ปิดด่านที่ปอยเปต กันคนไทยไม่ให้เข้าไปเล่นคาสิโน แค่นั้นก็ร้องละครับ
ปัญหาของกัมพูชาคือ ไพ่ในมือต่ำเกินไป ไม่ว่าการทูต (ไทยไม่มีศัตรูให้ใช้หลัก ศัตรูของศัตรูคือมิตร) สู้การทหารตรงๆก็ไม่ไหว แค่สายส่งบำรุงในประเทศยังส่งยาก ฝีมือก็สู้ไม่ได้ เพื่อนตัวเองช่วย แต่เพื่อน ก็คุมทหาร กับ สื่อ ประชาชนไม่อยู่แบบตัวเอง
ทางทหารคงไม่เปิดใส่หรอก กระแสสังคมกำลังกลับมาสนับสนุนก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนทั้งแดงทั้งส้ม ก็พยายามทำเป็นผู้ใฝ่สันติnot war make love เพราะไม่อยากให้กระแสสไปทางทหาร แต่เหมือนจะต้านไม่ไหว
ไม่ make war น่ะถูกแล้วครับ เพราะถ้า Make War แล้วชาวบ้านที่อยู่บริเวณชายแดนละครับจะทำไง?
หรือจะมองว่าชาวบ้านชายแดนเป็นหมากใช้แล้วทิ้งแบบฮุนเซนละครับ? อุ้ย เพื่อความรักชาติงั้นช่วยโดนลูกหลงของสงครามหน่อยละกัน แบบนี้ได้เหรอครับ?
ต้อง
ลองคิดว่าถ้าตัวเองหรือพ่อแม่ลูกเมียตัวเองของเราอยู่ตรงชายแดนพิพาทนั้น เรายังจะพูดเชียร์ เย้วๆ ทำสงครามอีกเหรอครับ?
สงครามคือทางเลือกสุดท้ายครับ ตราบเท่าที่มีหนทางอื่น ก็ต้องหลีกเลี่ยงสงคราม เพราะเมื่อเริ่มแล้วมันจบยาก
เหมือนสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปูตินโม้ว่าสัปดาห์เดียวจบ แล้วเป็นไงครับ นี่สองปีแล้วยังไม่จบเลย คนหนุ่มทั้งรัสเซีย+ยูเครนตายไปตั้งเท่าไหร่
คนหนุ่มที่ควรจะเป็นอนาคตของชาติเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ กลับต้องตายก่อนคนแก่ แล้วอนาคตชาติจะเหลืออะไรครับ? คนแก่ไม่มีแรงทำงาน?
ประเทศไทยตอนนี้อยู่ในสังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยกว่าตาย แค่นี้ก็มีคนหนุ่มสาวไม่พอกับการผลักดันประเทศแล้ว ยิ่งถ้าเอาคนหนุ่มสาวมาตาย ประเทศจะเหลืออะไรครับ?
ผมถึงบอกไงว่าชาตินิยมอย่างมีสติ ชาตินิยมแบบผิดๆ มันก็ไม่ต่างจากที่ฮุนเซนทำ กลายเป็นว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเสียเอง
เข้าใจว่าหลายคนเกลียดฮุนเซน ยิ่งเราเกลียด เรายิ่งต้องไม่ทำอย่างที่ฮุนเซนทำครับ คือยั่วยุ เชียร์สงคราม
ปล.ไอ้พวกเชียร์ทำสงครามเย้วๆ เก่งแต่เย้วๆ ในกรุงเทพฯห่างไกลชายแดน แน่จริงลองพาทั้งครอบครัวไปเย้วๆ ที่ชายแดนดิ แล้วจะรู้สึกว่าชาวบ้านชายแดนเขารู้สึกอย่างไร
ผมถามหน่อย ชาวบ้านชายแดนเขามีความสุขกับการขุดหลุมหลบภัยกันเหรอครับ? วันดีคืนดีครอบครัวเขาอาจจะโดนลูกหลงจากปืนใหญ่เมื่อไหร่ก็ได้
ยิ่งมีคนเชียร์สงครามมากเท่าใด = ชาวบ้านชายแดนยิ่งเสี่ยงต่อการถูกลูกหลงของสงครามมากเท่านั้น