อัพเดตข่าวยูเครน
1) นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) รมว.ต่างประเทศ และพลเอกเซอร์เกย์ รุดสกอย (Colonel General Sergei Rudskoi) ของรัสเซีย ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ณ ตอนนี้ เป้าหมายเฟสแรกของปฏิบัติการทางทหารในยูเครน นั่นคือการทำลายขีดความสามารถทางทหารของกองทัพยูเครน ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว และกำลังดำเนินการแผนเฟสสอง นั่นคือการควบคุมพื้นที่ในภูมิภาคดอนบาสทั้งหมด เพื่อสนับสนุนรัฐเอกราชโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งรัสเซียกล่าวว่าในปัจจุบัน กองทัพรัสเซียและรัฐเอกราชทั้งสองสามารถควบคุมพื้นที่ในจังหวัดโดเนตสก์ได้แล้วกว่า 54% และในจังหวัดลูฮันสก์มากถึง 93%
คำแถลงการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงท่าทีของรัสเซียที่เริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่รัสเซียมุ่งมั่นจะตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดในยูเครน (เห็นได้จากความพยายามในการบุกกรุงเคียฟตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา) มาเป็นการรับรองความมั่นคงในพื้นที่รัฐเอกราชโดเนตสก์และลูฮันสก์ สองรัฐหุ่นเชิดของรัสเซียเท่านั้น ซึ่งเป็นการยอมรับแบบอ้อมๆ ว่าปฏิบัติทางทหารของรัสเซียในพื้นที่ต่างๆ ของยูเครนนั้นล้มเหลว และรัสเซียได้เปลี่ยนเป้าหมายหลักจากกรุงเคียฟ เป็นภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกแทน
2) ในงานแถลงการณ์เดียวกัน นายลาฟรอฟยังได้ออกมาพูดอีกด้วยว่า ณ ปัจจุบัน ชาติตะวันตกกำลังทำสงครามเต็มรูปแบบกับรัสเซีย (Total War) และ “มีเป้าหมายเพื่อแบ่งแยกและทำลายล้างภาคเศรษฐกิจของรัสเซียและประเทศรัสเซียทั้งหมด”
นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียออกมาประกาศคำแถลงการณ์เรื่องสงครามในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าเป้าหมายของคำแถลงการณ์นั้นมิใช่เพื่อประกาศสงครามกับชาติตะวันตก แต่เป็นไปเพื่อปลุกกระแสเกลียดชังชาติตะวันตกในประเทศ เพื่อเรียกขวัญสร้างสามัคคีสำหรับคนในชาติ และเพื่อเป็นข้ออ้างบ่ายเบี่ยงความพ่ายแพ้ของกองทัพรัสเซียในยูเครนว่าเป็นฝีมือของชาติตะวันตก มากกว่าจะเป็นเพราะความไร้ประสิทธิภาพของกองทัพรัสเซียเอง
3) จำข่าวเก่าที่ผมเคยรายงานไปได้ไหมครับ ที่ว่าสหรัฐพิจารณาคว่ำบาตรการซื้อ-ขายทองคำกับรัสเซีย วานนี้มีประกาศออกมาชัดเจนแล้ว ว่าสหภาพยุโรปและประเทศกลุ่ม G7 (สหรัฐ แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี) จะทำการคว่ำบาตรการซื้อ-ขายทองคำกับรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างประเมินว่าเนื่องด้วยค่าเงินรูเบิลของรัสเซียที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก จะบีบให้รัสเซียต้องนำทองคำออกมาขายแลกสกุลเงินต่างชาติเพื่อให้สามารถทำการค้ากับต่างประเทศได้
กฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาห้ามบุคคล หรือนิติบุคคลทำการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนทองคำที่มาจากประเทศรัสเซีย ไม่ว่าในแบบกายภาพ (ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ) หรือแบบดิจิตอล (ซื้อ-ขายออนไลน์) รวมถึงกล่าวว่าจะมีบทลงโทษสำหรับ “คนกลาง” ที่ทำการซื้อ-ขายทองคำกับรัสเซีย และนำเงินมาซื้อ-ขายกับสหภาพยุโรป + G7 อีกทอดหนึ่ง (ในที่นี้คงหมายถึงจีน)
4) โปแลนด์ สโลวีเนีย และเช็กเกีย ได้ยื่นแผนสิบประการ (10-Points Plan) ในที่ประชุมของสหภาพยุโรป เพื่อเสนอเป็นแนวทางในการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยแผนสิบประการประกอบไปด้วย
1. ตัดช่องทางการเชื่อมต่อของธนาคารรัสเซียทุกแห่ง จากระบบ SWIFT (การคว่ำบาตรก่อนหน้านี้ทำการตัดธนาคารรายใหญ่ของรัสเซียออกจากระบบ SWIFT เท่านั้น)
2. วางนโยบายช่วยเหลือทหารรัสเซียที่ไม่ต้องการเข้าร่วมรบในสงครามอีกต่อไป
3. ยุติการโฆษณาชวนเชื่อและการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของรัสเซียในยุโรป เสรีภาพในการพูดไม่ได้หมายความว่ามีสิทธิ์ที่จะโกหกมดเท็จ (ชอบประโยคมากๆ เป็นการส่วนตัว)
4. ห้ามเรือรัสเซียทุกลำเข้าเทียบท่าในยุโรป
5. ห้ามการเดินทางเข้า-ออกรัสเซียผ่านทางภาคพื้นดิน (ประโยคนี้ค่อนข้างกำกวม ระหว่างห้ามการขนส่งสินค้าทางบก หรือว่าห้ามการเดินทางเข้า-ออกทุกรูปแบบ)
6. ทำการคว่ำบาตรภาคธุรกิจและแหล่งเงินของบรรดาชนชั้นนำในรัสเซีย
7. ยกเลิกการให้ VISA แก่ประชาชนรัสเซีย
8. ทำการคว่ำบาตรสมาชิกพรรครัฐบาล พรรคยูไนเต็ดรัสเซีย (United Russia) ทั้งหมด (ตรงส่วนสหรัฐนำร่องไปก่อนแล้ว)
9. คว่ำบาตรการส่งออกสินค้าด้านเทคโนโลยีทุกชนิดไปยังรัสเซีย
10. ยกเลิกสถานะการเป็นสมาชิกองค์กรความร่วมมือนานาชาติต่างๆ ของรัสเซีย
นอกจากแผนสิบประการแล้ว โปแลนด์ยังคงยืนยันข้อเสนอแนะของตนที่ต้องให้นาโต้ส่งทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจ “รักษาสันติภาพ” ในยูเครนอีกด้วย
ทั้งนี้ แผนสิบประการที่กล่าวมายังเป็นแค่ข้อเสนอแนะเท่านั้น ยังไม่มีอะไรรับประกันว่าสหภาพยุโรปจะเห็นด้วยกับแผนดังกล่าวของโปแลนด์ (อย่างน้อยที่สุด ผมมองว่าสหภาพยุโรปน่าจะเห็นด้วยกับแผนบางข้อ เช่นข้อ 1-2-3-6-8-9)
5) เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ กองกำลังยูเครนได้เริ่มรุกคืบเข้าไปในพื้นที่ของเมืองเคอร์สัน (Kherson) เมืองใหญ่ทางใต้ของยูเครนที่ตกอยู่ใต้การยึดครองของฝ่ายรัสเซียแล้ว หากเป็นจริงนับว่ารวดเร็วมากสำหรับการรุกโต้กลับของยูเครน หลังจากที่ไม่กี่วันก่อนพึ่งจะขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากเมืองมิโกลายิว (Mykolaiv)
หากการรุกคืบเข้ายึดเคอร์สันของยูเครนประสบความสำเร็จ จะทำให้ยูเครนสามารถส่งกำลังเข้าตีตลบหลังแนวส่งเสบียงของกองทัพรัสเซียที่ส่งไปยังแนวรบในเมืองมาริอูโปล (Mariupol) ที่กองทัพรัสเซียกำลังโอบล้อมเอาไว้ได้ อีกทั้งยังมีโอกาสเข้ายึดเมืองโนวา คาคอฟกา (Nova Kakhovka) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำของเคอร์สัน โดยเมืองดังกล่าวเป็นที่ตั้งของแอ่งเก็บน้ำจืดที่ถูกส่งต่อไปยังภูมิภาคไครเมียที่รัสเซียยึดจากยูเครนในปี 2014 และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัสเซียในสงครามครั้งนี้
แผนที่ประกอบแสดงพื้นที่ทางใต้ของยูเครน และโชว์ตำแหน่งเมืองเคอร์สัน (Kherson) มิโกลายิว (Mykolaiv) โนวา คาคอฟกา (Nova Kakhovka) และมาริอูโปล (Mariupol) (อยู่ทางขวาบน เหนือเมืองเบอร์เดียนสก์ (Berdyansk) ขึ้นไป)
