คุยไร้สาระ-พลังพิเศษเสกทองคำได้จะทำลายเศรษฐกิจ?

[samuison]

คือเรื่องที่ผมสงสัยกันมานานแล้วในมุกทำนองนี้

ผมมองในแง่นี้ว่า อันที่จริง ทางเทคนิค มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเสกทองคำหรือเปลี่ยนตะกั่วให้กลายเป็นทองคำมากแค่ไหน

หากแค่ระดับพันล้านบาทหรือพันล้านดอลล่าร์ของมูลค่าทองคำ

ผมว่าเศรษฐกิจก็ยังอยู่ดีไม่บุบสลาย
ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

คือผมนึกมุก ชิเงจี้ แสตนด์ ฮาร์เวสต์ที่ใช้หารายได้น่ะครับ

ไปเจอคนบอกว่า อันที่จริงสิ่งที่ชิเงจี้ทำน่ะ เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจด้วยซ้ำ

ยิ่งเงินหมุนเวียนในระบบก็ยิ่งมีมูลค่ามากกว่าค่าเงินนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยน

หากเก็บของตกแล้วชิเงจี้ทำได้ล่ะก็ ปล่อยให้ทำไปเถอะ
ไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียแต่เศรษฐกิจแต่อย่างใด

...

แต่มีความสามารถอีกอย่างอย่างเสกทองคำ
ประมาณแนวคาถาของ DnD
ที่เสกของได้แต่จำกัดในด้านปริมาณได้หนึ่งคิวบิค
อะไรเทือกนั้น

ปัญหาก็คือ

มีคนบอกว่าจะทำลายเศรษฐกิจ
แต่ผมไม่คิดว่า ทองคำแค่หนึ่งตันจะสามารถทำลายเศรษฐกิจได้น่ะครับ

ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ?

ไปเจอความเห็นใน youtube บอกว่าน่าสนใจที่โจโจ้ ชิเงจี้ใช้ความสามารถหาเงินได้ไม่มีปัญหา
หากเป็นเรื่องอื่น คงทำให้พวกนี้ชวดเงินกันหมด เพื่อเป็นบทเรียนสอนใจ
แต่พวกนี้ได้เงินล้านเยนมากันจริงๆ

ดังนั้นผมเลยคิดน่ะครับ
ว่าหากเราเสกทองคำได้ระดับหนึ่งถึงสองเหรียญทุกวันแบบในอิเซไคบางเรื่อง

มันก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจกระทบกระเทือนอะไรหรอก

• Tweet

[deaddy]

เขาประเมิณว่ามูลค่าทองทั้งโลกที่ถือครองมีมูลค่าราวๆ 10 ล้านๆ usd ครับ

[pol]

เพราะมันหายากก็เลยมีค่าครับ ท่านลองนึกถึงตอนที่สเปนไปปล้นทองมาจากอินคาดูก็ได้ทองคำมีเยอะจนเฟ้อ  ผลที่ได้เศรษฐกิจพังยับ

[Black7nos]

เพราะมันหายากก็เลยมีค่าครับ ท่านลองนึกถึงตอนที่สเปนไปปล้นทองมาจากอินคาดูก็ได้ทองคำมีเยอะจนเฟ้อ  ผลที่ได้เศรษฐกิจพังยับ

คือเมื่อก่อนหลายคนคิดว่ามีทองมาก = รวย สเปนก็เป็นเช่นนั้นพยายามล่าอาณานิคมและปล้นทองจากที่ต่างๆ แต่สุดท้ายก็ทำให้เงินเฟ้อ เพราะ การที่ประเทศหนึ่งจะรวยไม่ได้ขึ้นกับว่าเรามีทองเยอะ แต่มันขึ้นกับ "กำลังผลิต" มากแค่ไหน อย่างที่หลายโพสต์ที่ผมเคยโพสต์ไปก่อนหน้า ความมั่งคั่ง = กำลังผลิต + กำลังบริโภคของชาตินั้นๆ หรือก็คือ GDP


มันจึงทำให้ยุคล่าอาณานิคมนั้นกลายเป็นอังกฤษนี่แหละที่กลายเป็นจ้าวอาณานิคมที่มั่งคั่งที่สุด เพราะ กำลังผลิตสินค้าจากอินเดีย เช่น ใบชา ข้าว ฯลฯ
หาใช่เหมืองทองจากสเปน ทองจึงเป็นแค่สื่อกลางแลกเปลี่ยนเท่านั้น


อย่างการล่มสลายส่วนหนึ่งนอกจากเผ่า Hun รุกรานแล้ว ปัจจัยภายในก็คือโรคระบาดนี่แหละ โรคระบาดคร่าชีวิตชาวโรมันไปมาก ผลก็คือเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง เพราะจำนวนประชากรที่ลดลง เมื่อประชากรลดลง มันก็ส่งผลต่อกำลังผลิตและกำลังบริโภค


ผมถึงบอกเสมอว่าการเพิ่มลดประชากรเป็นเรื่องสำคัญ การจำกัดจำนวนประชากรเพื่อให้กระจายทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรืองเข้าใจได้ แต่ไม่ควรจำกัดจนอัตราประชากรติดลบ เนื่องจากผู้ที่ผลิตทรัพยากรก็คือประชากร ผู้ในบริโภคทรัพยากรก็คือประชากร ดังนั้นมันถึงต้องสมดุลกัน ไม่ใช่จำกัดเกินไปจนติดลบ

[samuison]

เขาประเมิณว่ามูลค่าทองทั้งโลกที่ถือครองมีมูลค่าราวๆ 10 ล้านๆ usd ครับ

และมีขนาดนั้นอเมรกิานังคิดว่าไม่เวิร์ค เลยออกห่างจากระบบทองคำสำรอง

ใช้กำลังทหารค้ำประกันค่าเงินเาอล้วนๆ

เพราะระบบเงินตราปัจตจุบันใหญ่เกินกว่าที่ทองคำจะค้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ..เขาว่ามาอย่างนั้น
เราจะเห็นด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่อง
 

เพราะมันหายากก็เลยมีค่าครับ ท่านลองนึกถึงตอนที่สเปนไปปล้นทองมาจากอินคาดูก็ได้ทองคำมีเยอะจนเฟ้อ  ผลที่ได้เศรษฐกิจพังยับ  

ใช่ครับ แต่ผมมองว่าระดับประชาชนทั่วไป

เสกมาใช้วันลละล้านบาท ตลอดชีวิตของคนคนนั้นผมว่าเศรษฐกิจยังอยู่ดีไม่บุบสลายน่ะครับ

รู้สึกในแนวนี้พยายามจะเบรกการเสกทองคำ

ทั้งที่ระดับแค่หนึ่งตัน
ไม่ทำให้เศรษฐกิจกระทบกระเทือนแต่อย่างใด
ไม่สามารถใช้เป้นเงินตรา ก็สามารถใช้เป็นอุตสาหกรรมได้

ทองคำผลิตไม่ค่อยจะพออยู่แล้วในอุตสาหกรรมว่าอย่างนั้น

แต่เมหือนกับแค่จะว์้อบ้านหลังหนึ่ง
ใฝนเรื่องทำนองนี้ก็จะบอกว่าเศรษฐกิจจะล่มสลาย

ผมพยายามมองว่า ระบบเศรษฐกิจมันไมไ่ด้เปราะบางขนาดจเอทองคำแค่หนึ่งตันระดับคนธรรมดาแบกไม่ไหวจะล่มสลายน่ะครับ

[quote/]


คือเมื่อก่อนหลายคนคิดว่ามีทองมาก = รวย สเปนก็เป็นเช่นนั้นพยายามล่าอาณานิคมและปล้นทองจากที่ต่างๆ แต่สุดท้ายก็ทำให้เงินเฟ้อ เพราะ การที่ประเทศหนึ่งจะรวยไม่ได้ขึ้นกับว่าเรามีทองเยอะ แต่มันขึ้นกับ "กำลังผลิต" มากแค่ไหน อย่างที่หลายโพสต์ที่ผมเคยโพสต์ไปก่อนหน้า ความมั่งคั่ง = กำลังผลิต + กำลังบริโภคของชาตินั้นๆ หรือก็คือ GDP


มันจึงทำให้ยุคล่าอาณานิคมนั้นกลายเป็นอังกฤษนี่แหละที่กลายเป็นจ้าวอาณานิคมที่มั่งคั่งที่สุด เพราะ กำลังผลิตสินค้าจากอินเดีย เช่น ใบชา ข้าว ฯลฯ
หาใช่เหมืองทองจากสเปน ทองจึงเป็นแค่สื่อกลางแลกเปลี่ยนเท่านั้น


อย่างการล่มสลายส่วนหนึ่งนอกจากเผ่า Hun รุกรานแล้ว ปัจจัยภายในก็คือโรคระบาดนี่แหละ โรคระบาดคร่าชีวิตชาวโรมันไปมาก ผลก็คือเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง เพราะจำนวนประชากรที่ลดลง เมื่อประชากรลดลง มันก็ส่งผลต่อกำลังผลิตและกำลังบริโภค


ผมถึงบอกเสมอว่าการเพิ่มลดประชากรเป็นเรื่องสำคัญ การจำกัดจำนวนประชากรเพื่อให้กระจายทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรืองเข้าใจได้ แต่ไม่ควรจำกัดจนอัตราประชากรติดลบ เนื่องจากผู้ที่ผลิตทรัพยากรก็คือประชากร ผู้ในบริโภคทรัพยากรก็คือประชากร ดังนั้นมันถึงต้องสมดุลกัน ไม่ใช่จำกัดเกินไปจนติดลบ 

เรือ่งหนึ่งทีึ่ผมสังเกต

คือท่านเห็นไม่ตรงกับ world economic forum ที่พยายามจะลดประชากรน่ะครับ

จากนิยายของท่าน ผมมองว่าท่านมองกราฟประชากรแล้วคงดูว่ามันไม่เวิร์ก แต่ wortld economic forum พยายามจะลดประชากรโดยสนับสนุนการศึกษาของสตรีและธุรกิจในประเทศโลกที่สาม

วางแผนไม่ให้ประชากรทั้งโลกเกินหนึ่งหมื่นล้านคนไปได้

[Black7nos]

[quote/]

และมีขนาดนั้นอเมรกิานังคิดว่าไม่เวิร์ค เลยออกห่างจากระบบทองคำสำรอง

ใช้กำลังทหารค้ำประกันค่าเงินเาอล้วนๆ

เพราะระบบเงินตราปัจตจุบันใหญ่เกินกว่าที่ทองคำจะค้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ..เขาว่ามาอย่างนั้น
เราจะเห็นด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่อง
 [quote/]

ใช่ครับ แต่ผมมองว่าระดับประชาชนทั่วไป

เสกมาใช้วันลละล้านบาท ตลอดชีวิตของคนคนนั้นผมว่าเศรษฐกิจยังอยู่ดีไม่บุบสลายน่ะครับ

รู้สึกในแนวนี้พยายามจะเบรกการเสกทองคำ

ทั้งที่ระดับแค่หนึ่งตัน
ไม่ทำให้เศรษฐกิจกระทบกระเทือนแต่อย่างใด
ไม่สามารถใช้เป้นเงินตรา ก็สามารถใช้เป็นอุตสาหกรรมได้

ทองคำผลิตไม่ค่อยจะพออยู่แล้วในอุตสาหกรรมว่าอย่างนั้น

แต่เมหือนกับแค่จะว์้อบ้านหลังหนึ่ง
ใฝนเรื่องทำนองนี้ก็จะบอกว่าเศรษฐกิจจะล่มสลาย

ผมพยายามมองว่า ระบบเศรษฐกิจมันไมไ่ด้เปราะบางขนาดจเอทองคำแค่หนึ่งตันระดับคนธรรมดาแบกไม่ไหวจะล่มสลายน่ะครับ

[quote/]

เรือ่งหนึ่งทีึ่ผมสังเกต

คือท่านเห็นไม่ตรงกับ world economic forum ที่พยายามจะลดประชากรน่ะครับ

จากนิยายของท่าน ผมมองว่าท่านมองกราฟประชากรแล้วคงดูว่ามันไม่เวิร์ก แต่ wortld economic forum พยายามจะลดประชากรโดยสนับสนุนการศึกษาของสตรีและธุรกิจในประเทศโลกที่สาม

วางแผนไม่ให้ประชากรทั้งโลกเกินหนึ่งหมื่นล้านคนไปได้

ไม่ได้ลดหรอกครับ แค่ให้เพิ่มในอัตราที่ควบคุมได้ครับ ไม่งั้นยุโรปจะใช้นโยบายเปิดรับการย้ายสัญชาติ

[pol]

เงินทองคือมายา ทรัพยากรต่างหากคือของจริง ฮิตเลอร์ไม่ได้กล่าวเอาไว้    เงินหรือทองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดคุณค่าของทรัพยากรเท่านั้นเองครับ  ต่อให้มีทองท่วมหัวแบบสเปนแต่ก็สู้อังกฤษที่ครอบครองทรัพยากรจำนวนมากไม่ได้หรอกครับ

[Black7nos]

เงินทองคือมายา ทรัพยากรต่างหากคือของจริง ฮิตเลอร์ไม่ได้กล่าวเอาไว้    เงินหรือทองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดคุณค่าของทรัพยากรเท่านั้นเองครับ  ต่อให้มีทองท่วมหัวแบบสเปนแต่ก็สู้อังกฤษที่ครอบครองทรัพยากรจำนวนมากไม่ได้หรอกครับ

จริงๆ ถ้าให้ถูกต้องทั้งหมดจะต้องเพิ่มคำว่า "ทรัพยากรที่ถูกนำมาไปใช้ประโยชน์คือของจริง" ทรัพยากรที่ไม่ใช้มันก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ

[deaddy]

เงินทองคือมายามาม่าคือของกินครับ

[KAGUYA]

เงินทองคือมายา ทรัพยากรต่างหากคือของจริง ฮิตเลอร์ไม่ได้กล่าวเอาไว้    เงินหรือทองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดคุณค่าของทรัพยากรเท่านั้นเองครับ  ต่อให้มีทองท่วมหัวแบบสเปนแต่ก็สู้อังกฤษที่ครอบครองทรัพยากรจำนวนมากไม่ได้หรอกครับ

แต่ถ้าพูดให้ถูกจริงๆ คุณค่าของทรัพยากรไม่ใช่มีมากแค่ไหนแต่เป็นมีแล้วเอามาใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง?และสิ่งนั้นมีคุณค่าแค่ไหน?ต่างหาก

[pol]

เงินทองคือมายามาม่าคือของกินครับ

  ไม่ๆ หมูกระทะคือมายา แต่มาม่านะของจริงต่างหากครับ 

[samuison]

[quote/]


ไม่ได้ลดหรอกครับ แค่ให้เพิ่มในอัตราที่ควบคุมได้ครับ ไม่งั้นยุโรปจะใช้นโยบายเปิดรับการย้ายสัญชาติ

หมายถึงกระทู้ในห้องรับแขกที่มีหัวเรือ่งว่าประชากรจะลดลงน่ะครับ
เพระาแผนการของ world economic forum
ว่าปัญหาในโบลกแก้ไขได้หากคนรวยสามัคคีคือพลังกัน

เงินทองคือมายามาม่าคือของกินครับ

มาม่าคืออัตราการคำนวณว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ได้อีกทางหนึ่ง

เงินทองคือมายา ทรัพยากรต่างหากคือของจริง ฮิตเลอร์ไม่ได้กล่าวเอาไว้    เงินหรือทองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดคุณค่าของทรัพยากรเท่านั้นเองครับ  ต่อให้มีทองท่วมหัวแบบสเปนแต่ก็สู้อังกฤษที่ครอบครองทรัพยากรจำนวนมากไม่ได้หรอกครับ

ฮิตเลอร์และญี่ปุ่นสอนให้ประเทศสมัยใหม่รู้ว่าน้ำมันคือชีวิต
ที่ต่อให้ต้องทำสงคราม ก็ควรจะทำสงครามเพื่อแย่งมันมา
หมายความวว่าหากไม่อยากทำลายเศรษฐกิจโลก เสกน้ำมันมาอาจจะดีกว่าทองคำก็ได้แต่อาจจะโดนพวกโอเปคหรืออมเรกิาเก็บหากตอนนั้นกำลังแซงชั่นอะไรกันอยู่

[sechan]

มันไม่มีค่าในตัวมันเองถ้าเสกมาได้มูลค่าก็ลดแต่ก่อนจะถึงจะนั้นมนุษย์จะยกเลิกระบบทองคำไปใช้อย่างอื่นในการอ้างอิงมูลค่าแทน  เหตุผลที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนเพราะมันหายาก ต้นทุนการขุดสูง มันหาง่ายๆไม่ได้  ก็อาจจะไปแร่อื่นแทนในการเก็บมูลค่า

[KAGUYA]

[quote/]
หมายถึงกระทู้ในห้องรับแขกที่มีหัวเรือ่งว่าประชากรจะลดลงน่ะครับ
เพระาแผนการของ world economic forum
ว่าปัญหาในโบลกแก้ไขได้หากคนรวยสามัคคีคือพลังกัน [quote/]
มาม่าคืออัตราการคำนวณว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ได้อีกทางหนึ่ง[quote/]
ฮิตเลอร์และญี่ปุ่นสอนให้ประเทศสมัยใหม่รู้ว่าน้ำมันคือชีวิต
ที่ต่อให้ต้องทำสงคราม ก็ควรจะทำสงครามเพื่อแย่งมันมา
หมายความวว่าหากไม่อยากทำลายเศรษฐกิจโลก เสกน้ำมันมาอาจจะดีกว่าทองคำก็ได้แต่อาจจะโดนพวกโอเปคหรืออมเรกิาเก็บหากตอนนั้นกำลังแซงชั่นอะไรกันอยู่

ไอ้เรื่องน้ำมันมันก็ใช่ล่ะนะ แต่ถ้าในอนาคตมีมีแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน,สะอาดและถูกกว่าน้ำมันและมีสารทดแทนที่นำมาใช้ทำวัสดุสังเคราะห์แทนปิโตรเลียมได้ล่ะ

[nosta]

ทองถูกผลิตมากถึงจุดนึงมันจะเสื่อมค่าลงเหมือนสินค้าอื่น ตามเหตุการณ์ ยุคล่าอาณานิคมที่เสปนผลิตและปล้นทองได้มหาศาลอย่างที่เม้นบนๆบอก


https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_regions_by_past_GDP_(PPP)#1750–1990_(Bairoch)


จะเห็นว่าปี 1600 เศรษฐกิจสเปนโตเร็วจริงแต่อาจจะไม่มากอย่างที่คาดหวัง และช่วงยุคล่าอาณานิคม อินเดียและ จีนยืนหนึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกยาวนานมาก จนปี 1800 ก็ยังเป็นจีน เนื่องจากจำนวนประชากร แต่ตำแหน่งจะเริ่มหลุดยาวๆตั้งกะ 1900 ซึ่งเป็นผลมาจากยุคอุตสาหกรรม อันนี้วัดแบบ ppp นะ

[grendel2521]

ต้องเข้าใจก่อนว่าทำไม่ทองถึงมีค่า  แล้วคำตอบจะมาเองว่าทำไมเสกทองถึงทำลายระบบ
มันก็แค่ทำลายระบบ Gold standard
คนก็สร้างระบบใหม่ขึ้นมาใหม่เอง

[gaiar33]

ลองเสกทองคำมาวันละ 100 ตันแล้วเทแจกฟรีให้คนทั่วโลกสิครับ  ว่าระบบจะพังมั้ย

เหมือน บิทคอย ลองให้ทุกคนบนโลกเสกเหรียญดิติตอลได้เพียงแค่กระดิกนิ้วดูสิ ว่าบิทคอยจะล่มมั้ย

[DDAvatar]

เสปนเจ็งไม่ใช่เพราะทองจากอินคา แต่เจ็งเพราะเหมืองเงินในโบลิเวีย  ซึ่งใช้แรงงานทาสอินเดียแดงขุด
ส่งผลให้เสปนมีแร่เงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าเสปน ส่งผลให้เสปนร่ำรวย และมีกำลังซื้อสูงจน การนำเข้า
สินค้าจากเพื่อนบ้านถูกกว่าการผลิตในประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมในประเทศเจ็งยับ[/size]
ทำให้เทคโนโลยีก็ลดลง ยิ่งแร่เงินที่ยังนำเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เกิดภาพลวงตา ว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง[/size]


ส่งผลให้เสปนเป็นมหาอำนาจ ในภาคพื้นทวีปอย่างยาวนาน จนบริหารผิดพลาด หลายเรื่อง คือไปเน้น
ส่งออก ความเชื่อคาทอลิค มากเกินไป ไปยุ่งในสงครามตลอดเวลา ยิ่งผลาญเงินทุนในท้องพระคลัง
กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เริ่มล้าหลังมหาอำนาจเกิดใหม่อย่าง อังกฤษ หรือฝรั่งเศส


หมือนอเมริกาที่ส่งออก ความเชื่อเสรีนิยมมากเกินไป จนต้องไปยุ่งในสงครามทั่วโลก จนแพ้ญี่ปุ่นในยุค 80
และ จีนในยุค 2000


อเมริกาตอนนี้แหละที่รู้ตัวเริ่มอาการไม่ดี แต่อเมริกามีบทเรียนจาก มหาอำนาจในอดีต
จึงเริ่ม กระบวนการ ดึงภาคการผลิตกลับประเทศเป็นอเมริกันเฟิรส์ในสมัยทรัมป์ และ 3B ของ
ไบเดน ซึ่งมันก็คืออเมริกันเฟิรสต์ เพียงแต่เปลี่ยนจากสนับสนุนกลุ่มนายทุน Old Economy
ของทรัมป์ เป็นกลุ่มนายทุนสนับสนุนไบเดนแทน

[deaddy]

ลองเสกทองคำมาวันละ 100 ตันแล้วเทแจกฟรีให้คนทั่วโลกสิครับ  ว่าระบบจะพังมั้ย

เหมือน บิทคอย ลองให้ทุกคนบนโลกเสกเหรียญดิติตอลได้เพียงแค่กระดิกนิ้วดูสิ ว่าบิทคอยจะล่มมั้ย

eth usdt เสกมาเรื่อยๆนะ แค่มีเงื่อนไขการเสก

[gaiar33]

[quote/]


eth usdt เสกมาเรื่อยๆนะ แค่มีเงื่อนไขการเสก

เอาแบบทุกคนทำได้ไม่มีเงื่อนไขแบบหัวข้อกระทู้สิท่าน  กดปุ๊บเสกปั๊บปั๊มเหรียญออกมาเท่าไหร่ก็ได้