[quote/]
- เอาน่า ถ้าให้ว่าง่ายๆ ก็อารมณ์ประมาณ"การสร้างภาพ" นักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ใช้ตำแหน่งมิชอบ สร้างผลประโยชน์ โกงเงิน หรือเล่นนอกรอบ แต่ไม่มีใครรู้ทำเงินได้เป็นหมื่นล้าน บริจาคพันล้านทำบุญ ทำกุศล ออกเงินประกันตัว ลดเสียงบ่นด่า บังหน้าหน่อย
- เพราะอเมริการู้ไงว่าถ้าไม่ใจใหญ่ใจป้ำหน่อย การจะหาแนวร่วมในประชาคมโลกมันก็ลำบาก เรื่องระดับชาติใครเขาไม่เสี่ยงช่วยคนด้วยแค่อุดมคติหรอกครับ ทรัมป์อาจชัดเจนกว่าไบเดนแต่ไบเดนก็ช่วยหวังผลประโยชน์เหมือนกัน
- ก็ยอมรับ ถึงเป็นการสร้างภาพ แต่ก็ระดับลูกพี่นาโต้และทำตัวเป็นผู้นำโลก บริจาคให้ยูเอ็นขนาดนั้นก็ควร
- เพราะถึงยูเอ็นจะไม่แสดงผลงานต้องตาอเมริกา แต่ปธน.ที่ผ่านมาก็พอรู้ว่ามันก็ทำให้อเมริกามีสิทธิมีเสียงกว่าใครในด้านอื่นด้วย
- แต่จะเสียเอาตอนนี้แหละ เหลือแต่ภาพลักษณ์หาผลประโยชน์ ไม่แสร้งสร้างภาพกันแล้ว
- แต่ทรัมป์นี่สายนักธุรกิจแบบไม่เขินอายปิดบังเลย เหมือนแนวเทคโอเวอร์บริษัท ตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นซึ่งก็มักคือตัดคู่ค้าเก่าแก่รายเล็กที่ไม่จำเป็นลดพนักงานเก่าแก่และลดสวัสดิการพนักงานลงนั่นแล
UN ไม่ใช่ผลงานไม่เข้าตา อเมริกา ในความเห็นผมคือ
อเมริกาเป็นผู้บริจาครายใหญ่ อย่างไรซะก็ควรเกรงใจอเมริกาบ้าง
งบ 1ใน4 มาจาก อเมริกานะ แต่ดูทำตัวกันสิ
ญีาปุ่นโดนจุ้นจ้านเรื่อง ประเพณีราชวงศ์จน ญี่ปุ่นประกาศว่าพิจจารณาเงินบริจาคUN
สมัยก่อนเคยได้ยินว่า ณี่ปุ่น ผู้บริจาค อันดับ4เลยนะ
WHO นี่ก็พอกันจำไม่ผิด อเมริกาบริจากอันดับ1 รวมๆ 1,200 ล้าน USD ต่อปี
คิดเป็ 24-25 %ของงบทั้งหมด แล้ว ประธานWHO ยังอุตส่าไปกวนตีน อีก พอโดนตัดเงินก็อย่าร้อง
ผมมองว่าองค์กรระหว่างประเทศเป็นเหมือนกาว หรือนำมัน ที่เชื่อมระสาน หล่อลื่นลดการขัดเเย้งระหว่างกัน แต่นี่ทำอย่างกับตัวเองเป็นคนชี้ผิดชี้ถูกได้ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่ต้องสนใจใคร สุดท้าย เละเอง ลืมไปมั้งใครออกตังให้องค์กรณ์
สงครามยูเครน จำไม่ผิด อเมริการ จ่ายไป ราวๆ 70-80%ของทั้งหมด ยุโรปขี้เหนียวเกินไม่ยอมออก
ทั้งๆ ที่มีสัญญาช่วยรบถ้ามีสงครามในยุเครน จริงๆ อเมริกายุโรป ทุ่มตั้งแต่ปีแรก ก็เรียบร้อย เรื่องมากกันเอง (เหตุผลหลักๆ น่าจะยังไม่ไว้ใจยูเครน เพราะเพิ่งย้ายข้างมาอยู่ฝั่งเนโต้
ตอนนี้พออเมริกางด ออกเงินล่ะทำเป็นต้องหนุนยูเครน มันจำเป็น
จำเป็นหรือว่าไม่มีทางเลือกเเล้ว ผมบอกหลายรอบล่ะว่า อเมริกาว่าแย่ล่ะ ระวังยุโรปไว้ พวกนี้ชิบหายกว่าอเมริกาเยอะ แค่ไม่มีอำนาจเท่า ถ้ามีอำนาจเท่สอเมริกกา โลกชิบหายกว่านี้กันหลายเท่า
มัสก์กำลังรบกับพวกพนักงานของรัฐในประเทศ ส่วนทรัมปืรบนอกประเทศ
ผมว่าสองคนนี้บ้าบอแต่เข้ากันดีอย่าปงระหลาด
อาจจะเพราะมาจากสายซีอีโอเมหือนกันและทรัมป์เคยเป้นเพื่อนกับวินซ์แห่ง wwe มาก่อน
เลยน่าจะเข้ากับคนนิสัยบ้าบอได้ดีกว่าที่เราคิด
แบบมาตรฐานการบริหารหรือบริษัท
ceo ทรัปม์ดูแลนโยบายกระทืบคนนอกประเทศ
cfo มัสกื ดูแลภายในกระทืบคนในประเทศ
ราชการในอเมริกามันเละมานานแล้วครับ ทรั้มมันถึง ต้องล้างบาง
โดยเอาอีลอนมาโดยเฉพาะ ผลงานการล้างบาง ใน ทวิสไง
ล่าผอ. FBI คนใหม่ นี่ทำเอาเดโมแครตร้อนตูดกันทุกคน เพราะคนของทรัมป์นี่มากะล้างบาง FBI โดยเฉพาะ เพราะมาการใช้ เจ้าหน้า FBI เพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ซึ่ฃพี่แกประกาศรอไว้แล้วว่า ใครมีส่วนร่วมกับเรื่องเหล่านั้น เขาจะไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสั้น
ระบบราชการภายในเน่าเอาการ หลักสูตรสอนเรื่อง LGBT เป็นหลังสูตรระดับชาตินะครับ บังคับเรียนตั้งแต่ประถม
ทรั้มป์แม่งยุบกระทรวงทิ้งเลยนั่นแหละ ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ต้องล้างบางนะ
ผมนึงถึงคดีเจ้สพ่อเฮโรอีน ที่โดนจับสมัยก่อน ฝ่ายตำรวจเสนอว่า ถ้าให้รายชื่อคนรับสินบน ฉันจะช่วยแกสู้คดี เพราะยังไงก็ไม่รอด สรุปยอมให้รายชื่อ 70%ของกรมตำรวจเลยนะที่รับสินบน ส่วนเจ้สพ่อค้ายา ได้โทษต่ำสุดติดคุกราวๆ 10กว่าปีเท่านั้น
ผมไม่ได้บอกว่า อีลอนมันไล่คนออกได้แบบนั้น เพราะมันผิดกฏหมายแรงงาน พี่แกโดนฟ้องไปหลายหน แถมแพ้คดี ด้วยนะ แต่สุดท้ายยังไงข้าราชการอเมริกา ต้องโดนล้างไพ่อยู่ดีนั่นแหละ
มุขMCU มันเป็นทางเลือกที่ไม่อาจเลี่ยง