[quote/]
และใช้เป็นของต่ำอย่างกางเกงในผู้หญิงคลุกกับกระสุนอีกต่างหากไม่ใช่ของสูง[quote/]
ว่าพระที่เทพจริงๆ ไม่ต้องใช้อาวุธ ฮา
หรืออาจจะพูดว่า เราไมไ่ด้เจอผีดิบมันตรับหรือไอ้งาดำกันทุกครั้งที่เดินเข้าป่าการใช้มีดที่อเนกประสงค์กว่านั้นดีกว่ามีดอาคมไปใช้เรือ่งที่ไมาเหมาะนั่นเอง
..ไปเจอมาเมหือนพระเด็กๆพยายามเดินธุดงค์คนเดียวเก็บเลเวลแต่โดนผีหลอกทุกรายบางทีผีก็ปลอมเป็นพระด้วยกันและเรื่องราวต่างๆมากมาย
เป็นพระมีข้อดีตรงที่แม้ในป่าในเขาชาวบ้านก็เอาอาหารมาให้ไม่ไ้ดรังเกียจรังงอนอะไร
ที่จะรังเกียจคือพระด้วยกันที่่างนิกายกันมากกว่า
อย่าว่าแต่อาวุธเลย พระที่แก่กล้าจริงๆ ไอ้วิชาอะไรนั่นก็ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ หรือจะบทสวดมนต์ก็ยังไม่ต้องใช้เลย
แค่กำหนดจิตแล้วเพ่งสมาธิไปเรื่อยๆ ก็พอแล้ว .... ที่พกอาวุธกันเนี่ย คือป้องกันตัวจากสัตว์ทั่วไปและก็โจรผู้ร้ายล้วนๆไม่เกี่ยวกับภูติผีอะไรเลย
ในพุทธประวัติก็มีน่ะเรื่องที่ว่าพระธุดงค์ปราบกองโจรด้วยตรีนมาแล้วน่ะ จะอาวุธหรือวิชาอะไรก็ไม่ต้อง ตบด้วยตรีนนี่แหละ (คุ้นมั๊ยล่ะเรื่องนี้)
ส่วนพระใหม่เนี่ย เพราะจิตฟุ้งซ่านง่าย เลยเหมือนโดนผีหลอกทั้งที่ไม่ใช่ก็มี (แต่เรื่องที่โดนหลอกจริงนี่ บางเรื่องเอามาพูดเล่นไม่ออกเลย)
แต่ก็น่ะพอชั้นเปรียญถึง หรือนั้นนักธรรมถึงแล้วก็สามารถทำกิจธุดงค์ได้ เมื่อก่อนเป็นภาคบังคับ แต่เดี๋ยวนี้น่าจะเป็นสมัครใจ
และก็ด้วยที่ว่า พระใหม่เวลาออกธุดงค์มักจะเจอดีกันประจำ ปัจจุบันเหมือนว่าจะมีกฏว่าจะทำกิจธุดงค์ได้ก็ต้องทำหมู่คณะ ห้ามทำรูปเดียว
(แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยอะไร เบาใจได้แค่เรื่องโจรผู้ร้ายเท่านั้นเอง)
แล้วเพราะการธุดงค์ มันคือการแสวงบุญและเผยแพร่ศาสนา ภาษาบ้านๆ ก็เรียกกันว่ามาออกบุญ
ชาวบ้านที่ไม่สามารถไปวัดหรือไม่มีนักพรตหรือนักบวชประจำ เลยค่อนข้างจะยินดีด้วยซ้ำ เวลาที่มีพระธุดงค์ผ่านมาน่ะ
เพราะจะได้มีโอกาสทำพีธีกรรมทางศาสนา และทำบุญกรวดน้ำให้บรรพบุรุษหรือเทวดาอารักษ์พวกนั้นได้