โดนเพื่อนหักหลังระดับไหนถึงจะเลิกคบครับ

[providence_gundam]

พอดีนั่งคุยกับเพื่อน แล้วในวงสนทนาก็นินทาเรื่องเพื่อนคนนึงที่ปัจจุบันเลิกคบไปแล้ว(นามสมมตินาย A ละกัน)โดนเพื่อนอีกคน(นาย B)หลอกยืมตังไม่คืนไป 5 หมื่นบาท

คือนาย B นี่ประวัติไม่ค่อยดี ติดพนันจนป่วยเป็นโรคจิตเวช เข้าๆออกๆรพ.ศรีธัญญารัวๆ ออกมาก็ยืมตังไม่คืนเพื่อน อ้างชื่อพ่อไปขู่ พยายามไปเข้ากลุ่มเพื่อน แล้วทำให้แตกหักกัน ทะเลาะกัน จะได้ไม่คุยกัน พอไม่คุยกัน ก็จะหลอกยืมเงินไม่คืนง่ายๆ ไปทำกับเพื่อนหลายกลุ่มจนโดนเลิกคบไปหลายกลุ่ม(คือกลุ่มสมัยมัธยมน่าจะไม่มีใครยุ่งแล้ว แต่คนอื่นที่ไม่รู้จักนี่ไม่รู้ละ)

นาย A อดีต?เป็นเพื่อนสนิทกับ B นาย B เลยอาศัยจุดนี้ยืมตังรัวๆ ไม่คืนเลย คืนไม่ครบ ไม่ก็คืนช้ามาก นอกจากนี้นาย B ก็พยายามใส่ร้ายป้ายสีนาย A จนนาย A โดนไล่ออกจากงานก็เคยมาแล้ว แต่ก็ยังติดต่อกับนาย B อยู่

นาย A ก็เคยมาปรึกษาพวกผมเพราะครั้งล่าสุดโดนไปดอกใหญ่ 5 หมื่นบาททีเดียว ก็เลยบอกว่าฟ้องไปเลย หลักฐานโอนเงิน หลักฐานการยืมเงินก็มี ตกลงนาย A ก็จะฟ้อง แล้วบอกว่าคงไม่เผาผีกับนาย B อีก โดนซะขนาดนี้

ไปๆมาๆไม่ฟ้องซะงั้น ไม่ฟ้องไม่พอ ยังเป็นสปายในกลุ่มผมอีก คือเวลานัดกินข้าว ก็คุยกัน แต่พวกผมไม่ได้ชวนนาย B มา เพราะนาย B พฤติกรรมนอกจากเรื่องข้างบน ยังมีชักดาบดื้อๆ (แถมเคยมีประวัติคือสมัยก่อนคือชอบชวนไปกินร้านแพงๆเพื่อจะให้เพื่อนควักบัตรเครดิตออกมา จะได้แอบดูบัตร จะได้เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่าย + เล่นพนัน แต่ความแตกเพราะ otp มันไปขึ้นมือถือเจ้าของ) นอกจากนี้มีเรื่องแอบอ้าง สารพัด คือโดนจะแทบทั้งกลุ่มละ

ประวัติอีกเยอะ เล่าไม่หมด เอาเป็นว่าทุกคนในกลุ่มยกเว้นนาย A เลิกคบและไม่มีใครคุยกับนาย B แล้วเพราะเป็นบุคคลอันตราย แต่นาย A ดันมาเป็นสปาย คือนาย B รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกลุ่มผมว่าไปกินข้าวที่ไหน คุยเรื่องไรกัน ก็เลยตามสืบจนนาย A สารภาพว่าถ้าไปเป็นสายสืบให้ จะคืนเงินให้ + สงสารนาย B

เรื่องนี้ก็เลยจบที่ว่าทั้งกลุ่มผมก็เลิกคบนาย A ไปอีกคน คือคุณมรึงโดนหักหลัก โดนโกงขนาดนั้น ยังคุย ยังคบหากับมันอีก ก็บ๊ายบาย

คือในมุมมองผมคือ แค่ยืมเงินไม่คืนก็ว่าเพียงพอจะเลิกคบแล้ว นี่คือโดนไล่ออกจากงานเพราะมัน แต่สุดท้ายสงสาร + ไปเป็นลูกน้องมันเฉย ไม่รู้ว่าไปอัดถั่วกันไว้แล้วฟินจัดจนทิ้งกันไม่ได้รึเปล่า

แต่มุมมองของคนอื่นอาจจะมีคนแบบนาย A จริงๆเยอะก็ได้ เลยเกิดคำถามตามหัวมู้คนับ

• Tweet

[gundam666]

คนแบบนี้อันตรายอาจถึงขั้นทำได้ทุกอย่างควรระแวงได้เลยเพราะไม่แน่อาจจะมากกว่าเลืกคบ  เช่นพอเลิกคบก็เริ่มใส่ร้ายป้ายสีไม่ก็โทรมาขอคืนดีแบบโทรมาถี่ๆ  ถ้าจบที่ไม่มีอะไรเกิดมากกว่านี้คงดี  แต่ถ้ามีอะไรมากกว่าที่ยกตัวอย่างก็เตรียมหานักสืบเก่งๆพร้อมเก็บหลักฐาน มีความเป็นไปได้ที่เรื่องอาจบานปลายถ้ามีการโทรมาข่มขูก็ฟันธงได้เลยว่าอาจมีถึงขั้นฆ่ากัน  ถ้าเรื่องมันผ่านแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วไป

[sariora123]

คนแบบนี้อันตรายอาจถึงขั้นทำได้ทุกอย่างควรระแวงได้เลยเพราะไม่แน่อาจจะมากกว่าเลืกคบ  เช่นพอเลิกคบก็เริ่มใส่ร้ายป้ายสีไม่ก็โทรมาขอคืนดีแบบโทรมาถี่ๆ  ถ้าจบที่ไม่มีอะไรเกิดมากกว่านี้คงดี  แต่ถ้ามีอะไรมากกว่าที่ยกตัวอย่างก็เตรียมหานักสืบเก่งๆพร้อมเก็บหลักฐาน มีความเป็นไปได้ที่เรื่องอาจบานปลายถ้ามีการโทรมาข่มขูก็ฟันธงได้เลยว่าอาจมีถึงขั้นฆ่ากัน  ถ้าเรื่องมันผ่านแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วไป

คนที่โดนขู่ได้ คือพวกที่ดูแล้วไม่สู้คน ครับ

อย่างที่ผมเคยเล่า ว่าคนบ้ายังกลัวคนมีปืน

มาบ้าบ้านกูดิ 

[Kopyor]

หักหลังระดับไหนถึงเลิกคบ??  นึกไม่ออกจริงๆ  ไม่ใช่เพราะผมคิดว่าตัวเองแกร่งหรือมีเหตุผล
สวยหรูวิ่งบนทุ่งลาเวนเดอร์นะ  แต่ผมแค่คิดว่า  ไม่จำเป็นต้องเป็นมิตรกันทุกเรื่องและก็ไม่จำเป็น
ต้องเป็นอริกันทุกเรื่อง  เรื่องไหนไปด้วยกันได้  คนๆนั้นก็เป็นเพื่อนที่ดี  แต่ถ้าเมื่อไรเพื่อนคนนั้น
มีเหตุผลไม่ลงตัวกัน  ไม่ลงรอยกันจนถึงขั้นต้องกำจัดทิ้ง  ผมก็ไม่ลังเลที่จะกำจัดทิ้งอ่ะ  อันนี้คือ
ความคิดในกมลสันดานส่วนตัวของผมหล่ะกัน  เพราะผมคิดงี้จริงๆ




ถ้าให้ฟันธงเลือกมาซะที  [โดนเพื่อนหักหลังระดับไหนถึงจะเลิกคบครับ]  ขอเลือกคนไม่รักษาสัจจะ
ต่อให้เลวแค่ไหน  แนวความคิดระหว่างเรากับเพื่อนต่างกันแค่ไหน  ก็ต้องรักษาเกียรติรักษาคำพูด
เพราะคนไม่รักษาคำพูด  อย่าว่าแต่เพื่อนกันเลย  แม้แต่ลูกน้องหรือใครๆก็จะไม่มีใครอยากเคารพ
คนประเภทนี้ไร้ค่า  ไร้ราคา  ไร้ความหมายที่จะคบหรือคบค้าหรืออะไรๆด้วย




ย่อหน้าที่สองพึ่งนึกได้เมื่อกี้  ผมประเภทพิมพ์ไปนึกไป  บางทีหลายๆประโยคอาจพิมพ์ขัดกันเอง
ส่วนข้อความใน#0หัวกระทู้  พอได้อ่านก็รู้สึกว่า  ก๊องแก๊งอ่ะ  ทั้งนายAและนายBและเรื่องเลิกคบ
โดยส่วนตัว  ขออภัยเจ้าของกระทู้ไว้ก่อน 

[deaddy]

เมื่อเขาไม่มองว่าเราเป็นเพื่อน


ไม่ทำสิ่งที่ควรทำไม่ว่า แต่อย่าทำสิ่งที่คนเป็นศัตรูเขาทำกัน


เช่น แย่งแฟน ใส่ร้าย


การใส่ร้าย นินทา ดูถูกนั้น คนเป็นเพื่อนควรจะรู้สึกว่าเพื่อนได้ดีย่อมดีกว่า


อย่างให้มีเพื่อนเป็นนายก กับเป็นนักโทษหนีคดี
คนปรกติจะเลือกอย่างไหน


แล้วไอ้พวกมีความสุขกับที่เพื่อนตกต่ำล่ะ
พวกนั้นเขาไม่มองว่าคนๆนั้นเป็นเพื่อนครับ
เขาอาจจะมองเป็นคนรู้จักหรือ  เป็นสัตว์เลี้ยงก็ได้


เพื่อนบางคนอาจจะติดสถานะคู่แข่งด้วย
ถ้าแบบนั้นก็แฟร์ๆ สู้กันแบบเปิดเผย ใครเก่งกว่าก็ได้ไป
แต่ถ้าไปทำลายชื่อเสียงอีกฝั่งเพื่อชัยชนะ
ไม่ถือว่าเป็นเพื่อนอีกต่อไป เช่น


แข่งชิงตำแหน่งหัวหน้างานกับเพื่อน
สมมุติมีคู่แข่งกัน 2 คน อีกฝั่งเก่งกว่าเลยไปใส่ความว่าทำไม่ดีนู่นนี่นั่นมา
จนภาพลักษณ์อีกฝั่งเสียจนชนะไป


พอมีตำแหน่งว่าง คนที่แพ้ก็ย่อมมาแข่งอีก
แต่ชื่อเสียแก้ได้ไหมล่ะ
คนที่มาแข่งใหม่ก็ย่อมได้เปรียบ


เพราะงั้นการใส่ร้ายนินทาที่ไม่ได้ทำ หรืออาจจะทำก็ตาม
ก็เหมือนๆกับพยายามทำลายอนาคตฝั่งตรงข้าม
คนแบบนี้อย่าเรียกว่าเพื่อนเลย


แต่ถ้าเราทำผิดจริง แต่อาจไม่ผิดหนักอะไร
ใครจะนินทาก็พอรับได้ แต่ก็ไม่ใช่ควรที่จะพูด
ถ้าเรื่องขำๆนินทาไปก็ไม่ว่าหรอก แต่บางเรื่องถึงจริงก็ไม่ควรพูด




เพราะงั้น ถ้าคนที่เป็นเพื่อนทำร้ายเพื่อนเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก็ยังพอจะลดระดับเป็นคนรู้จักได้


แต่บางคนทำร้ายอีกฝั่ง ด้วยความสะใจล้วนๆ
อันนี้ไม่ใช่แค่ควรเลิกคิดว่าเค้าเป็นเพื่อน
ควรมองว่าเป็นศัตรูด้วยซ้ำ


คนไม่รู้จักยังไม่คิดจะทำร้ายเราถ้าไม่มีเหตุผล
นี่คนสนิทกัน มาทำร้ายกันด้วยเพื่อเพิ่มความสุขให้ตัวเอง
คนแบบนี้ เราเหลือแค่เคยรู้จักกันดีกว่า เราจะได้ไม่ทุกข์

[Black7nos]

นาย A โดนนาย B แบล็คเมลล์อะไรหรือเปล่า?
เพราะปกติมนุษย์คนหนึ่งย่อมเรียกหาความยุติธรรมแก่ตนเองอยู่แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น การเอาคืน ฟ้องตำรวจ ฯลฯ
การที่นาย A ยอมนาย B ไปซะทุกเรื่องก็เป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของคนทั่วไป


แต่คุณ @providence_gundam ก็ทำถูกแล้ว คือ อยู่ให้ห่างๆจากคนที่สร้างปัญหา

[pol]

@deaddy  เจอมาเยอะสินะท่าน?    ผมเห็นด้วยนะคนแบบนั้นให้เป็นศัตรูยังดีกว่าเพราะจะได้ระวังตัวได้ง่ายๆ

[Black7nos]

@deaddy  เจอมาเยอะสินะท่าน?    ผมเห็นด้วยนะคนแบบนั้นให้เป็นศัตรูยังดีกว่าเพราะจะได้ระวังตัวได้ง่ายๆ

เหมือนกระบี่เย้ยยุทธจักรกับมีดบินลี้คิมฮวง สิ่งที่อันตรายที่สุดไม่ใช่ศัตรูครับ แต่คือคนที่อยู่ใกล้ตัวที่อันตรายที่สุด ถ้าเขาคิดร้ายกับเรา

[deaddy]

@deaddy  เจอมาเยอะสินะท่าน?    ผมเห็นด้วยนะคนแบบนั้นให้เป็นศัตรูยังดีกว่าเพราะจะได้ระวังตัวได้ง่ายๆ

ทั้งโดนเองและเพื่อนโดนคนรู้จักโดนครับ
คือทำงานในองค์กร คนบางคนอาจจะเลือกทำตัวร้ายเพื่อชัยชนะ


แต่เค้าอาจจะไม่รู้ว่าทุกคนในองค์กรเขาเอาไปนินทาต่อจนกว่าคนที่รู้เรื่องจะเกษียณออกหมดก็หลายสิบปี


คนๆนั้นเป็นเพื่อนคนนั้นคนนี้โยงใยไปเรื่อยๆ
กลายเป็นคนบางคนขึ้นเป็นผู้บริหารที
วีรกรรมต่างๆโดนแฉผ่านทางวงนินทาเพียบ


อย่างผู้บริหารบางคนมีปัญหาด้านกฏหมายเลยไปถามเพื่อนนักกฏหมาย
พอเพื่อนนักกฏหมายรู้ก็เลยไปบอกนาย
นายเลยเตะคนเดิมออกแล้วเอาคนนั้นเข้ามารับงานแทนงี้
คนโดนมันก็เล่าต่อสิ โดนเด้งจากภาคอีสานลงภาคใต้ใครจะไม่เคือง
ต้องย้ายไปไกลครอบครัวแบบนั้น


หรือ โดนฟ้องด้วยคดีเมื่อ 30 ปีที่แล้ว นักกฏหมายแจ้งขออายัดทรัพย์ ทั้งที่ไม่เข้าข่ายฝอกเงินหรือยาเสพติด
แล้วไปทำหนังสือส่งไปทั่วประเทศทั้งที่อายัดไม่ได้แน่นอนทำไปทำไม


ก็ประจานไงครับ ผลสุดท้ายคดีจบด้วยหมดอายุความ
ส่วนนักกฏหมายคนนั้นโดนไล่ออกเพราะความผิดราวๆ 15-20 ปีก่อนได้มั้ง
คือคงไปหาเรื่องคนไว้เยอะ ตอนระดับล่างๆอายุน้อยๆเขาเลยปล่อยผ่าน
พออายุเยอะขึ้นไปหาเรื่องคนระดับใหญ่ขึ้น เขาก็รื้อเรื่องเก่าๆมาเล่นกัน


บางคนฝากชีวิตไว้กับเงินบำนาญ กลายเป็นโดนไล่ออกตอนแก่ โดนบังคับให้ชดใช้ด้วย


แน่นอนว่าหลายเรื่องมันไม่ได้เกิดใกล้ตัวเองหรอก
แต่คนที่เกี่ยวข้องเขาก็เล่าให้ฟัง


อิจฉาริษยาเลื่อยขาเตะตัดขา ระดับบนๆเคยเจอกับตัวเองรึเพื่อนโดน
เคยเจอกันหมดแน่นอน


อย่างที่ๆผมอยู่งบเข้าเคยมากกว่านี้นับสิบเท่า
แต่เจอคนอิจฉากันแล้วส่งบัตรสนเท่ห์ไปร้องเรียน
งานหายวูบเลย คือทำงานได้ผลลัพธ์ ตามเป้า
แต่ขั้นตอนผิดในรายละเอียด ก็โดนลงโทษวินัยกันไป


แต่ไอ้คนโดนวินัยมันหัวใจของหน่วย
แล้วไม่ใช่ว่าโดนแบนไปแล้วงานจะไหลเข้าคนร้อง
ระดับบน เขาไม่ใช้งานทั้งหน่วยเลย


แล้วรู้ได้ไงว่าคนร้องคือใคร ก็มันเป็นรายละเอียดที่คนนอกไม่มีทางรู้


แปลว่าไอ้คนร้องก็คือคนนั่งข้างๆกันนั่นแหล่ะ


บางคนนั่งข้างๆกันไปเผาเค้าแต่แม่มตัวเองก็โดนไฟลวกไปด้วย
คนทำแม่มก็ยังจะทำ ผู้บริหารเค้าก็รู้หมดแหล่ะ


คนนอกที่เข้าไปใหม่ยังรู้เลย ว่าใครทำเพราะเรื่องใหญ่
เขาก็เล่าต่อๆกันไปจนคนที่เกี่ยวข้องเกษียณนู่นแหล่ะ

[providence_gundam]

นาย A โดนนาย B แบล็คเมลล์อะไรหรือเปล่า?
เพราะปกติมนุษย์คนหนึ่งย่อมเรียกหาความยุติธรรมแก่ตนเองอยู่แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น การเอาคืน ฟ้องตำรวจ ฯลฯ
การที่นาย A ยอมนาย B ไปซะทุกเรื่องก็เป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของคนทั่วไป


แต่คุณ @providence_gundam ก็ทำถูกแล้ว คือ อยู่ให้ห่างๆจากคนที่สร้างปัญหา

เลยเป็นที่มาของคำถามนี่แหละว่า ทั่วๆไปทนกันได้ขนาดไหน เพราะจากที่ฟัง มันก็รู้สึกแปลกๆ


คือถ้าตัวผมเอง ไม่ถึงกับต้องมาหักหลังหรอก แค่ทำตัวแปลกๆ กลิ่นไม่ดี มีโอกาสทำให้ผมซวยไปด้วย ผมก็ถอยห่างที่ไม่ใช่ถ่างหอยออกมาแล้ว

[Black7nos]

[quote/]


เลยเป็นที่มาของคำถามนี่แหละว่า ทั่วๆไปทนกันได้ขนาดไหน เพราะจากที่ฟัง มันก็รู้สึกแปลกๆ


คือถ้าตัวผมเอง ไม่ถึงกับต้องมาหักหลังหรอก แค่ทำตัวแปลกๆ กลิ่นไม่ดี มีโอกาสทำให้ผมซวยไปด้วย ผมก็ถอยห่างที่ไม่ใช่ถ่างหอยออกมาแล้ว

ครั้งเดียว หรือไม่ให้โอกาสเลยมั้ง

ไม่รู้สิ สำหรับผมนะ ผมมองว่าศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์คือต้องยืนหยัดสองเท้าได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่พึ่งพาใคร
ตั้งแต่เด็ก ใครมาขอเงิน ผมไม่เคยให้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม แล้วก็ไม่เคยขอใครด้วย ถ้าอยากได้ก็ต้องไขว่คว้าหามาเอง
ผมคิดว่าถ้าผมให้เขาไปก็เท่ากับผมสนับสนุนให้เขาทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเอง

[pol]

สำหรับผมนี้ครั้งเดียวครับ ถ้าจงใจโกงผมนี่จะเงินไม่กี่บาทก็เลิกคบเพราะถือว่าคุณมีราคาแค่นั้น 

[providence_gundam]

เมื่อเขาไม่มองว่าเราเป็นเพื่อน


ไม่ทำสิ่งที่ควรทำไม่ว่า แต่อย่าทำสิ่งที่คนเป็นศัตรูเขาทำกัน


เช่น แย่งแฟน ใส่ร้าย


การใส่ร้าย นินทา ดูถูกนั้น คนเป็นเพื่อนควรจะรู้สึกว่าเพื่อนได้ดีย่อมดีกว่า


อย่างให้มีเพื่อนเป็นนายก กับเป็นนักโทษหนีคดี
คนปรกติจะเลือกอย่างไหน


แล้วไอ้พวกมีความสุขกับที่เพื่อนตกต่ำล่ะ
พวกนั้นเขาไม่มองว่าคนๆนั้นเป็นเพื่อนครับ
เขาอาจจะมองเป็นคนรู้จักหรือ  เป็นสัตว์เลี้ยงก็ได้


เพื่อนบางคนอาจจะติดสถานะคู่แข่งด้วย
ถ้าแบบนั้นก็แฟร์ๆ สู้กันแบบเปิดเผย ใครเก่งกว่าก็ได้ไป
แต่ถ้าไปทำลายชื่อเสียงอีกฝั่งเพื่อชัยชนะ
ไม่ถือว่าเป็นเพื่อนอีกต่อไป เช่น


แข่งชิงตำแหน่งหัวหน้างานกับเพื่อน
สมมุติมีคู่แข่งกัน 2 คน อีกฝั่งเก่งกว่าเลยไปใส่ความว่าทำไม่ดีนู่นนี่นั่นมา
จนภาพลักษณ์อีกฝั่งเสียจนชนะไป


พอมีตำแหน่งว่าง คนที่แพ้ก็ย่อมมาแข่งอีก
แต่ชื่อเสียแก้ได้ไหมล่ะ
คนที่มาแข่งใหม่ก็ย่อมได้เปรียบ


เพราะงั้นการใส่ร้ายนินทาที่ไม่ได้ทำ หรืออาจจะทำก็ตาม
ก็เหมือนๆกับพยายามทำลายอนาคตฝั่งตรงข้าม
คนแบบนี้อย่าเรียกว่าเพื่อนเลย


แต่ถ้าเราทำผิดจริง แต่อาจไม่ผิดหนักอะไร
ใครจะนินทาก็พอรับได้ แต่ก็ไม่ใช่ควรที่จะพูด
ถ้าเรื่องขำๆนินทาไปก็ไม่ว่าหรอก แต่บางเรื่องถึงจริงก็ไม่ควรพูด




เพราะงั้น ถ้าคนที่เป็นเพื่อนทำร้ายเพื่อนเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก็ยังพอจะลดระดับเป็นคนรู้จักได้


แต่บางคนทำร้ายอีกฝั่ง ด้วยความสะใจล้วนๆ
อันนี้ไม่ใช่แค่ควรเลิกคิดว่าเค้าเป็นเพื่อน
ควรมองว่าเป็นศัตรูด้วยซ้ำ


คนไม่รู้จักยังไม่คิดจะทำร้ายเราถ้าไม่มีเหตุผล
นี่คนสนิทกัน มาทำร้ายกันด้วยเพื่อเพิ่มความสุขให้ตัวเอง
คนแบบนี้ เราเหลือแค่เคยรู้จักกันดีกว่า เราจะได้ไม่ทุกข์

ตาม common sense ทั่วไป โดนขนาดนั้น ก็ไม่ควรจะเผาผีด้วยซ้ำ เบาสุดก็ตัดขาด หนักสุดก็ฆ่ายกครัว ว่ากันไป ปกติที่เจอก็แบบนี้


แต่เคสเพื่อนผมนี่ก็งงเหมือนกันว่าโดนไปขนาดนั้น ยังจะคุยกัน ติดต่อกันอยู่อีก คือเงิน 5 หมื่นมันก็ไม่ได้มากจนเดือดร้อนจนคอขาดบาดตายต้องเอากลับมาให้ได้(อันนี้ผมคิดจากพื้นฐานครอบครัวคนๆนี้ด้วย คือบ้านมันมีตังค์ นาย A ก็เป็นนีท เงิน 5 หมื่นคือเงินที่พ่อแม่มันให้ด้วยซ้ำ หรือว่าไม่ได้แคร์เรื่องเงินก็ไม่รู้ มิตรภาพสำคัญกว่า เพราะทุกคนคือ ค ร อ บ ค รั ว แบบหนังฟาสรึเปล่า ไม่ใช่มันเบียวเป็นดอมอยู่ก็เป็นได้