อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 213-214 ของสงคราม Part 1 (สถานการณ์ภายในยูเครน)1. ทางการยูเครนประกาศลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับทางการอิหร่าน หลังจากที่มีการพบหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าอิหร่านให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับกองทัพรัสเซียจริง โดยการส่งมอบโดรนติดอาวุธจำนวนมากให้กับรัสเซีย
วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลยูเครนได้ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิหร่านและทำการขับไล่ทูตอิหร่านประจำยูเครนกลับประเทศ โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง กองทัพรัสเซียได้ใช้โดรนของอิหร่านจำนวน 2 ลำ เข้าทำลายอาคารสำนักงานท่าเรือในเมืองโอเดสซา (Odesa) จังหวัดโอเดสซา (Odesa Oblast) ทางใต้ของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ซึ่งเชื่อได้ว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลยูเครนประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิหร่าน
ทั้งนี้ มีรายงานการค้นพบโดรนอิหร่านในยูเครนครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่าโดรนดังกล่าวคือรุ่น Shahed-136 ซึ่งเป็นโดรนชนิด “ระเบิดบินวน” (Loitering Munitions) หรือเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่าโดรนกามิกาเซ (Kamikaze Drone) ลักษณะคือโดรนที่ติดตั้งระเบิดและเซนเซอร์ค้นหาเป้าหมาย เมื่อเจอเป้าหมายจะทำการพุ่งเข้าใส่แล้วทำการระเบิดตัวเองไปพร้อมกับเป้าหมายในทันที โดยกองทัพรัสเซียนำโดรน Shahed-136 เข้าประจำการในชื่อใหม่ว่า M214 Geran-2
โดรนอีกรุ่นหนึ่งที่กองทัพรัสเซียนำเข้าจากอิหร่านเพื่อมาใช้ในสงครามยูเครนคือรุ่น Mohajer-6 ซึ่งเป็นโดรนติดอาวุธ (UCAV) ทั่วไป มาพร้อมกับอาวุธปล่อยนำวิถี 4 ลูก และยังสามารถใช้งานเป็นโดรนสอดแนมทางอากาศได้ สรรถนะใกล้เคียงกับโดรน TB-2 Bayraktar ที่ยูเครนใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
2. วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา พลตำรวจโทอิฮอร์ คลีเมนโก (General of the 2nd Rank Ihor Klymenko) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยูเครน ได้ประกาศว่าการตรวจสอบสภาพหลุมฝังศพหมู่ในเมืองอิซิอุม (Izium) จังหวัดคาร์คิฟ (Kharkiv Oblast) ซึ่งกองทัพยูเครนพึ่งทำการปลดแอกคืนจากรัสเซียได้สำเร็จเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยภายในหลุมฝังศพประกอบไปด้วยศพของชาวยูเครนจำนวนทั้งสิ้น 447 ศพ ซึ่งสามารถแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 ศพเพศหญิง 215 ศพ
2.2 ศพเพศชาย 194 ศพ
2.3 ศพเด็กและเยาวชน 5 ศพ
2.4 ศพทหารยูเครน 22 ศพ
2.5 ศพที่ไม่สามารถระบุเพศได้ 11 ศพ
ด้านนายโอเลห์ ไซนีฮูบอฟ (Oleh Synyehubov) ผู้ว่าการจังหวัดคาร์คิฟของยูเครน ได้รายงานในวันเดียวกันว่าในบรรดาศพที่ถูกค้นพบนั้น ส่วนใหญ่พบร่องรอยของความทุกข์ทรมานก่อนตาย และประมาณ 30 ศพมีร่องรอยการถูกทรมานโดยทหารรัสเซีย เช่นร่องรอยการถูกรัดคอ ศพอยู่ในสภาพมือไขว้หลัง กระดูกหัก บาดแผลจากการถูกยิง และหลายรายยังถูกตัดองคชาตทิ้ง
3. วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ปธน.เซเลนสกี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “เวสต์-ฟรานส์” (Ouest-France) ของฝรั่งเศสถึงสถานการณ์ต่างๆ ในยูเครน โดยที่น่าสนใจประกอบไปด้วย
3.1 เซเลนสกี้กล่าวแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีทางการทูตแบบกำกวมของรัฐบาลจีน ทั้งที่ก่อนเกิดสงครามทั้งสองประเทศมีการติดต่อทางการค้าและการทูตกันไปมาอย่างดี แต่พอสงครามกับรัสเซียเริ่มขึ้น การติดต่อทางการทูตกับรัฐบาลจีนกลับถูกตัดขาด
3.2 เซเลนสกี้ยอมรับว่าการดำเนินงานทางการทูตของยูเครนยังมีจุดอ่อนและไม่ดีเพียงพอ เนื่องจากพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องการสนับสนุนจากประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกาหรือทวีปแอฟริกาได้
3.3 เซเลนสกี้กล่าวแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อท่าทีของรัฐบาลอิสราเอลที่ไม่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพอิสราเอล
3.4 เซเลนสกี้กล่าวว่ายูเครนยังต้องการความช่วยเหลือทางทหารที่มากกว่านี้จากชาติพันธมิตร โดยเฉพาะจากสหรัฐ เยอรมนี ตุรกี และฝรั่งเศส เพื่อปกป้องชีวิตของทหารยูเครนจากอาวุธของรัสเซีย เซเลนสกี้ยังกล่าวเน้นย้ำว่ายูเครนยังต้องการโดรนสอดแนม โดรนติดอาวุธ ระบบป้องภัยทางอากาศ และรถถังที่มากขึ้นจากชาติพันธมิตรเหล่านี้
3.5 เซเลนสกี้กล่าวถึงความสูญเสียทางการทหาร (Military Casualties) ของฝ่ายยูเครน โดยกล่าวว่าปัจจุบันยูเครนสูญเสียทหารประมาณ 50 นาย/วัน และจำนวนทหารยูเครนที่เสียชีวิตจนถึงตอนนี้อยู่ 1 ใน 5 ของจำนวนทหารรัสเซียที่เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งจนถึงปัจจุบัน กองเสนาธิการทหารกองทัพยูเครนได้รายงานว่ารัสเซียสูญเสียทหารไปทั้งหมด 56,300 นาย เท่ากับว่าปัจจุบันยูเครนจะมีทหารเสียชีวิตไปเพียงแค่ 11,260 นายเท่านั้น อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวน่าจะไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน นายโอเลกซี อาเรสโตวิช (Oleksiy Arestovych) ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน เคยออกมากล่าวว่าทหารยูเครนเสียชีวิตไปทั้งหมดประมาณ 10,000 นาย และบาดเจ็บอีก 30,000 นาย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จากระยะเวลาในเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน ยูเครนจะประสบกับความสูญเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่มา: