เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[pol]

[quote/]ไอ้แนวคิดนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้มาแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอครับ

ก็ไม่เชิงนะท่าน คนสมัยนี้อพยพย้ายประเทศกันเพียบ พวกที่บอกว่าจะขอสู้ตายเพื่อแผ่นดินเกิดนี่เหลือน้อยลงเยอะ มีอะไรเกิดขึ้นตูอพยพโลด 

[Black7nos]

คิดว่าสงครามยูเครนรัสเซียครั้งนี้จะทำให้แนวคิดพลเมืองโลกหายไปหรือเปล่าครับ?  ผมกลัวจะกลายเป็นยุคคั่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกับสงครามโลกครั้งที่สองเอา  แบบว่าเบื่อระบบฟาสซิสต์โคตรๆ 

ฟาสซิสต์เป็นระบบที่ไม่ว่ามองมุมไหนของประวัติศาสตร์ มันก็เป็นระบบที่เหมือนระเบิดเวลาที่จะทำลายตัวเองในซักวันอยู่แล้ว
เพราะมันเป็นระบบที่มันฝืนความเป็นธรรมชาติอย่างถึงที่สุด
แต่สำคัญคือระเบิดเวลานี้มันดันลากรอบข้างให้หายนะไปกับมันได้ซักแค่ไหนต่างหากตามรากที่มันวางและชอนไชไปก็เท่านั้น

[samuison]

มองในแง่หนึ่ง อเมริกาพยายามผลึกดันแนวคิดพลเมืองโลก เพราะมันส่งผลเต่อการค้าขายมากกว่า


แต่ผมมองอย่างแง่ประวัติศาสตร์




ทำไมญี่ปุ่นโบราณถึงปิดประเทศ?




ก็เพราะว่าการค้ามันไม่ได้แลกเปลี่ยนเงินตราอย่างเดียว มันเปลี่ยนความคิดด้วย




ผมนึกถึงมังงะเรื่อง ซากาโมโต้ เรียวมะ


ประมาณว่าตอนแรกคิดอะไรไม่ออก พอเดินทางไปประเทศจีนเห็นเด็กอดอยากยากจน


ทำให้เห็นประเทศของตนเองดีขึ้น




พูดแบบเต๋าเต๋อจิง เลยว่าเพราะได้เดินทาง เจอแนวคิด ผู้คนใหม่ๆ


ทำใหัเข้าใจ รู้จักแนวคิดของตนเองดีขึ้น


รู้จักหลายประเทศ จะทำให้เรารู้จักเปรียบเทียบ
และจะรู้สึกว่า


"เอ๊ะ ทำไมประเทศเราเป็นอย่างนี้"


"ทำไมประเทศเราไม่ทำอย่างประเทศนั้น?"


พอรู้มากขึ้น มันก็เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมา


ตามธรรมขาติของมนุษย์ที่ยังมีสมองไว้คั่นหู

[SecurityGuard]

การเป็นพลเมืองโลกได้นั้น  อย่างน้อยต้องทำให้ตัวเองมีสิทธิที่จะเป็นพลเมืองโลกได้   
ไม่งั้นอย่างน้อยก็ควร  ทำให้ตัวเองมีสิทธิเลือกประเทศใดสักประเทศนึงได้  ที่จะไปใช้ชีวิต
ไปเป็นส่วนร่วมทุ่มเทให้กับประเทศนั้นๆที่เราตัดสินใจเลือก


แต่นั่นคือระดับจุลภาค  ถ้านิยามของคำๆนี้  [พลเมืองโลก]  หมายถึงระดับมหภาค 
หมายถึงว่า  คนทั้งโลกเป็นพลเมืองร่วมกัน  แบบแนวคิดอเมริกาที่เข้าไปยุ่มย่ามทั่วโลก
ผมว่า  แนวคิดพลเมืองโลกก็ยังไม่หายไปไหน  เพราะตลอดมาและต่อจากนี้ไป  อเมริกาก็
ยังใช้วิธีเปลี่ยนประเทศนั้นๆให้เป็นไปตามทิศทางพลเมืองโลก  ไม่ว่าจะด้วยวิธีเข้าไปเปลี่ยน
ผู้นำ  เข้าไปช่วยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในประเทศนั้นๆให้ขึ้นมาแทนที่รัฐบาลเดิม  หรือใช้
ซอร์ฟเพาเวอร์  ให้คนประเทศใดๆมีแนวคิดแบบตัวเอง  เพราะเมื่อทั่วโลกหรือประเทศนั้นๆ
มีแนวคิดแบบตัวเอง  คนทั้งโลกก็จะเป็นพลเมืองโลก



ตอนนี้สมองเบลอ  แต่จำหนังสือเล่มนึงของอเมริกาได้ดี  ที่เขียนไว้ว่า  เมื่อไรก็ตามที่
ทั่วโลกมีแนวคิดเดียวกันกับอเมริกา  วัฒนธรรมเดียวกันทั่วโลกแล้ว  ทุกๆคนก็จะไม่ต้อง
ทะเลาะกัน  เพราะเป็นพวกเดียวกัน  แนวคิดทางสังคมเดียวกัน  สงครามก็จะไม่เกิด
[ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด]  ฮา  จำชื่อหนังสือไม่ได้แฮะ  ==" 

[samuison]

เราสามารถอยู่บนแนวคิดใหญ่เดียวกันแต่ทะเลาะดันได้ครับ


ดู "การเมืองตามความเป็นจริง" เป็นตัวอย่าง


รัสเซียไม่ได้ทำผิดเลย ในด้าน"การเมืองตามความเป็นจริง"


แต่หากยอมรับแนวคิดนั้นก็จะโทษประเทศอื่นที่ยึด"การเมืองตามความเป็นจริง"ไม่ได้เช่นกัน


อียูที่คนว่าพระศรีอาริย์ต่างหาก ที่ทำให้คู่แค้นตลอดหลายร้อยปี อังดฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศสมาอยู่ทีมเดียวกันได้

[SecurityGuard]

นึกออกหล่ะ  เป็นหนังสือเขียนขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำสงครามเวียดนามของชาวอเมริกันท่านนึง
แต่คนเขียนชื่ออะไรหว่า??  ช่างไม่รู้กมลสันดานมนุษย์เอาเสียเลย  ต่อให้โลกเหลือมนุษย์แค่
สองคน  ก็ย่อมต้องมีสงคราม

 

[Black7nos]

นึกออกหล่ะ  เป็นหนังสือเขียนขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำสงครามเวียดนามของชาวอเมริกันท่านนึง
แต่คนเขียนชื่ออะไรหว่า??  ช่างไม่รู้กมลสันดานมนุษย์เอาเสียเลย  ต่อให้โลกเหลือมนุษย์แค่
สองคน  ก็ย่อมต้องมีสงคราม

 

ไม่เชิงครับ ปกติแล้วมนุษย์โดยธรรมชาติเป็นสัตว์สังคม ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว มนุษย์ไม่ได้สามารถทำอะไรเหมือนกันได้ทุกคน
มันถึงมีการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบต่างๆนานาออกไป ตั้งแต่สมัยชนเผ่าแล้วครับ
แต่การต่อสู้และการทำสงคราม แย่งชิง เกิดจากทรัพยากรไม่พอครับ ไม่ใช่แค่กับมนุษย์ แต่เป็นกับสัตว์หรือแม้แต่พืชก็เช่นกัน
เมื่อทรัพยากรมีจำกัด แต่ประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธรรมชาติจะมีกลไกควบคุมให้ลดประชากรลง นั่นคือการต่อสู้และแก่งแย่งทรัพยากร


สัตว์ก็จะต่อสู้กันเพื่อครอบครองบริเวณ พืชก็จะแย่งอาหารกันในพื้นดินบริเวณนั้น
มนุษย์ก็ไม่ต่างกันครับ


เพียงแต่มนุษย์สามารถสร้างทรัพยากรเพิ่มได้ เช่น การทำฟาร์ม ปศุสัตว์ เพื่อเพิ่มทรัพยากรด้วยตัวเอง
มันก็เลยทำให้มนุษย์ไม่ต้องฆ่ากัน ต่อสู้กันเพื่อแก่งแย่งทรัพยากรบ่อยๆเหมือนสัตว์ประเภทอื่น

[SecurityGuard]

ทำให้นึกถึงการ์ตูน  วะฮะแมนเบย~  (การ์ตูนเรื่องนี้ดีมากนะ  ฉากจบก็ดีมากด้วย)

[samuison]

นึกออกหล่ะ  เป็นหนังสือเขียนขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำสงครามเวียดนามของชาวอเมริกันท่านนึง
แต่คนเขียนชื่ออะไรหว่า??  ช่างไม่รู้กมลสันดานมนุษย์เอาเสียเลย  ต่อให้โลกเหลือมนุษย์แค่
สองคน  ก็ย่อมต้องมีสงคราม

   

ท่านมองว่าทฤษฎีโดมิโน่ถูกหรอืเปล่าครับ?

ผมว่ามันมาจากแนวคิดของอเมริกาที่ชอบเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวมากกว่าฝ่ายถูกกระทำ ถึงหาเสียงสนับสนุนทำอย่างนั้นได้

แต่ก็ต้องถอยเพราะคนในชาติรักสันติ บุปผาชนกัญชาฮิปปี้กันในช่วงนั้น

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 160 ของสงคราม

1. นายจอห์น เคอร์บี้ (John Kirby) ผู้ประสานงานด้านการสื่อสารทางยุทธศาสตร์สหรัฐ ได้ออกมากล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐชุดใหม่ให้ยูเครน โดยแพ็กเกจชุดนี้จะมีมูลค่าประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (19,900 ล้านบาท) โดยจะเน้นไปที่การส่งมอบจรวดนำวิถีเพิ่มเติมสำหรับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ M142 HIMARS และกระสุนปืนใหญ่เพิ่มเติมจำนวน 75,000 นัด ให้แก่ยูเครน นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยูเครนยังประกาศว่าพวกเขาได้รับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ M270B1 จำนวน 3 ระบบจากสหราชอาณาจักร และ M270 MARS II จำนวน 3 ระบบจากเยอรมนีแล้วเรียบร้อย เมื่อรวมกับ HIMARS จำนวน 16 ระบบจากสหรัฐ ทำให้ตอนนี้ยูเครนมีเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องจากชาติตะวันตกรวมแล้ว 22 ระบบ ซึ่งแม้จะมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับของรัสเซีย แต่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำที่สูงกว่ามาก


2. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นในโกดังเก็บสรรพาวุธของบริษัท “เอมโก” (EMCO Ltd.) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอาวุธรายใหญ่ของบัลแกเรีย จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่นายเอมิลเลียน เกเบรฟ (Emilian Gebrev) ประธานและผู้ก่อตั้ง “เอมโก” เชื่อมั่นว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นฝีมือของสายลับรัสเซีย เนื่องจากในอดีตนายเกเบรฟเคยถูกลอบสังหารโดยการวางยา “โนวีชอก” (Novichok) เมื่อเดือนเมษายน ปี 2015 อีกทั้งตลอดตั้งแต่ปี 2011-2020 เกิดเหตุโรงงานและโกดังเก็บสรรพาวุธของบริษัทระเบิดหรือไฟไหม้มากถึง 4 ครั้ง ซึ่งผลการสอบสวนโดยตำรวจและอัยการของบัลแกเรียเผยให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สายลับรัสเซียจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด


3. ท่าเรือโอเดสซา (Odesa) ของยูเครนเริ่มเปิดให้เรือสินค้าธัญพืชจากนานาชาติเข้ามาเทียบท่าได้อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากในเดือนที่ผ่านมา รัสเซีย ยูเครน ตุรกี และสหประชาชาติได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเพื่อให้การขนส่งธัญพืชและอาหารจากท่าเรือยูเครนในทะเลดำเป็นไปโดยปลอดภัย โดยเรือลำแรกที่เข้าเทียบท่ายังโอเดสซาคือเรือ “ราโซนิ” (Razoni) สัญชาติเซียร์ราลีโอนจากแอฟริกาตะวันตก ซึ่งได้ทำการบรรทุกธัญพืชปริมาณกว่า 26,000 ตัน เพื่อทำการเดินทางไปยังจุดหมายในเลบานอน ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นการต่อไป

[PeanutButter]

ข่าวนานาชาติคั่นกลางสงครามยูเครน

1. มีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะกันขนาดเล็กระหว่างกองกำลังตำรวจชายแดนของเซอร์เบียและโคโซโว สองประเทศอดีตชาติสมาชิกสหพันธรัฐยูโกสลาเวียที่ล่มสลายไปหลังสงครามเย็น และโคโซโวประกาศเอกราชแยกตัวจากเซอร์เบียด้วยการสนับสนุนของนาโต้ เนื่องจากชาวโคโซโวเผชิญกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยชาวเซิร์บ การปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากโคโซโวออกกฎหมายใหม่บังคับให้ประชาชนทุกรายที่อาศัยอยู่ในโคโซโวต้องใช้ป้ายทะเบียนรถที่ออกโดยทางการโคโซโว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่พลเมืองเชื้อสายเซิร์บที่อาศัยอยู่ทางเหนือของประเทศและไม่ยอมรับอำนาจการปกครองของรัฐบาลโคโซโว จนออกมาก่อความวุ่นวายบนท้องถนนในเมืองชายแดนทางเหนือ ใกล้กลับพรมแดนโคโซโว-เซอร์เบีย

ทางด้านกองกำลังนาโต้ประจำโคโซโว (KFOR) ได้ออกโรงเตือนว่าหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ทาง KFOR จะต้องเข้าปฏิบัติการแทรกแซงเพื่อรักษาความสงบโดยทันที อย่างไรก็ดี ทางการโคโซโวได้ออกมาประกาศจะเลื่อนเวลาการบังคับใช้กฎหมายใหม่ออกไปประมาณหนึ่งเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ให้เกิดการบานปลาย


2. ทำเนียบขาวแถลงความสำเร็จในปฏิบัติการพิเศษสังหารนายอัยมัน อัซเซาะวาฮิรี (Ayman al-Zawahiri) ผู้นำคนปัจจุบันของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ (Al-Qaeda) และอดีตสมุนมือขวาคู่ใจของนายอุซามะฮ์ บิน ลาดิน (Osama bin Laden) ผู้นำที่ล่วงลับไปแล้วของอัลกออิดะฮ์ตั้งแต่ปี 2011 สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นภายในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานซึ่งปัจจุบันตกอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน พันธมิตรของอัลกออิดะฮ์ตั้งแต่ยุคของบิน ลาดิน โดยเป็นการโจมตีจากระยะไกลด้วยโดรนติดอาวุธภายใต้การดำเนินงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐ ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะเป็น CIA


3. นางแนนซี เปโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้เริ่มการเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเมื่อวานนี้ เมื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเริ่มจากประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศแรก ต่อด้วยมาเลเซียสำหรับการเดินทางวันนี้ และมีกำหนดจะเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่การเดินทางจะเริ่มขึ้น มีรายงานว่านางเปโลซีจะทำการเดินทางเยือนไต้หวันแบบไม่เป็นทางการด้วย ทำให้ทางการจีนไม่พอใจและออกมาแถลงข่าวประณามสหรัฐว่าพยายามยั่วยุจีน พร้อมกันนั้นจีนยังได้สั่งระดมพลครั้งใหญ่บริเวณช่องแคบไต้หวัน พร้อมข่มขู่ว่าจะทำการตอบโต้หากว่าสหรัฐทำการ “ละเมิดอธิปไตยจีน” โดยการปล่อยให้นางเปโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน แม้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะมองว่าจีนน่าจะจัดการซ้อมรบใหญ่หรือยิงขีปนาวุธเพื่อข่มขู่มากกว่าการใช้กำลังทหาร อย่างไรก็ดียังต้องรอดูต่อไปว่านางเปโลซีจะทำการเดินทางเยือนไต้หวันจริงอย่างที่มีรายงานข่าวออกมาจริงหรือไม่

[KAGUYA]

[quote/]
ท่านมองว่าทฤษฎีโดมิโน่ถูกหรอืเปล่าครับ?

ผมว่ามันมาจากแนวคิดของอเมริกาที่ชอบเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวมากกว่าฝ่ายถูกกระทำ ถึงหาเสียงสนับสนุนทำอย่างนั้นได้

แต่ก็ต้องถอยเพราะคนในชาติรักสันติ บุปผาชนกัญชาฮิปปี้กันในช่วงนั้น

ก็ไม่เชิงนะ จริงๆแล้วที่ประชาชนอยากให้ถอนตัวจากสงครามเวียตนามนะไม่ใช่เพราะรักสงบอะไรหรอกแต่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเองกลับกันมีแต่แต่เสียมากกว่า พวกนั้นเลยเรียกร้องให้ถอนกำลังออกมา

[Black7nos]

[quote/]ก็ไม่เชิงนะ จริงๆแล้วที่ประชาชนอยากให้ถอนตัวจากสงครามเวียตนามนะไม่ใช่เพราะรักสงบอะไรหรอกแต่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเองกลับกันมีแต่แต่เสียมากกว่า พวกนั้นเลยเรียกร้องให้ถอนกำลังออกมา

กระทบครับ ไม่ใช่ไม่กระทบ ทุกสงครามมีต้นทุนครับ
อาวุธ เงินเดือนทหาร มาจากไหนครับ ถ้าไม่ใช่ภาษี และภาษีมันคือการระดมทุนของประชาชนผ่านรัฐบาลที่เป็นตัวแทนคนกลางเก็บรวบรวมเงินมาไว้ในกองกลาง
ดังนั้นเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของภาษีรู้สึกว่าตัวแทน(รัฐบาล)ของพวกเขาเอาเงินไปบริหารแล้วไม่ก่อประโยชน์อะไรแก่เขา
ประชาชนก็รู้สึกไม่คุ้ม


ถ้าคุณ@KAGUYA นึกภาพไม่ออก ลองนึกภาพว่าประเทศ = บริษัทก็ได้ครับ ประชาชน = ผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นจ้างผู้จัดการคนหนึ่งมาเป็น CEO ดูแลบริษัท แต่ปรากฎว่าการบริหารดูแล้วไม่เข้าท่า ผลตอบแทนได้ไม่คุ้มเสียกลับมายังผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นก็มีสิทธิกดดัน CEO ให้ยกเลิกนโยบายที่ดูไม่เข้าท่าในสายตาของผู้ถือหุ้นได้ครับ


เหมือนกับที่ประชาชนเมกากดดันให้ถอนกำลังออกมา

[pol]

ตอนนี้อเมริกาก็เจอผลกระทบจากสงครามอยู่นะครับท่าน นมผงเด็กตอนนี้ขาดแคลนในอเมริการาวๆ 30% น้ำมันก็แพง ในยุคสงครามเวียดนามนี่ภาษีต่างๆแพงขึ้นกว่าปกติ แล้วยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับทหารที่ไปรบมา ผู้อพยพชาวเวียดนามก็มาเป็นหมื่น แน่นอนว่าไม่ได้เป็นคนดีทุกคนโจรโผล่มาเพียบเลยนะนั่น

[Black7nos]

ตอนนี้อเมริกาก็เจอผลกระทบจากสงครามอยู่นะครับท่าน นมผงเด็กตอนนี้ขาดแคลนในอเมริการาวๆ 30% น้ำมันก็แพง ในยุคสงครามเวียดนามนี่ภาษีต่างๆแพงขึ้นกว่าปกติ แล้วยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับทหารที่ไปรบมา ผู้อพยพชาวเวียดนามก็มาเป็นหมื่น แน่นอนว่าไม่ได้เป็นคนดีทุกคนโจรโผล่มาเพียบเลยนะนั่น

จริงๆ ทุกๆ สงครามกระทบทั่วโลกหมดครับ


หลายคนอาจจะคิดว่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 สยามในสมัยนั้นไม่น่าจะกระทบถูกมั้ยครับ เนื่องจากเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรง
แต่ในความจริงมันกลับตรงข้ามครับ เนื่องจากประเทศยุโรปต้องบูรณะตัวเองจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้พวกเขาต้องลดรายจ่ายลง
ส่งผลให้เกิดการลดการส่งออก รวมไปถึงวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เรียกกันว่า First Depression (เศรษฐกิจถดถอยครั้งแรก)


ซึ่งมันส่งผลต่อสยามในขณะนั้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเหตุให้เงินหมดท้องพระคลังจนเกือบจะล้มละลาย
ทำให้รัฐบาลกษัตริย์ในสมัย ร.7 ตัดสินใจลดค่าใช้จ่าย ด้วยการไล่ราชการออกเป็นจำนวนมาก จนสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาคนวัยทำงานในขณะนั้นมาก
ยิ่งถ้าอ้างอิงสถานการณ์ในตอนนั้นกับคำประกาศของคณะราษฎรที่เขียนโดยอ.ปรีดี ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น


"...บ้านเมืองกำลังอัตคัตเฝือดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิ้งนา เพราะทำนาไม่ได้ผล รัฐบาล(ร.7)ไม่บำรุง รัฐบาล(ร.7)ไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนที่เรียนสำเร็จแล้วและทหารที่ปลดกองหนุนแล้วก็ไม่มีงานทำ จะต้องอดอยากไปตามยถากรรม..."


ความขุ่นเคืองของทั้งประชาชนและราชการต่อราชสำนักและรัฐบาลกษัตริย์ของร.7 ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรทำได้สำเร็จ เนื่องจากประชาชนและราชการส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวคิดและอุดมการณ์ของคณะราษฎร


อีกเคสหนึ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การขยายอิทธิพลของจักรวรรดิมองโกลแผ่มายังตะวันตก
เริ่มแรกเกิดจากจักรวรรดิมองโกลเริ่มตีจักรวรรดิอิสลามที่ใหญ่ที่สุด คือ จักรวรรดิควอเรซเมี่ยน โดยมีเมืองหลวงคือนครแบกแดก(อิรักในปัจจุบัน)
ต่อมาคือตีอาณาจักรเคียฟรุส(ยูเครน) แล้วก็ตามมาด้วยบุกฮังการี่ โปแลนด์


ถึงขุั้นยกกองทัพแทบจะมาจ่อในพื้นที่อิตาลี ตีเมืองแคฟฟาแตก ทำให้โรคระบาดที่รู้จักกันดีคือ กาฬโรค หรือ Black Death แพร่ไปทั่วโลก(ระดับหายนะ)
ซึ่งถึงขั้นพระสันตปาปาหรือโป้ป ต้องประกาศการขยายอิทธิพลของมองโกลเป็นภัยพิบัติที่ต้องประกาศครูเสดกันเลยทีเดียว
โชคดีที่จักรวรรดิมองโกลภายใต้ข่านคนใหม่ตัดสินใจเปลี่ยนนโยบาย ไม่งั้นก็คงได้หายนะจากทั้งสงครามและโรคระบาดกันทั้งโลกไปมากกว่านี้เป็นแน่แท้

[samuison]

เอาแบบทที่เคยอ่านเจอ
มีคนวิเคราะห์ว่า เราอาจจะมองประเทศได้แบบ ซูเปอร์ออแกนิคสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์แบบอมีบาได้เมหือนกัน
ว่าจะมีช่วงที่ก่อเกิด รุ่งเรืองและเสื่อมถอยการขยายตัวอาจะจมองได้ว่าคือ"ความรุ่งเรือง"ตามทฤษฎีเก่าเพระามีการเลปลี่ยนแปลงและพัฒนาขนาดของตนเองและค่อยๆเสื่อมถอยแตกสลายไปตามลำดับคนมองว่าทฤษฎีนี้เป้นวิทยาศษสตร์เทียม
แต่ผมมองว่าหากเรามองสิ่งมีชีวิตอย่างอะมีบ้า ต้องดำเนินไปตามเงื่อนไขของสิ่งมีชีวิต จะเอาทฤษฎีนัั้นมาวิเคราะห์ประเทศก็ไม่แปลก
ว่าประเทศพยายามจะขยายเพื่อเอาชีวิตรอด
...
อเมริกาและระบบโลกเสรีมองในแง่หนึ่งคือพยายามรักษาทั้งป่าให้อยู่กันได้มากกว่าจะดำเนินกันเป็นผู้ล่าจนขยายขนาดอย่างเดียว
อาจจะเป็นแนวคิดผิดหรือถูกก็ได้
แต่อเมริกาได้แนวคิดมาจากทฤษฎีรัฐบรรณาการของจีนโบราณเองนั่นล่ะว่ามันคือระบบที่นำมาซึ่งความมั่นคงสูงสุด หลีกเลี่ยงสงครามได้

[KAGUYA]

[quote/]


กระทบครับ ไม่ใช่ไม่กระทบ ทุกสงครามมีต้นทุนครับ
อาวุธ เงินเดือนทหาร มาจากไหนครับ ถ้าไม่ใช่ภาษี และภาษีมันคือการระดมทุนของประชาชนผ่านรัฐบาลที่เป็นตัวแทนคนกลางเก็บรวบรวมเงินมาไว้ในกองกลาง
ดังนั้นเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของภาษีรู้สึกว่าตัวแทน(รัฐบาล)ของพวกเขาเอาเงินไปบริหารแล้วไม่ก่อประโยชน์อะไรแก่เขา
ประชาชนก็รู้สึกไม่คุ้ม


ถ้าคุณ@KAGUYA นึกภาพไม่ออก ลองนึกภาพว่าประเทศ = บริษัทก็ได้ครับ ประชาชน = ผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นจ้างผู้จัดการคนหนึ่งมาเป็น CEO ดูแลบริษัท แต่ปรากฎว่าการบริหารดูแล้วไม่เข้าท่า ผลตอบแทนได้ไม่คุ้มเสียกลับมายังผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นก็มีสิทธิกดดัน CEO ให้ยกเลิกนโยบายที่ดูไม่เข้าท่าในสายตาของผู้ถือหุ้นได้ครับ


เหมือนกับที่ประชาชนเมกากดดันให้ถอนกำลังออกมา

ที่ผมพูดหมายถึงผลกระทบในแง่การเมืองครับ ประมาณมองว่าต่อให้เวียตนามปกครองแบบคอมมี่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเอง ส่วนไอ้ต้นทุนสงครามที่ท่านพูดถึงนะมันคือผลเสียจากการเข้าร่วมสงครามที่ประชาชนอเมริกามองเห็นในยุคนั้นตามที่ผมกล่าวถึง

[BlackLucky]

ตอนนี้อเมริกาก็เจอผลกระทบจากสงครามอยู่นะครับท่าน นมผงเด็กตอนนี้ขาดแคลนในอเมริการาวๆ 30% น้ำมันก็แพง ในยุคสงครามเวียดนามนี่ภาษีต่างๆแพงขึ้นกว่าปกติ แล้วยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับทหารที่ไปรบมา ผู้อพยพชาวเวียดนามก็มาเป็นหมื่น แน่นอนว่าไม่ได้เป็นคนดีทุกคนโจรโผล่มาเพียบเลยนะนั่น

นมผงไม่เกี่ยวกับสงคนามเน้อ แต่เป็นโรงงานผลิตนมผงของเจ้าใหญ่เกิดปนเเปื้อนแบคทีเรีย
ทำให้ต้องเรียกเก็บนมผงในท้องตลาด และปิดโรงงาน
เจ้าที่เหลือก็โดนแห่กักตุนจนของขาดตลาด
และกฎหมายนำเข้านมผงที่เข็มงวดก็ทำให้ไม่สามารถหาของนอกมาทดแทนได้ง่ายๆ แถมปกตินำเข้าแค่นิดเดียวอีกเลยยิ่งยาก

[deaddy]

เมกาฆ่าระดับผู้นำ ต่างประเทศอีกแล้ววุ๊ย คนอื่นทำไม่ได้ แต่เมกาทำไม่ผิดอีกละ

[samuison]

หลายคนท้าเปโลซี่ว่าไม่กล้าเยือนท่าทางจะไม่รู้จักอเมริกาซะแล้ว
หลายคนลืมแล้วหรือครับ ที่ทักกันก่อนหน้านี้ว่า หากฮิลลารี่มาล่ะก็ ได้กระทืบปูตินแน่นอน
เลือกทรัมป์มาต่างหากที่ถ่วงเวลาสงคราามมาได้นานขนาดนี้