เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[samuison]

เอาแบบที่ผมลองจับใจความทฤษฎีสมคบคิดเอานะครับ
หลักการของออเมริกาคือสมดุลย์ Order ครับไม่ใช่ชัยชนะเสียทีเดียวในรุปแบบที่พวกเราคิดกัน
เอาโอบาม่าเป้นตัวอย่าง
โดนกุนซือทหารตำหนิว่าหลกีเลี่ยงการเผชิญหน้ามากเกินไปและดูถูกเพื่อนร่วมงาน เพระาเพื่อนร่วมงานอย่้างฮิลลารี่และไบเด้นนั้นฮาร์ดคอกว่า
มองว่าปล่อยไว้เฉยๆโลกก็ต้องยอมอเมริกาในอนาคตอยู่แล้วจะไปทำสงครามให้เหนือ่ยทำไม?
แต่แน่นอน นั่นคือแนวคิดโอบาม่า
คนอื่นที่มาที่หลังอาจจะฮาร์ดคอกว่า แต่พวกนี้มันรอบคอบมากๆชัยชนะถ้าจ่ายเยอะเกินไปก็ไม่ชอบเหมือนกันตามแผนการน่าจะเน้นสมดุลย์ขอโลกมากกว่า

[PeanutButter]

วันนี้ไม่ค่อยมีข่าวน่าสนใจหรือข่าวสำคัญเท่าไหร่นัก สำนักข่าวส่วนใหญ่ออกจะเล่นเรื่องเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนๆ ซะมากกว่า

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 180 ของสงคราม

1. ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ในกรุงมอสโกของรัสเซีย จนส่งผลให้ น.ส.ดาเรีย ดูกินา (Darya Dugina) บุตรสาวของนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน (Alexander Dugin) นักรัฐศาสตร์และนักการเมืองกลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวาของรัสเซียเสียชีวิต มีการเปิดเผยออกมาโดยอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านของรัสเซีย ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นขบวนการใต้ดินที่มีชื่อว่า “กองทัพสาธารณรัฐแห่งชาติ” (National Republican Army)

นายอิลเลีย โพโนมาเรฟ (Ilya Ponomarev) อดีตนักการเมืองฝ่ายค้านชาวรัสเซีย ปัจจุบันเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองซึ่งพำนักอยู่ในกรุงเคียฟของยูเครน ได้เปิดเผยข้อความที่เขาอ้างว่าเป็นของกลุ่มขบวนการใต้ดินในรัสเซียซึ่งอ้างตนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบวางระเบิดสังหาร น.ส.ดาเรีย ดูกินา ขบวนการดังกล่าวเรียกตนเองว่า “กองทัพสาธารณรัฐแห่งชาติ” มีจุดมุ่งหมายคือการกวาดล้างสมาชิกของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นที่ร่วมมือกับ ปธน.ปูติน ในการควบคุมประเทศและประชาชน และยังได้กล่าวประณาม น.ส.ดูกินาที่ถูกสังหารไป ว่าเป็นผู้สนับสนุนความรุนแรงและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของกองทัพรัสเซียในยูเครน

อย่างไรก็ดี นอกจากการกล่าวอ้างของนายโพโนมาเรฟแล้ว ยังไม่มีหลักฐานใดที่ชี้ชัดได้ว่าคำกล่าวอ้างของโพโนมาเรฟนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

สำหรับนายโพโนมาเรฟ เดิมทีเขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาดูมาของรัสเซีย กระทั่งในเดือนมีนาคม ปี 2014 เขาเป็นสมาชิกสภาคนเดียวจากทั้งหมด 450 เสียงในสภาที่ลงมติคัดค้านการรับไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทำให้เขาถูกประณามและข่มขู่จากเพื่อนร่วมชาติว่าเป็นคนทรยศ ต่อมาในเดือนสิงหาคมปีนั้น ระหว่างการเดินทางไปยังประเทศสหรัฐ ทางการรัสเซียได้ประกาศดำเนินคดีกับนายโพโนมาเรฟและได้ทำการยึดทรัพย์สินของเขา พร้อมประกาศไม่ให้นายโพโนมาเรฟเดินทางกลับประเทศ โพโนมาเรฟจึงต้องลี้ภัยชั่วคราวอยู่ในสหรัฐ ต่อมาในปี 2016 โพโนมาเรฟจึงได้ทำเรื่องลี้ภัยไปยังยูเครน และได้รับสัญชาติยูเครนในปี 2019 จากนั้นโพโนมาเรฟจึงเริ่มก่อตั้งรายการข่าวต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย “ข่าวเช้าเดือนกุมภา” (February Morning) และสำนักข่าวบนโซเชียลมีเดีย “รอสปาร์ติซัน” (Rospartisan) ซึ่งดำเนินรายการอยู่ในยูเครน เป้าหมายของเขาคือซักวันหนึ่ง จะสามารถทำการโค่นล้มปูตินลงจากอำนาจได้สำเร็จ


2. ทางด้านยูเครนที่ประสบกับการรุกรานจากรัสเซียยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานล่าสุดจากธนาคารแห่งชาติยูเครน ได้เปิดเผยว่าปัจจุบันยูเครนมีอัตราการว่างงานพุ่งสูงถึง 35% เทียบเท่ากับประชากร 5,200,000 คน ซึ่งเป็นผลพวงโดยตรงจากพิษสงครามและการอพยพลี้ภัยของประชาชนในพื้นที่สงคราม อย่างไรก็ดี รายงานของธนาคารแห่งชาติยังกล่าวว่าตลาดแรงงานในจังหวัดทางภาคตะวันตกและภาคกลางนั้นเริ่มฟื้นตัวจากภาวะสงครามแล้ว

ทั้งนี้ นางเทเทียนา ปาชคีนา (Tetyana Pashkina) ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดแรงงานของยูเครน ได้กล่าวเตือนว่าตัวเลขดังกล่าวอาจไม่ได้สะท้อนถึงจำนวนผู้ว่างงานที่แท้จริงในประเทศ เนื่องจากยังมีผู้ว่างงานจำนวนมากที่ยังคงถูกบันทึกข้อมูลว่ามีงานทำอยู่ เช่นหากอ้างอิงตัวเลขจากประชาชนยูเครนที่ลงทะเบียนผู้ว่างงานกับทางรัฐบาล จะพบว่าจนถึงเดือนมิถุนายน ตัวเลขผู้ลงทะเบียนนั้นมีเพียงแค่ 656,000 คนเท่านั้น ห่างไกลจากตัวเลขการประเมินของธนาคารแห่งชาติยูเครนอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีประชากรประมาณ 3 ล้านคน หรือเทียบเท่า 1/5 ของประชากรวัยแรงงานจำนวนทั้งหมด 15 ล้านคนของยูเครน ที่ทำงานอยู่ภายใต้ระบบเศรษฐกิจใต้ดิน (Shadow Economy) ซึ่งในบางภาคส่วนเศรษฐกิจ เช่นภาคเกษตรกรรม ภาคการก่อสร้าง และภาคการค้า ตัวเลขสัดส่วนของแรงงานใต้ดินอาจมีสูงถึง 60% - 80% เลยทีเดียว

ทั้งนี้ หากอ้างอิงข้อมูลในปี 2020 จากการสำรวจโดยกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และเกษตรกรรม ธนาคารแห่งชาติยูเครน และสำนักงานสถิติแห่งชาติยูเครน จะพบว่าตัวเลขของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของยูเครนเกือบ 1/4 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 846,000 ล้านฮริฟเนีย (34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 829,000 ล้านบาท) คิดเป็น 23.8% ของ GDP ในขณะนั้น มาจากระบบเศรษฐกิจใต้ดิน

ในแง่ของตัวเลขตลาดแรงงาน นายอาเธอร์ มิฮ์โน (Arthur Mihno) ประธานคณะกรรมการบริหารของ Work.ua เว็บไซต์จัดหางานชื่อดังของประเทศ กล่าวว่าในช่วงก่อนสงคราม ตัวเลขตำแหน่งงานว่างในเว็บไซต์จัดหางานแต่ละแห่งจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 120,000 ตำแหน่ง แต่ในปัจจุบัน ตัวเลขลดลงอยู่ที่ประมาณ 35,000 - 40,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจยังทำให้อัตราค่าแรงของประชาชนยูเครนลดน้อยลง โดยในบางตำแหน่งงาน จำนวนค่าแรงอาจลดลงตั้งแต่ 10% จนถึง 50% ซึ่งสวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 20% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[samuison]

เทคโนโลยีทำใหัใจคนผันแปรครับ


ใข้ของใหม่ไฮเทค ที่แต่เดิม คนไม่เคยใช้คนจะเริ่มคิดว่า


"วิถีชีวิตแบบเดิมของเรามันไร้สาระ"


ภาษา ,ชีวิต ,วิธิคิด คือโซ่ตรวนล่ามคน

[Black7nos]

จะว่าไปนายโพโนมาเรฟ นี่มีส่วนคล้ายๆกับวงไฟเย็นเลยนะ

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 181 ของสงคราม Part 1

1. ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ในกรุงมอสโกของรัสเซีย จนส่งผลให้ น.ส.ดาเรีย ดูกินา (Darya Dugina) บุตรสาวของนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน (Alexander Dugin) นักรัฐศาสตร์และนักการเมืองกลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวาของรัสเซียเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง FSB ได้ทำการแถลงว่าพวกเขาสามารถสืบหาตัวคนร้ายผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้แล้วเรียบร้อย

หน่วยความมั่นคงกลางหรือ FSB (Federal Security Service) หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลรัสเซีย ได้เปิดแถลงการณ์ครั้งใหญ่ กล่าวว่าทาง FSB สามารถสืบค้นหาตัวคนร้ายผู้ลงมือก่อเหตุสังหาร น.ส.ดาเรีย ดูกินา ได้แล้ว โดยคนร้ายนั้นมีชื่อจริงว่านางนาตาเลีย วอฟก์ (Natalya Vovk) ทหารชาวยูเครนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษอาซอฟ (Azov Special Operation Detachment) กองกำลังทหารอาสาของยูเครนที่มีชื่อเสียงจากวีรกรรมการปกป้องเมืองมาริอูโปล (Mariupol) ของยูเครนจากรัสเซีย และมีแนวคิดทางการเมืองในเชิงขวาจัดเอียงนาซีของสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ “อาซอฟ” ซึ่งรัสเซียใช้ประเด็นเรื่องตัวตนของกลุ่มอาซอฟเป็นข้ออ้างหนึ่งในการเข้ารุกรานยูเครน

ข้อมูลที่ทาง FSB ประกาศออกมานั้น กล่าวว่านางวอฟก์ ผู้ก่อเหตุได้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศรัสเซียเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยลูกสาววัย 12 ปีของเธอ โดยนางวอฟก์ได้ทำการสะกดรอยตาม น.ส.ดาเรีย ด้วยการเข้าพักภายในอะพาร์ตเมนต์หลังเดียวกันกับของ น.ส.ดาเรีย ซึ่ง FSB กล่าวว่าเป็นเป้าหมายหลักของการลอบสังหาร ไม่ใช่นายดูกิน ผู้เป็นพ่ออย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และหลังจากนางวอฟก์เสร็จสิ้นภารกิจในการลอบสังหาร น.ส.ดาเรียแล้ว จึงได้ทำการเดินทางหลบหนีออกนอกรัสเซีย โดยการข้ามพรมแดนไปยังประเทศเอสโตเนียแล้วเรียบร้อย

ทางด้านปฏิกิริยาของบรรดากระบอกเสียงรัฐบาลและกลุ่มผู้สนับสนุนการทำสงครามได้ออกมาแสดงความเห็นกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนางมาการิตตา ซิโมนยาน (Margarita Simonyan) บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าว RT หนึ่งในกระบอกเสียงของรัฐบาลรัสเซีย ได้กล่าวให้รัสเซียทำการโจมตีที่ตั้งของเจ้าหน้าที่รัฐบาลและหน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครนในทันทีเพื่อตอบโต้ ขณะที่ ปธน.ปูตินได้กล่าวประณามเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ว่าโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน พร้อมกับได้ประกาศมอบเหรียญกล้าหาญ (Order of Courage) ให้แก่ น.ส.ดาเรีย ส่วนนายดูกิน ผู้เป็นบิดาได้กล่าวแสดงความเห็นถึงการลอบสังหารครั้งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “ภายใต้จิตใจของพวกเรา(ชาวรัสเซีย) เราไม่เพียงต้องการการชำระแค้นเท่านั้น เพราะนั่นมันเล็กน้อยเกินไป นั่นไม่ใช่วิถีแห่งเราชาวรัสเซีย หากเรายังต้องการชัยชนะ ลูกสาวของผมได้สละชีวิตวัยสาวแรกแย้มของตนเองเพื่อชัยชนะในครั้งนี้ไปแล้ว ฉะนั้น โปรดทำ(สงคราม)ให้สำเร็จด้วยเถิด! เราผู้ซึ่งปรารถนาจะชุบเลี้ยงเธอให้เติบใหญ่เป็นวีรชนผู้กล้าหาญชาญชัย ขอให้เหตุการณ์นี้ช่วยจุดประกายไฟให้บุตรหลานแห่งปิตุภูมินี้จงประสบชัยชนะ” (Our hearts yearn not only for revenge or vengeance. That’s too petty, it’s not the Russian way. We only need our victory. My daughter sacrificed her young woman's life to its altar. So please, achieve it! We wanted to raise her to be smart and a hero. Let it inspire the sons of our Fatherland to the feat even now.)

อย่างไรก็ดี นอกจากวิดีโอแสดงเหตุการณ์ช่วงที่นางวอฟก์เดินทางเข้าประเทศรัสเซีย กับเอกสารบางส่วนที่แสดงให้เห็นว่านางวอฟก์นั้นเป็นสมาชิกของกองกำลังทหารยูเครนแล้ว ไม่มีการเปิดเผยหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมที่ชี้ชัดว่านางวอฟก์เป็นผู้ลงมือก่อเหตุแต่อย่างใด นอกจากนี้ นักวิชาการหลายรายยังตั้งข้อสงสัยถึงความรวดเร็วในการค้นหาตัวคนร้ายของ FSB รวมถึงคำกล่าวอ้างที่ว่า น.ส.ดาเรีย ดูกินา นั้นเป็นเป้าหมายในการลอบสังหารทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว น.ส.ดาเรียนั้นไม่เป็นที่รู้จักมากนักโดยเฉพาะนอกประเทศรัสเซีย ตรงข้ามกับดูกินผู้เป็นบิดาที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักมากกว่า

นางเยกาเจรีนา ชูลมานน์ (Ekaterina Schulmann) นักรัฐศาสตร์และนักข่าวการเมืองชาวรัสเซีย ผู้ลี้ภัยออกนอกประเทศในเดือนเมษายนหลังจากได้แสดงท่าทีต่อต้านการรุกรานยูเครนของรัฐบาลรัสเซีย ปัจจุบันเป็นรองศาสตราจารย์ประจำมูลนิธิบริษัทโรแบร์ท บอช (Robert Bosch Stiftung GmbH) ของเยอรมนี ได้ให้ความเห็นกับสำนักข่าว BBC ว่าท่าทีของกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียนั้นค่อนข้างแปลก ประหนึ่งว่ากลุ่มคนเหล่านี้รอคอยให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นเพื่อพยายามปลุกเร้าคนในชาติจากสงครามที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้ว และมั่นใจว่าทางการรัสเซียจะใช้เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดมประชาชน และเป็นเหตุผลข้ออ้างในการกดขี่-ปราบปรามผู้เห็นต่างภายในประเทศอย่างแน่นอน

นายเซอร์เกย์ ซุมเลนนี (Sergej Sumlenny) และนายคามิล กาลีฟ (Kamil Galeev) สองนักรัฐศาสตร์และนักข่าวการเมืองชาวรัสเซียผู้อาศัยอยู่ในเยอรมนีและสหรัฐ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจไว้ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ FSB จะเป็นคนจัดฉากเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ในการปลุกระดมกระแสรักชาติในประเทศ เนื่องจาก น.ส.ดาเรีย ผู้ตายนั้นเป็นที่รู้จักในรัสเซียจากการทำข่าวสงครามเชิงสนับสนุนการสู้รบในยูเครน ในขณะเดียวกัน น.ส.ดาเรียไม่ใช่คนที่มีอำนาจทางการเมืองระดับที่มีความสำคัญต่อรัฐบาล พูดง่ายๆ ว่าเป็นแค่ “คนดัง” ไม่ใช่ “ผู้มีอิทธิพล” จึงถือว่าเหมาะสมในการใช้เป็นเหยื่อในการจัดฉากครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่าตัวนายดูกินผู้เป็นบิดาของ น.ส.ดาเรีย อาจมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ด้วย เนื่องจากดูกิน ผู้ยึดถือแนวคิด “ยูเรเซียนิยม” (Eurasianism) นั้น เป็นคนที่คลั่งศาสนาและยังงมงายในเรื่องไสยศาสตร์ ดูกินเคยกล่าวไว้หลายครั้งถึงลัทธิผู้วายชนม์ (Cult of the Dead) ในวัฒนธรรมโบราณที่ผู้เป็นบิดามารดาจะสังเวยชีวิตของบุตรคนโตของตนเพื่อแลกกับการได้รับพลังจากเทพเจ้า แม้เป็นอะไรที่ฟังดูแล้วไร้สาระ แต่เมื่อดูจากแถลงการณ์ของดูกินหลังการตายของลูกสาวตนเองแล้ว ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้อาจมีเค้าลางความจริงอยู่ก็เป็นได้



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 181 ของสงคราม Part 2

2. สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไปในยูเครน ตอนนี้เริ่มเกิดความกังวลขึ้นในหมู่ผู้นำยูเครนและสหรัฐว่ารัสเซียจะเปิดฉากโจมตีใส่เป้าหมายพลเรือนในในยูเครนครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เนื่องจากตรงกับช่วงเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพยูเครน (Independence Day of Ukraine) ครบรอบปีที่ 31 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ส.ค. นี้ ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและสถานเอกอัครรัฐทูตสหรัฐประจำยูเครน ได้ออกมาประกาศเตือนให้พลเมืองชาวอเมริกันที่ยังพำนักอยู่ในยูเครนเร่งเดินทางออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ ปธน.เซเลนสกี้ประกาศให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีของรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อีกด้านหนึ่ง พลเอกวาเลอร์รี ซาลุจนี (General Valerii Zaluzhnyi) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและประธานคณะเสนาธิการทหารแห่งยูเครน ได้กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวานนี้ ว่าปัจจุบัน มีทหารยูเครนเสียชีวิตในสงครามประมาณ 9,000 นายแล้ว นับเป็นตัวเลขความสูญเสียฉบับล่าสุดที่ทางการยูเครนเปิดเผยออกมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน ปธน.เซเลนสกี้ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “ซีเอ็นเอ็น” (CNN) ว่ามีทหารยูเครนเสียชีวิตในสงครามประมาณ 3,000 นาย บาดเจ็บประมาณ 10,000 นาย อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขความสูญเสียทางทหารของยูเครนน่าจะสูงกว่านี้มาก แม้จะไม่เท่ากับความสูญเสียของฝ่ายรัสเซียก็ตาม

ทางด้านสหประชาชาติได้อัพเดตตัวเลขประชาชนยูเครนที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ พบว่าปัจจุบันมีประชาชนยูเครนที่เสียชีวิตและสามารถระบุตัวตนได้ทั้งหมด 5,587 ราย บาดเจ็บ 7,890 ราย รวมทั้งหมด 13,477 ราย โดยในจำนวนนี้มีเด็กและเยาวชนรวมอยู่ด้วยจำนวน 972 ราย


3. ข่าวดีสำหรับยูเครน แรงสนับสนุนจากชาติตะวันตกยังคงส่งมาให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีได้ทำการอนุมัติการส่งมอบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. รุ่นนำวิถีด้วยระบบ GPS “วัลคาโน” (Vulcano GLR) จำนวนทั้งหมด 225 นัดให้แก่ยูเครน ซึ่งกระสุนรุ่นดังกล่าวปัจจุบันยังอยู่ในขั้นทดลองและยังไม่ได้เข้าประจำการในกองทัพเยอรมนี กระสุน “วัลคาโน” นั้นเป็นการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัท “ลีโอนาร์โด” (Leonardo S.p.A.) ของอิตาลี และบริษัท “ดีห์ลดีเฟนซ์” (Diehl Defence GmbH & Co. KG) ของเยอรมนี มีระยะยิงไกลถึง 70 กม. ใกล้เคียงกับระยะยิงของจรวดนำวิถี M31 ที่ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง M142 HIMARS และ M270 MLRS ที่ยูเครนได้รับจากสหรัฐ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ขณะที่กระสุน “วัลคาโน” นั้นสามารถใช้งานร่วมกับปืนใหญ่วิถีโค้ง FH70 ของอิตาลี และปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจร PzH 2000 ของเยอรมนี ซึ่งทั้งอิตาลีและเยอรมนีได้ทำการส่งมอบให้ยูเครนใช้งานแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ กระสุน “วัลคาโน” ไม่ใช่กระสุนปืนใหญ่ติดตั้งระบบนำวิถีตัวแรกที่ยูเครนได้รับจากชาติตะวันตก ก่อนหน้านี้ยูเครนได้รับมอบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. รุ่น “สมาร์ท” (SMArt 155) ของเยอรมนี มีระยะยิงประมาณ 27 กม. และสามารถใช้งานร่วมกับปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจร PzH 2000 ของเยอรมนีได้ และยังมีกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. รุ่นนำวิถีด้วยระบบ GPS “เอ็กซ์คาลิเบอร์” (M982 Excalibur) ของแคนาดา และอาจรวมถึงสหรัฐ มีระยะยิง 27 กม./40 กม./70 กม. ขึ้นกับรุ่นที่ใช้งาน

นอกจากนี้ มีรายงานตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่ากองทัพโปแลนด์ได้ทำการจัดหาโดรนบรรทุกระเบิดรุ่น Revolver 860 จำนวน 800 ลำ จากบริษัท “โดรนวิชัน” (DronesVision Inc.) ของไต้หวัน ก่อนทำการส่งมอบให้แก่กองทัพยูเครน โดยโดรนรุ่นดังกล่าวเป็นโดรนทางทหารที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถบรรทุกกระสุนปืนครกรุ่นดัดแปลงขนาด 60 ม.ม. ได้จำนวน 8 ลูก ทำให้มันเป็นเสมือนเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นจิ๋วในสนามรบ อีกทั้งยังสามารถทำการปรับปรุงเพื่อรองรับกระสุนปืนครกรุ่นดัดแปลงขนาด 81 ม.ม. และขนาด 120 ม.ม. ได้อีกด้วย ซึ่งบังเอิญว่าเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ประกอบส่งมอบปืนครกขนาด 120 ม.ม. พร้อมกระสุนอีกจำนวน 20,000 นัดให้ยูเครนด้วยเช่นกัน

นอกจากการบริจาคโดรนแล้ว โปแลนด์ยังได้ทำการบริจาคเสารับสัญญาณระบบ “สตาร์ลิงก์” (Starlink) จากบริษัท “สเปซเอ็กซ์” (Space Exploration Technologies Corp.) จำนวนสูงถึง 5,000 ชุดให้แก่ยูเครน นอกจากนี้กระทรวงการพัฒนาดิจิทัลของยูเครนยังได้ทำการเซ็นข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์กับสำนักนายกรัฐมนตรีโปแลนด์อีกด้วย 

อีกเรื่องหนึ่ง นายโยเซ็พ บอร์เรล (Josep Borrell) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างการเดินทางไปยังประเทศสเปน ว่าภายในการประชุมร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมสหภาพยุโรปซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ณ กรุงปราก เช็กเกีย จะมีการหารือกันเรื่องการสนับสนุนในด้านการฝึกทหารและกำลังพลให้แก่ยูเครน นายบอร์เรลให้ความเห็นว่าหากแผนการได้รับการอนุมัติจากชาติสมาชิก สหภาพยุโรปอาจทำการฝึกกำลังทหารให้ยูเครนภายในประเทศอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส โปแลนด์ หรือเช็กเกีย

ทั้งนี้ แผนการให้สหภาพยุโรปทำการฝึกทหารให้แก่ยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่ ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีการเสนอไอเดียเรื่องการจัดโครงการฝึกทหารยูเครนภายใต้สหภาพยุโรป ชื่อว่า “ภารกิจการฝึกทหารและการให้คำปรึกษาทางทหารแก่ยูเครนโดยสหภาพยุโรป” หรือ EUATM (EU Military Advisory and Training Mission Ukraine) ซึ่งในตอนนั้น โครงการ EUATM จะเน้นให้การฝึกฝนแก่เจ้าหน้าที่ครูฝึกทหารและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของยูเครนเป็นหลัก ไม่ใช่การฝึกระดับพลทหารอย่างที่สหราชอาณาจักรและชาติอื่นๆ กำลังช่วยฝึกให้ยูเครนอยู่ในตอนนี้



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[samuison]

ช่วงนี้แปลกๆ มีคนกล่าวถึงอสังหาจีนหลายคนแล้ว
ในเว็บ youtube มีพวกสายเศรษฐศาสตร์พูดพวกนี้มานานแล้ว


แนวคิดผมคือ


"หากคนทั่วไปพูดเรื่องหนึ่งแสดงว่าเรื่องนั้นมันแปลกๆแล้ว"

[deaddy]

ช่วงนี้แปลกๆ มีคนกล่าวถึงอสังหาจีนหลายคนแล้ว
ในเว็บ youtube มีพวกสายเศรษฐศาสตร์พูดพวกนี้มานานแล้ว


แนวคิดผมคือ


"หากคนทั่วไปพูดเรื่องหนึ่งแสดงว่าเรื่องนั้นมันแปลกๆแล้ว"

ที่น่าแปลกคือข่าวฉิบหายฝั่งยุโรปคนทั่วไปไม่รู้


ข่าวล่าสุดเท่าที่เห็นมา ค่าไฟฟ้า เยอรมันเพิ่มปีนี้ราวๆ 6-7 เท่าละ นี่ยังไม่เข้าหน้าหนาวเลย เดี๋ยวสิ้นปี ถ้าแบนพลังงานรัสเซียนี่


ส่วนอังกฤษ ค่าไฟเพิ่มราวๆ 10% ของรายได้ เงินเฟ้อเห็นว่าจะพุ่งไป 18%


เห็นว่ายุโรปแล้งหนักในรอบ 40 ปีเลยมั้ง แถมมีปัญหาน้ำไม่พอใช้หล่อเย็น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ต้องลดการผลิตไฟฟ้าลง

[pol]

ปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็คืออาหารเริ่มจะขาดเเคลนหนักในหลายๆประเทศแล้วละครับ    ถ้าคุมไม่ได้สงครามเกิดขึ้นเพียบแน่นอน

[sariora123]

[quote/]


ที่น่าแปลกคือข่าวฉิบหายฝั่งยุโรปคนทั่วไปไม่รู้


ข่าวล่าสุดเท่าที่เห็นมา ค่าไฟฟ้า เยอรมันเพิ่มปีนี้ราวๆ 6-7 เท่าละ นี่ยังไม่เข้าหน้าหนาวเลย เดี๋ยวสิ้นปี ถ้าแบนพลังงานรัสเซียนี่


ส่วนอังกฤษ ค่าไฟเพิ่มราวๆ 10% ของรายได้ เงินเฟ้อเห็นว่าจะพุ่งไป 18%


เห็นว่ายุโรปแล้งหนักในรอบ 40 ปีเลยมั้ง แถมมีปัญหาน้ำไม่พอใช้หล่อเย็น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ต้องลดการผลิตไฟฟ้าลง

ผม เคย บ่นไปแล้วนะครับว่า การบด อำนาจรัสเซียมันต้องมาครับ


ไม่ว่าประเทศนั้นจะติ่งรัสเซียขนาดไหน
เพราะมันชัดเรื่องการใช้อำนาจกดดันรัสเซียก็
ไม่ต่างจาก อเมริกานัก
ยกเว้นเป็นลุกไร่ รัสเซียเข้าเต็มๆตัวก็อีกเรื่อง
ผมล่ะนึกถึงเบราลุสที่ว่าจะมาช่วยรบ


แต่พอมีคนยกให้ฟังว่าเบรารุสเอาจริงก็คงง่อยไม่ต่างกับยูเครนมากนัก
ไม่มาช่วยอาจะดีกว่า


เรื่องพลังงานส่วนตัวผมมองว่าเดียวก็หาทางออกกันได้เอง

[deaddy]

[quote/]


ผม เคย บ่นไปแล้วนะครับว่า การบด อำนาจรัสเซียมันต้องมาครับ


ไม่ว่าประเทศนั้นจะติ่งรัสเซียขนาดไหน
เพราะมันชัดเรื่องการใช้อำนาจกดดันรัสเซียก็
ไม่ต่างจาก อเมริกานัก
ยกเว้นเป็นลุกไร่ รัสเซียเข้าเต็มๆตัวก็อีกเรื่อง
ผมล่ะนึกถึงเบราลุสที่ว่าจะมาช่วยรบ


แต่พอมีคนยกให้ฟังว่าเบรารุสเอาจริงก็คงง่อยไม่ต่างกับยูเครนมากนัก
ไม่มาช่วยอาจะดีกว่า


เรื่องพลังงานส่วนตัวผมมองว่าเดียวก็หาทางออกกันได้เอง

ทางออกน่ะมีครับ อยู่ที่จะเลือกแบบไหน


1 ยอมรัสเซีย
2 ยอมให้ประชาชนหนาวตาย


ตอนนี้ถึงขั้นเลือกผู้ต้องรอดแล้วครับ
คือเลือกว่าใครจะได้ใช้ไฟฟ้าก่อน
เลือกว่าใครจะได้ใช้น้ำร้อนก่อน


น้ำมันที่เราว่าแพงแล้ว ราคาขึ้นต่ำสุดในกลุ่มเลยมั้ง
ถ่านหินนี่ราคาพุ่งเป็นเท่าตัวเลยปีนี้


น้ำประปาบ้านเขาผ่านท่อ เวลาหนาวมันก็แข็ง
ถ้าจะส่งก็ต้องน้ำร้อน
แปลว่า น้ำไฟ จะเจอตัดเพราะมีไม่พอใช้


ไม่มีขนมปัง ยังหากินข้าวแทนได้
แต่ไม่มีน้ำใช้ 
ยิ่งไฟฟ้าไม่พอใช้ด้วย จะใช้ฟืน ก็ไม่พอหรอก ยุโรปมีปัญหาหมดพื้นที่ป่าไม่พอ
เผาน้ำมันก็สารพิษเพียบไม่เหมาะเผาในบ้านแถมแพงด้วย


ก็นะสุดท้ายก็รอดนั่นแหล่ะ แบบเมกาตอนติดโควิท
คนตายไปล้านนึง ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

[KAGUYA]

ปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็คืออาหารเริ่มจะขาดเเคลนหนักในหลายๆประเทศแล้วละครับ    ถ้าคุมไม่ได้สงครามเกิดขึ้นเพียบแน่นอน

ก่อนจะเกิดสงคราม คงเกิดจราจลก่อนแน่ๆว่าแต่ปีนี้มันเป็นบ้าอะไเนี่ยผลกระทบจากสงครามไม่พอมีภัยแล้งหนักมาอีก

[deaddy]

[quote/]ก่อนจะเกิดสงคราม คงเกิดจราจลก่อนแน่ๆว่าแต่ปีนี้มันเป็นบ้าอะไเนี่ยผลกระทบจากสงครามไม่พอมีภัยแล้งหนักมาอีก

เขาว่าเมื่อโลกร้อนถึง... องศา โลกจะเริ่มชิบหาย
ตอนนี้ขาดไปแค่ 0.3 กว่าจะถึงตัวเลขนั้น


ก็ลุ้นๆเอาครับจะลดลงได้ไหม
เพราะถึงจุดๆนึงจะเจอลูปนรก


ไม่ว่าโลกจะหมุนยังไง ขั้วโลกจะโดนแสงทั้งวันทั้งคืน
หิมะเป็นสีขาว แสงเลยสะท้อนออกนอกโลก
พอโลกร้อน น้ำแข็งละลาย พื้นที่สะท้อนลดโลกก็ยิ่งร้อน วนไปๆ


ต่อไปหลานเหลนเราอาจได้เข้าสู่แกรนด์ไลน์ก็ได้

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 182 ของสงคราม Part 1

1. เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในตัวสำหรับยูเครน มีรายงานว่าสหรัฐและเยอรมนีกำลังเตรียมการประกาศแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ให้แก่ยูเครน รวมมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (126,000 ล้านบาท) แต่จากรายงานที่ออกมา ดูเหมือนว่ารายการอาวุธชุดนี้จะต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือนกว่าจะส่งถึงมือชาวยูเครน

เริ่มต้นสำหรับเยอรมนี นายโอลัฟ ชอลซ์ (Olaf Scholz) นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ได้แถลงต่อนักข่าวระหว่างการเดินทางเยือนแคนาดา ว่าทางการเยอรมนีกำลังเตรียมการสำหรับแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ให้แก่ยูเครน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านยูโร (18,000 ล้านบาท) ประกอบไปด้วย

1.1 ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ (SAM) รุ่น Iris-T SL จำนวน 3 ระบบ
1.2 รถวางสะพาน จำนวน 12 คัน (คาดว่าจะเป็นรถวางสะพานรุ่น ARV Bergepanzer 2 หรือรุ่น Biber)
1.3 เครื่องยิงจรวดติดตั้งบนรถกระบะ จำนวน 20 ระบบ พร้อมจรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์จำนวน 2,000 ลูก (คาดว่าอาจเป็นกระเปาะจรวดนำวิถีแบบ Fletcher ของบริษัท “อาร์โนลด์ดีเฟนซ์” (Arnold Defense & Electronics, LLC) โดยมี 2 รุ่นที่สามารถติดตั้งบนยานพาหนะภาคพื้นดินได้ คือรุ่น Land-LGR4 บรรจุจรวดได้ 4 ลูก และรุ่น MLHS บรรจุจรวดได้ 23 ลูก)
1.4 กระสุนนำวิถี (คาดว่าอาจเป็นกระสุนปืนใหญ่นำวิถีขนาด 155 ม.ม. รุ่น SMArt 155 หรือ Vulcano GLR สามารถใช้งานร่วมกับปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจร PzH 2000 ของเยอรมนีได้ มีระยะยิงหวังผล 27 กม. และ 70 กม. ตามลำดับ)
1.5 อุปกรณ์อื่นๆ เช่นอุปกรณ์ต่อต้านโดรน

อย่างไรก็ดี นายกฯ ชอลซ์กล่าวว่าระบบอาวุธส่วนใหญ่จะถูกส่งถึงมือกองทัพยูเครนภายในปี 2023 โดยอาจมีเพียงบางส่วนที่สามารถส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ นายกฯ ชอลซ์ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลของความล่าช้าในการจัดส่งอาวุธชุดนี้ แต่เป็นไปได้ว่าอาวุธชุดนี้อาจเป็นอาวุธที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น หรือเป็นอาวุธที่ต้องผ่านการปรับปรุงสภาพชุดใหญ่ก่อนการส่งมอบให้แก่ยูเครน ทำให้ต้องใช้ระยะเวลานาน

ทางด้านสหรัฐนั้น มีรายงานว่าภายในวันประกาศอิสรภาพยูเครน (Independence Day of Ukraine) ซึ่งตรงกับวันนี้ จะมีการประกาศแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารชุดใหญ่ให้แก่ยูเครน คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (108,000 ล้านบาท) โดยในรายงานข่าวไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของแพ็กเกจชุดนี้ว่ามีรายการอะไรบ้าง แต่จากข่าวที่หลุดออกมา ดูเหมือนว่าแพ็กเกจความช่วยเหลือชุดนี้จะเป็นงบประมาณจากโครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครน หรือ USAI (Ukraine Security Assistance Initiative) โครงการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2015 อาวุธยุทโธปกรณ์ที่จัดหาผ่าน USAI จะมาจากการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดโดยสหรัฐรับหน้าเป็นคนออกเงินซื้ออาวุธ ก่อนทำการบริจาคให้แก่ยูเครนในภายหลัง ทำให้จำต้องใช้ระยะเวลานานในการส่งมอบ เพราะอาวุธทั้งหมดจะเป็นของผลิตใหม่ทั้งหมด

จะเห็นได้ว่าชุดความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ของทั้งสหรัฐและเยอรมนีนั้น ล้วนแต่เป็นอาวุธผลิตใหม่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการผลิตก่อนทำการส่งมอบ และจำต้องกินเวลานานหลายเดือนกว่ายูเครนจะได้รับมอบอาวุธดังกล่าว เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าชาติพันธมิตรของยูเครนนั้นมั่นใจว่าสงครามครั้งนี้จะกินเวลานานนับปีหรือหลายปี และเริ่มเตรียมการสำหรับการผลิตอาวุธชุดใหม่ขึ้นมา เพื่อป้อนให้แก่กองทัพยูเครนแล้ว

อีกหนึ่งเรื่องสำหรับความช่วยเหลือทางทหาร เยอรมนีและสโลวาเกียได้เซ็นข้อตกลงแลกเปลี่ยนอาวุธ (Ring Exchange) ชุดใหม่สำหรับส่งมอบให้แก่ยูเครน โดยสโลวาเกียจะทำการส่งมอบรถรบยานเกราะรุ่นเก่าจากยุคสงครามเย็นรุ่น BVP-1 จำนวน 30 คัน ให้แก่ยูเครน แลกกับเยอรมนีทำการจัดส่งรถถัง Leopard 2A4 ให้แก่สโลวาเกีย จำนวน 15 คัน

ทั้งนี้ ในตอนแรกนั้นมีข่าวลือว่าสโลวาเกียจะทำการส่งมอบรถถัง T-72 จำนวน 30 คัน ของตนให้แก่ยูเครนเพื่อแลกกับการแลกเปลี่ยนรถถังจากเยอรมนี แต่กระทรวงกลาโหมสโลวาเกียนั้นประเมินว่าการส่งมอบรถถัง Leopard 2A4 จำนวน 15 คัน ของเยอรมนีนั้น ไม่สามารถทดแทนรถถัง T-72 ของสโลวาเกียได้ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ จำนวน และระยะเวลาการส่งมอบที่ล่าช้า ทำให้สโลวาเกียตัดสินใจส่งมอบยานเกราะ BVP-1 ให้แก่ยูเครนเพื่อแลกเปลี่ยนกับรถถัง Leopard 2A4 แทน



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[sariora123]

  ยอมให้รัสเซีย เรื่องนี้จะคงยาก


ถ้าทายไว้ถูกเรื่องการลดอำนาจรัสเซีย มันต้องมา การยอมให้รัสเซียจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ


ถ้ายอมรอบนี้ รอบหน้าเดียวรัสเซียก็มีบุกประเทศอื้นอีกนั่นแหละ


ผมเคยบอก ไว้หลายรอบล่ะว่าถ้าใช้ชุดความคิดใดๆ แล้ว
ควรใช้แบบเดียวกัน อย่างไม่เลี่ยงฝ่าย
ถ้ารัสเซียบุกยูเครนด้วยความมั่นคงของตัวเอง เอาทหารไปตายกันเป็หมื่นยิงถล่มชาวบ้านตายหลายพันมันสมควร
การตัดห่างจากรัสเซียของยุโรป ก็เป็นเรื่องสมควรในทำนองเดียวกัน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องให้รัสเซียสามารถกดหัวยุโรปได้มากกว่าเดิม ต่อให้ต้องหนาวตายก็เหอะ


ไม่เกียวกับโหดร้ายหรือไม่ แค่ อันไหนคือทางที่ดีมี่สุดตามหลักที่ทางฝ่ายนั้สๆ ยึดถือ(ถ้ามองหลักการทางฝ่ายนั้นไม่ผิดอ่ะนะ)




อ่านเม้นบนแล้วสงครามยูเครน  สุดท้ายแล้วตามคาด คงกะให้ลากยาวๆ กันเลยสินะ
 
นี่กะจะลากให้ชิบหายกันแบบตอนโซเวียตบุกอาฟกันหรือไง


ใครตามข่าวทางรัสเซียบ้างเห็นว่านอกจากก่อวินาศกรรมแล้วยังเริ่มมีลอบฆ่า
เจ้าหน้าที่รัฐกันล่ะ
ว่าแต่รัสเซียขาดแคลนดาวเทียวสายลับต้องยืมของอิหร่านใช้เลยเหรอ

[PeanutButter]

  ยอมให้รัสเซีย เรื่องนี้จะคงยาก


ถ้าทายไว้ถูกเรื่องการลดอำนาจรัสเซีย มันต้องมา การยอมให้รัสเซียจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ


ถ้ายอมรอบนี้ รอบหน้าเดียวรัสเซียก็มีบุกประเทศอื้นอีกนั่นแหละ


ผมเคยบอก ไว้หลายรอบล่ะว่าถ้าใช้ชุดความคิดใดๆ แล้ว
ควรใช้แบบเดียวกัน อย่างไม่เลี่ยงฝ่าย
ถ้ารัสเซียบุกยูเครนด้วยความมั่นคงของตัวเอง เอาทหารไปตายกันเป็หมื่นยิงถล่มชาวบ้านตายหลายพันมันสมควร
การตัดห่างจากรัสเซียของยุโรป ก็เป็นเรื่องสมควรในทำนองเดียวกัน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องให้รัสเซียสามารถกดหัวยุโรปได้มากกว่าเดิม ต่อให้ต้องหนาวตายก็เหอะ


ไม่เกียวกับโหดร้ายหรือไม่ แค่ อันไหนคือทางที่ดีมี่สุดตามหลักที่ทางฝ่ายนั้สๆ ยึดถือ(ถ้ามองหลักการทางฝ่ายนั้นไม่ผิดอ่ะนะ)




อ่านเม้นบนแล้วสงครามยูเครน  สุดท้ายแล้วตามคาด คงกะให้ลากยาวๆ กันเลยสินะ
 
นี่กะจะลากให้ชิบหายกันแบบตอนโซเวียตบุกอาฟกันหรือไง


ใครตามข่าวทางรัสเซียบ้างเห็นว่านอกจากก่อวินาศกรรมแล้วยังเริ่มมีลอบฆ่า
เจ้าหน้าที่รัฐกันล่ะ
ว่าแต่รัสเซียขาดแคลนดาวเทียวสายลับต้องยืมของอิหร่านใช้เลยเหรอ

1. ผมเชื่อว่าไม่มีใครต้องการให้สงครามมันลากยาวกันหรอกครับ แต่เพราะสภาพของสงครามมันยืดเยื้อมากกว่า ทั้งยูเครนและรัสเซียยังไม่มีใครได้เปรียบ-เสียเปรียบอย่างชัดเจน ทำให้การรบในตอนนี้ยืดเยื้อไม่ต่างกับสงครามสนามเพลาะในสมรภูมิตะวันตกของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทำให้ตอนนี้ทุกฝ่ายเริ่มเตรียมการระยะยาวสำหรับสงครามที่จะลากยาวไปยันปีหน้าเป็นอย่างน้อยกันแล้ว

2. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐครับ เป็นแค่นักข่าวสงครามโปรรัฐบาล อ่านเนื้อหาจากโพสต์ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ของผมได้เลย มีรายละเอียดกล่าวเอาไว้อยู่

3. ยังเป็นแค่ข่าวลือครับ ไม่ทราบแน่ชัดว่าจริงเท็จแค่ไหน เรารู้แน่ชัดแค่ว่ารัสเซียช่วยส่งดาวเทียมสอดแนมของอิหร่านขึ้นสู่อวกาศให้เพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการจัดหาโดรนจากอิหร่านแค่นั้น แต่รัสเซียขาดแคลนดาวเทียมนี่เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะดาวเทียมที่ทันสมัยทัดเทียมกับของสหรัฐและนาโต้ที่มีน้อยมากและไม่พอต่อการใช้งาน

[KAGUYA]

เรื่องสงครามนี่ยาวอยู่แล้วล่ะเพราะถ้าตามข่าวรัสเซียประกาศกร้าวเลยนี่ว่าจะรบจนกว่าชนะ กองทัพมันเลยพยายามปั้นลูกสาวของกุนซือปูตินที่ตายให้เป้นวีรสตรีผู้รักชาติจะได้สร้างกระแสประชามติเพื่อสนับสนุนการทำสงครามนะ

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 182 ของสงคราม Part 2

2. สำหรับความช่วยเหลืออื่นๆ สหราชอาณาจักรและนอร์เวย์ได้ประกาศเตรียมการส่งมอบโดรนสำรวจขนาดจิ๋ว Black Hornet ให้แก่ยูเครน รวมมูลค่าทั้งหมด 90 ล้านโครน (9,260,000 ดอลลาร์สหรัฐ / 330 ล้านบาท) โดยสหราชอาณาจักรเป็นผู้ออกเงินโครงการ ขณะที่นอร์เวย์ ผ่านบริษัท “เทเลไดน์” (Teledyne FLIR LLC) จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการผลิตโดรน การจัดหาอะไหล่สำรอง การฝึกฝน และค่าขนส่งทั้งหมด

โดรน Black Hornet นั้นมีทั้งหมด 2 รุ่น คือรุ่น Black Hornet VRS สำหรับใช้งานร่วมกับยานพาหนะภาคพื้นดิน และรุ่น Black Hornet PRS สำหรับใช้งานโดยทหารราบภาคพื้น ซึ่งตามข่าวที่ประกาศออกมาไม่ได้ระบุแน่ชัดว่ารุ่นที่จะทำการส่งมอบให้ยูเครนนั้นเป็นรุ่นใดและในจำนวนเท่าใด

ทางด้านแคนาดาได้ประกาศมอบเงินสนับสนุนให้แก่ยูเครนมูลค่า 3,850,000 ดอลลาร์* ผ่าน “โครงการปฏิบัติการสันติภาพและความมั่นคง” หรือ PSOP (Peace and Stabilization Operations Program) โดยเงินช่วยเหลือชุดนี้สามารถแบ่งได้อีก 2 ส่วน คือ

2.1 เงินสนับสนุนมูลค่า 2,900,000 ดอลลาร์** สำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพตำรวจแคนาดา-ยูเครน (Canada-Ukraine Police Development Project) มุ่งเน้นด้านการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัยให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยูเครน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานกู้ภัยฉุกเฉินต่างๆ ของยูเครน
2.2 เงินสนับสนุนมูลค่า 950,000 ดอลลาร์*** สำหรับให้ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำปรึกษาด้านเทคนิคให้แก่กระทรวงกลาโหมยูเครน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสหรัฐกำลังเตรียมการจัดส่งระเบิดบินวน (Loitering Munitions) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโดรนกามิกาเซ (Kamikaze Drone) รุ่น Switchblade 600 ให้แก่ยูเครนจำนวน 10 ระบบ หรือเท่ากับโดรนจำนวน 100 ลำ ภายในเดือนหน้า โดยก่อนหน้านี้สหรัฐเคยทำการส่งมอบโดรนรุ่น Switchblade 300 ซึ่งเป็นรุ่นขนาดเล็กสำหรับใช้โจมตีทหารราบและรถยนต์เบา ขณะที่โดรนรุ่น Switchblade 600 นั้นเป็นรุ่นขนาดใหญ่และออกแบบมาสำหรับใช้โจมตีทำลายรถถังและยานเกราะของศัตรูโดยเฉพาะ ซึ่งสาเหตุที่การจัดส่ง Switchblade 600 ให้แก่ยูเครนนั้นล่าช้า เป็นเพราะว่ามันเป็นโดรนรุ่นใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโดยบริษัท “เอโรไวรอนเมนต์” (AeroVironment Inc.) และยังไม่ได้เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการส่งมอบโดรน Switchblade 600 ให้แก่ยูเครนภายในเดือนหน้า จะเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจความช่วยเหลือมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (108,000 ล้านบาท) ที่คาดการณ์ว่าจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการภายในวันนี้หรือไม่ หรือเป็นชุดความช่วยเหลืออีกชุดหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

*ไม่แน่ชัดนักว่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ หรือดอลลาร์แคนาดา หากเป็นดอลลาร์สหรัฐจะเทียบเท่า 140 ล้านบาทไทย หากเป็นดอลลาร์แคนาดาจะเทียบเท่า 107 ล้านบาทไทย
**หากเป็นดอลลาร์สหรัฐจะเทียบเท่า 104 ล้านบาทไทย หากเป็นดอลลาร์แคนาดาจะเทียบเท่า 80 ล้านบาทไทย
***หากเป็นดอลลาร์สหรัฐจะเทียบเท่า 34 ล้านบาทไทย หากเป็นดอลลาร์แคนาดาจะเทียบเท่า 26 ล้านบาทไทย



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[samuison]

[quote/]


ที่น่าแปลกคือข่าวฉิบหายฝั่งยุโรปคนทั่วไปไม่รู้


ข่าวล่าสุดเท่าที่เห็นมา ค่าไฟฟ้า เยอรมันเพิ่มปีนี้ราวๆ 6-7 เท่าละ นี่ยังไม่เข้าหน้าหนาวเลย เดี๋ยวสิ้นปี ถ้าแบนพลังงานรัสเซียนี่


ส่วนอังกฤษ ค่าไฟเพิ่มราวๆ 10% ของรายได้ เงินเฟ้อเห็นว่าจะพุ่งไป 18%


เห็นว่ายุโรปแล้งหนักในรอบ 40 ปีเลยมั้ง แถมมีปัญหาน้ำไม่พอใช้หล่อเย็น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ต้องลดการผลิตไฟฟ้าลง

มีมานานแล้วครับผม
ตั้งแต่ทรัมป์จะงัดกับจีนแล้วและตอนจะเอาเงินจตากเยอรมันเข้านาโต้
เยอรมันก็พึ่งพาแก๊สจากรัสเซียอยู่มากอย่างที่บอกไปนั่นล่ะครับ
..
เรื่องจีนอีกอย่างคือ ท่านสีเน้นรถไฟความเร็วสูงมกาเกินไปจน งบบานปลายว่าสายแรกๆน่ะกำไร
แต่หลายๆสายนั้นไม่มีคนเท่าที่ควร
ผมว่าทางเทคนิคประเทศเราเมหาะมากนะในการสร้างจกาเนหือไปใต้
น่าจะกำไรแน่ๆแต่จีนนั้นภูมิประเทศกว้างเกินไปน่าจะวางแผนยากมากๆ
แต่ท่านสีก็ทุ่มเทไปว่าสามล้านล้านแน่ะ

[deaddy]

[quote/]มีมานานแล้วครับผม
ตั้งแต่ทรัมป์จะงัดกับจีนแล้วและตอนจะเอาเงินจตากเยอรมันเข้านาโต้
เยอรมันก็พึ่งพาแก๊สจากรัสเซียอยู่มากอย่างที่บอกไปนั่นล่ะครับ
..
เรื่องจีนอีกอย่างคือ ท่านสีเน้นรถไฟความเร็วสูงมกาเกินไปจน งบบานปลายว่าสายแรกๆน่ะกำไร
แต่หลายๆสายนั้นไม่มีคนเท่าที่ควร
ผมว่าทางเทคนิคประเทศเราเมหาะมากนะในการสร้างจกาเนหือไปใต้
น่าจะกำไรแน่ๆแต่จีนนั้นภูมิประเทศกว้างเกินไปน่าจะวางแผนยากมากๆ
แต่ท่านสีก็ทุ่มเทไปว่าสามล้านล้านแน่ะ

รวมๆกำไรนะเออ
คือการคิดกำไรจากขนส่งมวลชลน่ะ
เขาไม่ได้คิดแค่รายรับรายจ่ายนะ


แต่มีค่าเสียโอกาส ค่าลดการเสียพลังงาน
ค่ามลพิษ นู่นนี่นั่น เยอะแย่ะ
แล้วยังส่งออกรถไฟอีก


คือมันมีผลเหมือนคิดความคุ้มค่าในการตัดถนน


ไม่งั้นตัดถนน= ขาดทุนสิ


แต่ประเทศอื่นจะขาดทุนไหมอีกเรื่อง แต่จีนน่ะกำไร
เพราะขึ้นรถไฟ ลดรถติด เพิ่มการขนส่งสินค้า


จีนน่ะประเทศใหญ่ ยังไงก็ต้องเชื่อมเส้นทางสินค้า
เพราะจะส่งทางเรือทางเดียวไม่ได้เดี๋ยวเจอปิดเส้นทางนี่ซวยเลยต้องทำทางออกไว้หลายๆทาง