[quote/]
ผมมองว่าเงินของกองทัพมดก็เหมือนกับกระแสน้ำตามตำราตะวันตก ต้องทำให้เงินไหลไปให้วนรอบมากที่สุด แบบที่เมือ่ก่อนมี"เงินไหลไปให้ชุมชน"เป็นเพลงนั่นล่ะครับ[quote/]
ประเด็นคืออเมริกามีการหลอกลวงคนด้วยอเมริกันดรีมส์ท่านสีก็พยายามหลอกตามด้วย ไชนีสดรีมส์แต่ไม่เวิร์กนี่ครับ
เห็นท่านบ่นอยู่ว่า ท่านสีไม่ชอบพวกเศรษฐีที่ไปต่างประเทศถึงกับพูดเป็นนโยบายเลย?
ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคเลยไม่รุ้รายละเอียด ทำได้แค่จจับข่าวที่ออกมาแบบจับแพะชนแกะ
[quote/]
ผมมองว่าที่ท่านว่าคือ intregation การควบรวบเทคเสียมากกว่าน่ะครับ
ซึ่งอย่างที่ผมบอกเรือ่งการจดสิทธิบัตร ผมเจอเคสหนึ่ง จะไปจดต้องเทียบกับอเมริกาหนึ่งชิ้น จีนสามชิ้น ไทยหนึ่งชิ้น ว่าขั้นตอนการประดิษฐ์นั้นสูงกว่าถึงจะจดได้
ผมเชื่อว่าจีนแค่พัฒนาให้ชนชนกลางเท่าเอมริกาไม่ต้องเหนือกว่าก็จะแซงหน้าอเมริกาแล้วด้วยประชากรล้วนๆ
ปัญหาคือ ชนชั้นกลาง นึกนิสัยยตัวท่านเองก็ได้ครับ
อะไรที่ได้ประโยชน์จะทำอะไรที่เสียประโยชน์ก็จะเริ่มไม่พอใจแล้ว
พอมีทางออก มีทรัพยากร คนก็จะเริ่มคิดอะไรมากขึ้น
อเมริกามันปกครองด้วยความวุ่นวายเพราะอย่างนี้ล่ะครับ เศรษฐีมันมีเยอะที่ชอบงอแงบ้าบอในประเทศ
จีนเขาพัฒนาให้ทุกคนที่ความสามารถถึงครับ
คือเปิดสอบปรกติในการคัดเลือกเรียนต่อรึทำงาน
แต่เนื่องด้วยว่าการจะสอบชนะคนอื่นในประเทศที่มีประชากรพันล้าน
แล้วแทบทุกครอบครัวก็ขับดันขู่เข็นแข็งขันด้านการศึกษาของลูกอย่างบ้าคลั่ง
ทำให้ชนชั้นล่างจะเสียเปรียบที่ไม่สามารถผลักดัน
หรือส่งเสริมได้เต็มที่
ดูมูลค่า รร.กวดวิชาในจีนสิ พอๆกับงบประมาณประจำปีประเทศไทยเลย
แต่ก็แน่นอนว่าพอคนมุ่งด้านการแข่งจนเต็มหัวละ
ไอเดียต่างๆมันไม่มีเวลาสร้างขึ้นมา
แต่ตอนนี้ จีนเริ่มพยายามลดความกดดันต่างๆในชาติลง
แต่พวกนักวิจัย เด็กเรียนสุดโต่ง ก็ยังมีชีวิตอยู่
กลายเป็น เด็กรุ่นถัดไปจะมีอิสระในความคิดขึ้น
แล้วมีความคิดสร้างสรรค์
แล้วมีคนผลิตเทคโนโลยีอยู่ด้วย
ส่วนเมกาต้องบอกว่าเหมือนกดสูตรโกง
มันมีเศรษฐกิจดีที่สุด แล้วออกงบวิจัยกับงบดึงคนเก่งเข้าประเทศ
อย่างอีลอนถ้าจำไม่ผิด แทบจะไม่ถือว่าเป็นผลผลิตจากเมกาซะทีเดียว
เข้าข่ายดูดคนเก่งเข้าประเทศ
คือแกโตที่แอฟริกา แล้วเป็นลูกครึ่ง แอฟริกาแคนนาดา
แต่มาเข้ามหาลัยที่อเมริกา
สุดท้ายเลยได้เป็นคนอเมริการาวๆอายุ 30 ปีได้มั้ง
คือเทียบกับฟุตบอลคือ อเมริกาก็เหมือนลีก อังกฤษ
คือไม่ได้ว่าปั้นนักเตะได้เทพอะไรขนาดนั้นหรอก
แต่ลีกนี้มันรวยน่ะ คนเก่งก็ย้ายมาอยู่
ทั้งนักเตะ ทั้งสตาฟ กลายเป็นลีกที่ผลงานดีน่าจะดีสุดในยุโรป
ทีมชาติก็เริ่มเต็มไปด้วยตัวเก่งๆ ผลงานก็ดีขึ้น
ทั้งที่แต่ก่อนสู้ลีกอิตาลีกับสเปนไม่ได้ด้วยซ้ำ
คือฟุตบอลมันมีโควต้าต่างชาติ ไม่ว่าจะนักเตะหรือเจ้าของสโมสร
ตอนหลังลีกอังกฤษยอมในทุนต่างชาติมาซื้อทีมได้
เสี่ยหมีเลยเข้ามาแล้วทุ่มๆ จนซื้อความสำเร็จได้ด้วยเงิน
กลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเศรษฐี
จนทีมในอังกฤษ โดนกลุ่มทุนไล่ซื้อๆเรียบ
ไม่ว่าจะนายทุนจาก อเมริกา รัสเซีย ไทย แม่กระทั่งกลุ่ มสุลต่าน
นักเตะก็จากแต่ก่อนต่างชาติลงได้ 3 คน
ต่อมาก็เพิ่ม eu ได้อีก
ชาติอื่นให้นักเตะต่างชาติลงได้ ไม่เกินครึ่งทีม
แต่ลีกอังกฤษ ลงได้หมด
กลายเป็นช่วงนึง ลีกอังกฤษแทบไม่เจอตัวจริงเป็นคนอังกฤษเลย
แต่พอเวลาผ่านไป ทีมเล็กทีมน้อยที่ได้ตังเพิ่มจากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์
กับพวกขายนักเตะให้ทีมรวยๆ
ระบบการปั้นนักเตะก็มีเงินมาสนับสนุนเพิ่ม ไม่ว่าจะสนามหรืออุปกรณ์ ก็ดีขึ้น
ลีกมีหลากสไตล์มากขึ้น นักเตะอังกฤษก็ได้พัฒนามากขึ้น
ทีมชาติก็คัดตัวเลือกเล่นได้ง่ายขึ้น
ผลงานทีมสโมสรดีขึ้น ทีมชาติดีขึ้น
จากที่อังกฤษเต็มไปด้วยพวกบ้าพลัง ส่งบอลยาวให้โหม่ง
ก็มีพวกพรสวรรค์มากขึ้น ไม่ว่าจะบ้าเลี้ยงหรือ เล่นระบบต่อบอลสั้นลิงชิงบอล
ในขณะที่อิตาลีจะอนุรักษ์นิยมมากกว่า ตอนนี้ตกรอบบอลโลกไปละ
ที่ลีกอังกฤษมาถึงจุดนี้ได้เพราะระบบทุนที่เปิดกว้างกว่า
แล้วให้คนเก่งต่างชาติมาทำงานได้ง่าย
คนในประเทศก็ต้องแข่งขันกับพวกหัวกะทิของโลก
ซึ่งอเมริกาก็เหมือนๆกัน ไอ้พวกเทพๆ เป็นคนอเมริกันก็จริงแต่พอไปดูประวัติ ไม่ย้ายเข้ามาก็ลูกครึ่งเพียบ
จ็อบ ก็พ่อเป็นคนซีเรีย แม่เป็นสวิส
แลรี่เพจ คนก่อตั้ง กูเกิ้ล แม่ก็ยิว
เซอเกรบริน คนร่วมก็รัสเซียไม่สิโซเวียต
เจฟ เจ้าของอเมซอน เชื้อสาย เดนมาร์ค
บิลเกท เชื้อสายอังกฤษเยอร์มัน ไอริช
ซึ่งหลายคนก็พ่อแม่หรือปู่ย่าย้ายมาเมกาก่อนจะมีลูก
บางคนก็ย้ายมาตอนโต
แลรี่ เอลิสัน ซีอีโอ oracle แม่เป็นยิว พ่อเป็นลูกครึ่งอิตาลีเมกา
ที่ไล่ๆมา top 10 คนรวยที่สุดในโลกที่เป็นคนอเมริกานะ
เจฟ กับ บิลเกท ยังนับเป็นเมกาได้ค่อนข้างเต็มปาก
แต่อีลอน กับบริน นี่ คนนึงนี่เกิดในมอสโควเลย อีกคนก็แอฟริใต้
เรียกว่านักธุรกิจอันดับแรกๆของเมกา
เกิดจากนโยบาย รับคนต่างชาติเข้าประเทศชัดๆ