แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?  (อ่าน 2631 ครั้ง)

ออฟไลน์ moneyisgod

  • เครื่องปั้มแห่งห้องรับแขก
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,018
  • ถูกใจแล้ว: 3028 ครั้ง
  • ความนิยม: +322/-1
FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 07:35:01 AM »


FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
.
ตอนเด็กที่โตมาในช่วงทศวรรษ 1990-2000 หลายๆ คนที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น คงมีความทรงจำที่เกี่ยวกับชีวิตของเด็กมัธยมในญี่ปุ่นที่เป็นตัวละครหลักในเรื่อง ส่วนหนึ่งของชีวิตตัวละครพวกนี้ที่จะมีในแทบทุกเรื่องก็คือการที่ตกกลางคืนดึกๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเสร็จ (ตั้งแต่แข่งกีฬายันต่อยตี) พวกตัวละครก็จะชอบมาพูดคุยสังสรรค์กันที่ ‘ร้านประจำ’ ไม่ว่าร้านนั้นจะเป็นรถเข็นขายโอเด้ง หรือบะหมี่รถเข็น และบางทีตัวละครเจ้าของของร้านก็จะมีบทบาทในเรื่องด้วย
.
พอโตขึ้นมาในยุคที่สายการบินโลว์คอสต์เฟื่องฟู และการเข้าญี่ปุ่นไม่ต้องทำวีซ่า หลายๆ คนก็คงมีโอกาสไปเยือนกรุงโตเกียว และบางคนก็อาจพยายามหาร้านแบบในการ์ตูนที่เคยอ่านดู ผลปรากฏว่าเดินยังไงก็จะไม่พบพวกร้านรถเข็นแบบที่เห็นในการ์ตูนเลยแม้แต่ร้านเดียว
.
เอ… มันหายไปไหนหว่า?
.
จริงๆ ญี่ปุ่นมีบันทึกว่า มีอาหารข้างถนนมาเป็นพันปีแล้ว แต่อาหารข้างถนนมันมาเริ่มบูมตอนที่เอโดะกลายมาเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการค้าของญี่ปุ่นราวๆ 400 ปีก่อน ซึ่งสมัยนั้นหลักๆ แล้วอาหารรถเข็นจะขายโซบะเป็นหลัก
.
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากญี่ปุ่นค่อยๆ เปิดประเทศและพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมราวๆ กลางศตวรรษที่ 19 หลังยุคที่เรียกว่า ‘ปฏิรูปเมจิ’ ซึ่งผลก็ทำให้มีทั้งชาวนาจากชนบทและแรงงานอพยพจากต่างชาติเดินทางเข้ามาทำมาหากินตามเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น และยุคนี้เองที่อาหารรถเข็นเริ่มเกิดขึ้นมามากมาย และผู้ประกอบการอาหารรถเข็นจำนวนมากก็คือทั้งชาวนาจากชนบทและชาวต่างชาติเหล่านี้ และบะหมี่ของชาวจีนที่ต่อมาคนญี่ปุ่นรับเอามาปรับปรุงเป็น ‘ราเมน’ ของตัวเองก็ในยุคนี้แหละ ซึ่งยุคนั้นคนญี่ปุ่นทั่วไปก็ยังรังเกียจอาหารชนิดนี้แบบที่ใช้คำเรียกที่น่าจะแปลไทยได้ว่า ‘โซบะเจ๊ก’ (Shina Soba – คำว่า Shina เป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้เรียกคนจีนแบบเหยียด)
.
ญี่ปุ่นในยุคนั้นก็เหมือนหลายๆ ประเทศที่ไม่มีการควบคุมอาหารข้างถนน อาหารรถเข็นอะไรทั้งนั้น เพราะยิ่งเมืองขยายตัว แรงงานในภาคอุตสาหกรรมก็เยอะขึ้นๆ แล้วคนเหล่านี้ก็ต้องการอาหารที่มีราคาถูก และอาหารรถเข็นก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์พวกเขาได้เป็นอย่างดี
.
ญี่ปุ่นขยายตัวทางเศรษฐกิจไปเรื่อยจนอหังการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วก็แพ้สงครามไปอย่างที่เรารู้กัน และก็แน่นอนอีกว่า หลังสงครามโลกเศรษฐกิจย่อมตกต่ำ พอเศรษฐกิจตกต่ำคนก็ยิ่งต้องการอาหารราคาถูกเพื่อที่จะได้อิ่มท้องแบบสบายกระเป๋า และในยุคหลังสงครามจบหมาดๆ นี้อาหารข้างทางยอดฮิตก็คือเกี๊ยวซ่า
.
พอญี่ปุ่นกลับมาฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ ที่นี้ก็พัฒนายาวเลย แต่คนญี่ปุ่นก็เคยชินกับอาหารข้างทาง อาหารรถเข็นกันแล้ว มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นยุคนั้นก็จะมีกิจวัตรมากินอาหารราคาถูกๆ กันไม่ว่าจะเป็นข้างทางหรือตามร้าน ซึ่งอาหารราคาถูกยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนก็คือข้าวราดแกงกะหรี่กับราเมน นอกจากนี้ร้านเหล้าริมทางยามดึกที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนชอบไปนั่งกินเหล้า กินเบียร์ กินสาเกกันก็น่าจะได้แก่พวกร้านโอเด้งรถเข็น
.
อันนี้ต้องเล่านิดนึงว่า สำหรับมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นสมัยก่อนพวกร้านรถเข็นนี่เป็นอะไรที่มันดูเท่มาก เพราะคนทำคือเจ้าของกิจการของตัวเองซึ่งต่างจากโลกของธุรกิจญี่ปุ่นที่มีแต่บริษัทใหญ่ๆ บริษัทเล็กๆ ยากจะเกิดได้ หรือคนมีกิจการเองและ ‘เป็นนายตัวเอง’ มันมีน้อย ดังนั้นพนักงานเงินเดือนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยในยุคราวๆ ทศวรรษ 1970 ก็ถึงกับลาออกจากงานมาเปิดร้านราเมนรถเข็นของตนกันเลย ซึ่งถ้าให้มองเทียบกับสมัยนี้ ก็น่าจะคล้ายๆ กับกระแสเปิดร้านกาแฟในบ้านเรา
.
เล่ามาถึงตรงนี้ก็คงงงกันว่าเอ… ร้านรถเข็นญี่ปุ่นมันก็เป็นที่นิยมดีนี่หว่า แล้วมันหายไปไหนล่ะ?
.
ใจเย็นก่อน ใกล้จะถึงละ
.
เหตุการณ์แรกที่กระทบกระเทือนแวดวงอาหารรถเข็นมากๆ คือตอนที่ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 1964 ตอนนั้นทางการออกระเบียบด้านความสะอาดออกมา ก็เลยทำให้ร้านอาหารรถเข็นที่ไม่ได้มาตรฐานความสะอาดจำนวนมากต้องปิดตัวลงไป และพวกที่เหลือรอดมาก็ต้องปรับให้ได้ตามมาตรฐานของทางการซึ่งก็ค่อยๆ ปราบไปเรื่อยๆ ซึ่งระเบียบของแต่ละเมืองก็จะแตกต่างกันไป
.
พอมาถึงยุคทศวรรษ 1980-1990 ก็น่าจะเรียกได้ว่าอาหารรถเข็นในเมืองใหญ่ๆ นี่แทบจะไม่มีเหลือรอดแล้ว และน่าจะเรียกได้ว่าเมืองเดียวของญี่ปุ่นที่ยังมีอาหารรถเข็นอยู่ยืนยงก็ได้แก่ เมืองฟุกุโอกะ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าอาหารรถเข็นได้รวมตัวกันเพื่อต่อรองกับทางการเลยอยู่มาได้ยาวนาน อย่างไรก็ดีทุกวันนี้อาหารรถเข็นของฟุกุโอกะก็ค่อยๆ ลดน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน เนื่องจากมีกฎหมายในปี 1994 ออกมากำหนดว่า ผู้ที่จะสืบทอดใบอนุญาตอาหารรถเข็นต่อได้จะต้องเป็นทายาทโดยตรงเท่านั้น และเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นว่าการประกอบกิจการร้านอาหารรถเข็นเป็นสิ่งที่ดูเท่อีกแล้วในยุคนี้ ดังนั้นตอนนี้อาหารรถเข็นในฟุกุโอกะส่วนใหญ่ก็จะมีเจ้าของร้านเป็นคนวัย 50 ขึ้นไปทั้งนั้น และร้านเหล่านี้ในที่มั่นสุดท้ายของอาหารรถเข็นในญี่ปุ่นก็รอวันที่จะปิดตัวลงในที่สุด
.
อาหารรถเข็นดูจะกำลังหายไปจากญี่ปุ่นในที่สุด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าสำหรับคนรุ่นหนึ่งของญี่ปุ่นที่เติบโตมาในช่วงทศวรรษ 1960-1970 อาหารรถเข็นก็เป็นสิ่งที่ยังเห็นได้ดาษดื่น และเป็นสิ่งที่เท่น่าดู แล้วก็คงด้วยปัจจัยนี้แหละ ที่พวกอาหารรถแข็นมักชอบไปโผล่ในการ์ตูน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมันไม่มีเหลือแล้วนอกจากความทรงจำในวัยเด็กของเหล่านักเขียนการ์ตูน ที่โตมาในยุคอาหารรถเข็นยังรุ่งเรือง
.

อ้างอิง: The Wall Street Journal. Saving Fukuoka's Street Food.
https://www.wsj.com/articles/BL-SJB-11214

The Japan Times. Hakata 'yatai' days numbered as owners age, tape gets redder.
https://www.japantimes.co.jp/news/2007/09/08/national/hakata-yatai-days-numbered-as-owners-age-tape-gets-redder/?fbclid=IwAR0spnZlCxF5g76bQzm6JnXsYgexsC9qSDefJqqiWAoYRd-KdzgLw7doZ6A?fbclid=IwAR0spnZlCxF5g76bQzm6JnXsYgexsC9qSDefJqqiWAoYRd-KdzgLw7doZ6A

 :D :D :D :D :D :D
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 20,773
  • ถูกใจแล้ว: 6797 ครั้ง
  • ความนิยม: +581/-548
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 08:19:38 AM »
ไม่รู้รัฐบาลเขาคิดอะไรอยู่
 

ออฟไลน์ Overmars

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,180
  • ถูกใจแล้ว: 2194 ครั้ง
  • ความนิยม: +226/-225
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 08:39:00 AM »
ไม่รู้รัฐบาลเขาคิดอะไรอยู่
ถ้าอยากจัดระเบียบให้บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยก็ต้องแบบนั้นแหละ  ร้านรถเข็นนี่คือตัวก่อความสกปรกบนท้องถนนหลักตัวหนึ่งเลย

ในขณะที่ร้านที่ตั้งหลักแหล่งชัดเจนต้องเสียภาษีค่าใช้จ่ายในการรักษาความสะอาดและต้องมีระบบกำจัดขยะและของเสียต่าง ๆ ตามที่กฏหมายกำหนด แต่ร้านรถเข็นไม่ต้องมีอะไรเลย

เคยเห็นร้านไส้กรอกลูกชิ้นบ้านเราเทน้ำจิ้มทิ้งลงท่อระบายน้ำไหมล่ะ ?
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ namaste

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 77
  • ถูกใจแล้ว: 33 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-1
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 03:19:06 PM »
ทำอย่างงี้พระเอกยูสึเกะจากการ์ตูนคนเก่งฟ้าประทานก็ตกงานสิ  !!   :(   :P


pullcart เหรอ?  นอกจากสุขอนามัยที่จะต้องมาตรฐานแล้ว  อีกสาเหตุนึงที่รัฐเขาต้องการ
ก็คงเป็น  อยากให้ค้าขายเป็นหลักแหล่งมั้ง  เพื่อให้เกิดสมาคมย่านการค้า  ให้กลายเป็นย่าน
ส่วนย่านที่เป็นพาร์คให้สำหรับรถเข็นมารวมตัวกันเพื่อขายสินค้า  ตามเวลาที่กำหนด  ก็มีนะ
กลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้



รัฐเขาอยากให้เป็นสตรีทฟูดในแนวทางนั้น  แต่ทุกวันนี้ก็ยังมี  pullcart เข็นเร่ขายไปเรื่อย
อยู่บ้างนะ  ถึงส่วนใหญ่จะเข็นไปตั้งที่จุดประจำจุดเดียว  ตอนเข็นเร่ขายไปตามที่ต่างๆ  พอ
ถึงจุดที่รู้กันของขาประจำของเขาแล้ว  เขาจะเป่าอะไรสักอย่าง  คล้ายๆขลุ่ยแต่เสียงจะ
ออกมาคล้ายแตร  ก็คงตล้ายๆบะหมี่ป๊อกๆบ้านเราหล่ะมั้ง  ที่จะส่งเสียงบอกด้วยการตีไม้




จะเห็นได้ว่า  ญี่ปุ่นจะเน้นให้รวมตัวสร้างชุมชน  สร้างย่านการค้าสมาคมซะมากกว่ามันจะ
ได้เป็นระเบียบดูแลควบคุมง่าย  เพราะงั้นอาหารสตรีทฟูดญี่ปุ่นไม่ได้หายไปไหนหรอก
อ้อ!ใน#0เห็นกล่าวกลายๆว่า  พนักงานแห่ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวเร่ขาย  ก็ไม่รู้สินะ
แต่เอสเอ็มอีธุรกิจขนาดเล็กในญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก  มีเจ้าคนนายคนเยอะ  แต่ในหนังหรือ
นิยายมังงะ  เรามักจะเห็นตัวละครเป็นพนักงานกินเงินเดือนกันเยอะ



เพราะงั้นไม่ใช่เพราะรัฐกลัวพนักงานลาออกมาเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองหรอก  ก็แค่
ที่รถเข็นหายไปเยอะเพราะเขาไม่อยากให้เร่ขาย  และอยากให้รวมตัวเป็นย่านการค้า



ปล.ตอนนี้ก็สามารถเห็นได้บ้าง  ทั้งในเมืองใหญ่ทั้งในโตเกียวอยู่บ้างอ่ะนะ  คนหนุ่มๆ
ก็ยังมี  มีทั้งแบบเข็นมาจอดจุดเดียว  มีทั้งเข็นเร่ขายไปทั่ว  ผมชอบแบบเข็นเร่ไปทั่ว
ชอบเสียงอะไรสักอย่างที่เขาเป่าสัญญาณว่า  เร่มาจุดนี้แล้วนะ  รีบๆมาซื้อ  ไม่งั้นจะ
เร่ไปขายที่อื่น  ฮา  อ้อ  มีแบบเร่มารวมตัวกันในจุดเดียวเพื่อรวมตัวกันขายในตอนเย็นก็มี
พอดึกก็แยกย้ายกันกลับ  เทศบาลของเขาอำนวยความสะดวก  คล้ายๆตลาดนัดบ้านเรา
 

ออฟไลน์ namaste

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 77
  • ถูกใจแล้ว: 33 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-1
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 03:36:59 PM »
ขอเล่าต่ออีกสัก คคห.

ไม่รู้ว่าสมัยก่อนมีเยอะขนาดไหนมั๊ย  จึงไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบกับยุคปัจจุบันได้อย่างไรดี
แต่ร้านดังๆประเภท pullcart ก็มีอยู่ในไกด์นำเที่ยวแนะนำบ้าง  แต่ส่วนใหญ่เขาจะเน้น
ให้ไปรวมตัวกันสร้างย่านการค้า  ย่านของกินซะมากกว่า  เจ้าของกิจการของตัวเองก็
เลยเยอะในญี่ปุ่น  ญี่ปุ่นอยู่ได้ไม่ใช่เพราะบริษัทยักษ์  ภาษีส่วนมากมาจากเอสเอ็มอี
พวกนี้ทั้งนั้น  พูดถึงราเม็งรถเข็นแล้ว  นึกถึงสารพัดหลักร้อยหลักพันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ในญี่ปุ่นแฮะ  เป็นกิจการเล็กๆผลิตออกมา



หรืออย่างเทศกาล  หรือกิจกรรมที่จัดตามวาระ  เขาเน้นสร้างเพิงง่ายๆขายของ  อย่าง
เทศกาลอาหารไทยในญี่ปุ่นก็มีจัดนะ  ^^


ขอเดาเพิ่มอีกสักอย่าง  บางทีเพราะพอเมืองใหญ่ขึ้น  การเข็นเร่ทำให้จราจรติดขัดมั้ง?
เหตุผลนี้น่าสนใจ  คล้ายๆไทยเรายุคพ่อแม่  ที่มีการสั่งห้ามรถเข็น  รถถีบ  ไม่ให้เข้า
ในเมืองใหญ่  เพราะมันช้า  ยิ่งpullcartญี่ปุ่นที่ใช้แรงงานคนก็คงช้ามากๆ  เดาไปเรื่อย
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 20,773
  • ถูกใจแล้ว: 6797 ครั้ง
  • ความนิยม: +581/-548
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 03:44:10 PM »
ทำอย่างงี้พระเอกยูสึเกะจากการ์ตูนคนเก่งฟ้าประทานก็ตกงานสิ  !!   :(   :P


pullcart เหรอ?  นอกจากสุขอนามัยที่จะต้องมาตรฐานแล้ว  อีกสาเหตุนึงที่รัฐเขาต้องการ
ก็คงเป็น  อยากให้ค้าขายเป็นหลักแหล่งมั้ง  เพื่อให้เกิดสมาคมย่านการค้า  ให้กลายเป็นย่าน
ส่วนย่านที่เป็นพาร์คให้สำหรับรถเข็นมารวมตัวกันเพื่อขายสินค้า  ตามเวลาที่กำหนด  ก็มีนะ
กลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้



รัฐเขาอยากให้เป็นสตรีทฟูดในแนวทางนั้น  แต่ทุกวันนี้ก็ยังมี  pullcart เข็นเร่ขายไปเรื่อย
อยู่บ้างนะ  ถึงส่วนใหญ่จะเข็นไปตั้งที่จุดประจำจุดเดียว  ตอนเข็นเร่ขายไปตามที่ต่างๆ  พอ
ถึงจุดที่รู้กันของขาประจำของเขาแล้ว  เขาจะเป่าอะไรสักอย่าง  คล้ายๆขลุ่ยแต่เสียงจะ
ออกมาคล้ายแตร  ก็คงตล้ายๆบะหมี่ป๊อกๆบ้านเราหล่ะมั้ง  ที่จะส่งเสียงบอกด้วยการตีไม้




จะเห็นได้ว่า  ญี่ปุ่นจะเน้นให้รวมตัวสร้างชุมชน  สร้างย่านการค้าสมาคมซะมากกว่ามันจะ
ได้เป็นระเบียบดูแลควบคุมง่าย  เพราะงั้นอาหารสตรีทฟูดญี่ปุ่นไม่ได้หายไปไหนหรอก
อ้อ!ใน#0เห็นกล่าวกลายๆว่า  พนักงานแห่ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวเร่ขาย  ก็ไม่รู้สินะ
แต่เอสเอ็มอีธุรกิจขนาดเล็กในญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก  มีเจ้าคนนายคนเยอะ  แต่ในหนังหรือ
นิยายมังงะ  เรามักจะเห็นตัวละครเป็นพนักงานกินเงินเดือนกันเยอะ



เพราะงั้นไม่ใช่เพราะรัฐกลัวพนักงานลาออกมาเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองหรอก  ก็แค่
ที่รถเข็นหายไปเยอะเพราะเขาไม่อยากให้เร่ขาย  และอยากให้รวมตัวเป็นย่านการค้า



ปล.ตอนนี้ก็สามารถเห็นได้บ้าง  ทั้งในเมืองใหญ่ทั้งในโตเกียวอยู่บ้างอ่ะนะ  คนหนุ่มๆ
ก็ยังมี  มีทั้งแบบเข็นมาจอดจุดเดียว  มีทั้งเข็นเร่ขายไปทั่ว  ผมชอบแบบเข็นเร่ไปทั่ว
ชอบเสียงอะไรสักอย่างที่เขาเป่าสัญญาณว่า  เร่มาจุดนี้แล้วนะ  รีบๆมาซื้อ  ไม่งั้นจะ
เร่ไปขายที่อื่น  ฮา  อ้อ  มีแบบเร่มารวมตัวกันในจุดเดียวเพื่อรวมตัวกันขายในตอนเย็นก็มี
พอดึกก็แยกย้ายกันกลับ  เทศบาลของเขาอำนวยความสะดวก  คล้ายๆตลาดนัดบ้านเรา
ถ้าอยากให้เขาอยู่เป็นที่ก็สร้างพื้นที่ให้เขาไปเลย ว่ามีตรงไหนขายได้บ้างให้ร้านรถเข็นพวกนี้มาลงทะเบียนแล้วทำเป็นเว็บไซต์คนที่อยากกินร้านพวกนี้เขาอยากกินร้านไหนเขาจะได้รู้ว่าต้องไปที่ไหน แต่นี่เหมือนทางรัฐไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย
 

ออฟไลน์ namaste

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 77
  • ถูกใจแล้ว: 33 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-1
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 03:56:05 PM »
[quote/]ถ้าอยากให้เขาอยู่เป็นที่ก็สร้างพื้นที่ให้เขาไปเลย ว่ามีตรงไหนขายได้บ้างให้ร้านรถเข็นพวกนี้มาลงทะเบียนแล้วทำเป็นเว็บไซต์คนที่อยากกินร้านพวกนี้เขาอยากกินร้านไหนเขาจะได้รู้ว่าต้องไปที่ไหน แต่นี่เหมือนทางรัฐไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย

มีนะ  กลายเป็นจุดท่องเที่ยว  แต่ก็อยู่ที่ว่าเทศบาลจะหาจุดให้ได้มั๊ย  ที่ไม่กระทบด้านอื่น
ให้ขาย  พอดึกก็ให้เก็บ  บ้านเราก็ทำแบบนี้เช่นกัน  ของบ้านเราจะแยกเป็นรอบเช้ารอบเย็น
ถ้ารอบเช้าก็ตั้งกะตีสามตีสี่มั้ง  จนถึงน่าจะเที่ยง  ส่วนรอบเย็นก็ให้เข็นมาขายราวๆบ่ายเท่าไร
ไม่รู้จนดึก  มันจะมีช่องว่างเวลาสักเล็กหน้อย  เพื่อทำความสะอาด  กฏหมายตรงนี้ผมไม่แม่น
เพราะมันเป็นกฏเทศบาล  โดยของเราจะมีทั้งรถเข็นและทั้งการตั้งร้านชั่วคราวในพื้นที่เดียวกัน



ระดับเทศบาลจะทำแบบนี้  ส่วนนโยบายระดับรัฐก็จะเน้นให้สร้างย่านไปเลย  ราเม็งรถเร่ญี่ปุ่น
ชามใหญ่มาก  ให้เยอะ  ผู้หญิงกินแค่ครึ่งชามก็อิ่ม  อย่าฝืนกินเยอะ  เดี๋ยวขย้อนอ๊วก  ฮา
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: KAGUYA

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 06:21:48 PM »
ทำอย่างงี้พระเอกยูสึเกะจากการ์ตูนคนเก่งฟ้าประทานก็ตกงานสิ  !!   :(   :P


pullcart เหรอ?  นอกจากสุขอนามัยที่จะต้องมาตรฐานแล้ว  อีกสาเหตุนึงที่รัฐเขาต้องการ
ก็คงเป็น  อยากให้ค้าขายเป็นหลักแหล่งมั้ง  เพื่อให้เกิดสมาคมย่านการค้า  ให้กลายเป็นย่าน
ส่วนย่านที่เป็นพาร์คให้สำหรับรถเข็นมารวมตัวกันเพื่อขายสินค้า  ตามเวลาที่กำหนด  ก็มีนะ
กลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้



รัฐเขาอยากให้เป็นสตรีทฟูดในแนวทางนั้น  แต่ทุกวันนี้ก็ยังมี  pullcart เข็นเร่ขายไปเรื่อย
อยู่บ้างนะ  ถึงส่วนใหญ่จะเข็นไปตั้งที่จุดประจำจุดเดียว  ตอนเข็นเร่ขายไปตามที่ต่างๆ  พอ
ถึงจุดที่รู้กันของขาประจำของเขาแล้ว  เขาจะเป่าอะไรสักอย่าง  คล้ายๆขลุ่ยแต่เสียงจะ
ออกมาคล้ายแตร  ก็คงตล้ายๆบะหมี่ป๊อกๆบ้านเราหล่ะมั้ง  ที่จะส่งเสียงบอกด้วยการตีไม้




จะเห็นได้ว่า  ญี่ปุ่นจะเน้นให้รวมตัวสร้างชุมชน  สร้างย่านการค้าสมาคมซะมากกว่ามันจะ
ได้เป็นระเบียบดูแลควบคุมง่าย  เพราะงั้นอาหารสตรีทฟูดญี่ปุ่นไม่ได้หายไปไหนหรอก
อ้อ!ใน#0เห็นกล่าวกลายๆว่า  พนักงานแห่ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวเร่ขาย  ก็ไม่รู้สินะ
แต่เอสเอ็มอีธุรกิจขนาดเล็กในญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก  มีเจ้าคนนายคนเยอะ  แต่ในหนังหรือ
นิยายมังงะ  เรามักจะเห็นตัวละครเป็นพนักงานกินเงินเดือนกันเยอะ



เพราะงั้นไม่ใช่เพราะรัฐกลัวพนักงานลาออกมาเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองหรอก  ก็แค่
ที่รถเข็นหายไปเยอะเพราะเขาไม่อยากให้เร่ขาย  และอยากให้รวมตัวเป็นย่านการค้า



ปล.ตอนนี้ก็สามารถเห็นได้บ้าง  ทั้งในเมืองใหญ่ทั้งในโตเกียวอยู่บ้างอ่ะนะ  คนหนุ่มๆ
ก็ยังมี  มีทั้งแบบเข็นมาจอดจุดเดียว  มีทั้งเข็นเร่ขายไปทั่ว  ผมชอบแบบเข็นเร่ไปทั่ว
ชอบเสียงอะไรสักอย่างที่เขาเป่าสัญญาณว่า  เร่มาจุดนี้แล้วนะ  รีบๆมาซื้อ  ไม่งั้นจะ
เร่ไปขายที่อื่น  ฮา  อ้อ  มีแบบเร่มารวมตัวกันในจุดเดียวเพื่อรวมตัวกันขายในตอนเย็นก็มี
พอดึกก็แยกย้ายกันกลับ  เทศบาลของเขาอำนวยความสะดวก  คล้ายๆตลาดนัดบ้านเรา

ยูสึเกะมีงานนักสืบอยู่นี่ครับ?
แต่พอทำให้โลกสงบสุข
ก็ไม่ค่อยมีวิญยาณออกมาอาละวาดบนโลกแล้วว่างั้น
..

ผมว่ามังงะทำดูน่าอร่อยนะที่พวกฮิโรชิ มนุษยืเงินเดือนทานโอเด้งกัน


นี่น่าจะเป็นอีกอย่างหนึ่งเรื่องวัฒนธรรมที่หายไป

ว่าหนังแนวครอบครัวอเมริกันสุขสันต์ ทางเทคนิค มันหายไปนานแล้วเช่นกันก่อนที่จะปรากฎในจอทีวี
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Sasageyo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจแล้ว: 340 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-24
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 06:45:21 PM »
[quote/]

ยูสึเกะมีงานนักสืบอยู่นี่ครับ?
แต่พอทำให้โลกสงบสุข
ก็ไม่ค่อยมีวิญยาณออกมาอาละวาดบนโลกแล้วว่างั้น
..

ผมว่ามังงะทำดูน่าอร่อยนะที่พวกฮิโรชิ มนุษยืเงินเดือนทานโอเด้งกัน


นี่น่าจะเป็นอีกอย่างหนึ่งเรื่องวัฒนธรรมที่หายไป

ว่าหนังแนวครอบครัวอเมริกันสุขสันต์ ทางเทคนิค มันหายไปนานแล้วเช่นกันก่อนที่จะปรากฎในจอทีวี

ในตอนอวสาน  ยูสึเกะมีอาชีพขายราเมงโดยใช้รถเข็นเร่ขาย  ผมชอบฉากจบนี้มาก  เพราะ
แต่ละคนมีวิถีชีวิตแตกต่างกันไป  ไม่ใช่ว่าเป็นคนเก่งยอดยุทธแล้ว  จะต้องร่ำรวย  เพื่อนพระเอก
ที่เก่งน้อยกว่า  กำลังติวเพื่อสอบเข้ามหาลัย  นางเอกก็เช่นกัน  ส่วนพระเอกไม่ได้เรียน


การ์ตูนลูกผู้ชายหลายเรื่อง  ที่เกี่ยวกับต่อยตี  พระเอกส่วนมากพอโตไป  ก็ไม่ได้กลายเป็น
คนยิ่งใหญ่แบบสมัยวัยรุ่น  บ้างก็เป็นได้แค่เปิดร้านเล็กๆ  บ้างก็ไปเป็นพนักงานเงินเดือน
โดนจิกหัวใช้  จากเหล่าเด็กเนิร์ดเด็กเรียน  ที่ตัวเองเคยกลั่นแกล้ง


ในยูยูฮาคุโช  ฉากจบที่แต่ละคนที่เป็นเพื่อนพระเอก  ทั้งฮิเอก็ด้วย  มันสื่อบ่งบอกได้ประทับ
ในแนวทางที่ต้องไป  ทุกคนจำต้องแยกย้าย  ค้นหาวิถีชีวิตที่จะต้องมี  ดังนั้น  เราอย่าไป
ดูถูกคนเข็นรถเร่ขายราเมงเด็ดขาด  บางทีเขาอาจเป็นยอดยุทธก็ได้  ฮา  นึกถึงหนังของ
โจวชิงฉือ  คนเล็กหมัดเทวดา  ตรอกเล้าหมู  จอมยุทธแต่ละคน  เป็นจับกังเอย  ขายปา-
ท่องโก๋เอย  รับตัดเสื้อแถมเป็นตุ๊ดอีก  เร้นกายแฝงตัว  ขอแค่ทำมาหากินเลี้ยงชีพ  ^^


ส่วนกรณีวัฒนธรรมที่หายไป  ไม่รู้แฮะ  นึกภาพยุคที่ญี่ปุ่นมีรถเข็นเร่เยอะๆไม่ได้  เพราะ
ไม่ได้อยู่ในยุคนั้น  รู้แค่ว่ายุคนี้  มันก็ยังมีอยู่  บางรถเข็นเร่ก็จะเปิดขายดึกหน่อย  เพราะ
รอให้การจราจรน้อยมั้ง??  ไม่รู้สิ  เพราะเคยเห็นเปิดตอนหลังสองทุ่มหน่ะ  กว่าจะเข็นมา
กว่าจะตั้งร้าน  แล้วปิดกี่โมงหว่า??  ก็ไม่รู้เช่นกัน  โตเกียวก็ยังมีอยู่นะ  มีเยอะหรือไม่เยอะ
อันนี้ก็ไม่รู้  เพราะรู้แค่ไม่กี่ที่  เพราะผมรู้จากแนะนำว่าต้องลอง  บางทีอาจเหลืออยู่แค่ที่ๆ
ที่ผมรู้ก็ได้  เพราะไม่ได้บึ่งค้นหา
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 06:50:23 PM »
[quote/]

ในตอนอวสาน  ยูสึเกะมีอาชีพขายราเมงโดยใช้รถเข็นเร่ขาย  ผมชอบฉากจบนี้มาก  เพราะ
แต่ละคนมีวิถีชีวิตแตกต่างกันไป  ไม่ใช่ว่าเป็นคนเก่งยอดยุทธแล้ว  จะต้องร่ำรวย  เพื่อนพระเอก
ที่เก่งน้อยกว่า  กำลังติวเพื่อสอบเข้ามหาลัย  นางเอกก็เช่นกัน  ส่วนพระเอกไม่ได้เรียน


การ์ตูนลูกผู้ชายหลายเรื่อง  ที่เกี่ยวกับต่อยตี  พระเอกส่วนมากพอโตไป  ก็ไม่ได้กลายเป็น
คนยิ่งใหญ่แบบสมัยวัยรุ่น  บ้างก็เป็นได้แค่เปิดร้านเล็กๆ  บ้างก็ไปเป็นพนักงานเงินเดือน
โดนจิกหัวใช้  จากเหล่าเด็กเนิร์ดเด็กเรียน  ที่ตัวเองเคยกลั่นแกล้ง


ในยูยูฮาคุโช  ฉากจบที่แต่ละคนที่เป็นเพื่อนพระเอก  ทั้งฮิเอก็ด้วย  มันสื่อบ่งบอกได้ประทับ
ในแนวทางที่ต้องไป  ทุกคนจำต้องแยกย้าย  ค้นหาวิถีชีวิตที่จะต้องมี  ดังนั้น  เราอย่าไป
ดูถูกคนเข็นรถเร่ขายราเมงเด็ดขาด  บางทีเขาอาจเป็นยอดยุทธก็ได้  ฮา  นึกถึงหนังของ
โจวชิงฉือ  คนเล็กหมัดเทวดา  ตรอกเล้าหมู  จอมยุทธแต่ละคน  เป็นจับกังเอย  ขายปา-
ท่องโก๋เอย  รับตัดเสื้อแถมเป็นตุ๊ดอีก  เร้นกายแฝงตัว  ขอแค่ทำมาหากินเลี้ยงชีพ  ^^


ส่วนกรณีวัฒนธรรมที่หายไป  ไม่รู้แฮะ  นึกภาพยุคที่ญี่ปุ่นมีรถเข็นเร่เยอะๆไม่ได้  เพราะ
ไม่ได้อยู่ในยุคนั้น  รู้แค่ว่ายุคนี้  มันก็ยังมีอยู่  บางรถเข็นเร่ก็จะเปิดขายดึกหน่อย  เพราะ
รอให้การจราจรน้อยมั้ง??  ไม่รู้สิ  เพราะเคยเห็นเปิดตอนหลังสองทุ่มหน่ะ  กว่าจะเข็นมา
กว่าจะตั้งร้าน  แล้วปิดกี่โมงหว่า??  ก็ไม่รู้เช่นกัน  โตเกียวก็ยังมีอยู่นะ  มีเยอะหรือไม่เยอะ
อันนี้ก็ไม่รู้  เพราะรู้แค่ไม่กี่ที่  เพราะผมรู้จากแนะนำว่าต้องลอง  บางทีอาจเหลืออยู่แค่ที่ๆ
ที่ผมรู้ก็ได้  เพราะไม่ได้บึ่งค้นหา
ยูสึเกะเป็นเศรษฐีที่ดินที่ได้รับสืบทอดมาจากอาจารย์เก็นไคครับ :P
เผื่อท่านจะลืมไปแล้ว
ว่าอจารย์เก็นไคคือผู้ทรงอิทธิพลด้านมืดของสังคม ???
ว่าไม่ใช่พวกนี้มันไม่มีเงินเป็นคนธรรมดา
อิจิโกะ ก็มีเชิือ้เจ้าขุนนางเผื่อท่านจะลืมไปนะครับ?โจนาธาน โจสตาร์ก็เลือดสีน้ำเงินขุนนางจากอังกฤษล้วนๆ
มีคนชอบเล่นมุกว่า

พระเอกในเรื่องต่างๆน่ะ มีขีดจำกัดสายเลือดทั้งนั้นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่ชอบพยา่ยามจะบอกกันหรอก

ตระกูลอุซึมากิมีหมู่บ้านเป็นของตนเองก่อนจะโดนทำลายไปในยุคสงคราม
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ namaste

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 77
  • ถูกใจแล้ว: 33 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-1
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 06:59:54 PM »
[quote/]
ยูสึเกะเป็นเศรษฐีที่ดินที่ได้รับสืบทอดมาจากอาจารย์เก็นไคครับ :P
เผื่อท่านจะลืมไปแล้ว
ว่าอจารย์เก็นไคคือผู้ทรงอิทธิพลด้านมืดของสังคม ???
ว่าไม่ใช่พวกนี้มันไม่มีเงินเป็นคนธรรมดา
อิจิโกะ ก็มีเชิือ้เจ้าขุนนางเผื่อท่านจะลืมไปนะครับ?โจนาธาน โจสตาร์ก็เลือดสีน้ำเงินขุนนางจากอังกฤษล้วนๆ
มีคนชอบเล่นมุกว่า

พระเอกในเรื่องต่างๆน่ะ มีขีดจำกัดสายเลือดทั้งนั้นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่ชอบพยา่ยามจะบอกกันหรอก

ตระกูลอุซึมากิมีหมู่บ้านเป็นของตนเองก่อนจะโดนทำลายไปในยุคสงคราม


งั้นเล่ามหาเศรษฐีของไทยให้ฟัง  คล้ายๆยูสึเกะเนี่ยแหละ


หลายคนอาจไม่รู้  กลุ่มซีพีหน่ะ  หลานเจ้าสัวซึ่งเจ้าสัวนั้นก็มีที่ดินติดอันดับท็อปของไทย
หลานนั้น  เป็นเจ้าของตลาดสด  ฮา  ใช่แล้ว  ทำธุรกิจตลาดสดแบกะดิน  แบบที่เราคุ้นเคย
นั่นแหละ  ก็คล้ายๆยูสึเกะมั้ง  ที่ยังไงๆก็ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ  แล้วญี่ปุ่นเนี่ย  ภาษีที่ดินโหด
บ้างก็ปล่อยให้รัฐยึดที่ไปเลย  เพราะไม่คุ้มที่จะรับมรดก  ญี่ปุ่นแคร์ธุรกิจขนาดเล็กและกลางมาก
เพราะถือว่าเป็นปลาเล็กปลากลาง  แน่นอนว่าก็แคร์ธุรกิจขนาดใหญ่  แต่ก็เก็บภาษีมรดกของผู้ที่
จะสืบทอดมาก  และแคร์ภาษีที่ดินมาก 


ใครยังจำป้าขวานซิ่งที่เอาขวานไปจามรถที่จอดหน้าบ้าน  เอ๊ย  หน้าคฤหาสน์ตัวเองได้มั๊ย  ที่
บอกกับผู้สื่อข่าวว่า  ทนมานานกับพฤติกรรมตลาดนี้มานานแล้ว  ป้าขวานซิ่งไม่ธรรมดานะเออ
เพราะป้าเป็นเจ้าของที่ดินให้ซีคอนสแควเช่า  ใช่แล้ว  ห้างซีคอนสแควตรงศรีนครินทร์นั่นแหละ
แต่ป้าเล่นผิดคน  เพราะเจ้าของตลาดคนนั้น  คือหลานเจ้าสัวซีพี  ฮา  ใหญ่ประทะยักษ์  ฮา
(เล่าให้ฟังเฉยๆ  เพราะกระทู้ไหลทำให้สมองนึกถึง  ก็เลยพิมพ์ไปเรื่อย  พิมพ์ออกนอกประเด็น)



EDIT :  เล่าต่อๆ  ป้าๆในคฤหาสน์  ไว้ผมสั้นทรงเกรียนกันหมด  ถึงกับประกาศขายบ้าน  ฮา
จะไปร้องกี่หน่วยงานก็ไม่กระเตื้อง  กรมผังเมืองก็ไป  แล้วหลานสาวเจ้าสัวก็แค่ชิลๆชิคๆ  ดู
ป้าๆเต้นเร้งเต้นกาไป  ฮา  (อันนี้นินทาอ่ะนะ)  สาวเหลือน้อยปะทะสาวเส้นก๋วยจั๊บ  ไปๆมาๆ
ซีคอนสแควโดนลูกหลง  เพลินกับดราม่านี้มาก  ขี้หมูราขี้หมาแห้งชัดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 24, 2022, 07:09:47 PM โดย namaste »
 

ออฟไลน์ sechan

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,019
  • ถูกใจแล้ว: 1780 ครั้ง
  • ความนิยม: +154/-261
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 07:32:34 PM »
มันกลายเป็นรถคีออส หรือไม่ก็อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวครับ ไปมาเมื่อสี่ปีก่อนยังมีอยู่ตามตลาดปลา หรือแหล่งท่องเที่ยว ไม่ก็ตามสวนสาธารณะ ปรกติซื้อแล้วเขาให้กินแล้วรับขยะคืนเลย  พวกของปิ๊งย่าง  แต่ยังไม่เคยเจอรถโอเด้ง ยังเห็นได้ตามศาลเจ้าที่มีเทศกาล  ถ้าโหยหา ให้ไปเล่นเกมปราบผีจูนิเบียว  ของตามิคามิ  แต่เจอแมวขายนะไม่เจอคน… ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 24, 2022, 07:37:48 PM โดย sechan »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Kopyor

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 07:56:19 PM »
มันกลายเป็นรถคีออส หรือไม่ก็อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวครับ ไปมาเมื่อสี่ปีก่อนยังมีอยู่ตามตลาดปลา หรือแหล่งท่องเที่ยว ไม่ก็ตามสวนสาธารณะ ปรกติซื้อแล้วเขาให้กินแล้วรับขยะคืนเลย  พวกของปิ๊งย่าง  แต่ยังไม่เคยเจอรถโอเด้ง ยังเห็นได้ตามศาลเจ้าที่มีเทศกาล  ถ้าโหยหา ให้ไปเล่นเกมปราบผีจูนิเบียว  ของตามิคามิ  แต่เจอแมวขายนะไม่เจอคน… ???

ร้านรถเข็นเร่  ขายโอเด้งเหรอ??  อืม....  แนะนำไม่ถูก  เพราะรู้แต่ร้านราเม็งรถเข็นเร่  แต่ก็เป็น
รถเข็นเร่แบบจอดประจำจุด  ในโตเกียวเนี่ยแหละ  ลองค้นๆกูเกิลหล่ะกัน  เพราะผมก็ไม่รู้คีย์เวิร์ด
ในการค้น  ^^



อย่างที่ท่านว่าเลย  เดี๋ยวนี้พัฒนาเป็นรถเคลื่อนที่  ปิ้งย่างเคลื่อนที่ก็เคยเห็น  ผมว่ามันก็ดีนะ
ไม่เหนื่อยด้วย  เปิดขายง่าย  ว่าแต่.....  ไอ้มุกล้อในโดราเอมอน  มันเผา(มันอบแก๊ส)เนี่ย
ใครเคยได้ลองบ้าง  ผมยังไม่เคยได้ลองแบบขายเร่เลยอ่ะ  พอดีพึ่งนึกออก  ว่ายังไม่เคยลอง



ปล.  โดนแบนไปอีกหนึ่งไอดีแบบงงๆ  แต่ช่างเถอะ  บางทีอยากให้แบนทุกๆไอดีไปเลย
แล้วแบนเพราะเหตุผลใด??  ทำไมไม่บอก??  จะได้รู้  และอาจปรับปรุงตัว  แต่....  ก็
ไม่เป็นไร  อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ  ปลอยวางแล้ว  เพราะก็รอวันดับ  รอวันเลิกเล่น
ก็แค่กำลังจะหาข้ออ้างเลิก  ช่วยๆหน่อย  ช่วยแบนให้หมด  จะได้ละ  เลิก  ซะที  ว่าแต่...
แบนด้วยเหตุผลอะไร??  อันนี้งงจริง??


ปล.สอง  ถ้าแน่จริง  อย่าลืมแบนไอดีนี้ด้วยนะ  อย่าปอดแหก  ป๊อดหล่ะ  นี่คือท้านะ  ท้า
เพราะเดี๋ยวผมจะนำไอดีอื่นมาเล่นอีก  เล่นเพื่อให้โดนแบนเพิ่มไงหล่ะ  แล้วพอไอดีหมด
ผมก็จะได้อ้างกับตัวเองได้  ถือว่าช่วยผมหล่ะกัน  ^^  ช่วยให้ผมเลิกวงจรย์อุบาทนี้เสียที
ขอหล่ะ  แบนให้ที  อันนี้ไม่ใช่ประชดและไม่ถือโทษโกรธเคือง  ช่วยผมหน่อย
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 07:58:22 PM »
[quote/]

งั้นเล่ามหาเศรษฐีของไทยให้ฟัง  คล้ายๆยูสึเกะเนี่ยแหละ


หลายคนอาจไม่รู้  กลุ่มซีพีหน่ะ  หลานเจ้าสัวซึ่งเจ้าสัวนั้นก็มีที่ดินติดอันดับท็อปของไทย
หลานนั้น  เป็นเจ้าของตลาดสด  ฮา  ใช่แล้ว  ทำธุรกิจตลาดสดแบกะดิน  แบบที่เราคุ้นเคย
นั่นแหละ  ก็คล้ายๆยูสึเกะมั้ง  ที่ยังไงๆก็ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ  แล้วญี่ปุ่นเนี่ย  ภาษีที่ดินโหด
บ้างก็ปล่อยให้รัฐยึดที่ไปเลย  เพราะไม่คุ้มที่จะรับมรดก  ญี่ปุ่นแคร์ธุรกิจขนาดเล็กและกลางมาก
เพราะถือว่าเป็นปลาเล็กปลากลาง  แน่นอนว่าก็แคร์ธุรกิจขนาดใหญ่  แต่ก็เก็บภาษีมรดกของผู้ที่
จะสืบทอดมาก  และแคร์ภาษีที่ดินมาก 


ใครยังจำป้าขวานซิ่งที่เอาขวานไปจามรถที่จอดหน้าบ้าน  เอ๊ย  หน้าคฤหาสน์ตัวเองได้มั๊ย  ที่
บอกกับผู้สื่อข่าวว่า  ทนมานานกับพฤติกรรมตลาดนี้มานานแล้ว  ป้าขวานซิ่งไม่ธรรมดานะเออ
เพราะป้าเป็นเจ้าของที่ดินให้ซีคอนสแควเช่า  ใช่แล้ว  ห้างซีคอนสแควตรงศรีนครินทร์นั่นแหละ
แต่ป้าเล่นผิดคน  เพราะเจ้าของตลาดคนนั้น  คือหลานเจ้าสัวซีพี  ฮา  ใหญ่ประทะยักษ์  ฮา
(เล่าให้ฟังเฉยๆ  เพราะกระทู้ไหลทำให้สมองนึกถึง  ก็เลยพิมพ์ไปเรื่อย  พิมพ์ออกนอกประเด็น)



EDIT :  เล่าต่อๆ  ป้าๆในคฤหาสน์  ไว้ผมสั้นทรงเกรียนกันหมด  ถึงกับประกาศขายบ้าน  ฮา
จะไปร้องกี่หน่วยงานก็ไม่กระเตื้อง  กรมผังเมืองก็ไป  แล้วหลานสาวเจ้าสัวก็แค่ชิลๆชิคๆ  ดู
ป้าๆเต้นเร้งเต้นกาไป  ฮา  (อันนี้นินทาอ่ะนะ)  สาวเหลือน้อยปะทะสาวเส้นก๋วยจั๊บ  ไปๆมาๆ
ซีคอนสแควโดนลูกหลง  เพลินกับดราม่านี้มาก  ขี้หมูราขี้หมาแห้งชัดๆ

มันเป็นเรื่องแนวคิระ โยชิคาเงะนั่นล่ะครับ

ว่าคนที่มีบ้านในบางที่ได้นั้นคอืพวกลุกท่านรหลานเธอมาตั้งแต่เมือ่ก่อนเท่านั้น
คนธรรมดาไม่สามารถถือครองที่พวกนี้ได้

ตลาดถึงได้ร่ำรวยมาแต่โบราณกาลเพระาชาวบ้านไปไหนไมไ่ด้ต้องพึ่งตลาดมาตลอด
ว่าตราบใดที่คนยังทำมาหากิน ตราบนั้นเจ้าของตลาดก็จะยังมีรายได้ตลอดไป

แต่อย่างว่าค่าเช่าที่แพง
คนขายรถเข็นก็เลยต้องเข็นไป โดนเทศกิจว่าอีก


ขายรถเข้นผมว่ามันไม่ใช่ความโรแมนติก

แต่มาเพระาความจำเป็น
ไม่เชือ่ไปถามความเห็นพวกเทศกิจดูว่าคิดอย่างไรกับพวกขายรถเข็น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Kopyor

ออฟไลน์ Kopyor

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 154
  • ถูกใจแล้ว: 357 ครั้ง
  • ความนิยม: +21/-38
  • .
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 08:30:07 PM »
[quote/]

มันเป็นเรื่องแนวคิระ โยชิคาเงะนั่นล่ะครับ

ว่าคนที่มีบ้านในบางที่ได้นั้นคอืพวกลุกท่านรหลานเธอมาตั้งแต่เมือ่ก่อนเท่านั้น
คนธรรมดาไม่สามารถถือครองที่พวกนี้ได้

ตลาดถึงได้ร่ำรวยมาแต่โบราณกาลเพระาชาวบ้านไปไหนไมไ่ด้ต้องพึ่งตลาดมาตลอด
ว่าตราบใดที่คนยังทำมาหากิน ตราบนั้นเจ้าของตลาดก็จะยังมีรายได้ตลอดไป

แต่อย่างว่าค่าเช่าที่แพง
คนขายรถเข็นก็เลยต้องเข็นไป โดนเทศกิจว่าอีก


ขายรถเข้นผมว่ามันไม่ใช่ความโรแมนติก

แต่มาเพระาความจำเป็น
ไม่เชือ่ไปถามความเห็นพวกเทศกิจดูว่าคิดอย่างไรกับพวกขายรถเข็น


การจะทำให้สินค้าราคาถูก  เราต้องทำให้ต้นทุนที่เขามี  ราคาถูก  ไม่งั้นเราก็บังคับให้เขาขายสินค้า
ราคาถูกไม่ได้  สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง  ไม่ใช่เก็บค่าที่  แต่เป็น  ทำยังไงให้เป็นระเบียบ  ให้พวกเขา
จ่ายภาษีตามอัตภาพได้  ถ้าผมได้ดูแลทั้งหมด  ผมอาจอำมหิตในบางสายตา  แต่ผมจะให้ทุกๆร้าน
ต้องจ่ายภาษี  บางทีอาจให้จ่ายหนึ่งบาท  ยี่สิบบาทหรือร้อยบาทต่อเดือน  แต่ต้องสอนให้พวกเขา
และสอนให้รู้จักจ่ายภาษี  ไม่งั้น  สังคมแม่งก็เป็นแบบนี้ต่อไป  ภาษีสำคัญมาก  ต้องให้ทุกคนควร
จ่าย  แม้จะจ่ายแค่บาทเดียว  แต่ก็ต้องทำบัญชีเพื่อให้จ่าย  เพื่อในอนาคต  เขาจะได้รู้จักสิ่งนี้ 
ส่ิงที่เรียกว่าภาษี



ถ้าอิเคไซไปต่างโลก  ผมก็จะทำสิ่งนี้  ห้ามเด็ดขาดในการยกเว้นการลงทะเบียนเก็บภาษี 
แม้ว่ามันจะได้แค่บาทเดียว  แต่มันคือการฝึกและการให้เข้าระบบภาษี  ตอนนี้เราไม่มีระบบนี้  ใน
ฐานรากหญ้า  เราใช้วิธี  ถ้าไม่ถึงกำหนดภาษีก็ไม่ต้องทำบัญชีเสียภาษี  อันนี้อ่ะ  มันคือหายนะ



ปล.  ทำไมยังไม่โดนแบนหว่า??  ไอดีอื่นๆเหตุผลที่โดนแบนก็ไม่บอก  สรุปจะเอายังไง??
แล้วผมทำให้หมีใครเดือดร้อน  คอมเมนท์ผมมีอันไหนสมควรถึงขั้นลบหรือสมควรถึงขั้นแบนไอดี
ผมไม่เข้าใจจริงๆ  แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจนะ  เพราะผมเข้ามาในสถานที่นี้เอง  เพราะงั้น
ถ้าเป็นไปได้  เมตตาบอกหน่อย  เวลาแบนไอดีหน่ะ  บอกสักนิด  ว่าแบนเพราะเหตุใด  พวกเขา
หรือผม  จะได้รู้ว่า  ต้องทำยังไงให้ถูกใจ  ไม่งั้นมันก็งงไง  งงว่าต้องทำตัวยังไง  บอกสักนิดคง
ไม่ยากหรอกมั้ง  ก็แค่บอก  บอกออกมา  มันจะได้เป็นธรรมไง  เผด็จการก็ยังควรมีธรรมนะ
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2022, 09:25:38 PM »
[quote/]

การจะทำให้สินค้าราคาถูก  เราต้องทำให้ต้นทุนที่เขามี  ราคาถูก  ไม่งั้นเราก็บังคับให้เขาขายสินค้า
ราคาถูกไม่ได้  สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง  ไม่ใช่เก็บค่าที่  แต่เป็น  ทำยังไงให้เป็นระเบียบ  ให้พวกเขา
จ่ายภาษีตามอัตภาพได้  ถ้าผมได้ดูแลทั้งหมด  ผมอาจอำมหิตในบางสายตา  แต่ผมจะให้ทุกๆร้าน
ต้องจ่ายภาษี  บางทีอาจให้จ่ายหนึ่งบาท  ยี่สิบบาทหรือร้อยบาทต่อเดือน  แต่ต้องสอนให้พวกเขา
และสอนให้รู้จักจ่ายภาษี  ไม่งั้น  สังคมแม่งก็เป็นแบบนี้ต่อไป  ภาษีสำคัญมาก  ต้องให้ทุกคนควร
จ่าย  แม้จะจ่ายแค่บาทเดียว  แต่ก็ต้องทำบัญชีเพื่อให้จ่าย  เพื่อในอนาคต  เขาจะได้รู้จักสิ่งนี้ 
ส่ิงที่เรียกว่าภาษี



ถ้าอิเคไซไปต่างโลก  ผมก็จะทำสิ่งนี้  ห้ามเด็ดขาดในการยกเว้นการลงทะเบียนเก็บภาษี 
แม้ว่ามันจะได้แค่บาทเดียว  แต่มันคือการฝึกและการให้เข้าระบบภาษี  ตอนนี้เราไม่มีระบบนี้  ใน
ฐานรากหญ้า  เราใช้วิธี  ถ้าไม่ถึงกำหนดภาษีก็ไม่ต้องทำบัญชีเสียภาษี  อันนี้อ่ะ  มันคือหายนะ



ปล.  ทำไมยังไม่โดนแบนหว่า??  ไอดีอื่นๆเหตุผลที่โดนแบนก็ไม่บอก  สรุปจะเอายังไง??
แล้วผมทำให้หมีใครเดือดร้อน  คอมเมนท์ผมมีอันไหนสมควรถึงขั้นลบหรือสมควรถึงขั้นแบนไอดี
ผมไม่เข้าใจจริงๆ  แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจนะ  เพราะผมเข้ามาในสถานที่นี้เอง  เพราะงั้น
ถ้าเป็นไปได้  เมตตาบอกหน่อย  เวลาแบนไอดีหน่ะ  บอกสักนิด  ว่าแบนเพราะเหตุใด  พวกเขา
หรือผม  จะได้รู้ว่า  ต้องทำยังไงให้ถูกใจ  ไม่งั้นมันก็งงไง  งงว่าต้องทำตัวยังไง  บอกสักนิดคง
ไม่ยากหรอกมั้ง  ก็แค่บอก  บอกออกมา  มันจะได้เป็นธรรมไง  เผด็จการก็ยังควรมีธรรมนะ

ทางเทคนิค

เจ้าของร้านจ่ายค่าใช้จ่าย"ค่าที่"อยู่แล้วครับ
ไม่จ่ายให้กับคนถวนั้นเพื่อใมช้ไฟใช้น้ำ ก้ต้องจ่ายให้กับเทศกิจอยู่แล้วไม่ได้ำทแบบ"ฟรี"แต่ประการใด

การที่ท่านมองว่าให้มีใบเป็นทางการก้าอจจะดีเสียกว่าก็ได้
เพระาเทศกิจจะหาข้ออ้างเก็บเพิ่มไม่ได้อีก

แต่ปัญหาคืิอมันอยู่ในโลกสีเทามานานน่ะครับ ไม่มีใครทำหรอก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 20,773
  • ถูกใจแล้ว: 6797 ครั้ง
  • ความนิยม: +581/-548
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2022, 07:09:52 AM »
[quote/]

ทางเทคนิค

เจ้าของร้านจ่ายค่าใช้จ่าย"ค่าที่"อยู่แล้วครับ
ไม่จ่ายให้กับคนถวนั้นเพื่อใมช้ไฟใช้น้ำ ก้ต้องจ่ายให้กับเทศกิจอยู่แล้วไม่ได้ำทแบบ"ฟรี"แต่ประการใด

การที่ท่านมองว่าให้มีใบเป็นทางการก้าอจจะดีเสียกว่าก็ได้
เพระาเทศกิจจะหาข้ออ้างเก็บเพิ่มไม่ได้อีก

แต่ปัญหาคืิอมันอยู่ในโลกสีเทามานานน่ะครับ ไม่มีใครทำหรอก
คือจะบอกว่าติดเป็นนิสัยจนแก้ไม่ได้แล้วว่างั้น
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: trash

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2022, 09:27:41 AM »
[quote/]คือจะบอกว่าติดเป็นนิสัยจนแก้ไม่ได้แล้วว่างั้น
คือผมเอาแนวคิดพวกค้ายามาจับเลยนะครับ
"ยอมจ่ายให้ตำรวจรายเืดอนได้แต่อย่ามากวนรายวัน"
หรอืคำพูดของโจีกเกอร์"คนเรายอมรับเรื่องเลวร้ายได้ ขอพียยงเป็นไปตามแผนเท่านั้น"
คือชาวบ้าน แม่ค้าแผงลอยมองว่าการจ่ายเงินค่าเช่าเป็นเรือ่งธรรมดาทั้งนั้น
หากบอกว่าเทศบาลไม่ได้เงิน..นั่นต่างหากที่น่าสงสัยทำให้เป็นทางการน่าจะช่วยในการลดการทุจริตได้มากกว่าเพระาหากเก็บไปแล้ว เกิดเจ้าหน้าที่จะหารายได้พิเศษก็จะยากขึ้นเพราะแม่ค้ารถเข็นจะคิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด

แต่พอแอบเก็บให้สินบนกัน แม่ค้าก็ไม่กล้าโวยวายระบบมันวางไว้ดีสำหรับคนที่ต้องการทุจริตต้องถามย้อนกลับไปว่า ณ ตอนนี้ ใครที่ได้ประโยชน์อยู่?
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ trash

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 359
  • ถูกใจแล้ว: 274 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2022, 12:04:21 PM »
[quote/]
คือผมเอาแนวคิดพวกค้ายามาจับเลยนะครับ
"ยอมจ่ายให้ตำรวจรายเืดอนได้แต่อย่ามากวนรายวัน"
หรอืคำพูดของโจีกเกอร์"คนเรายอมรับเรื่องเลวร้ายได้ ขอพียยงเป็นไปตามแผนเท่านั้น"
คือชาวบ้าน แม่ค้าแผงลอยมองว่าการจ่ายเงินค่าเช่าเป็นเรือ่งธรรมดาทั้งนั้น
หากบอกว่าเทศบาลไม่ได้เงิน..นั่นต่างหากที่น่าสงสัยทำให้เป็นทางการน่าจะช่วยในการลดการทุจริตได้มากกว่าเพระาหากเก็บไปแล้ว เกิดเจ้าหน้าที่จะหารายได้พิเศษก็จะยากขึ้นเพราะแม่ค้ารถเข็นจะคิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด

แต่พอแอบเก็บให้สินบนกัน แม่ค้าก็ไม่กล้าโวยวายระบบมันวางไว้ดีสำหรับคนที่ต้องการทุจริตต้องถามย้อนกลับไปว่า ณ ตอนนี้ ใครที่ได้ประโยชน์อยู่?


ของญี่ปุ่น  รถเข็นเร่ก็ถูกเก็บ  มาว่าที่ไทยดีกว่า  อันนี้ผมถนัดในการแสดงความคิดเห็น  ^^
ไทยเราก็เก็บ  เอาของทางกรุงเทพฯหล่ะกัน  เทศกิจจะเก็บเป็นรายเดือน  เดี๋ยวนี้เท่าไรไม่รู้
โดยจะเก็บในรูปแบบค่าปรับ  แม้จะเห็นพื้นที่ผ่อนผันก็ตาม  ซึ่งสิ่งนี้  บางทีก็ไม่ถูกใจบ้านของ
เจ้าของหน้าร้าน



บ้างแม่ค้าก็จ่ายสองต่อ  คือจ่ายค่าหน้าร้านให้เจ้าของบ้าน(ซึ่งสูงมาก  บางทำเลวันละหลายร้อย)
และจ่ายให้ทางเทศบาลในรูปแบบค่าปรับ  ซึ่งเมื่อราวสิบกว่าปีก่อนราคามันหลักหลายร้อยกลางๆ
ตอนนี้เท่าไรแล้วไม่รู้  แต่มันก็ถูกมาก  เมื่อเทียบกับค่าเช่าหน้าร้านที่จ่ายให้เจ้าของบ้านหน้าร้าน
ร้านค้าพวกนี้  ก็มีทั้งตั้งแผง  และมีทั้งเป็นรถเข็นเร่  ถ้าของไทยเราก็จะเป็นรถเข็นก๊วยเตี๋ยวซะ
ส่วนมาก  มันสะดวกในการเคลื่อนย้าย  และพวกเขาจะต้องมาช่วยทำความสะอาดในวันจันทร์
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,259
  • ถูกใจแล้ว: 20000 ครั้ง
  • ความนิยม: +361/-2
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: FOOD: อาหารรถเข็นในญี่ปุ่นหายไปไหน?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2022, 12:25:15 PM »
[quote/]

ของญี่ปุ่น  รถเข็นเร่ก็ถูกเก็บ  มาว่าที่ไทยดีกว่า  อันนี้ผมถนัดในการแสดงความคิดเห็น  ^^
ไทยเราก็เก็บ  เอาของทางกรุงเทพฯหล่ะกัน  เทศกิจจะเก็บเป็นรายเดือน  เดี๋ยวนี้เท่าไรไม่รู้
โดยจะเก็บในรูปแบบค่าปรับ  แม้จะเห็นพื้นที่ผ่อนผันก็ตาม  ซึ่งสิ่งนี้  บางทีก็ไม่ถูกใจบ้านของ
เจ้าของหน้าร้าน



บ้างแม่ค้าก็จ่ายสองต่อ  คือจ่ายค่าหน้าร้านให้เจ้าของบ้าน(ซึ่งสูงมาก  บางทำเลวันละหลายร้อย)
และจ่ายให้ทางเทศบาลในรูปแบบค่าปรับ  ซึ่งเมื่อราวสิบกว่าปีก่อนราคามันหลักหลายร้อยกลางๆ
ตอนนี้เท่าไรแล้วไม่รู้  แต่มันก็ถูกมาก  เมื่อเทียบกับค่าเช่าหน้าร้านที่จ่ายให้เจ้าของบ้านหน้าร้าน
ร้านค้าพวกนี้  ก็มีทั้งตั้งแผง  และมีทั้งเป็นรถเข็นเร่  ถ้าของไทยเราก็จะเป็นรถเข็นก๊วยเตี๋ยวซะ
ส่วนมาก  มันสะดวกในการเคลื่อนย้าย  และพวกเขาจะต้องมาช่วยทำความสะอาดในวันจันทร์
บางครั้งก็ต้องมองในมุมของเจ้าของบ้านหรือบางครั้งก็เป็นร้านค้า  แล้วก็มีหาบเร่แผงลอยมาตั้งอยู่หน้าบ้าน บางรายมีร่มบังแดด ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ก็บังหน้าร้านเขามิดไงท่าน  ???  เจ้าของบ้านลงทุนหลักล้านหรืออาจจะถึงหลักสิบล้าน แล้วก็มี"คนทำมาหากิน"มาปิดหน้าร้านมิด มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะโยม  :-X
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก