[quote/]
แบ่งครึ่งประเทศแบบเยอรมันสมัยก่อนหรือเกาหลีหรือเวียดนามที่โดนแบ่งหน่ะเหรอ??
---------------------------------------------------------
สงสัยอย่าง เพราะอ่านจากข้อ5 ย่อหน้าที่ 2 3 4 สรุปแล้ว ทำไมรัสเซีย
ถึงไปมีอิทธิพลในดินแดนต่างๆได้หล่ะ ถ้าในเมื่อ ตะวันตกบอกว่า รัสเซีย
มีไม่ดีสักอย่าง หรือว่าใช้วิธีล้างสมอง อ๊ะ!! ล้างสมอง!! นึกถึงกระทู้ของ
ท่านลูกสมุย
การแผ่อิทธิพลในต่างประเทศ ไม่ว่ากระทำโดยประเทศใด สามารถทำได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ ทางตรงก็เช่นการค้าระหว่างประเทศ ความร่วมมือทางทหาร ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเปิดพรมแดนเสรี การเป็นสมาชิกองค์การนานาชาติที่มีจุดประสงค์และเป้าหมายเดียวกัน ฯลฯ ทางอ้อมก็เช่นการเผยแพร่วัฒนธรรม การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในฝั่งตน การทูตในทางลับ หรือการสนับสนุนบุคคล นิติบุคคล และองค์กรในต่างประเทศ ฯลฯ
สำหรับทางฝั่งรัสเซีย นอกจากวิธีทางตรงที่เห็นได้ชัดในเรื่องเศรษฐกิจ (การส่ง-ขายแก็สธรรมชาติให้ยุโรป) และทางทหาร (การสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในสงครามกลางเมือง การรุกรานยูเครน) ด้านทางอ้อมรัสเซียจะเน้นใช้องค์กรมือที่สาม เช่นสำนักข่าวรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิ ฯลฯ เป็นตัวกลางติดต่อสร้างสัมพันธ์และเผยแพร่อิทธิพลในต่างประเทศ (สหรัฐและยุโรปเป็นเป้าหมายหลัก) โดยเป้าหมายหลักจะเป็นพรรคการเมืองหรือขบวนการทางการเมืองที่มีแนวคิดสุดโต่ง (ซ้ายจัดหรือขวาจัด) จุดประสงค์หลักคือสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายภายในประเทศดังกล่าว เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นสนใจแต่ปัญหาภายในประเทศเป็นหลัก มากกว่าจะมุ่งมาสนใจรัสเซีย ดังเช่นกรณีของอดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจใกล้ชิดกับรัสเซีย จากการเข้าไปลงทุนธุรกิจในรัสเซีย และการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ให้แก่มหาเศรษฐีรัสเซียในสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้นายทรัมป์ถูกโจมตีอย่างหนักเพราะอ่อนข้อให้กับรัสเซียมากเกินไป
อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 35 ของสงคราม
1. จำข่าวเก่า 2-3 วันที่แล้วที่ผมรายงานได้มั้ยครับ ว่า ปธน.มาครงของฝรั่งเศส ประกาศร่วมมือกับตุรกีและกรีซเพื่อหวังอพยพประชาชนยูเครนจำนวนกว่า 150,000 คนที่ยังติดอยู่ในเมืองมาริอูโปล (Mariupol) ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้วงล้อมของรัสเซียออกมา วานนี้มีข่าวความคืบหน้าออกมาครับ และตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ ปฏิบัติการดังกล่าวดูท่าจะเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเสียแล้ว
โฆษกทำเนียบรัฐบาลฝรั่งเศสและรัสเซีย ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องความคืบหน้ากรณีแผนอพยพ ซึ่งทั้งสองต่างบอกเหมือนกันว่า ปธน.มาครงได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ปธน.ปูตินในประเด็นดังกล่าวแล้ว ซึ่ง ปธน.ปูตินยินยอมให้มีการหยุดยิงหนึ่งวัน (ตรงกับวันนี้) เพื่อให้ประชาชนอพยพออกไปทางใต้ผ่านเมืองท่าเบอร์เดียนสก์ (Berdyansk) ที่รัสเซียควบคุมอยู่ ก่อนจะมุ่งหน้าต่อไปทางตะวันตกเพื่อเข้าสู่เมืองซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะติดต่อให้สภากาชาดสากล และสหประชาชาติเป็นผู้ดูแลการอพยพประชาชน และกำลังอยู่ในระหว่างรอคำยินยอมจากทางยูเครน แต่เพราะความกระชั้นชิดของเวลาในการอพยพ ทำให้แทบไม่มีทางเลยที่จะอพยพประชาชนมากกว่าแสนคนออกจากเมืองได้ทันภายในหนึ่งวัน แผนอพยพครั้งนี้จึงน่าจะล้มเหลว
ทั้งนี้ ทางฝ่ายรัสเซียได้บอกเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียจะไม่หยุดโจมตีมาริอูโปลจนกว่ากองทัพยูเครนในเมืองทั้งหมดจะยอมวางอาวุธ
2. นอร์เวย์ประกาศส่งอาวุธเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน เป็นอาวุธต่อต้านรถถังแบบ M72 LAW จำนวน 2,000 กระบอก หลังจากที่ทำการจัดส่งให้ยูเครนไปแล้ว 2,000 กระบอกก่อนหน้านี้
อีกประเทศหนึ่งที่ประกาศส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมคือสหรัฐ ซึ่ง ปธน.ไบเดนได้กล่าวระหว่างพูดคุยทางไกลกับ ปธน.เซเลนสกี้ ว่าเงินงบประมาณช่วยเหลือโดยตรง (Direct Budgetary Aid - การให้ความช่วยเหลือโดยการให้เงิน) จำนวน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐกำลังถูกส่งไปให้ยูเครนแล้ว
นอกจากนอร์เวย์และอเมริกาแล้ว เยอรมนียังประกาศส่งอาวุธเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน จำนวนมากกว่า 200 รายการ คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 308 ล้านยูโร ซึ่งประกอบไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์หลายรายการ เช่นเสื้อเกราะและหมวกกันกระสุนมูลค่ารวมทั้งหมด 80 ล้านยูโร ปืนพกมูลค่ารวม 40 ล้านยูโร ปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด 20 ม.ม. แบบ GAM-B01 จำนวน 6 กระบอก มูลค่ารวม 6 ล้านยูโร แต่โดยรวม มากกว่าครึ่งของรายการทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ด้านการตรวจจับและการสอดแนม เช่นโดรน กล้องมองกลางคืน เรดาร์ตรวจการภาคพื้นดิน และอื่นๆ อีกมาก
นอกจากความช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว เยอรมนียังประกาศว่าพวกเขาพร้อมจะเป็นประเทศผู้ให้หลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครน (Security Guarantors) ตามข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่ระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่กำลังดำเนินการเจรจากันอยู่
3. มีรายงานการเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ราว 100 ตร.กม. ในพื้นที่หวงห้ามเชอร์โนบิล (Chernobyl Exclusion Zone) ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากฝีมือของทหารรัสเซีย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย (อาจเป็นความไม่ระมัดระวังในระหว่างการตั้งแคมป์ในป่า)
ทั้งนี้ มีรายงานการเกิดไฟป่าในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. แล้ว ซึ่งตอนนั้นทางยูเครนบอกว่าพวกเขาไม่สามารถดับไฟได้เพราะกองทัพรัสเซียคอยขัดขวางการทำงานของพวกเขา ทำให้ตอนนี้ไฟป่าลามกินพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่าเดิม อย่างไรก็ดี เคยเกิดไฟป่าลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในเดือน เม.ย. ปี 2020 ซึ่งครั้งนั้นไฟป่ากินพื้นที่ไปทั้งหมด 470 ตร.กม. และแม้จะมีสารกัมมันตรังสีเพิ่มขึ้นในอากาศ แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายมากเกินไป