เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[pol]

เมกาฆ่าระดับผู้นำ ต่างประเทศอีกแล้ววุ๊ย คนอื่นทำไม่ได้ แต่เมกาทำไม่ผิดอีกละ

ผิดครับแต่โนสนโนแคร์ต่างหาก    Say Hi to my Drone 555

[Black7nos]

[quote/]ที่ผมพูดหมายถึงผลกระทบในแง่การเมืองครับ ประมาณมองว่าต่อให้เวียตนามปกครองแบบคอมมี่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเอง ส่วนไอ้ต้นทุนสงครามที่ท่านพูดถึงนะมันคือผลเสียจากการเข้าร่วมสงครามที่ประชาชนอเมริกามองเห็นในยุคนั้นตามที่ผมกล่าวถึง

จริงๆ ยุทธศาสตร์ในยุคสงครามเย็นของเมกานั้นมี 2 จุดประสงค์
1.ต้องการให้ค่าเงินสกุลดอลลาห์เป็นสกุลเงินหลักแลกเปลี่ยนของสากล (ถ้าสังเกตดีๆมหาอำนาจของโลกยุคใดๆ ก็จะต้องใช้ค่าเงินสกุลประเทศดังกล่าวเป็นสกุลเงินกลางแลกเปลี่ยน เช่น ปอนด์(อังกฤษ) ฟรังส์(ฝรั่งเศษ)ในยุคล่าอาณานิคม ถ้าสกุลเงินตัวเองเป็นสกุลหลักของโลกในการแลกเปลี่ยน = สามารถควรบคุมเศรษฐกิจโลกได้ นี่คือแนวคิดการเป็นมหาอำนาจของเมกา
2.ลดอำนาจคู่แข่งอย่างสหภาพโซเวียต


ประเด็นของเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์นั้นมีผลกับเมกามากๆครับ เนื่องจากยุทธศาสตร์ตามข้อที่ 1 ของเมกาคือต้องการให้สกุลดอลลาห์เป็นสกุลเงินกลาง และการจะทำให้ดอลลาห์เป็นเงินสกุลกลางได้นั้น นั่นหมายความว่า ประเทศหลายประเทศต้องผลิตสินค้าปฐมภูมิหรือวัตถุดิบชั้นแรก(Supply Goods)ส่งออกให้แก่เมกาเป็นคนแปรรูปเปลี่ยนเป็นสินค้าขั้นสุดท้าย(Finished Goods) แต่ถ้าเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์นั่นหมายความว่าเวียดนามจะผลิตสินค้าส่งให้แก่สหภาพโซเวียต และจะทำให้สกุลเงินรูเบิ้ลของโซเวียตยิงมีคุณค่าและความน่าเชื่อถือมากกว่าเดิม (ความน่าเชื่อถือของสกุลเงินใดๆ เกิดจากการยิ่งมีการใช้ Trade มาก ยิ่ง Trade มาความน่าเชื่อถือยิ่งมาก)


สิ่งที่เมกาต้องการที่สุดคือทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้แน่ใจว่าเวียดนามจะเป็นประเทศที่ผลิต Supply Goods ให้แก่เมกา เหมือนกับไทย เพื่อให้เมกายังคงครองอิทธิพลตลาดของเอเชียเหนือโซเวียต เมื่อครองอิทธิพลของตลาดได้ นั่นหมายความว่าทุกประเทศจะต้องใช้สกุลเงินดอลลาห์ของเมกา


ส่วนเหตุผลที่เมกาถอนทหารจากเวียดนามกลับได้นั้น มันมีหลายเหตุผลครับ
1.ประชาชนกดดัน อันนี้เป็นเหตุผลหลักเหตุผลหนึ่ง
2.จีนคอมมี่แตกหักกับโซเวียต และจีนได้ทำข้อตกลงกับเมกา 3 ข้อ หลังปธน.นิกสันเดินทางไปพบเหมาเจ๋อตุงและโจวเอินไหล เมื่อปี พ.ศ.2515
   2.1 จีนจะเป็นผู้ผลิตสินค้า Supply Goods ให้แก่เมกา (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจีนถึงฟื้นตัวจากเงินที่ได้จากการส่งออกมาจนถึงปัจจุบันที่เริ่มถูกเพ่งเล็งและลดการนำเข้าจากจีนลง)
   2.2 จีนให้สัญญากับเมกาว่าถ้าอิทธิพลคอมมิวนิสต์แนวโซเวียต เช่น เวียดนาม ขยายตัว จีนจะเป็นคนหยุดให้ด้วยกำลังทหาร
   2.3 จีนสัญญาจะปล่อยเจ้าหน้าที่เมกาที่ถูกจับไว้ส่งตัวกลับเมกา


เมื่อเมกาได้ Supplier รายใหม่ที่ใหญ่กว่าเวียดนามและเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหาร เมกาก็ไม่จำเป็นต้องรบในเวียดนามอีก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเวียดนามให้เป็นประเทศที่เป็น Supplier แก่เมกาก็ได้ ในเมื่อมีรายใหญ่กว่าอยู่แล้วอย่างจีน


เมื่อเมกาได้ประเทศ Supplier คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ที่จะส่งออกสินค้าให้แก่เมกาด้วยการแลกเปลี่ยนด้วยเงินสกุลดอลลาห์ นั่นก็เพียงพอที่มันจะส่งผลให้เงินสกุลดอลลาห์ของเมกานั้นมีอิทธิพลครอบครองตลาดของทั้งเอเขีย

[BlackLucky]

เมกาฆ่าระดับผู้นำ ต่างประเทศอีกแล้ววุ๊ย คนอื่นทำไม่ได้ แต่เมกาทำไม่ผิดอีกละ

ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัคเคด้าที่ไม่ได้ปกครองประเทศไหน นับเป็นผู้นำต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่?

[Black7nos]

[quote/]


ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัคเคด้าที่ไม่ได้ปกครองประเทศไหน นับเป็นผู้นำต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่?

ใช่ครับ บางคนสับสนระหว่างกลุ่มตาลีบัน กับ อัลเคด้า


เหตุผลที่เมกาสามารถถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานได้ เพราะ Deal กับกลุ่มตาลีบันที่ภายหลังกลายมาเป็นรัฐบาลอัฟกานิสถานลงตัว
ผมเคยอ่านเงือนไขเมื่อนานมาแล้วว่าคำสัญญาระหว่างกลุ่มตาลีบันกับเมกา คือ ตาลีบันจะต้องไม่ให้ที่ซ่อนแก่ผูก่อการร้ายอย่างอัลเคด้า
และนอกเหนือไปจากนั้นต้องยินยอมอนุญาตให้เมกาสอบสวนผู้ก่อการร้าย นี่เลยทำให้กลุ่มตาลีบันสามารถกลายเป็นรัฐบาลอัฟกันได้ เพราะสามารถ Deal ผลประโยชน์กับเมกาได้ลงตัว


ถ้าใครอยากเป็นรัฐบาลหรือผู้ปกครองประเทศไหน ต้อง Deal กับเมกาให้ลงตัวครับ ถ้า Deal ได้ เป็นผู้ชนะร่วมกับเมกาแน่นอนครับ
ตามหนังสือ ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรี ใครอ่านจะเข้าใจกลยุทธและแนวคิดทางการเมืองของเมกาครับ


วิธีการของบิน ลาเดน มันพลาดมาตั้งแต่แรกแล้วครับ คิดจะ Deal กับเมกาด้วยการโจมตีเมกา มันไม่ได้ผลหรอกครับ แถมยิ่งทำให้เมกาโกรธเสียเปล่าๆ
เมกามีชาวยิวอาศัยอยู่เยอะ เชื้อสายยิวเยอะ โดยเฉพาะนายทุนและพวก Elite
ชาวยิวเขามีคติคำสอนคือ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เลือดล้างเลือด"

เหมือนสงครามโลกครับ แค่เมกาโดนโจมตี Pearl Harbor หรือ ตอนสงครามโลกครั้ง 1 ที่เรือสินค้าเมกาที่จะส่งไปอังกฤษถูกโจมตี
เมกาเอาคืนแน่นอนครับ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เลือดล้างเลือด"

[deaddy]

[quote/]


ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัคเคด้าที่ไม่ได้ปกครองประเทศไหน นับเป็นผู้นำต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่?

ก็เป็นระดับผู้นำไหม
อยู่ต่างประเทศไหม

ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นผู้นำประเทศนิ อย่างพระสันตปาปา ก็เป็นระดับผู้นำเหมือนกัน แต่ไม่ได้ปกครองประเทศ
ผมก็เว้นวรรคแล้วนะ ไม่งั้นก็พิมพ์ ว่าผู้นำประเทศ
ไม่ใช่ ระดับผู้นำ ....  = เทียบเท่า หรือใกล้เคียง
ต่างประเทศ = อยู่ในพื้นที่ นอกพื้นที่อธิปไตย ของอเมริกา

อย่างสมมุติถ้า ผู้นำรบ.ผเด็จการเกาหลีเหนือ หนีคดีไป อเมริกาแล้ว รบ.เกาหลีเหนือ ส่งมือสังหารไปฆ่าทิ้งในประเทศอเมริกา
หรือพี่ไทย สมมุติ ส่งมือสังหารไป ฆ่าพระ ทำมะ นะจ๊ะ ในต่างประเทศ ไรงี้

นี่แหล่ะคือสิ่งที่เมกาทำ 

[Black7nos]

[quote/]
ก็เป็นระดับผู้นำไหม
อยู่ต่างประเทศไหม

ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นผู้นำประเทศนิ อย่างพระสันตปาปา ก็เป็นระดับผู้นำเหมือนกัน แต่ไม่ได้ปกครองประเทศ
ผมก็เว้นวรรคแล้วนะ ไม่งั้นก็พิมพ์ ว่าผู้นำประเทศ
ไม่ใช่ ระดับผู้นำ ....  = เทียบเท่า หรือใกล้เคียง
ต่างประเทศ = อยู่ในพื้นที่ นอกพื้นที่อธิปไตย ของอเมริกา

อย่างสมมุติถ้า ผู้นำรบ.ผเด็จการเกาหลีเหนือ หนีคดีไป อเมริกาแล้ว รบ.เกาหลีเหนือ ส่งมือสังหารไปฆ่าทิ้งในประเทศอเมริกา
หรือพี่ไทย สมมุติ ส่งมือสังหารไป ฆ่าพระ ทำมะ นะจ๊ะ ในต่างประเทศ ไรงี้

นี่แหล่ะคือสิ่งที่เมกาทำ 

โป้ปหรือพระสันตปาปานี่ผู้นำประเทศนะครับ กรุงวาติกันนี่เป็นประเทศนะครับ มีสถานะเป็นรัฐๆหนึ่งนะครับ
มีรัฐบาลนะครับ มีการเก็บภาษี มีกระทรวงนะครับ ทั้งหมด 8 กระทรวง มีองค์ประกอบเป็นประเทศทุกประการนะครับ

เอาข้อมูลตามจริง
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2472 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสัญญายอมรับนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง
http://www.aloha.net/~mikesch/treaty.htm

กระทรวงในรัฐวาติกันหรือประเทศวาติกัน
1.กระทรวงหลักความเชื่อ
2.กระทรวงการแต่งตั้งนักบุญ
3.กระทรวงคริสตจักรตะวันออก
4.กระทรวงมุขนายก
5.กระทรวงพิธีกรรมและถือศีลศักดิ์สิทธิ์
6.กระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน
7.กระทรวงสถาบันชีวิตที่ถวายแล้วและคณะชีวิตแพร่ธรรม
8.กระทรวงบาทหลวง
9.กระทรวงการศึกษาแคทอริก

[deaddy]

[quote/]


โป้ปหรือพระสันตปาปานี่ผู้นำประเทศนะครับ กรุงวาติกันนี่เป็นประเทศนะครับ มีสถานะเป็นรัฐๆหนึ่งนะครับ
มีรัฐบาลนะครับ มีการเก็บภาษี มีกระทรวงนะครับ ทั้งหมด 8 กระทรวง มีองค์ประกอบเป็นประเทศทุกประการนะครับ

เอาข้อมูลตามจริง
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2472 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสัญญายอมรับนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง
http://www.aloha.net/~mikesch/treaty.htm

กระทรวงในรัฐวาติกันหรือประเทศวาติกัน
1.กระทรวงหลักความเชื่อ
2.กระทรวงการแต่งตั้งนักบุญ
3.กระทรวงคริสตจักรตะวันออก
4.กระทรวงมุขนายก
5.กระทรวงพิธีกรรมและถือศีลศักดิ์สิทธิ์
6.กระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน
7.กระทรวงสถาบันชีวิตที่ถวายแล้วและคณะชีวิตแพร่ธรรม
8.กระทรวงบาทหลวง
9.กระทรวงการศึกษาแคทอริก

วาติกันนี่ไม่เถียง

แต่ผู้นำมี ศาสนากับการเมืองนะคนละคนกัน
pope เป็นผู้นำศาสนา แต่ถือว่าเป็นผู้นำสูงสุดเหนือการเมืองไหมไม่รู้นะอันนี้ไม่แม่น

[Black7nos]

[quote/]
วาติกันนี่ไม่เถียง

แต่ผู้นำมี ศาสนากับการเมืองนะคนละคนกัน
pope เป็นผู้นำศาสนา แต่ถือว่าเป็นผู้นำสูงสุดเหนือการเมืองไหมไม่รู้นะอันนี้ไม่แม่น

พระสันตปาปาปกครองประเทศครับ แต่แค่พื้นที่ประเทศมันเล็กมีเพียงแค่เมืองเดียวคือเมืองวาติกัน
เมื่อก่อนผมเคยให้นิยามสากลของรัฐหรือประเทศเอาไว้
1.มีประชากร
2.มีพื้นที่ขอบเขตแน่นอน
3.มีกฎหมาย
4.มีรัฐบาล


ซึ่งวาติกันมีรัฐบาลก็คือรัฐบาลของพระสันตปาปา หลังเลือกพระสันตปาปา ตัวพระสันตปาปาก็ต้องแต่งตั้งพระหรือนักบวชมาทำงานกระทรวงต่างๆ ไม่ต่างจากประธานาธิบดีหรือนายกฯที่ต้องแต่งตั้ง
ครม.หรอกครับ ดังนั้นโป้ปหรือพระสันตปาปาก็เป็นประมุขแห่งรัฐวาติกันอย่างถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัยครับ


ศาสนาคริสต์นิกายแคทอริก ศาสนากับการเมืองคือเนื้อเดียวกันมานานตั้งแต่สมัยโรมันแล้วครับ

[pol]

[quote/]


พระสันตปาปาปกครองประเทศครับ แต่แค่พื้นที่ประเทศมันเล็กมีเพียงแค่เมืองเดียวคือเมืองวาติกัน
เมื่อก่อนผมเคยให้นิยามสากลของรัฐหรือประเทศเอาไว้
1.มีประชากร
2.มีพื้นที่ขอบเขตแน่นอน
3.มีกฎหมาย
4.มีรัฐบาล


ซึ่งวาติกันมีรัฐบาลก็คือรัฐบาลของพระสันตปาปา หลังเลือกพระสันตปาปา ตัวพระสันตปาปาก็ต้องแต่งตั้งพระหรือนักบวชมาทำงานกระทรวงต่างๆ ไม่ต่างจากประธานาธิบดีหรือนายกฯที่ต้องแต่งตั้ง
ครม.หรอกครับ ดังนั้นโป้ปหรือพระสันตปาปาก็เป็นประมุขแห่งรัฐวาติกันอย่างถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัยครับ


ศาสนาคริสต์นิกายแคทอริก ศาสนากับการเมืองคือเนื้อเดียวกันมานานตั้งแต่สมัยโรมันแล้วครับ

มีการเลือกตั้งด้วยนะครับ แต่เป็นการเลือกตั้งในพื้นที่ปิด ได้ผลเมื่อไหร่ค่อยเผาควันให้คนอื่นเห็น
ป.ล ท่าทางจะล็อบบี้กันอย่างเมามันส์ 

[Black7nos]

[quote/] มีการเลือกตั้งด้วยนะครับ แต่เป็นการเลือกตั้งในพื้นที่ปิด ได้ผลเมื่อไหร่ค่อยเผาควันให้คนอื่นเห็น
ป.ล ท่าทางจะล็อบบี้กันอย่างเมามันส์ 

นครรัฐวาติกันไม่ใช่ประชาธิปไตยครับ แค่เลือกตั้งมันก็ทำได้ทุกระบบแหละครับ แต่ประชาชนในนครรัฐไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลือก ยกเว้น พระหรือนักบวชระดับสูงเท่านั้น
ต้องดูหนังเรื่อง Two Popes ครับ มีการล็อบบี้กันสุดๆ แข่งขันกันดุเดือดมาก

จริงๆ นครรัฐวาติกันต้องใช้คำว่า ระบอบคณาธิปไตย น่าจะใกล้เคียงกว่าครับ ยังไงก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแน่ๆครับ เพราะไม่ตรงกับนิยาม
1.อำนาจที่แท้จริงมาจากประชาชนทุกคน
2.ทุกอำนาจใดๆจะต้องมีการถูกคานอำนาจและถูกจำกัดวาระของตัวมัน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็เลือกตั้งเหมือนกันครับ ในการเลือกปธน.หรือตำแหน่งสำคัญทางการเมืองต่างๆ แต่มันก็ไม่ได้มาจากประชาชนทั้งหมด และก็ไม่ได้มีใครตรวจสอบการทำงาน ไม่มีการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อไม่ได้เข้านิยาม ยังไงก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยครับ

[samuison]

วาติกัน คาธอลิค มีอำนาจมากนะครับ


ผมคุ้นๆว่า อเมริกากังวลอยู่ข่วงหนึ่ง ว่าจะให้คาทอลิคเป็น ประธานาธบดีได้หรือไม่?

[Black7nos]

วาติกัน คาธอลิค มีอำนาจมากนะครับ


ผมคุ้นๆว่า อเมริกากังวลอยู่ข่วงหนึ่ง ว่าจะให้คาทอลิคเป็น ประธานาธบดีได้หรือไม่?

ไม่เท่ากับยุคกลาง ปัจจุบันไม่ได้มีอำนาจเหนืออธิปไตยประเทศหรืออาณาจักรอื่นในอดีตอีกแล้ว
สมัยก่อนการรับรองการสืบทอดบัลลังก์ของอาณาจักรต่างๆ จำเป็นต้องได้การรับรองจากพระสันตปาปาแห่งโรม(วาติกัน)
เนื่องจากศาสนาคริสต์นั้นสร้างความเชื่อว่าชนชั้นปกครอง เช่น ราชวงศ์ในยุโรป ได้รับโองการโดยชอบธรรมจากผู้ส่งสารจากพระเจ้า(พระสันตปาปา)ให้ทำหน้าที่ปกครองดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 161 ของสงคราม

1. การคว่ำบาตรรัสเซียยังคงดำเนินต่อไป ล่าสุดทางการเบลเยียมได้ออกมาแถลงว่าปัจจุบันรัฐบาลเบลเยียมได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของทางการและธนาคารรัสเซียรวมกันแล้วมีมูลค่ามหาศาลถึง 50,500 ล้านยูโร (1,860,000 ล้านบาท)

นายฟรานซิส อาดินส์ (Francis Adyns) โฆษกกรมสรรพากรเบลเยียม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่านับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารเข้ายึดครองคาบสมุทรไครเมียในปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ทางการเบลเยียมได้ทำการอายัดทรัพย์สินทั้งในรูปเงินสด เงินปันผล และอื่นๆ จากบุคคลสัญชาติรัสเซีย 1,229 รายและนิติบุคคลสัญชาติรัสเซีย 110 ราย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นายทหาร สื่อมวลชน นักธุรกิจ ธนาคาร บริษัท และอื่นๆ สามารถรวมมูลค่าได้มากถึง 50,500 ล้านยูโร (1,860,000 ล้านบาท) จำนวนดังกล่าวถือว่ามีปริมาณสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับยอดการอายัดทรัพย์สินจากรัสเซียในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางการเบลเยียมได้ทำการอายัดทรัพย์สินจากรัสเซียไปเพียงแค่ 3,500 ล้านยูโร (129,000 ล้านบาท) เท่านั้น

ทั้งนี้ เพียงสามสัปดาห์ก่อนหน้า นายดีดีเย ไรน์เดอร์ส (Didier Reynders) อดีต รมว.การต่างประเทศเบลเยียม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมาธิการยุโรปด้านความยุติธรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่าจนถึงปัจจุบัน (เมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว) ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปได้ทำการอายัดทรัพย์สินจากรัสเซียรวมกันทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 13,800 ล้านยูโร (500,000 ล้านบาท) ซึ่งหากเทียบกับยอดการอายัดทรัพย์สินรัสเซียล่าสุดจากเบลเยียม จะถือว่ายอดดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าทางสหภาพยุโรปได้เพิ่มระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบเพื่อค้นหาและอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอย่างมีนัยยะสำคัญอีกด้วย


2. นอกจากการอายัดทรัพย์สินโดยรัฐบาลชาติตะวันตกแล้ว การคว่ำบาตรด้านอื่นๆ ยังมีแนวโน้มทำให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวจากโลกภายนอกมากยิ่งขึ้น ล่าสุดประชาชนรัสเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศได้ถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมการสอบโทเฟิล (TOEFL) และไอเอลส์ (IELTS) เป็นที่เรียบร้อย

สำนักข่าวมีเดียโซนา (Mediazona) ของรัสเซีย ได้รายงานว่าประชาชนภายในประเทศรัสเซียได้ถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมแบบทดสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างชาติ (Test Of English as a Foreign Language) หรือโทเฟิล (TOEFL) และแบบทดสอบภาษาอังกฤษนานาชาติ (International English Language Testing System) หรือไอเอลส์ (IELTS) เมื่อวานนี้ โดยทั้งสองล้วนเป็นข้อสอบมาตรฐานกลางที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลกในการวัดทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษ

อย่างไรก็ดี ทางหน่วยบริการทดสอบทางการศึกษาหรือ ETS (Educational Testing Service) องค์กรเอกชนภาคการศึกษาจากสหรัฐ ผู้ให้บริการการสอบโทเฟิล ออกมากล่าวกับสำนักข่าว TASS ของรัสเซียว่าชาวรัสเซียที่อยู่นอกประเทศรัสเซียยังคงสามารถเข้าร่วมการสอบโทเฟิลได้ตามปกติ เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป ขณะที่ผู้จัดทำแบบทดสอบไอเอลส์อย่างสภาบริเตน (British Council) ศูนย์การวัดและประเมินผลด้านภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge Assessment English) และไอดีพี (IDP Education Limited) ยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการสอบไอเอลส์ในรัสเซียแต่อย่างใด


3. สำหรับประเด็นเรื่องพลังงานในยุโรป เยอรมนีกำลังเตรียมความพร้อมครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะทำการตัดการส่งก๊าซให้ทั้งหมด โดยเมื่อ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศมาตรการรับมือเรื่องก๊าซธรรมชาติออกมาหลายประการ โดยนายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค (Robert Habeck) รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กิจการด้านเศรษฐกิจและสภาพภูมิอากาศ ได้ออกมาประกาศว่าทางการเยอรมนีจะเร่งดำเนินการสำรองก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในประเทศให้ได้ประมาณ 75% ของปริมาณก๊าซสำรองสูงสุดภายในเดือนกันยายน จากนั้นจึงเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 80% - 85% ภายในเดือนตุลาคม และ 90% - 95% ภายในเดือนพฤศจิกายน เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนก๊าซธรรมชาติในประเทศที่อาจเกิดขึ้นภายในฤดูหนาวปีนี้และปีหน้า

นอกจากนี้ นายฮาเบ็คยังกล่าวอีกว่าหากทางการเยอรมนีไม่สามารถดำเนินการเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติได้ตามเป้าที่วางไว้ บริษัทเทรดดิ้งฮับยุโรป (Trading Hub Europe GmbH) กิจการร่วมทุนระหว่างบริษัทเอกชนด้านพลังงานในเยอรมนีทั้งหมด จะร่วมมือกับทางการเยอรมนีในการเข้ามาควบคุมการใช้จ่ายก๊าซธรรมชาติในประเทศทั้งหมด ขณะที่นายเคลาส์ มูลเลอร์ (Klaus Müller) อธิบดีกรมโครงข่ายสาธารณูปโภค (Federal Network Agency) ซึ่งดำเนินงานภายใต้กระทรวงกิจการด้านเศรษฐกิจและสภาพภูมิอากาศ ได้แสดงความเห็นว่าทางการเยอรมนีควรลดการบริโภคก๊าซธรรมชาติภายในประเทศให้สูงกว่าที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้ คือควรทำการลดปริมาณการบริโภคก๊าซภายในประเทศลงให้ได้ 20% (ตามข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรปที่พึ่งบังคับใช้ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว จะกำหนดโควต้าให้ชาติสมาชิกทุกชาติทำการลดปริมาณการบริโภคก๊าซภายในประเทศลง 15% ตลอดช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว)

อย่างไรก็ดี นายเซบาสเตียน เบลชเก (Sebastian Bleschke) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสมาคมผู้จัดเก็บพลังงานสำรองเยอรมนีหรือ INES (Initiative Energies Storage) ได้ทำการเปิดเผยตัวเลขปริมาณก๊าซสำรองในประเทศออกมาเมื่อวันที่ 27 ก.ค. พบว่าปัจจุบันทางการเยอรมนีได้ทำการสำรองก๊าซธรรมชาติไปได้ราว 66.8% แล้ว และเชื่อมั่นว่าหากอัตราการนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศในปัจจุบันของเยอรมนียังคงที่อยู่ พวกเขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายการสำรองก๊าซ 90% ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

สำหรับภาพรวมของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา นายโยเซ็พ บอร์เรล (Josep Borrell) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดเผยตัวเลขออกมาว่าจนถึงตอนนี้ สหภาพยุโรปประสบความสำเร็จในการลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียโดยการลดการนำเข้าก๊าซไปได้กว่าครึ่งหนึ่งแล้ว จากเดิมที่สหภาพยุโรปต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียจำนวนมากถึง 40% ของทั้งสหภาพ แต่ตอนนี้จำนวนดังกล่าวได้ลดลงเหลือเพียง 20% เท่านั้น ขณะที่ยอดการนำเข้าก๊าซเหลว (LNG) จากประเทศอื่นๆ เพื่อทดแทนรัสเซียยังเพิ่มขึ้นจากเดิมที่นำเข้าเพียง 19% ได้เพิ่มขึ้นมาที่ 37% นอกจากนี้สหภาพยุโรปยังประสบความสำเร็จในการเจรจาทำข้อตกลงนำเข้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นเพื่อทดแทนรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นอัลจีเรีย นอร์เวย์ และอาเซอร์ไบจัน

ในวันเดียวกัน บริษัทแกสพรอม (PJSC Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านกิจการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตก๊าซธรรมชาติภายในประเทศช่วงครึ่งปีแรก พบว่ามียอดลดต่ำลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันจากปีที่แล้วประมาณ 12% หรือเทียบเท่าก๊าซปริมาณ 35,800 ล้าน ลบ.ม. โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้วแกสพรอมสามารถทำการผลิตก๊าซได้สูงถึง 298,200 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ยอดการผลิตในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้มีปริมาณเพียง 262,400 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากปริมาณการนำเข้าจากประเทศในสหภาพยุโรปที่ลดลงเนื่องจากการคว่ำบาตรกรณีรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน และแม้ว่ายอดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากจีนจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 61% เพื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการทดแทนตลาดในยุโรปสำหรับรัสเซีย โดยหากวัดจากสถิติในปีที่แล้ว รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังสหภาพยุโรปและตุรกีเป็นปริมาณสูงถึง 180,000 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ยอดการส่งออกไปยังประเทศจีนมีตัวเลขแค่ 10,390 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น

[samuison]

เจอสถานการณ์นี้ ทำให้ผมพอเข้าใจแล้วว่าทำไม อเมริกาบ้าเลือด เรื่องบ่อน้ำมันขนาดนั้น


ยุคสมัยเปลี่ยนไป มองสิ่งต่างๆเปลี่ยนไปด้วย


ผมรู้สึกว่านี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านอีกช่วงหนึ่ง

[PeanutButter]

เมกาฆ่าระดับผู้นำ ต่างประเทศอีกแล้ววุ๊ย คนอื่นทำไม่ได้ แต่เมกาทำไม่ผิดอีกละ

สหรัฐทำการสังหารผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก ที่ทำการก่อเหตุทั้งในสหรัฐ ตะวันออกกลาง และยุโรป ไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่พึ่งถูกสหรัฐสังหารไปเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 อีก มันก็ถูกต้องแล้วนิครับ จะให้ไปต่อว่าสหรัฐทำไมล่ะ ?

แถมการลงมือครั้งนี้ยังเป็น Power Move จากสหรัฐอีกต่างหาก ว่าต่อให้เราถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าพวกผู้ก่อการร้ายในอัฟกานิสถานจะปลอดภัยแต่อย่างใด สหรัฐยังพร้อมจะกลับมายังตะวันออกกลางได้อีกหากว่าสถานการณ์จำเป็น 

[deaddy]

[quote/]

สหรัฐทำการสังหารผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก ที่ทำการก่อเหตุทั้งในสหรัฐ ตะวันออกกลาง และยุโรป ไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่พึ่งถูกสหรัฐสังหารไปเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 อีก มันก็ถูกต้องแล้วนิครับ จะให้ไปต่อว่าสหรัฐทำไมล่ะ ?

แถมการลงมือครั้งนี้ยังเป็น Power Move จากสหรัฐอีกต่างหาก ว่าต่อให้เราถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าพวกผู้ก่อการร้ายในอัฟกานิสถานจะปลอดภัยแต่อย่างใด สหรัฐยังพร้อมจะกลับมายังตะวันออกกลางได้อีกหากว่าสถานการณ์จำเป็น 

แปลว่าถ้า รบ.ไทย อยากฆ่า ผู้ก่อการร้าย ที่หนีไปกบดานญี่ปุ่น
รบ.ไทยก็ส่งโดรนไปสังหารได้เลยใช่ไหมครับ

[SecurityGuard]

[quote/]


แปลว่าถ้า รบ.ไทย อยากฆ่า ผู้ก่อการร้าย ที่หนีไปกบดานญี่ปุ่น
รบ.ไทยก็ส่งโดรนไปสังหารได้เลยใช่ไหมครับ

เขาอาจมีข้อตกลงร่วมกันหล่ะมั้ง  ไม่งั้นตาลีบันคงประนามการบุกรุกอธิปไตยของเขา   

[deaddy]

[quote/]

เขาอาจมีข้อตกลงร่วมกันหล่ะมั้ง  ไม่งั้นตาลีบันคงประนามการบุกรุกอธิปไตยของเขา   

มีครับ ว่าห้ามให้ที่พังพิงผู้ก่อการร้าย
อเมริกาเลยบอกว่าผิดกับที่คุยนิ ฉันเลยฆ่าทิ้งให้

นึกถึงนิยายจีนเลย ตัวร้ายแอบๆทำความผิดฆ่าคนในที่ลับตา 
พระเอก ละเมิดกฏฆ่าคนโต้งๆในพรรคเลย แล้วใช้เส้นลดโทษแทน

ตัวร้ายดูถูกเหยียดหยาม วางแผนนู่นนี่นั่นมากมายเพราะกลัวความผิด
พระเอกไม่เรื่องมากใครมีเรื่องกล้าล้ำเส้น
ต่อให้เป็นลูกผู้อวุโสสำนักตัวเองก็ฆ่าทิ้ง
ถึงแม้กฏสำนักจะห้ามไว้ก็ตาม

[PeanutButter]

[quote/]


แปลว่าถ้า รบ.ไทย อยากฆ่า ผู้ก่อการร้าย ที่หนีไปกบดานญี่ปุ่น
รบ.ไทยก็ส่งโดรนไปสังหารได้เลยใช่ไหมครับ

ถ้าหากว่าญี่ปุ่นกลายเป็นรัฐ Fail State ที่มีกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนการค้ายาเสพติดและการส่งออกผู้ก่อการร้ายด้วยลัทธิหัวรุนแรงทางศาสนาขึ้นมายึดอำนาจการปกครองประเทศ และแทบจะไม่มีประเทศใดๆ ยอมรับรัฐบาลที่ว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย (หรือพูดง่ายๆ คือประเทศญี่ปุ่นมีสภาพเละเทะแบบอัฟกานิสถาน) และไทยมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการนอกประเทศได้แบบสหรัฐ ใช่ครับ ไม่มีปัญหาอะไร

โชคดีที่ญี่ปุ่นในปัจจุบันไม่ได้เป็นแบบอัฟกานิสถาน ฉะนั้นหากเราอยากจับผู้ก่อการร้ายที่หลบหนีไปญี่ปุ่น เราก็แค่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้คอยช่วยเหลือในการจับกุมและทำการส่งตัวผู้ก่อการร้ายคนดังกล่าวมาก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องลงทุนลงแรงส่งหน่วยรบพิเศษหรือโดรนติดอาวุธไปตามเก็บผู้ก่อการร้ายถึงญี่ปุ่น แบบที่สหรัฐต้องทำในอัฟกานิสถาน

[deaddy]

[quote/]

ถ้าหากว่าญี่ปุ่นกลายเป็นรัฐ Fail State ที่มีกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนการค้ายาเสพติดและการส่งออกผู้ก่อการร้ายด้วยลัทธิหัวรุนแรงทางศาสนาขึ้นมายึดอำนาจการปกครองประเทศ และแทบจะไม่มีประเทศใดๆ ยอมรับรัฐบาลที่ว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย (หรือพูดง่ายๆ คือประเทศญี่ปุ่นมีสภาพเละเทะแบบอัฟกานิสถาน) และไทยมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการนอกประเทศได้แบบสหรัฐ ใช่ครับ ไม่มีปัญหาอะไร

โชคดีที่ญี่ปุ่นในปัจจุบันไม่ได้เป็นแบบอัฟกานิสถาน ฉะนั้นหากเราอยากจับผู้ก่อการร้ายที่หลบหนีไปญี่ปุ่น เราก็แค่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้คอยช่วยเหลือในการจับกุมและทำการส่งตัวผู้ก่อการร้ายคนดังกล่าวมาก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องลงทุนลงแรงส่งหน่วยรบพิเศษหรือโดรนติดอาวุธไปตามเก็บผู้ก่อการร้ายถึงญี่ปุ่น แบบที่สหรัฐต้องทำในอัฟกานิสถาน

ตัวชี้วัด..ว่าประเทศไหนเข้าข่าย.....
ถูกชี้วัดและเผยแพร่โดย......อเมริกา....

https://en.wikipedia.org/wiki/Fragile_States_Index