แนะนำให้ดูก่อน แม้ท่านจะไม่เข้าใจอังกฤษแต่ภาพประกอบก็เพียงพอที่จะช่วยให้ท่านเข้าใจสาระสำคัญได้
ก่อนอื่นเรามาตีความประโยคที่ว่า "การศึกษาคือการยกระดับประชาชน" นั้น "ระดับประชาชน" คือระดับอะไร
ระดับคุณภาพชีวิต ? ระดับ IQ, EQ ? ระดับความรู้ ? ความรู้ด้านไหน ?
แล้วระดับการศึกษาใดที่ถือได้ว่าพอเพียงต่อการ "การยกระดับประชาชน" นี้ ?
จากนั้นเรามาดูคติของคนรุ่นก่อนๆ ที่ว่า "เรียนจบสูงๆ จะได้มีงานดีๆ เงินเดือนสูงๆ จะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อแม่"
ผมเชื่อว่าเราๆ ท่านๆ ที่จบกันมาแล้วจะเข้าใจกันดีว่าการเรียนจบสูงๆ นั้นเป็นเพียงแค่ตั๋วล็อตเตอรี่สำหรับการเจอ "งานดีๆ เงินเดือนสูงๆ"
ซึ่งนอกจากหาได้ยากยิ่งกว่าเปิดกาชาหาตัว SSR แล้วยังไม่ได้มีเราเพียงลำพังที่เจอด้วย ทุกคนที่หาเจอนั้นก็จะต้องมาแข่งกันเพื่อหาคนสุดท้ายที่ได้ตำแหน่งงานนี้
ทีนี้คนที่พยายามเรียนจบสูงๆ อย่างป.ตรีนั้นมีเยอะแยะมากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ตำแหน่งงานที่ต้องการนั้นไม่ได้เยอะขนาดนั้นแถมบางปีกลับลดลงด้วย
ขณะที่ตำแหน่งงานระดับปวช. ปวส. ซึ่งเป็นระดับความรู้ที่พอเพียงสำหรับภาคธุรกิจนั้นๆ กลับขาดแคลนเพราะความเชื่อด้านบน
แล้วเราควรเรียนจบแค่ปวช. ปวส. เงินเดือนน้อยๆ ? หรือเราจะเลือกเรียนจบป.ตรี ป.โท ป.เอกเพื่อโอกาศที่ดีกว่า ?
เราจะเห็นได้ว่าสุดท้ายแล้วบั้นปลายของการศึกษาคือความคาดหวังในการทำงานสบายเงินเดือนสูง
หาได้ยากที่ผู้ปกครองจะส่งเสียลูกเพียงเพื่อความรู้ IQ EQ เพียงลำพัง
ซึ่งจะสรุปว่าผู้ปกครองส่งเด็กไปโรงเรียนเพื่อเป็นลูกจ้างระดับสูงก็คงไม่ผิดนัก
แต่พอจะบอกว่า "การศึกษาคือการยกระดับคุณภาพลูกจ้าง" แล้วนั้น กลับไม่มีใครอยากจะพูดและอยากจะเชื่อ
นักการเมืองไม่กล้าพูดเพราะกระทรวงนี้ถลุงเงินไปเยอะ ผลประโยชน์แยะ ใครแตะมีเจ็บ
สถาบันการศึกษาก็ไม่กล้าพูดเพราะมันเป็นหน้าตายศถาของผู้เกี่ยวข้องสถาบัน
ใครจะยกย่อให้เกียติยกย่องเชิด "ลูกจ้าง" สถาบันศึกษาถ้าบอกไป แถมลูกจ้างที่หลงเชื่อไปนั้นก็ทุ่มเททำงานแบบไม่ขอโอทีด้วย
ภาคธุรกิจที่เกี่ยวของก็ไม่มีใครพูดเพราะเป็นเพียงไม่กี่ธุรกิจที่ลูกค้าไม่ต่อราคาแถมยังเลือกหาที่แพงที่สุดเท่าที่กำลังทรัพย์ของตนจะมี
ย้อนกลับไปยังประโยค "การศึกษาคือการยกระดับประชาชน" หากจุดประสงค์ของการศึกษาคือการยกระดับประชาชน
ทำไมค่าใช้จ่ายทางการศึกษามันถึงสูงขึ้นอย่างทวีคูณ ทำไมคุณภาพของการศึกษานั้นบางครั้งสู้อ่านวิกิพีเดียหรือดูคลิปในยูทูปไม่ได้
ทำไมเครือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาถึงเติบโตและแข่งขันกันสูงขึ้นๆ ? เพราะสภาบันการศึกษาของภาครัฐนั้น "ยกระดับประชาชน" ไม่พอหรือ ?
หากสภาบันการศึกษาไม่ดำเนินการเพื่อการกุศลแล้ว การศึกนั้นก็เป็นธุรกิจ และธุรกิจต้องการผลกำไร...
ใครคือลูกค้า ? อะไรคือผลิตภัณฑ์ของธุรกิจการศึกษา ?
ลูกค้านั้นย่อมเป็นคนที่จ่ายเงินซึ่งก็คือผู้ปกครอง ส่วนผลิตภัณฑ์นั้นก็คือการฝึกเด็กให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ต้องการทักษะความรู้ระดับต่างๆ
ทว่าเมื่อไม่มีใครยอมรับว่า "การศึกษาคือการยกระดับคุณภาพลูกจ้าง" แล้วความบิดเบี้ยวจึงได้บังเกิดขึ้น
หลักสูตรการสอนที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
หลักสูตรล้าสมัยที่ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดงานไม่ทัน
หลักสูตรผลาญเงิน ออกมาเพื่อตามใจเด็กที่ผู้ปกครองตามใจ(ไม่ว่าจะเพราะโอ๋ เพราะบ้านมีกิจการ หรือเพราะเชื่อว่าลูกจะทำเงินได้จากความรู้นี้)
เด็กเองก็ไปเรียนอย่างไร้จุดหมาย ไปโรงเรียนเพื่อหาเพื่อนซะเยอะ
พอเรียนไประดับสูงขึ้นก็เลือกเรียนหลักสูตรตามความฝัน หลักสูตรเรียนง่ายจบง่าย
สุดท้ายจบมาแล้วหางานไม่ได้เป็นจำนวนมาก
ทว่าเด็กจบมานั้นไม่ได้จบออกมาตัวปล่าวกันซะทั้งหมด มีจำนวนไม่น้อยที่จบมาพร้อมกับหนี้ก้อนโตที่ชื่อว่าหนี้เพื่อการศึกษา
การศึกษาที่ไม่ได้ช่วยให้เด็กนั้นหาเงินมาใช้หนี้ได้และปริมาณหนี้ที่เด็กนั้นไม่เคยแลดูมาก่อน ซึ่งเปรียบได้กับคนรูดบัตรเครดิตที่ไม่เคยเช็คยอดจนเต็มวงเงิน
ตื่นจากความฝันสวยหรูที่เหล่าผู้ใหญ่กรอกหูว่าเรียนจบแล้วมีงานทำมีเงินใช้ มาพบความจริงที่นอกจากไม่มีงานแล้วยังมีหนี้ก้อนโตอีก
ซึ่งหนี้เพื่อการศึกษานี้นั้นโตขึ้นในเด็กแต่ละรุ่นโดยไม่มีใครทักท้วงเนื่องด้วย
1. นักเรียนและผู้ปกครองไม่เคยสนยอดหนี้ที่ก่อ แถมยังเชื่ออย่างสนิทใจว่ายังไงก็มีเงินใช้หนี้ได้สบายๆ จากงานตอนเรียนจบ
2. ภาครัฐก็ไม่แคร์ เพราะยังไงเงินนี้ก็ได้คืน ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง แถมยังเป็นเงินภาษีไม่ใช่เงินของเหล่าผู้เสนอและดำเนินนโยบาย
3. สถาบันการศึกษา เมื่อคนออกเงินไม่แคร์ คนจ่ายก็ไม่แคร์ แล้วตัวสถาบันเองจะแคร์ทำไม ขึ้นราคาไปยังไงก็จ่ายกันได้ จ่ายไม่ได้ก็ไปกู้สิ
เขามีกองทุนชื่อสวยๆ ว่า "กองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา" "กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา" อยู่
กลายเป็นวงจรอุบาตที่เหล่าผู้เสียผลประโยชน์หลอกตัวเอง หลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อจากภาคต่างๆ
สุดท้ายต้องมานั่งใช้หนี้ก้อนโตที่ไม่สร้างรายได้อะไร แถมไม่ได้ใช้ไปไม่กี่ปีก็ลืมหมดแล้วที่เสียเงินเรียนกันมา
ส่วนผู้ได้ผลประโยชน์ ผลกำไรจากวงจรนี้นั้นก็เหล่าภาคส่วนที่โปรโมตว่า "การศึกษาคือการยกระดับประชาชน" นั่นแหละครับ