แปลบทวิเคราะห์สถานการณ์สงครามในยูเครน (อ้างอิงจากทวิตเตอร์ Jomini of the West) วันที่ 31 มี.ค. (บทนี้จะเน้นสมรภูมิในจังหวัดคาร์คิฟกับภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครนเท่านั้น)

1. ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยสงครามชาวยูเครนมากกว่า 5.3 ล้านคน และอีก 6.5 ล้านคนในยูเครนกลายเป็นคนไร้ถิ่นฐานเพราะการลี้ภัยจากพื้นที่ที่เป็นแนวหน้า ด้านกองทัพรัสเซียยังคงโจมตีใส่เป้าหมายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานตามเมืองใหญ่ในยูเครนต่อไป ซึ่งสามารถเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามได้
2. สภาพอากาศในภูมิภาคดอนบาส คาดว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองผสมกับอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิประมาณ 17 องศาเซลเซียส ถึง 0 องศาเซลเซียส ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่บวกกับขวัญกำลังใจที่ตกต่ำ อาจทำให้ทหารรัสเซียในพื้นที่ที่เริ่มเสียเปรียบตัดสินใจล่าถอยมากขึ้น
3. แนวรบคาร์คิฟ-ดอนบาส (Kharkiv-Donbass Front) กองทัพรัสเซียสามารถยึดพื้นที่ได้เล็กน้อย บริเวณทางใต้ของเมืองอิซิอุม (Izium) (บริเวณตรงกลางแผนที่) ก่อนที่ฝ่ายยูเครนจะโจมตีโต้กลับ ทำให้การรุกของรัสเซียหยุดชะงัก (หากยูเครนเสียอิซิอุม จะทำให้ทัพรัสเซียทางเหนือกับทางตะวันออกสามารถเชื่อมทัพกันได้ และเสี่ยงที่ทัพรัสเซียจะอ้อมลงใต้ไปมาริอูโปล (Mariupol) และทำการโอบล้อมทัพยูเครนนับหมื่นนายในดอนบาสทั้งหมด)

จากแผนที่ ทางเหนือนั้นยูเครนสามารถยึดเมืองชูฮิฟ (Chuhuiv) คืนจากรัสเซียได้ และทำให้ทัพรัสเซียที่พยายามมุ่งลงใต้สู่อิซิอุมนั้นเสี่ยงจะถูกโจมตีโอบล้อมจากแนวหลัง ขณะที่ทางซ้ายล่างของแผนที่ ทัพยูเครนสามารถยึดเมืองโนโวโวรอนต์ซอฟกา (Novovorontsovka) คืนจากรัสเซีย และเริ่มตีโต้กลับทหารรัสเซีย ทางใต้ของครีไวรีห์ (Kryvyi Rih)
4. พื้นที่คาร์คิฟ (Kharkiv Area of Operation) ในเมืองคาร์คิฟ ทางเหนือของชูฮิฟ ทัพยูเครนสามารถยึดเขตชานเมืองของคาร์คิฟคืนจากรัสเซียได้ ไม่ว่าจะเป็นเดอร์ฮาชี (Derhachi) ทางเหนือ หรือโรฮัน (Rohan) ทางใต้ โดยเฉพาะโรฮันนั้นทำให้ทัพยูเครนในคาร์คิฟและชูฮิฟเชื่อมต่อกัน สามารถเสริมทัพให้กันและกันได้ ขณะที่ทัพรัสเซียบางส่วนถอนกำลังกลับเบลโกรอด (Belgorod) ในรัสเซีย เพื่อฟื้นฟูกำลังรบใหม่ คาดว่าทหารกลุ่มนี้จะถูกส่งต่อไปยังแนวรบดอนบาสทางตะวันออก

จากภาพจะเห็นชูฮิฟอยู่ทางขวาล่างของแผนที่
5. แนวป้องกันแม่น้ำโดเนตส์ (Donets River Line) กองทัพรัสเซียกลุ่มใหญ่จากทางเหนือพยายามทะลวงแนวป้องกันของยูเครนที่ล้อมกรอบอิซิอุม (ซ้ายบนของแผนที่) ทำให้ไม่สามารถยกกำลังใหญ่ไปสนับสนุนทัพรัสเซียบริเวณสมรภูมิเซเวโรโดเนตสก์ (Severodonetsk) (ทางขวาของแผนที่) ที่ทัพรัสเซียพยายามโอบล้อมทัพยูเครนนับพันในพื้นที่เอาไว้

จากแผนที่ จะเห็นแม่น้ำโดเนตส์ไหลผ่านยูเครนทางซ้ายบนของแผนที่ ไหลไปจนถึงทางขวา แม่น้ำดังกล่าวเป็นปราการธรรมชาติสำคัญที่ยูเครนได้วางแนวป้องกันการรุกของรัสเซียเอาไว้
6. ศึกเมืองมาริอูโปล (Siege of Mariupol) สภาพการต่อสู้ในเมืองเป็นไปอย่างดุเดือด คาดการณ์ว่าทหารยูเครนในเมืองน่าจะตั้งยันทัพรัสเซียไว้ได้อีกไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น แต่ด้วยความเสียหายจำนวนมากที่รัสเซียได้รับ จะทำให้ทัพรัสเซียในมาริอูโปลไม่สามารถเข้าร่วมรบในสมรภูมิอื่นๆ ได้ไปอีกระยะหนึ่ง

จากแผนที่ จะเห็นทัพรัสเซียวางแนวป้องกันตามเขตชานเมืองเอาไว้ คอยป้องกันไม่ให้ใครเข้า-ออกเมืองโดยง่าย ขณะที่ทัพรัสเซียพยายามเข้าตีจากทั้งตะวันตกและตะวันออกของเมือง หวังแยกเมืองออกเป็นสองส่วนเพื่อโอบล้อมและทำลายกองทัพยูเครนในเมืองโดยง่าย
7. ในด้านความสูญเสียนั้น แม้รัสเซียจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ทางยูเครนเองก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน แม้ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์และบรรดายานพาหนะที่ยึดได้จากรัสเซียจะสามารถทดแทนการขาดแคลนอาวุธหนักได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
8. หากว่าชาติตะวันตกไม่ทำการสนับสนุนยูเครนโดยการจัดหาอาวุธหนักที่ยูเครนต้องการเช่นรถถัง ยานเกราะ เครื่องบินรบ ฯลฯ อาจทำให้ยูเครนไม่สามารถทำการรุกต่อไปได้ (เพราะมีอาวุธหนักน้อยกว่ารัสเซีย)
9. ทั้งนี้ ยังไม่มีอะไรรับรองว่ารัสเซียจะยอมรับข้อเสนอของฝ่ายยูเครน (เรื่องการให้ชาติอื่นๆ เช่นสหรัฐเป็น Security Guarantor ให้ยูเครน และเรื่องดินแดนดอนบาส-ไครเมีย) รวมทั้งยังไม่มีอะไรรับรองว่าชาติตะวันตกจะยอมรับสนธิสัญญาของยูเครนเช่นกัน (เยอรมนีประกาศเสนอเป็น Security Guarantor ให้ยูเครน ในขณะที่อังกฤษแถลงว่าไม่เห็นด้วยกับสนธิสัญญาดังกล่าว)
10. จะไม่มีสันติภาพเกิดขึ้นตราบใดที่ดอนบาสและไครเมียยังเป็นข้อพิพาทระหว่างสองฝ่ายเช่นนี้ต่อไป และจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายยังไม่สนใจที่จะเจรจาความเรื่องดอนบาส-ไครเมียอย่างจริงจัง จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบในการรบ จนสามารถนำมาใช้เป็นแต้มต่อเจรจาต่อรองได้