ผมมีแผนจะเขียนนิยายเกี่ยวกับครอบครัวเชื้อสายจีนตระกูลหนึ่ง ที่มีใจอยากตอบแทนประเทศไทยด้วยการเปิดตลาดที่ค่าเช่าแผงราคาถูก ประมาณ 20-30 บาท/วัน ประมาณว่าช่วยแม่ค้า-พ่อค้า ผู้ค้าขายที่ไม่มีที่ทำกิน หรือสายป่านไม่พอจ่ายตลาดที่ทำงานเดิมที่ค่าเช่าแพงกว่า
ตลาดแห่งนี้แม้จะก่อตั้งโดยคนเชื้อสายจีน แต่ก็มีการแต่งตั้งผู้จัดการเป็นคนนอก คือมีคนไทย และฝรั่ง (พูดไทยได้) เป็นกลุ่มผู้จัดการ โดยกลุ่มนี้ได้ออกไอเดียในการหารายได้อุ้มตลาด คือทุกร้านที่เป็นร้านอาหาร จะต้องส่งอาหารเหลือทิ้งเข้าส่วนกลางเพื่อเอามาทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ส่วนพวกร้านที่ทำเกี่ยวกับงานฝีมือประเภทกระดาษ ก็สั่งให้ส่งเศษกระดาษหลังปิดร้านเพื่อเอาเศษพวกนั้นทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เข่น กระดาษสา paper-mache ฯลฯ โดยเป็นสินค้าของทางตลาดเองเพื่อเอารายได้มาอุ้มส่วนต่างต้นทุนจากการเก็บราคาถูก และจะมีการปันผลให้ทุกเดือนตามแต่ปริมาณที่ส่งมาสะสมจากต้นเดือน-สิ้นเดือน
ทว่าตลาดนี้ก็โดนด้อยค่าจากกลุ่มนายทุน อีลิท และชนชั้นกลางที่มองว่าตลาดนี้ทำให้คนกินทิ้งกินขว้าง เพราะบางเคสมีร้านบางร้านคะยั้นคะยอให้ลูกค้ากินเหลือเพื่อให้มีของส่งส่วนกลาง ประกอบกับการที่มีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติบางส่วนนั้นดูก้ำกึ่งกับการให้นอมินีต่างชาติมายึดประเทศ
แม้ทางตลาดจะให้เหตุผลว่ามีความประสงค์จะช่วยคนที่ไม่มีลู่ทางทำกินจริงๆ ก็โดนสวนว่าไม่ยั่งยืนน้าา มันคือการให้พวกคนขายเสพติดของถูกจนเคยตัว อีกหน่อยไปค้าขายที่อื่นเจอค่าเช่าแพงคงประท้วฃเผาตลาดเขาแน่ๆ บลาๆๆ ในขณะที่ตัวพวกที่พูดก็ช่วยเหลือสังคมด้วยการบริจาคแจกของสำเร็จรูปตามชุมชนยากจน โสหุ้ยบริจาคตามหน่วยงานโน้นนี้นั้น ดีหน่อยก็โรงทานการกุศลที่จัดแค่ 1 วัน/สัปดาห์