เวทย์ร่ายนานๆที่มีแต่คำสรรเสริญเทพธิดาไปกว่า80% ประมาณนั้นหรือเปล่า
คือถ้าเป็นสายศรัทการภาวนาตามพิธีกรรมก็ถูกแล้วนี่ครับ
ผมเข้าใจว่าคนปัจจุบันไม่เชือ่ในเทพเจ้ากันแล้วเลยมองมาแบบนี้ แต่ทางเทคนิค "พิธีกรรม" เป้นการทำให้เทพเจ้าแสดงพลังในโลกนี้ได้
หากย่นยบ่อได้ อาจจะทำให้เราต้อง"จ่าย"พลังมากวก่าเดิมในการที่ให้เทพเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ในโลกนี้
ในwarhammer
ที่การใช้เวทย์นั้นอันตรายมากการใช้เวทย์ของเทพจึงปลอดภัยกว่า
เพระาเราอาจจะจ่ายพลังบางส่วนให้เทพเจ้าไป และเทพเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ใช้พลังแทนเรา
ไม่เกิดการระเบิดของเวทย์คามือเราแบบบเดียวกับจอมเวทย์ทั่วไป
หากให้ผมกล่าวขอ้ดีของสายเทพคือจะปลอดภัยกว่าการใช้เวทย์เองเอามากๆ
แต่ก้มีขอ้เสียอย่างที่หลายคนมองคือต้องพึ่งเทพ และอาจจะต้องใช้เวลาในการร่ายมากแต่ความปลอดภัยผมให้สูงที่สุดเพระาเรามีเทพเป็นตัวกลางกันแรกะแทกจากคาถาอีกทีหนึ่ง
ร่ายสั้นได้ถ้าเข้าใจในหลักการสูตรดำเนินการเวทย์มนต์ ร่ายสั้นบางเรืองรุนแรงนะ แต่ต้องใช้เวลาศึกษา
ไม่ร่ายอาจโกงในบางสถานการณ์เพราะได้เปรียบศัตรู
พระเอกจะเก่งขนาดไรก็ยังต้องเจอคู่ต่อสู้ที่สูสีอยู่ดี
นั่นคือการมองว่ามีข้อดีขอ้เสีย อันที่จริง ผมยังรู้สึกว่าคนเรายังยอมรับ"พลังโกงจากเทพเจ้า"ได้มากกว่าการที่จะมองว่า"คิดค้นเวทย์ที่คนในโลกนั้นคิดไม่ได้" มากกว่าอีกนะ
ว่าหากได้พลังเทพ ตามตำนานก็แบบเฮอร์คิวลีส อคิลลีสแนว fate อะไรเทือกนั้น แต่คิดเวทย์ใหม่ได้ เหมือนกับยกตนเองว่าเ่กงกว่าทุกคนในโลกนั้นด้วยตนเองว่าอย่างนั้น อาจจะเป็นความรู้ึกลึกๆในใจเราที่ต้องการเ่กงเองไม่ตอ้งพึ่งเพทเจ้าก้ว่าได้
[quote/]
มันอยู่ที่จะแต่งเรื่องแบบไหนยังไงมากกว่าครับถ้าจะแต่งไห้ตัวเอกopก็ไร้ร่ายแรงแบบสุดๆ ถ้าจะแต่งไห้มีความสมดุลก็ไห้คำร่ายมีพลังสุดท้ายก็อยู่ที่ว่า จะแต่งเรื่องออกมายังไงมันมีกระทังเปรียบเวทเหมือนปืนขันตอนในการเตรียมจะยุ่งยากแค่ไหน แต่เวลาไช้ก็เหมือนเหนียวไกปืนดังนั้นเวทมนต์ไม่มีคำว่าสมจริงครับ เพราะมันไม่มีจริงเดิมที่เวทมันคือสิ่งที่เอาไว้ไช้อธิบายสิ่งที่นอกเหนือจิตนาการความเป็นไปได้ครับ อย่างที่ยกตัวอย่างนาโนฮะที่ว่ามีหน่วยวิจัยเวทแต่ทุกภาคแม่งวิทยาการเวทแม่งกากกว่าเวทโบราณทุกที่ มี่ชนะมาทุกที่เพราะนาโนฮะมีพลังโคตรเยอะไม่ไช่เพราะเวทที่ไช้เหนือกว่าแต่เพราะพลังเยอะ ศัตรูแม้จะมีเวทที่โคตรโกง(เรื่องนี้เวทโบราญโคตรโกง)แต่ตัวร้ายระดับพลังโคตรอ่อนถ้าผมยกตัวอย่างสเกาเตอร์ของดราก้อนบอล มาวัดในนาโนฮะศัตรูมีพลังหมื่นแต่มีเวทที่สู้กับนาโนฮะที่มีพลังเป็นล้านได้แต่ต่อไห้มีเวทเจ๋งแค่ไหนแต่ถ้าลากยาวมันก็สู้คนมีพลังเป็นล้านอย่างนาโนฮะไม่ได้
และนะครับเดิมที่คำร่ายคือการไช้งานเวทของคนที่ไม่มีพลังโดยไช้คำร่ายเพื่อขอยืมพลังจากผู้ที่ไช้เวทนั้นๆ เช่นเทพหรือปีศาจเดิมที่เรื่องเวทคนเราไม่มีแต่ขอยืมจึงไช้คำร่ายนี่คือการไช้เวทในเรื่องเล่าเก่าๆ ไม่ทราบว่าสังเกตุกันบ้างไหมว่าเวทสมัยก่อนไม่มีคำร่ายจากผู้ไช้เวทสักคนนะครับ ตัวอย่างเช่นยักจินนี่ก็ไม่ร่ายอะไรซุสโอดินก็ไม่ร่ายอะไร เอาจริงๆผู้ที่ไช้เวทไม่มีใครร่ายสักคนแต่พอมาเป็นคนที่ไม่มีเวท อย่าง16โจรทะเลทรายทางเข้าออกรังต้องมีคำร่ายกำกับเพื่อไห้คนที่ไช้เวทไม่ได้ไช้ได้ อย่างโอเพ่นเซซามี่แต่พ่อมดทะเลทรายหัวหน้าก็ไม่ร่ายเวทนะครับ ซินแบทก็ไม่ร่ายดังนั้นเริ่มต้นจะแบ่งผู้ไช้งานเวทเป็นสองแบบ 1คือผู้ที่มีเวทในตัวพวกนี้จะไม่ต้องไช้คำร่ายใดๆเพราะตัวเองสร้างเวทขึ้นมาเอง กับ2ผู้ที่ขอยืมเวทพวกนี้ต้อกล่าวคำร่ายสรรเสริญผู้ที่ไห้ยืมพลังมาเพื่อไห้ไช้เวทได้ ดังนั้นถ้าไช้เวทเดียวกันจากต้นกำเหนิดเดียวกันคนไม่ร่ายเวทจึงแข็งแกร่งกว่าครับ ไอ้ที่เถียงกันว่าคำร่ายจะแรงไม่แรงปัจจุบันมันก็คือเซตติ้งของคนแต่งเรื่องนั้นๆครับไม่ต้องไปหาเหตุผล เพราะเวทมันก็ไม่มีเหตุผลอยู่แล้วแค่เรื่องสนุกทุกอย่างก็ดีหมดนั้นแหละครับ
ใช่ครับคนไม่ร่ายแข็งแกร่งกว่า เพระาแสดงว่าต้องเชี่ยวชาญเวทย์นั้นๆมากกว่าจนไม่ต้องใช้วิธีอย่างที่คนปรกติใช้กันได้
เจเคที่เราด่าว่าบ้าบอ ยังต้อให้แม้แต่เฮอร์ฺไมโอนี่อัจฉริยะของรุ่นยังทำไม่ได้ง่ายๆ แม้แต่เรียนคาถานั้นมามากมายหลายปีแล้วก็ตามความยากลำบากมากขึ้นเป้นทวีคุณซึ่งคนที่ไม่ใช่คำร่ายเลยอย่างโวลเดอมอร์หรอืดัมเบิ้ลดอร์ในการต่อสู้ คือการแสดงฝีมือทีเ่หนือกว่าชาวบ้านไปอีกขั้นนั่นเองล่ะครับ
ในเกมส์ dnd การไม่ต้องร่าย เรียกว่าคือทักษะระดับสูงๆอีกนิดหนึ่งชกกับเทพเจ้าได้ด้วยตนเองแล้วล่ะครับ
ก็คงเหมือนกับที่นาโอฟุมิในผู้กล้าโล่ห์พูดไว้นะแหละครับ ว่าไร้ร่ายนี่ดูเหมือนจะเจ๋งแต่มันมีจุดด้อยหลายอย่าง
ผมว่าหากแสดงว่มีข้อดีคือความรวดเร็วก็ถือว่าคนนั้นเก่งมากๆแล้วหากใช้ความเร็วมากกว่าได้คาถาพลังแรงเท่ากับคนปรกติแต่หากเร็วกว่าและยังแรงกว่าคนปรกติ เรียกว่าความสามรถเกินคนทั่วไปมากๆระดับดัมเบิ้ลดอร์ของเซ็ตติ้งหากจะพิจารณากัน
เห็นคุยถกเถียงกันเยอะละขอเอาระบบเวทมนตร์ที่ผมเคยอ่านเจอจากนิยายเรื่องหนึ่งมาดีกว่า
ในนิยายเรื่องนี้การใช้เวทมนตร์คือการสื่อสารกับธาตุในธรรมชาติให้ทำในสิ่งที่เราต้องการโดยแลกกับพลังเวทในตัวเรา โดยจำเป็นที่จะต้องกล่าวคำร่ายเพื่อเป็นการบอกให้พวกธาตุในธรรมชาติได้รับรู้
เพราะแต่งจินตนการในหัวมันทำให้สื่อสารกับพวกธาตุไม่ได้ แต่ก็มีวิธีที่จะใช้เวทมนตร์ไร้ร่ายได้อยู่คือการทำให้พวกธาตุในธรรมชาติมารับใช้ตัวเองให้ได้ จำนวนหนึ่งถ้ามากพอก็จะสามารถใช้เวทมนตร์ในธาตุนั้นๆได้แบบไม่ร่ายเลย แถมยังสามารถสร้างเวทมนตร์ของตัวเองให้คนอื่นเอาไปใช้ร่ายเวทโดยใช้ชื่อของตัวเองด้วย อืมมมยังไม่ค่อยตรงเท่าไหร่แฮะเพราะไม่ได้อ่านมานานบวกกับมึนๆหน่อยย
แต่ก็ประมาณนี้มั้ง
ขอบคุณครับผมเจอมาคล้ายคือ Naming การเรียกชื่อเลห่าสรรพธาตุต่าง ที่คนยที่รู้ชือ่ธาตุหรอืรู้ชือ่ปีศาจจะสามารถควบคุมสิ่งนั้นได้ ตาม fate ก็คือภาษาต้นกำหนิด origin language ที่ใช้กันก่อนหอคอยบาเบลนั่นเอง
ใน warhammer ก็บอกว่า จักรพรรดิ ได้ตำรา enoch นี้มาจนกลายเป้ฯคนเก่งที่สุดในจักรวาลอย่างทุกวันนี้
นารุโตะ เห็นอย่างนั้นมันก็ปูพื้นฐานที่ร่างกายยังไงล่ะท่าน ผลสรุปคือ จะมีพลังมากแค่ไหน แล้วจะใช้วิชาโคตรแรงยังไง
ถามก่อนเลยว่า ร่างกาย รองรับการใช้งานพลังกับวิชานั้นๆ หรือเปล่า ...นินจาหลายคนในเรื่อง บาดเจ็บพิการ เพราะสาเหตุนี้เยอะ
อัดพลังลงในวิชามากๆ ผลลัพธ์ออกมาโคตรแรงเวอร์ก็จริง แต่คนใช้ก็เดี้ยงตามไปด้วย เพราะร่างกายทนแรงสะท้อนไม่ไหวน่ะ
นินจาถึงต้องฝึกฝนร่างกายกับจิตวิญญาณกันหนักทีเดียว
แต่ถ้าเป็นแบบพระเจ้าทุ่มให้แบบหนูแมรี่ เลกาเลีย ล่ะก็.... ถึงจะคิดหนักหน่อยแต่ก็ตามสบายเลย
พลังเวท กับสเตตัสร่างกายถึงซะอย่าง จะวิชาระดับไหนก็ใช้ได้สบาย ที่เหลือคือวัดกันที่สภาพจิตใจเท่านั้นแหละ
[quote/][quote/]นึกถึงโลลิบางคนที่โดนบังคับให้พล่ามคำสรรเสริญพระเจ้าถึงจะปลดลิมิตเตอร์พลังเวทมนต์ได้น่ะ
ขอบคุณครับผมพยายามเล่นมุกแนวครอสโอเวอร์ที่จะให้สองจักรวาลวิจารณ์กันและกัน แบบดีซีกับมาร์เวลแขวะกันเองน่ะครับ
คืออันที่จริงการพัฒนาเทคโนโลยีของนารุโตะจะไปทางนั้นแล้วนะครับ
ในช่วงภาคโบรุโตะ คาถาต่างๆมาใส่โปรแกรมที่ข่้อมือได้แล้ว
แต่โดนนารุโตะเบรกไว้หาว่าโกง การวิจัยเลยโดนตัดงบไปอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นอย่างที่ท่านว่าแ้วคือคาถาจะใช้ได้สะดวกมากๆหากมีเครือ่งมือที่โบรุโตะใช้พัฒ?นาขึ้นมากกว่านั้นแต่อนิจจา นินจาคือผู้อดทน
โคโนฮะ เลยตัดงบประมาณการวิจัยนี้ไป
ทั้งที่ถ้าหากให้คนบ้าอย่างโอโรจิมารุหรอืคาบุโตะ วิจับสักสิบปีผมว่าเผลอๆ เทคโนโลยีนารุโตะแซงนาโนฮะไปแล้วในเรือ่งนี้
[quote/] สรรเสริญเทพธิดา? ถ้าเป็นนิยายสมัยก่อนนี่น่าทำอยู่หรอกครับแต่หันไปมองเทพธิดารุ่นใหม่ๆแล้วปวดหัว(ฮา) ไม่ขาดก็เกิน
ผมมองว่าเป็นการแสดงจิตใจปัจจุบันของเราที่ไม่เชือ่เทพเจ้ากันแล้วน่ะครับเป็นการพัฒนาการของสังคม