ผมไปอ่าน มหาศึกชิงบัลลังก์และเจอคนวิเคราะห์มาว่า
ทางเทคนิค ทุกคนมองว่า เรนลี่กระจอกกว่าสแตนนิส
และเรื่องแนวแฟนตาซีหลายเรื่องก็พยายามแถว่าพวกอิเซไคที่ขาดประสบการณ์ไม่สามารถสู้กับคนมีประสบการณ์
แต่สมมติไอ้พระเอกอิเซไคคนนั้นมันมีพลังล้างสมองหรือเสน่ห์พระเอกมากพอแบบเรนลี่
ที่รวบรวมกองทัพได้ 100,000 คนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กับสแตนนิส ยอดขุนพลในสงคราม เคยรบมาสารพัดแล้ว
สแตนนิสจะเอาชนะเรนลี่ได้อีท่าไหนหากไม่ใช้เวทย์ครับ?
ไปเจอหลายท่านบอกว่า
จริงๆแล้วพลังการทูตคือพลังที่โกงที่สุดอย่างหนึ่งในโลกความจริง
หากเราสร้างพันธมิตรได้อย่างสิบแปดหัวเมือง
ตั๋งโต๊ะที่มีเมืองหลวงกับฮ่องเต้ก็ยังต้องหนี
เรนลี่เก่งกว่าคือทุกคนรักแก
และกองทัพ 100,000 คนต้องการให้เรนลี่ครองบัลลังก์มากกว่าสแตนนิส
เราจะเอาชนะกองทัพขนาดนั้นได้อีท่าไหน?
ผมสังเกตแนวอิเซไคพยายามเล่นมุกว่า
"คนน้อยเอาชนะคนมาก"
และพยายามบอกว่าตนเองเป็นพวก
"เรียลลิสม์"
"สมจริง"
อะ
สมจริง จะเอาชนะทหารที่มากกว่าสิบเท่าอย่างไร?์
แนวจอมมารเศรษฐศาสตร์หรือแนวจอมมารเรียลลิสม์หรือจอมมารปืน
ก็พยายามแถว่าใช้กลยุทธเทคโนโลยีนั่นเอง
นั่นก็ถูกต้อง
การมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าคือ force multiplier ตัวเพิ่มพลังของกองทัพจริงๆ
แต่หากฝ่ายตรงข้ามมันใช้ force muiltiplier เหมือนกันล่ะ ผลจะเป็นอย่างไร?
และอีกฝ่ายดันมีกำลังคนในการผลิตมากกว่าด้วย
ผมรู้สึกว่าเรื่องราวแนวจอมมารเรียลลิสม์จะจบลงด้วยความรวดเร็วหรือเปล่าหว่า..หากฝ่ายประเทศที่ใหญ่กว่า เร่งนโยบายเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ก่อน?
มุกหนังจีนคือ
"ต่อหน้ากองทัพขนาดใหญ่ แผนการออะไรใช้ไม่ได้ผล"..ซึ่งคนพูดอย่างนี้แพ้ทุกที ฮา
เป็นเรื่องจริงที่ในเคสฮันนิบาลบุกกรุงโรมและโรมแพ้สงครามโดนล้อมตายไปนับแสนคน
แต่ว่าเพราะอย่างนี้ทำให้นักการทหารตะวันตกยุคหลังๆเน้นเรื่องการส่งกำลังบำรุงและการทำสงครามแบบสุมาอี้มาก
หลีกเลี่ยงการแพ้ขนาดใหญ่เอาไว้
และหากทำสงครามระยะยาว
ใครจะชนะระหว่างฝ่ายมีหนึ่งหมื่นคนหรือหนึ่งแสนคน?
ผมว่าน่าสนใจในเรื่องแนวคิดเหมือนกัน
ว่าเราอยากเขียนให้ตื่นเต้นว่าพระเอกเสียเปรียบ แต่ก็พยายามเขียนว่าเอาชนะได้ด้วยเช่นกัน
แม้จะต้องทำลายความสมจริงไปก็ตาม
..
ผมว่านี่คือปัญหาที่เราต้องการความสมจริงและแฟนตาซีในเวลาเดียวกัน
มันไปด้วยกันไม่ได้หากเราคิดจริงจังกับมันแล้ว
นึกถึงประโยคในอุ้ยเสี่ยวป้อตอนจะบุกค่ายภูเขาประมาณว่า
"หากเรามีกำลังมากกว่าข้าศึกสิบเท่า หากพ่ายแพ้ไหนเลยเป็นผู้คนได้"
เรียกว่าหากคนวางแผนหรือคณะเสนาธิการ ไม่กากเกินไป
บุกไปตามปรกติก็ชนะแล้วนั่นเอง
แต่อย่างนั้นคงหมดความตื่นเต้น
เพราะเหมือนกับเรื่องต้องห้ามที่นิยาย แต่ละเรื่องเหมือนไม่อยากให้พระเอกอยู่ฝ่ายคนเยอะ
แม้กระทั่งสี่ยอดมือปราบ
จูกัดซินแสตอนแข่งพนันกับท่านข่าน
ก็บอกว่าตนเองมีทหารร้อยหมื่น ท่านข่านมียี่สิบหมื่น
อ้าวแสดงว่าราชวงศ์จีนมีคนมากกว่านี่หว่า?
ปัญหาที่แท้จริงน่าจะเป็นปัญหาเรื่องของการรวมกำลังและการขนส่งมากกว่า
ว่าอาณาจักรที่รวบรวมกองทัพจำนวนเว่อๆพรรค์นี้ได้ ต้องเป็นอาณาจักรที่มีการขนส่งดีมากๆ
ผมมองแนวอิเซไค
แก้ปัญหาโดยการมีปืนใหญ่และอาวุธต่างๆน่ะครับ
ซึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาเรื่องจำนวนทหารได้สมจริงในระดับหนึ่งนั่นเอง
แต่คงทำไม่ได้หากอยู่ในระดับที่เทคโนโลยีเท่ากันหรือเพราะวทย์ทำให้ไม่ต่างกันมากนักในเรื่องพลังของกองทัพ
ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?
แก้ปัญหาความสมจริงโดยการปลุกปืนใหญ่มาเลยดีหรือเปล่า?
ผมมองในแง่ของ แม้แต่แนว Hentai
Kuroinu
หากมันมีโกเล็มขนาดยักษ์จริงๆ
ต่อให้มีปืนใหญ่ก็น่าจะเอาชนะยาก
หรือหากฝ่ายเวทย์มันรู้ทางเรื่องจุดอ่อนของปืน
ดันส่งปีศาจประมาณผู้คุมวิญญาณมาโจมตี ฝ่ายปืนก็คงจะลำบาก
ไปเจอเรื่องหนึ่งว่าปืนยุคแรกๆทำอะไรพวกสกิลของนักสู้ไม่เข้าเท่าไร
หรือระดับมังกรก็ยิงไม่ค่อยจะเข้าหากปืนเล็กไปอย่างเรื่อง Gate
การมีเวทย์เข้ามามันทำให้การคำนวณหลายๆอย่างต่างไปนั่นเอง