แลนบริจนี่โคตรไร้สาระ แต่ถ้าทำเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีท่าเรือใหญ่พร้อมส่งไปตะวันตกแล้วทำรถไฟดีๆพิเศษลากจากไทยไปจีนฮองกง จริงอยากไปเกาหลีใต้แต่ติดเกาหลีเหนือ ทำเป็นท่าเรือที่พร้อมส่งของให้จีนไปยุโรปและแอฟริกา โดยเราต้องขอผลประโยชน์ทางภาษีหรืออะไรก็ว่าไป คือถ้าเขาจะถ่ายของลงแล้วก็ส่งทางรถไฟไปเลยซิฟะ ลงด้านนึงขึ้นอีกด้านแม่งคิดอะไรความเสี่ยงจากการยกขึ้นยกลงอีก ทำท่าเรือใหญ่พร้อมรับฝั่งอันดามันพอ ฝั่งอ่าวไทยไม่จำเป็นใช้ท่าเรือตรงชลบุรีแทนแล้วต่อด้วยรถไฟมา ถ้าเรือเขาไปรับของที่เวียดนามหรือจีน หรืออะไรได้ เขาจะต้องมาลงของที่ท่าเรือฝั่งอันดามันเรา ส่วนแถวท่าเรือก็เขตอุตสาหกรรมพิเศษ สร้างเป็นเมืองใหญ่ กระจายรายได้ มันจะได้ผลทางยุทธศาสตร์กว่า และการเมืองระหว่างประเทศที่เราจะแดกจากการขึ้นของลงของระยะสั้นๆ
จีนภาคกลางมันทะเลทรายไม่มีคน อินเดียผ่านอาหรับเยอะรถไฟมาอันตราย ลงที่บ้านเรามีช่องทางผ่านลาวไปจีนอยู่แล้ว แค่ไปดีลให้ไปทางเวียดนามกัมพูชาด้วย ได้ผลประโยชน์หลายประเทศแล้วเราจะมีอำนาจต่อรองกับเขาด้วย ท่าเรือนี้ผลประโยชน์ร่วมกัน
จีนลาวไทย ลงทะเลตะวันตกน่ะมันจบแล้ว
จีนพม่า ลงทะเลสั้นกว่าและทำไปแล้ว
จีนสนแค่ จีนลาวไทยมาเล สิงคโปร์
แลนดบริจ ตอนแรกเห็นด้วยบ้างส่วน
เเต่พอไปฟังส่ย เดินเรือ เขาอธิบายมาคือ ไม่น่าลงทุนทำ
ได้ข่าวว่า ไม่มีประเทศไหนมาร่วมทุนด้วย แถมเงื่อนำขการขนส่ง(ถ้าทำเสร็จ)คือ พ่องเมิงเหอะใครจะ มาใช้งานวะ
สรุปตามความเห็นตอนนึ้คือโครงการส่งเจ้งผลาญเงินเปล่าๆ แบบสนามบินนานาชาติของศรีลังกา ที่ทำเสร็จดันไม่มีคนมาใช้อย่างที่หวังไว้ เจ๊งยับ
ก็แบบำอ้ที่ลุงแกทพไว้เปิดไม่เก็บภาษีสินค้าจีน ตอนนี้รายย่อยไทยตายเเทบหมด เจอจีนเเม่งเอามาขายเอง
หรือนิคมที่ไหนสักที่ ขนาด คอลุัมนิสสายอวยจีน ยังว่าไว้ก่อนหน้าว่าอย่าไปทำเลย ผลคือยับเยินตามที่เขาคาดไว้
เปิดมาแล้วเศรษฐกิจไม่ได้ดุงหวังแถม การสนับสนุนภาครัฐไม่ต่อเนื่อง ชิบหายกันไปดิ
แลนบริด ผมว่าเริ่มทะเเม่งๆ มากกว่า
เรื่องภาษี อย่าว่าแต่อันนี้เลย นู่นค่าขนส่งทางเรือเราเสียเปรียบจีนมา 50 ปี ยังไม่แก้กันเลย
ส่วนเรื่องไม่มีคนทำ นักลงทุนระดับนั้น คงไม่มานั่งฟังรายงานที่หน่วยงานรัฐทำมา แล้วทุ่มหมดตัวขนาดนั้นหรอกถ้าไม่มั่นใจ
ตอนนี้เท่าที่ฟังข่าว มี บ. สนใจเยอะนะ ตอนนี้คือส่งคนมาดูมาเก็บข้อมูลจริงอยู่
เขาจะทำหรือไม่ยังไม่สามารถฟันธง
ที่บอกไม่สนใจน่ะ มีแต่ข่าวฝั่งด่า
[quote/]
อีกข้อนึงเกี่ยวกับแลนด์บริดจ์ ตอนประชุมกันในกรรมาธิการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในรายงานมันไม่มีท่อส่งน้ำมัน
แต่ตอนคุณเศรษฐาไปพูดที่ญี่ปุ่นหรืออะไรเนี่ยแหละ กลับบอกว่ามีท่อส่งน้ำมัน ตรงนี้แหละที่ผมว่ามันแปลกๆ
ถ้าจะทำ VO หรือ Provisional Sum ที่เป็น Infra ใหญ่ขนาดนี้ ก็ควรจะเอากลับมาทำรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ใหม่นะ
เพราะท่อส่งน้ำมันก็ไม่ใช่น้อยๆเหมือนกัน
....................
จริงๆมีอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องทำแลนด์บริดจ์แต่สามารถทำให้คล้ายแลนด์บริดจ์ได้จากของที่มีอยู่แล้ว คือ ท่าเรือทวาย
คราวที่แล้วที่มันเจ๊งกันส่วนหนึ่งรัฐไทยสนับสนุนครึ่งๆกลางๆ และพม่าดันรัฐประหารด้วย
แต่รัฐไทยจะกล้าแทรกแซงการเมืองพม่า ณ ตอนนี้หรือเปล่า จริงๆตอนนี้เป็นโอกาสสำคัญเลย แต่ใจถึงพอหรือเปล่า
เรื่องรายละเอียดน่ะ ให้สรุปเลย เขาทำไม่ทัน
ถ้าจะทำครบ อาจต้องใช้เวลาอีก สิบๆปีกว่าจะเสร็จ
แถมทำเสร็จ เอกชนก็อาจไม่ใช้ส่วนนี้
เพราะงั้นไปคุยเลยแล้วใครสนใจก็ลงมาดูแล้วค่อยคุยรายละเอียดทีหลัง
-----------
ถามว่าทำไม รบ. เร่งจะทำ เพราะถ้าไม่เดินหน้า รบ.นี้
ทั้งแลนด์บริจ ทั้งคลองไทย อีก 50 ปีก็ไม่ได้ทำ
เพราะมาเลเซียเริ่มทำไปแล้ว ระยะทางเขาทั้งทางทะเลและบกก็ไกลกว่าเรา แถมเขาติดช่องแคบมะละกาอยู่แล้ว
ถ้าวัดความคุ้มค่าทำไมเขาต้องทำ ทำไมต้องพัฒนาท่าเรือ 2 ฝั่ง แล้วทำรถไฟเชื่อม
ทั้งที่มีท่าเรือ 2 ฝั่งอยู่แล้ว แค่พัฒนาท่าเรือฝั่งเดียวแล้ว ใช้ช่องแคบมะละกาต่อไม่ง่ายกว่าหรอ
ตอนนี้คนฝั่งค้านกำลังดูถูกมาเลเซียเลยนะนั่น
แล้วยังด่ากลุ่มทักกี้ว่าโง่เชื่อเอกสารฝั่งเดียว
แถมสนับสนุนผลประโยชน์ต่างชาติ
ด้วยการกลัวว่าต่างชาติจะขาดทุน
ดูอย่างช็อปปี้ กับลาซาด้าสิ ขาดทุนรัวๆยาวมากี่ปีเขาก็ยังทำ
แต่ดูสิ ไทยขาดดุลจีนมหาศาลราว 1.3 ล้านๆ
จากแต่ก่อนกี่ปีไม่แน่ใจไม่ถึง 5 แสนล้าน
แต่ก่อนพ่อค้าไทยไปจีนแล้วเอาสินค้ามาขาย
ปัจจุบัน อย่าว่าแต่ไปจีนเลย พ่อค้าแม่ค้าจีนมาอยู่ไทยเลย
เพราะงั้นอย่าไปกลัวต่างชาติจะขาดทุนเล้ย
เผลอๆบางประเทศ ขาดทุนก็ทำ เพราะมีเหตุการณ์บังคับ
ส่วนเรื่องที่จะไม่มีคนใช้
มีแน่นอนเพราะถ้าต่างชาติไม่ใช้ไทยก็ต้องใช้
มีคนมาทำระบบขนส่งให้เราไม่ดียังไง
หรืออยากให้ บ.ไทยขนส่งผ่านช่องแคบไปตลอด
พอค่าน้ำมันแพงเพราะใช้ตัวเลขสิงคโปร์ก็บ่นกัน
ก็เขานำเข้าส่งผ่านสิงคโปร์นิ เขาใช้ราคานั้นก็ดีเท่าไหร่ละ จริงๆต้องบวกค่าเดินทางจากสิงคโปร์ด้วย
ไทยนำเข้าเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่ยอดราวๆครึ่งนึงของรายได้ ptt หรือก็คือ ค่าขนส่งมีผลแน่นอน
หรือก็คือแค่ลดค่าผ่านทางและขนส่ง
แค่ 1% จากค่านำเข้าก็หมื่นล้านแล้ว
แล้วยังสินค่าขนส่งออกนำเข้าเราอีก
ถ้ารวม ตะวันออกกลาง อินเดีย ยุโรป แแฟริกา
นับแค่นี้ไทยก็ค้าขายไปราวๆ 4 ล้านๆต่อปี
สมมุติลดค่าขนส่งได้ราวๆ 1% ของยอดค้าขายก็ 4 หมื่นล้านต่อปี 25 ปีก็ 1 ล้านๆ
ส่วนยอดค้าขายรวมไทยราวๆ 20 ล้านๆ มันมีไปตะวันออกด้วย
แต่ค่าขนส่งจริงที่ลดลงอาจมีสัดส่วนต่ำกว่า 1%
แต่ก็อาจชดเชยจากลูกค้าจากต่างประเทศที่ต้องการผ่านทาง
แต่ปรกติสินค้าเกษตร โครตหนัก แต่ราคาถูก
พอเอาไปวางขายในต่างประเทศราคาก็พุ่งไป 5-10 เท่าได้สบาย
ถามว่าค่าขนส่งมันควรเท่าไหร่ล่ะ
อย่างกดจาก แมพจากชลบุรีไปอิตาลี จะราวๆ 1.2 หมื่นกม.
แต่ถ้าผ่านแลนบริจ จะราวๆ 1 หมื่น กม.
ลดระยะทางได้ ราวๆ 20%
แต่ถ้าไปแค่ศรีลังกา ลดระยะทางได้ ราวๆ 40-50%
คือนี่นับแค่ใกล้ๆก็ยอด 4 ล้านๆ สมมุติค่าขนส่งคิดเป็น 10% ของมูลค่า ลดระยะทางคิดเป็น 20% คิดเป็นถูกลงครึ่งนึงของระยะทางที่ลดลง ก็เป็น 1% ของยอดค้าขาย
4 ล้านๆ ก็ 4 หมื่นล้านต่อปี 25 ปี คืนทุน
นี่คือค้าขายแค่ที่ไทยมีอยู่ละ ตัวเลขหยาบๆยังมีลุ้นเลย
ถ้าทำดีๆมันอาจจะคุ้มก็ได้
ส่วนค่าขนขึ้นลง อันนีัถ้าสินค้าออกมาจากชลบุรี อาจจะแพง
แต่ถ้าไปสร้างนิคมอุตที่ภาคใต้ล่ะ
รถจีนผลิตในไทยจะส่งซาอุงี้
สรุปยังไงไทยก็ควรต้องสร้างท่าเรือฝั่งอันดามันเพื่อส่งของ
แล้วต้องทำทางรถไฟเชื่อมไปยังนิคมอุตสาหกรรม หรือท่าเรือฝั่งอ่าวไทย
แต่เราไม่ควรหลอกต่างชาติมาลงทุน เราควรเอาภาษีมาลงทุนเอง 100% แล้วขาดทุนไป
หรือรอครบ 50 ปีป่านนั้นคงคุ้มค่าแล้ว ค่อยเริ่มทำ