มีเยอะกว่า ชนะได้มันไม่เร้าใจไง คือ ถ้าคุณภาพทหารพอๆกัน ก็อย่างที่เสี่ยอุ้ยว่า มีเยอะเป็นสิบเท่ายังแพ้นี่เสียหมาเห็นๆ คือเอาจริงๆแล้วคำอธิบายนี่ไม่จำเป็นด้วยซ้ำนะ เพราะเป็นเรื่องธรรมดา (มันจะไม่ธรรมดาถ้าคุณภาพกำลังรบและสติปัญญาแม่ทัพต่างกันมากเกินไป)
ส่วนตัวผมว่าคนอ่านไม่ปลื้มนักหรอกครับ ไอ้ศึกที่เห็นชัดๆว่าชนะแน่นอนเนี่ย จืดไป คนแต่งเลยต้องพยายามเล่นศึกที่ตัวเอกมีน้อย จะได้ดูลุ้น(แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าพล็อตอาร์เมอร์หนาเตอะกว่าฝาบ้านก็ตาม)
เพียงแต่วิธีจะแถให้ชนะได้ มักง่ายสุดคือ ยุทธโธปกรณ์ ยัดปืนไปในยุคที่ยังใช้หอกดาบธนูกันอยู่ มีเวทย์บ้างแต่น้อย มันทำให้คนอ่านคล้อยตามได้ง่ายว่า เออ มีของระยะไกลที่ยิงได้แรงแถมไม่กินมานา และ เยอะระดับทหารมีถือกันแทบทุกคน ก็น่าจะเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานะการ์ณ (อนึ่ง เรื่องที่เคยอ่านมีเรื่องนึง พระเอกพัฒนาปืนสำเร็จ ลองใช้จริง เก็บเข้ากรุเลยทีเดียว ยิงใส่คนได้ แต่ฆ่านักเวทย์ไม่ได้แค่ระคายผิว ในเรื่องพวกนี้หนังเหนียวจากมีออร่าคลุมตัว ปืนคาบศิลายิงได้แค่ทะลุหนังได้เลือด แต่แผลตื้นเกินกว่าจะอันตรายถึงชีวิต แคะกระสุนออกแล้วฮีลๆเอาก็หายละ )
ใช่ครับผม
ผมสังเกตอย่างท่านหวงอี้ มักจะให้พระเอกลุยเดี่ยวตลอดเพื่อสร้างความตื่นเต้นในช่วงทีไ่ด้เปรียบไล่ฆ่าฝ่ายศัตรู ท่านหวงอี้จะบรรยายผ่านๆเพราะไม่ต้องการบรรยายฉากการฆ่าศัตรูอย่างเห็นได้ชัด
..เรื่องพัฒนาปืนในอิเซไคผมเจอเมหือนกันครับว่า
ปืนยิงสายนักสุ้ไม่เข้า
ผมว่าก็ใช่ หากเจอกองทัพที่มีเฮียกัซหรือยูจิโร่ เราคงคิดว่าปืนมันใช้ลำบากผมไปอ่านการพัฒนาของปืนว่าเราต้องคอยการมาถึงของปืนใหญ่ต่างๆ
มากวก่าปืนเล็กนั่นล่ะถึงจะชนะได้บางระจันเราก้ต้องอ้างว่าปืนใหญ่
ใจสู้รักชาติแค่ไหนสู้ปืนใหญ่ไม่ได้
...
อุ้ยเห็นอย่างนี้ มันรบชนะตลอดนะครับแค่ติดหม้อผู้หญิงเลยโดนจับตัวไปแต่ตามสถิติการรบนั้นชนะตลอด
ว่าไปแล้วนิสัยของอุ้ยเป้นนิสัยที่ดีของแม่ทัพนะครับ
เวลามีอะไรถามคนที่มีความรู้ก่อน
จะบุกทางทะเลก็ถามซือลั้ง
จะบุกภูเขาก็ถามทหารเครารกครึ้มเล่นมุกว่า
"คนมีความสามารถไม่ประจบสอพลอ คนที่ประจบสอพลอ มารดามันคงไม่ดีกว่าเราสกัเท่าไร"..
คือผมคิดมาตลอดในตอนที่ จอร์จ อาร์ อาร์ มารื์ตินบรรยายเรนลี่เรือ่งที่หาพันธมิตรได้หยิบโหย่ง รักสบาย
ซึ่งผมก็คิดถึงอุ้ยขึ้นมาทันทีเลยหยิบโหย่งรักสบายแล้วจะทำไม?
เอ็งชนะทหารของตูได้หรือเปล่าล่ะ?
การสู้รบกับคนค่าการทูตเต็มหลอดนี่ผมว่าปวดหัวมากๆเลยนะครับ
ผมนึกถึงหนังพระพุทธเจ้า
ตอนเป็นเจ้าชายพระพุทธเจ้าท่านลอบเข้าไปพบพันธมิตรฝ่ายศัตรู
รู้สึกตัวอีกที ผู้นำฝ่ายศัตรูเหลือคนเดียวที่คิดจะรบต่อ
รู้สึกกลัวเจ้าชายสิทธัตถะขึ้นมาทันที
ว่าเจอคารมเข้าไป เคลิ้มเป็นแถบๆพันธมิตรที่เราสร้างมาเคลิ้มไปกับศัตรุ เราเป็นหัวหน้าพันธมิตรก็คงหนาวๆเหมือนกันครับ
แบบอุ้ยเสี่ยวป้อ เกลี้ยกล่อม ธิเบต มองโกลให้ยอมสวามิภักดิ์ได้
การสู้กับคนค่าการทูตเต็มหลอดมันลำบากมากๆ แม้จะเจอกับคนที่กระจอกทางสงครามมตรงๆแบบอุ้ยเสี่ยวป้อก็ตามแต่พันธมิตรของอุ้ยหรือเรนลี่มันก็เยอะกว่าจนกลบความแตกต่างไปจนหมดนั่นล่ะ
ว่าเอ็งอ้างว่้ารบเก่งกว่า ทำอะไรตุได้เปล่าล่ะ?
อุ้ยมันยังบ่นตอนท้ายเรื่องเลยครับ
ว่าหากให้อุ้ยไปร่วมรบด้วย จะออกอุบายจับตัวอู๋ซันกุ้ยทั้งเป็น ไม่ให้โอกาสฆ่าตัวตายผมว่ามันทำได้จริงนะเรื่องแผนบ้าๆนี่อุ้ยมันถนัด
ตอนปกครองเกาะไต้หวัน โกงกินสะบั้นหั่นแหลกชาวบ้านก็ยังรักใคร่
ซือลั้งซื่อสัตย์สุจริต ดันโดนชาวบ้านด่า
[quote/]
ขอบคุณมากครับ เพราะผมดูเมะเรื่องนี้ไปซีซั่นแรก และมังงะถึงแค่ตอนสู้กับมังกรนี้ละครับ เลยค่อนข้างจะมองว่าโลกของ Gate นี้เวทมนตร์มันกาก หากไม่นับยัยหนู(ที่ผมลืมชื่อแล้ว 555)ที่ประยุกต์เอาเวทมนตร์กับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันจนเวทมนตร์โหดมากนี้ละครับ เลยไม่นึกว่าโลกของ Gate จะยังมีตัวโหดๆซ่อนไว้อีกเพียบแบบนี้
[quote/]
เห็นพูดถึงเรื่องจอมทัพพลิกแผ่นดินด้วยเลยขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ สำหรับผมในซีรี่ย์นี้(รวมภาคหนึ่งและสอง) หวงไท่จี๋ ออกแบบมาได้โหดจริงๆครับ แค่ออกมาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวแล้ว และไหนจะหยวนฉงหวนอีก เพราะนิยายเรื่องนี้นี่ละที่ทำให้มุมมองของผมที่มีต่อหยวนฉงหวนเปลี่ยนไปเลย และการทำให้สองคนนี้กลายมาเป็นตัวร้ายหลักของเรื่องก็เสริมรสชาติออกมาได้โคตรดีมากครับ ผิดกับภาคสองที่ เหมือนให้ สี่ผิง พระเอกภาคสอง ออกมาตบกีกี้แค่นั้นเลยครับ ไอ้คนที่พอจะมีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อกรให้อย่าง เจิ้งเฉิงกง นี้คือตัดบทไปดื้อๆเฉยเลย ทั้งๆที่ถ้าปั้นมาดีๆ การเห็น สี่ผิงปะทะกับเจิ้งเฉิงกง คงจะเป็นอะไรที่มันส์น่าดูละครับ
ผมว่าเอาแบบตรงๆไม่เอาเวทย์มาปรับปรุง
เมืองเวทย์ก็โชว์แล้วนี่ครับว่าเต็มไปด้วยจอมเวทย์ที่ขนาดกองทัพหรือนักฆ่ายังบุกเข้าไปไม่ได้
จอมเวทย์เพลิงก้ศร้างควาหมวาดกลัวให้กับคนทั่วไปอย่างมากจอมเวทย์คาโต้ เมหือนตาแก่ลามก แต่ก็เป้นคนใหย่คนโตในเมืองจอมเวทย์
..ใช่ครับ
ผมว่าหวงไท่จี๋ ลุกล่อลุกชนทั้งการเอาชนะใจ แผนทางการเมืองต่างๆเก่งมากๆพระเอกเราเอาชนะได้แบบงงๆใช้กำลังหักเอาอย่างเดียวภาคสองเจอคนบ่นเมหือนกันครับว่า ตัวเทพๆหายหัวไปไหนหมดแถมชนะได้โดยไม่เสียกำลังรบทั้งที่ทหารพอพอกันนี่เว่อเกินไปแล้ว
ผมสังเกตว่าคนเขียนมกัเล่นมุกนี้ตลอด
ว่า หากหวงสือออกรบจะเล่นมุกให้มีความผิดพลาดตลอดเวลาหากคนอื่นออกรบ โชคจะเข้าข้างมากๆ
เช่น ทดลองอาวุธ บอลลูนลอยฟ้าผิดพลาด อาวุธยิงพลาด ฯลฯแต่พอคนอื่นสู้กลับบุกเข้าไปยบึดเมืองได้ง่ายๆแบบไม่เสียกำลังพลเลย
ผมไปเจอคนทักใน pantip ว่ายิ่งกว่า GM เองอีกในภาคสองนี่
และรู้สึกว่าคนเขียนจงใจเขีัยนโรแมนซ์ในเรือ่งให้ห่วยแตกมากๆหรือเปล่า?
เป็นอีกเรือ่งที่ผมรู้สึกสาบส่งนางเอกมากๆ
นึกย้อนกลับไปเล่มแรกๆ ผมรู้สึกว่าเคนเขียนตั้งใจจะเขียนออกมาอีกแนวหนึ่ง แต่หักปากกาไปอีกทางหนึ่งแบบท่านกิมย้งที่ไม่ให้อุ้ยเสี่ยวป้อมีวรยุทธสูงนั่นล่ะครับ