เมื่อวานนี้ผมไม่ได้มาอัพเดตข่าว เพราะว่าไม่มีข่าวที่สำคัญหรือว่าน่าสนใจพอ ผมเลยถือโอกาสอู้ซะเลย

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 95 ของสงคราม Part 1
1. ยูเครนยังคงได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ นายโอเล็กซีย์ เรสนิคอฟ (Oleksii Reznikov) รมว.กลาโหมยูเครน ออกมากล่าวว่ายูเครนได้รับมิสไซล์ต่อต้านเรือผิวน้ำรุ่น Harpoon จากเดนมาร์ค และปืนใหญ่อัตตาจรรุ่น M109 Paladin จากสหรัฐแล้วเรียบร้อย
สำหรับมิสไซล์ต่อต้านเรือผิวน้ำแบบ Harpoon ที่ได้รับจากเดนมาร์คนั้น เป็นรุ่นฐานยิงป้องกันชายฝั่ง (Land-Based Coastal Defense) รองรับการยิงมิสไซล์รุ่น RGM-84L-4 Harpoon Block II ติดตั้งหัวรบขนาด 220 กก. ระยะยิงไกลถึง 120 กม. เทียบกับ R-360 Neptune ที่ยูเครนใช้ยิงเรือลาดตระเวน Moskva ของรัสเซียจมไปเมื่อเดือนที่แล้ว Neptune มีระยะยิงไกลกว่าที่ 280 กม. แต่มีน้ำหนักหัวรบเพียง 150 กก. ทำให้ Harpoon มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่า แต่ระยะยิงสั้นกว่ามาก
ด้านปืนใหญ่อัตตาจร M109 Paladin นั้น ถือว่าน่าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะสหรัฐไม่เคยแถลงการณ์ว่าจะส่งมอบปืนใหญ่ Paladin ให้แก่ยูเครน แต่เมื่อดูจากการที่ยูเครนได้รับมอบปืนใหญ่อัตตาจรแบบ PzH 2000 จากเนเธอร์แลนด์และเยอรมนี และปืนใหญ่อัตตาจรแบบ CAESAR จากฝรั่งเศสแล้ว ก็ไม่น่าประหลาดใจนักที่สหรัฐจะมอบ Paladin ให้แก่ยูเครน
นอกจากอาวุธชิ้นใหญ่จากชาติพันธมิตร อีกความช่วยเหลือหนึ่งที่น่าประทับใจไม่น้อยคือกิจกรรมระดมทุนในประเทศลิธัวเนีย ที่ประชาชนร่วมกันลงขันเพื่อหาเงินสำหรับซื้อโดรนติดอาวุธ TB-2 Bayraktar จากบริษัท Baykar Technology ของตุรกี ซึ่งปัจจุบันกิจกรรมดังกล่าวสามารถระดมทุนได้มากถึง 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่ามากเพียงพอจะซื้อโดรน Bayraktar แบบตัวเปล่า ไม่มีอาวุธติดตั้งได้ 1-2 ลำแล้ว
2. ทางด้านความสูญเสียจากสงคราม มีรายงานจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ออกมาว่า จนถึงตอนนี้ มีประชาชนยูเครนเสียชีวิตจากสงครามไปแล้วราว 4,031 ราย ซึ่งในที่นี้มีเด็กและเยาวชนรวมอยู่ด้วยเกือบ 200 ราย
อย่างไรก็ดี การประเมินจาก OHCHR นั้นเป็นเพียงการประเมินขั้นต่ำ โดยอ้างอิงจากข้อมูลหลักฐานที่สามารถยืนยันได้แน่ชัดเป็นหลัก ทำให้ OHCHR ไม่ได้นับรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตจากพื้นที่สู้รบเอาไว้ด้วย ยังไม่นับรวมถึงข้อมูลจากพื้นที่ยึดครองของกองทัพรัสเซีย ซึ่งทาง OHCHR และผู้แทนจากนานาชาติแทบไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายรัสเซีย จึงเชื่อได้ว่าตัวเลขจริงจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนเยอะกว่านี้มาก
3. ทางด้านสภาพการณ์ของกองทัพรัสเซียก็ดูจะอยู่ในภาวะย่ำแย่ เนื่องจากไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาดูมาของรัสเซียได้ลงมติรับร่างกฎหมายใหม่ ขยายเพดานอายุสำหรับผู้มีสิทธิ์สมัครเป็นทหารได้ จาก 40 ขยับขึ้นไปถึง 50 ปี เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับกฎหมายการรับสมัครทหารฉบับเดิม กำหนดไว้ว่า กองทัพอนุญาตให้เฉพาะผู้มีสัญชาติรัสเซียอายุระหว่าง 18-40 ปี และชาวต่างชาติอายุระหว่าง 18-30 ปี เท่านั้น จึงจะสามารถสมัครเข้าเป็นทหารประจำการได้ แต่ในกฎหมายฉบับแก้ไขใหม่ จะขยายเพดานอายุสำหรับสำหรับผู้ต้องการรับสมัครเป็นทหารจาก 30 ปี (ชาวต่างชาติ) และ 40 ปี (ชาวรัสเซีย) ไปเป็น 50 ปีแทน
นอกจากการขยายเพดานอายุสำหรับผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าเป็นทหารแล้ว ยังมีรายงานอีกว่าการสูญเสียของฝ่ายรัสเซียเป็นไปอย่างหนัก จนต้องทำการเรียกหน่วยครูฝึกทหารเข้ามาเสริมกำลังรบในยูเครนแล้ว
ตามกฎระเบียบกองทัพรัสเซีย ในแต่ละกองพลน้อย (Brigade - ทหารประมาณ 2,000-8,000 นาย) หรือกรมทหาร (Regiment - ทหารประมาณ 900-2,000 นาย) จะมีการจัดกองพันปฏิบัติการทางยุทธวิธีหรือ BTG (Battalion Tactical Group - ทหารประมาณ 600-800 นาย) ไว้จำนวน 3 กองพันฯ เป็นอย่างน้อย โดยกองพันฯ ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยรบหลัก ขณะที่กองพันฯ ที่สาม (หรือสี่หรือห้า ขึ้นกับขนาดของหน่วยต้นสังกัด) จะเป็นหน่วยฝึกทหารและดูแลรักษาป้อมค่ายประจำของหน่วย แต่เนื่องจากความสูญเสียอย่างหนักของฝ่ายรัสเซียในยูเครน รัสเซียจำต้องเรียกกองพันฯ ฝึกทหารเหล่านี้เข้าสู่สงคราม ซึ่งคาดว่าจะทำให้รัสเซียได้กำลังทหารเพิ่มขึ้นมาอีกราว 30 - 40 กองพันฯ (ประมาณ 18,000 - 32,000 นาย) จากปัจจุบันที่คาดการณ์ว่ารัสเซียเหลือกำลังรบอยู่ประมาณ 110 กองพันฯ ในยูเครน (ประมาณ 66,000 - 88,000 นาย ไม่นับรวมทหารหน่วยสนับสนุน ทหารรับจ้าง และทหารจากรัฐบริวาร)
ทั้งนี้ การที่รัสเซียเรียกกำลังเสริมจากบรรดาหน่วยฝึกทหารมาช่วยสู้รบในยูเครน ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมาก แม้ว่าจะทำให้รัสเซียได้กำลังทหารเพิ่มเติมมาอีกหลายหมื่นนาย แต่หากว่าหน่วยฝึกทหารเหล่านี้ประสบความสูญเสีย จะทำให้รัสเซียขาดครูฝึกทหารชำนาญการไป เสี่ยงจะทำให้กองทัพรัสเซียในอนาคตขาดประสบการณ์และความรู้ (เพราะครูฝึกไปเสียชีวิตในยูเครนหมด) ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของกองทัพรัสเซียที่ปัจจุบันย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งมีสภาพย่ำแย่ลงไปอีก