานับพันนับหมื่นแน่ ๆ

หากจะแต่งนิยายแฟนตาซีแนวย้อนยุค หรือแนวต่างโลกให้สนุก ก็มีบุคคล หรือหลายสิ่งหลายอย่างให้เขียนได้ตั้งมากมาย ญี่ปุ่นเขาก็ยังเขียนออกมาได้ตั้งเยอะแยะ โดยที่ไม่ได้ไปแตะเรื่องของสมเด็จพระจักรพรรดิ์เลย ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน หรือหากมีก็กล่าวไปในทางให้ความเคารพ

มีหลายจุดมั่วนา

อย่างของญี่ปุ่น จักรพรรดิ แตะไม่ได้ กับไม่ค่อยมีใครแตะ มันคนละเรื่องกันนะ หลายเรื่องก็เอาจักรพรรดิกลายมาเป็นสาวน้อย บางเรื่องให้จักรพรรดิเป็นเกย์ด้วยซ้ำ

เอาเข้าจริงๆ คนญีปุ่น เค้าก็เฉยๆ ไม่ถึงขั้นแบบไทยเลยนา อย่าคิดว่าญี่ปุ่น จะเหมือนไทยสิ

แล้วเขียนอาเธอร์ในทางเวื่อมเสีย จะไม่มีที่ยืนในอังกฤษ อันนี้ก็มั่วเกิน(เคยเห็นคนอังกฤษ ออกมาโวยวายกรณีเฟท มั่งมะ)

ปล..ละเอียดอ่อน ก้ไม่ควรแตะครับ ปล่อยให้อยู่บนหิ้งและเลือดหายไปตามเวลาดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2016, 07:46:16 AM โดย imariagano »
 

Darkcanon

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 07:52:14 AM »
กษัตริย์อาเธอร์มันเป็นแค่เพียงตำนานไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย อีกอย่างเจ้าตัวโดนเอาไปต้มยำทำแกงมาตั้งนานแล้วคนอังกฤษก็ยังเฉยๆเพราะพวกเขารู้ว่าเรื่องเล่ามันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามจินตนาการ เพราะงั้นต่อให้เอาอาเธอร์มายำยังไงก็เข้าอังกฤษได้สบายอยู่แล้ว


แนะนำให้ลองหาหนัง/อนิเมะเกี่ยวกับอาเธอร์ มาดูมั้งนะ จะได้รู้ว่าพี่แกโดนยำยังไงบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2016, 07:56:51 AM โดย Darkcanon »
 

ออฟไลน์ thepingman

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,568
  • ถูกใจแล้ว: 1771 ครั้ง
  • ความนิยม: +115/-30
  • ไม่ใช่หมีสักหน่อย
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 11:41:04 AM »
คุณพ่อผมเคยบอกว่าข้อสอบวิชาประวัติศาสตร์ประถม มัธยม ของฝรั่งน่ะไม่ใช่ให้จำข้อความแล้วมาตอบแบบวิชาประวัติศาสตร์ไทยนะครับ (รู้สึกไทยจะควบรวมกับสังคมถ้าจำไม่ผิด)


ข้อสอบอัตนัยเขาจะถามประมาณนี้ครับ


"ถ้าคุณเป็นพระเจ้าตาก คุณจะเลือกตั้งกรุงธนบุรี ณ ที่แห่งใด และเพราะเหตุใด?"


กล่าวคือให้นักเรียนตั้งคำถามกับการตัดสินใจของบุคคลสำคัญในอดีต วิเคราะห์ว่าทำไม ยังไง และมีทางเลือกอื่นที่คุณคิดว่าดีกว่าไหม เพราะอะไร น่ะครับ


ถ้าเป็นไทยหรือ? ถ้าข้อสอบมีคำถามประเภทนี้ คนออกข้อสอบก็โดนข้อหาลบหลู่บรรพกษัตริย์เต็มๆ เลยครับ
นิยายหัดแต่ง เชิญจิ้มได้ครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=2904.0
โฮ่ง!
 

Darkcanon

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 11:50:48 AM »
บางอย่างในไทยมันละเอียดอ่อน อย่างเช่นเรื่องพระมหากษัตริย์

แต่บางเรื่องอย่างเช่นโขน แทนที่จะเอามาดัดแปลงให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักแบบใน MV กลับเอาไปไว้บนหิ้งให้ฝุ่นเกาะเล่นซะงั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2016, 11:53:47 AM โดย Darkcanon »
 

ออฟไลน์ daijobu

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 991
  • ถูกใจแล้ว: 408 ครั้ง
  • ความนิยม: +28/-61
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 04:53:54 PM »
จริงๆของราชวงศ์ ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเขียนแบบไม่เกรงใจก็มีนะท่านตามโดมืด มั่ง หรือในเรื่องอิงประวัติศาสตร์ จักรพรรดิ์นี่แทบตัวตลกเลย
เพียงแต่เรื่องพวกนี้เรตติ้งไม่ค่อยดี เลยไม่ได้ดังในไทยเท่าไหร่

ที่ดังๆ ก็อย่างเขียนในเรื่องโนบุนากะ ที่คนเขียนหลายเรื่อง ทุกเรื่องต้องอิงหมด ก็ไม่พ้นบทคนอ่อนแอ่ มั่ง ตัวตลกมั่ง ก็ไม่แบบพวกที่โทษฟ้าดินตลอดมั่ง..


 

ออฟไลน์ zero-00

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 3,956
  • ถูกใจแล้ว: 2727 ครั้ง
  • ความนิยม: +96/-126
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 05:22:20 PM »
เอาจริงๆนะ ผมยังไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเวทมนตร์ดำ เสกหนังควายเข้าท้องหรือเล่นของอะไรพวกนี้มันของไทยจริงๆหรือของเขมร
 เพราะตอนเด็กมีใครมันบอกว่าพวกนี้รับมาจากพวกเขมร รบกวนช่วยบอกหน่อยครับ หรือรับมาแต่ดัดแปลงให้เป็นแบบไทยแทนครับ
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 05:43:48 PM »
เอาจริงๆนะ ผมยังไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเวทมนตร์ดำ เสกหนังควายเข้าท้องหรือเล่นของอะไรพวกนี้มันของไทยจริงๆหรือของเขมร
 เพราะตอนเด็กมีใครมันบอกว่าพวกนี้รับมาจากพวกเขมร รบกวนช่วยบอกหน่อยครับ หรือรับมาแต่ดัดแปลงให้เป็นแบบไทยแทนครับ
พระนเรศเรียนที่พม่าหมอผีไทยต้องเรียนทีเขมรของไทยส่วสมากนำเข้าไม่ค่อยมีคิดเองเท่าไหรมวยไทยนี่เอาวิชาหลายประเทศมาพสมพสานแล้วกลบจุดด้อยน่าจะเรียกว่าไทยแท้ได้อยู่ไทยช่วงเเรกๆได้รับอิทธิพลจากทางอินเดียช่วงสร้างวัดและยักหลังๆจากจีนเริ่มมีมังกรจีนและพยานากเริ่มเปรี่ยนรูปทรงเหมือนมังกรจีนมากขึ้น
แต่ถ้าย้อนอดีตไทยจริงๆแต่งเริ่องยากมากถ้าไม่ไช่ชนชั้นเจ้านายสมัยก่อนยิ่งย้อนไปไกลมากเท่าไหร่บ้านเราแบ่งวรรณะกันชัดเจนชาวบ้าน(ไพร่)ไม่มีทางเป็นขุนนางได้ทาสก็คือทาสไม่มีวันเลือนชันได้ถ้าแต่งเรื่องเป็นชาวบ้านจะไม่มีช่องทางพบเหนือหัวได้เลย(สมัยก่อนใครมองเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินถือว่าบาปมีโทษตัดคอ)แต่ถ้าเกิดมาเป็นขุนนางเลยยังพอไหวจะเห็นได้จากเรืองราวประวัติสาทไทยมีเพียงเรื่องเดียวที่ชาวบ้านได้เป็นต้วเอกคือบางระจันแถมตายตอนจบอีกต่างหาก

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 05:47:35 PM »
มีนะ บุหงาปารี กับ บุหงาตานี ไง แฟนตาซีไทยๆ ที่เจ้านายฝ่ายไทยเป็นตัวร้ายซะด้วย
 

ออฟไลน์ one-day

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 27
  • ถูกใจแล้ว: 28 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-4
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 06:49:30 PM »
วิชาประวัติศาสตร์ ในอดึตของไทย มันเป็นความเชื่อแบบตายตัว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็อาจจะเนื่องด้วยเหตุผลทางการเมืองภายใน ภายนอกประเทศ สภาพสังคมและอื่น ๆ แต่ 20 ปี หลังมานี้ในวงการนักประวัติศาสตร์ไทยเริ่มถกกันมากขึ้น มีความเป็นว่าประวัติศาสตร์จะยังไม่นิ่ง หากหลักฐานยังไม่แน่นพอ หรือมีหลักฐานใหม่ที่มากพอก็สามารถเปลี่ยนได้ และไม่ทิ้งและปฏิเสธความเป็นไปได้ในรูปแบบอื่น ๆ ต้องคิดวิเคราะห์แบบ คินดะอิจิ ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันสอนกันแบบไหน คิดว่าน่าจะเปลี่ยนแล้วนะ เพราะก็เห็นมีบทวิเคราะห์ ที่มีความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในหลาย ๆ ช่วงประวัติศาตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ

อาณาจักรในสมัยอดึตของไทย ไม่ค่อยมีบันทึกอะไรทางประวัติศาสตร์มากนัก (ไม่ชอบบันทึก ไม่ชอบเขียน) รายละเอียดต่าง ๆ จึงมีค่อนข้างน้อย หากอ่านพงศาวดารในยุคต่าง ๆ เขียนไว้สั้นมาก ๆ อย่างในยุคอโยธยา แต่ละรัชกาลเขียนบันทึกเพียงแค่ 3-4 บรรทัดเท่านั้นเอง มีเยอะหน่อยก็สมเด็จพระนาราย สมเด็จพระนเรศวร ประมาณ 2 หน้าได้ เราต้องไปรวบรวมเอาจาก จดหมายเหตุ ที่ชาวต่างชาติบันทึกไว้ ไปรวบรวมจากพงศาวดารจากประเทศต่าง ๆ ที่ติดต่อกับเรา

ไม่เหมือนจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างที่จะละเอียด มีแม้กระทั่งคำพูด อย่างกับนิยาย ทีเดียว

ประวัติศาสตร์ ถึงจะมีส่วนคล้ายนิยาย แต่แตกต่างกันมาก ประวัติศาสตร์จะเหมือนการสืบสวน สอบสวนมากกว่า วิเคราะห์ความเป็นไปได้จากความจริง หลักฐานที่มี และต้องเป็นหลักฐานจริง ที่แน่นหนาพอ

ญึ่ปุ่น และในหลาย ๆ ประเทศ ก็เหมือน ๆ ประเทศไทยเรานั่นแหละ ย่อมมีทั้งคนที่รักเคารพ ไม่รักไม่เคารพ และเฉย ๆ ในสถาบันกษัตริย์ จะเหมารวมไปในทางใดทางหนึ่งน่าจะไม่ถูกต้องนัก

แต่ก่อนหลาย ๆ คน คิดว่าเราเป็นประเทศเดียวที่ยังมีคนรักสถาบันกษัตริย์อยู่มาก อย่างญี่ปุ่น กัมพูชา หรือประเทศในยุโรปที่มีกษัตริญ์ ที่เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์แต่พอได้หาข้อมูล ได้พูดคุย จึงได้รู้ว่าเราเข้าใจผิดมาตลอด เขาก็เคารพรักในสถาบันกษัตริย์ของเขาเหมือนกัน หากเราเรียกชื่อกษัตริย์ของเขาห้วน ๆ (ผมก็อธิบายไม่ถูก คือเราก็ไม่ได้คิดอะไร เหมือนเรียกบุคคลที่สามที่เราไม่ได้รู้จักและสำคัญอะไร) เขาจะโกรธมาก เหมือนไม่ให้เกียรติเขา ดูถูกประเทศเขา เรื่องในต่างประเทศนี้ก็ละเอียดอ่อนเหมือนกัน ต้องศึกษาดี ๆ เหมือนกัน

ในทางกลับกัน ชาวต่างชาติในหลายประเทศ ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องของประเทศไทย เขาก็รู้ว่าคนไทยรักในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ เกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก

ส่วนเรื่องนักเขียนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยนำเรื่องสมเด็จพระจักรพรรดิ์มาแต่งมากนัก ผมก็ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าเพราะเหตุใด แต่ก็ไม่ทิ้งหรือปฏิเสธความเป็นไปได้ในทุกทาง ก็จะมองตามความหนักเบาของความเป็นไปได้ และหลักฐาน นอกจากจะได้พูดคุย สัมภาษณ์กับนักเขียนญี่ปุ่นเอง หลาย ๆ คน หลากหลายอายุ ก็น่าจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงสุดแล้ว

บุคคลที่เป็นที่เคารพ ไม่ใช่แค่กษัตริย์อย่างเดียว ไม่ว่าจะของชนชาติใด หรือของใครก็ตาม บางทีก็ไม่ได้มีตัวตนจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ มันมีความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของสังคม ซึ่งต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ว่านึกจะยำอย่างไรก็ได้

ในขณะเดียวกัน บุคคลที่ไม่ได้เป็นที่เคารพ ต่อให้เป็นกษัตริย์ เทพเทวา หรือพระเจ้า จะนำไปต้มยำทำแกง ตุ๋นจนเปื่อย ก็ไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก

ขออภัยครับที่ผมใช้คำผิด ผมไม่ได้ถึง แตะต้องไม่ได้ ผมหมายถึง ไม่ค่อยมีคนแตะ และ ถ้าแตะต้องก็ต้องระมัดระวัง โดยดูบริบททางสังคม ว่าจะมีผลกระทบอะไรบ้าง

ส่วนเรื่อง อาร์เธอร์ ก็คงไม่มีใครคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรอกกระมัง มีทั้งเวทย์มนต์ ดาบวิเศษเอ็กคาริเบอร์ที่มีอานุภาพร้ายแรง อย่างกับเกมอาร์พีจี ที่ว่าใครเอาอาร์เธอร์ไปยำแล้วไม่มีที่ยืน อันนี้ผมก็ว่าเกินไป น้อมรับผิด ขออภัยครับ

เพียงแต่มันเป็นตำนานที่นักประวัติศาสตร์อังกฤษซิ่งแยกเป็น 2 ความเห็น ว่า อาร์เธอร์ ไม่ได้มีอยู่จริง และเป็นเรื่องแต่งทั้งหมด และอีกความเห็นคือ อาร์เธอร์ เป็นเรื่องแต่งที่เขียนจากเรื่องจริง และ อาร์เธอร์ มีอยู่จริง ซึ่งมีอยู่ 3 คน ในประวัติศาสตร์ที่ น่าจะเป็นอาร์เธอร์ ซึ่งมีหลักฐานอยู่เพียงน้อยนิด และไม่แน่นหนาพอ แต่ก็ไม่ตัดทิ้ง เพราะมันมีความเป็นไปได้ และมีเบาะแสเพียงพอที่ไม่สามารถตัดทิ้งได้

เรื่อง อาร์เธอร์ ถึงจะเป็น ตำนาน มีตัวตนจริง ๆ อยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่หลายคนก็เชื่อว่ามีอยู่จริง หรืออยากจะเชื่อว่ามีอยู่จริง ในกลุ่มคนเหล่านี้ ก็มีคนที่ยึด อาร์เธอร์ เป็นฮีโร่ของพวกเขา หากนำตัวละครที่เขายึดเป็นฮีโร่ เอาไปยำเกินเลย เช่นเอาไปเป็นตัวร้ายที่ทำลายประเทศอังกฤษแทนที่จะเป็นผู้กอบกู้ในยุคนั้นแทน ย่อมเกิดความไม่ชอบเกิดขึ้นแน่นอน แต่จะถึงขั้นต่อต้านหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนัก

อย่างเรื่อง หงสาจอมราชันย์ เป็นเรื่องแรกในฮ่องกงที่อิงประวัติศาสตร์แล้ว ปฏิวัติแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊กโดยสิ้นเชิง ในแรกเริ่ม ผมจำได้ว่า มีกระแสต่อต้านจากนักประวัติศาสตร์ของฮ่องกงค่อนข้างมาก เพราะเขียนออกมาในมุมมองที่พลิกด้านอย่างมากมาย เขียนให้โจโฉเป็นวีรบุรุษ ยอมให้ประชาราษฎร์หยามหยันว่าทรราช แต่รักษาไว้ซึ่ง ปวงราษฎร์มิให้เดือดร้อน และเล่าปี่กลายเป็นตัวร้าย ฆาตรกรเลือดเย็น ใช้ประชาชนเป็นโล่ เจ้าเลห์เพทุบาย อ.เฉินเหมาก็ให้เหตุผลในมุมมองของตนต่อตัวละครนั้น ๆ และแสดงเหตุผลถึงความเป็นไปได้ในมุมมองนั้นตามประวัติศาสตร์ และคงไว้ซึ่งจุดหลักตามประวัติศาสตร์มิได้เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ จนเป็นที่ยุติ (รู้สึกว่าจะมีประชาชนที่เป็นคนสมัยเก่าแสดงความไม่พอใจออกมาด้วย แต่ก็เข้าใจในที่สุด) อ.เฉินเหมาก็คิดไว้แล้วว่าต้องมีกระแสต้าน แต่ท่านก็กล้าที่จะเขียนออกมา เพราะมีเหตุผลที่เพียงพอ และได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างในที่สุด (เหตุการณ์ผมก็จำได้ไม่ชัดนัก นานมากแล้ว ก็ประมาณนี้แหละ อ. คงคำนวนไว้แล้วหล่ะ)

อย่างเรื่อง โดราเอมอน มีแฟนฟิค แต่งให้โดราเอม่อนตาย ก็มีกระแสต่อต้าน ไม่เห็นด้วยอย่างมากมาย

อย่างเรื่อง Re: Monster ก็มีกระแสต้าน ไม่พอใจในการกระทำบางอย่างของตัวละคร ที่ผู้อ่านหลายคนรับไม่ได้

และก็มีการ์ตูนย์ นิยาย อีกหลายเรื่องที่ตัวละครเหล่านั้นพอเกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับไม่เป็นที่พอใจของผู้คนที่ชื่นชอบ

บางที ถึงไม่ใช่บุคคลที่มีอยู่จริง เป็นเพียงแค่ตัวละครในตำนาน ในนิยาย ในการ์ตูนย์ หากผู้คนมีความรักในสิ่งเหล่านั้นแล้ว ก็ต้องมีความระมัดระวังในการเขียนเช่นกัน
 

ออฟไลน์ one-day

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 27
  • ถูกใจแล้ว: 28 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-4
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 07:44:42 PM »
เรื่องทาสนี่ก็มีมานานมากแล้วไม่ว่าจะชนชาติไหนตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์แล้วหล่ะมั้ง

ทาสในไทยที่ไม่สามารถไถ่ถอนได้ รู้สึกจะมีอยู่ 2 แบบนะครับ ทาสในเรือนเบี้ย หรือก็คือลูกที่เกิดจากทาส กับทาสเชลย ผู้คนที่ถูกกวาดต้อนมาเมื่อชนะสงคราม

ทาสแบบอื่น ๆ หากมีเงินไถ่ถอนได้ ก็พ้นการเป็นทาสได้ แต่ว่าจะมีเงินมาไถ่ถอนเหรอ ไม่ใช่เงินน้อย ๆ ทำงานให้เจ้านายก็ไม่ได้ตัง ไปทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ แล้วจะเอารายได้จากไหนมาไถ่ตัวกันล่ะ อืมถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าถ้าขอบวชพระ แล้วนายทาสอนุญาติ ก็พ้นความเป็นทาสได้ หรือถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารก็พ้นความเป็นทาสได้

ส่วนเรื่องการเลื่อนขั้นนั้น ไพร่ก็เลื่อนขั้นได้หากมีความสามารถ เตะตา และเป็นที่โปรดปรานของเจ้านาย ก็จะได้รับการแต่งตั้งได้ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนก็แล้วสุดแท้แต่ แต่ก็มีโอกาสน้อยมาก ๆ อย่างนายขนมต้ม จากไพร่ไปเป็นองครักษ์ (คาดเอานะน่าจะไปเป็นจตุรงคบาท เพราะมีฝีมือ ในตำนานไม่ได้บอกว่าไว้ว่าพระเจ้าอังวะจะให้อยู่ในตำแหน่งใด แต่นายขนมต้มไม่รับ)  หรือ พระเจ้าอู่ทอง ที่แต่ก่อนเป็นเพียงแค่คนเลี้ยงช้าง คนเป็นขุนนางเสนาบดีก็ย่อมมีโอกาสมากกว่าเป็นธรรมดา

ในญี่ปุ่นยุคซามุไร ในบางแคว้นก็ยังมีการแบ่งชนชั้นของซามุไรเอง มีซามุไรขุนนาง ซามุไรรับใช้ พ่อค้า ชาวนา ระดับซามุไรรับใช้นั้นอยู่ต่ำมาก โดนดูถูกมาก โอกาสขึ้นไประดับบนนี่แทบไม่มี (ประมาณทหารเกณฑ์ ยศจะขึ้นได้ยาก และไปไม่ไกล เต็มที่ก็นายพัน แต่ส่วนใหญ่จะเป้กที่จ่ากับหมู่)

เรื่องการห้ามมองพระมหากษัตริย์ หากเป็นยุคอาณาจักรสุโขทัยก็จะเป็นลักษณะครอบครับ ไม่ถึงกับเงยหน้ามองไม่ได้ คือสามารถมองได้ ส่วนอาณาจักรอโยธาได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมการปกครองจากขอม หากเป็นแบบทางการไม่สามารถมองหน้าได้ ยกเว้นบอกให้มอง นอกจากมีเรื่องจะพูดแล้วได้รับอนุญาติ แต่ก็ยังไม่เป็นที่สรุปนะ หากแบบไม่เป็นทางการ คือไปเยื่ยมเยืยนประชาชน ก็มองได้ ของจีนนี่บางยุคก็ห้ามมองฮ่องเต้เหมือนกันนะ

กาห้ามมองเป็นการป้องกันการเข้ามาสังหาร

แตุ่ถ้าเอามาเขียนนิยาย เรื่องพวกนี้ก็ไม่จำเป็นหรอก ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ไปก็ได้ ไม่ได้เขียนประวัติศาสตร์ซะหน่อย

เรื่องคาถาผมมีความเห็นว่า หากเป็นคาถา ที่คำร่ายคาถาเป็นภาษาบาลี ก็จะเป็นของไทยเรา มักจะเป็นมนต์ขาว ใช้ป้องกันตัว และรักษา หากเป็นไสยเวทย์ที่เป็นภาษาขอมก็เป็นของเขมร มักจะเป็นมนต์ดำ ใช้โจมตี และทำร้าย

ที่เป็นไสยเวทย์ขอม ก็มี ดำดิน ควายธนู แสกหนังควายเข้าท้อง ยาสั่ง ทำสเน่ห์ ยาแฝด น้ำมันพราย ไอ้งั่ง กุมารทอง มีดหมอ ยันต์ ตะกรุด สักยันต์สัตว์ต่าง ๆ เลี้ยงผีต่าง ๆ และอื่น ๆ

คาถาของไทย ก็มีทั้งแบบย่อ และแบบเต็ม ก็มี สักยันต์พุทธคุณ ตะกรุด พระเครื่อง มนต์เกราะเพชร คาถานะจังงัง คาถาล่องหนหายตัว คาถาแสกผึ้ง คาถาแสกเรียกสัตว์ต่าง ๆ มาช่วย คาถาสเดาะกลอน คาถามหาสเน่ห์ คาถามหาละลวย นะหน้าทอง คาถาเรียกทรัพย์ คาถาอิทธิฤทธิ์ คาถามหาอำนาจ คาถามหาพิทักษ์ คาถามหาลาภ คาถาเสริมทรัพทย์ คาถาบูชาเงิน คาถากำแพงแก้วเจ็ดชั้น พระคาถาพระสิวะลี พระคาถาดำเนินสะดวก คาถาย่นระยะทาง คาถามหาอุจ คาถามหาทรหด คาถาธนูมือ คาถาขุนแผน คาถาพญาเทครัว คาถาฤษีแปลงสาร คาถาสาริกาลิ้นทอง คาถาอำนาจครุฑ คาถาเป่าพิษ คาถาอรหันต์ 8 ทิศ คาถาพระพุทธเจ้า 10 ทิศ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นคาถาโจมตีนั้นมีอยู่น้อยนิดมาก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการป้องกัน เสริมพลังตัวเอง ลดพลังศรัตรู ที่มีใช้โจมตีได้เห็นจะเป็น คาถาเรียกสัตว์ต่าง ๆ มาช่วย และคาถาพุทธคุณที่ใช้กำจัดผีของฝ่ายขอม

คาถาของพม่าก็มี คาถาของมลายูก็มี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2016, 12:38:15 AM โดย one-day »
 

imariagano

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 08:11:57 PM »
ญี่ปุ่นไม่มีทาสนะ
แปลกดี

แล้วนายขนมต้มไมไ่ด้เป็ฯราชองค์รักษ์
 

SMG007

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิยายต่างโลกแบบไทยแท้
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2016, 08:25:22 PM »
ญี่ปุ่นไม่มีทาสนะ
แปลกดี

แล้วนายขนมต้มไมไ่ด้เป็ฯราชองค์รักษ์


เอาที่ไหนมาพูดว่าประเทศญี่ปุ่นไม่มีทาส ทุกสังคมมันก็มีการกดขี่ใช้กำลังคนระดับล่างมานับพันๆปีแล้ว
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก