แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คุยไร้สาระ-ควรจะมีแนวคิดอย่างไรต่อวิธีการฝึกแบบโชวเน็นครับ?  (อ่าน 3376 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,401
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ให้นึกภาพ

"ฝึกในห้องแรงดึงดูดห้าสิบเท่า"

"นั่งสมาธิใต้น้ำตก"
"ปีนหน้าผาด้วยจักระ"
"ถ่วงน้ำนักห้าสิบตันที่ร่างกาย"

วิธีการเหล่านี้น่ะครับ

ผมไปเจอคนตะวันตกแต่งแฟนฟิคแล้วบอกว่า
วิธีการฝึกแบบไกและลีไมไ่ด้ผลจะทำให้ร่างกายเสียและหลังเสีย

ผมถึงกับอุทานว่า
"น่านิ๊ บอกว่าวิธีการฝึกแบบถ่วงน้ำหนักไม่ได้ผล ช่างเป็นความคิดที่นอกรีตอะไรเช่นนี้" :P

ทุกท่านมองว่าเราควรจะออกแนวไหนดีครับ ถึงจะดูสมเหตุสมผล

หรือว่าเราไม่ควรเปลี่ยนรูปแบบของแนวโชวเน็นที่มันใช้ได้ดีอยู่แล้วไปเป็นอย่างอื่น

"หึหึ ข้าปลดน้ำหนักห้าสิบตันที่ถ่วงข้าออกไปแล้ว ต่อไปนี้จะใช้พลังที่แท้จริง"
หากเล่นมุกว่า"แบกน้ำหนักมากไปอย่างนั้นหลังและไหล่จะเสีย" มันก็ไม่มีมุกให้เราเล่นกันน่ะสิครับ ???

"เหลวไหล นั่งสมาธิใต้น้ำตกและให้ท่อนซุงหล่นลงมาและให้เราคอยหลบ คือวิธีฝึกของสำนักเรามาหลายร้อยปีแล้วและได้ผลมาตลอด"

 :P

ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?
และพอมีมุกอะไรที่แซวการฝึกแบบโชวเน็นได้บ้างไหมครับ?

อาจจะเพระาเป็นแนวคิดคนตะวันตกก็ได้ ที่พูดประมาณว่า หลังของกัซแห่งเบอร์เซิร์กเสียกันพอดีที่แกว่งดาบขนาดยักษ์นั้นไปมา
ก็ทำให้ผมฉุกคิดเรื่องนี้ขึ้นมาน่ะครับ

หรือ แนวที่อิปโปฝึกในการใช้ค้อนตอกท่อนซุงเข้าไปในกำแพงดิน ว่าจะทำให้หลังและไหล่เสียหรือไม่ว่างั้นนน่ะครับ
โค้ชคาโมกาว่าที่เคยใช้หมัดลุ่นๆต่อยท่อนซุงก็ยังคิดว่าตอนนั้นเราทำลงไปได้อย่างไรกัน ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ shinosuzu

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 109
  • ถูกใจแล้ว: 42 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-1
แล้วจะฝึกแบบไหนแทนอ่ะ
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,200
  • ถูกใจแล้ว: 2520 ครั้ง
  • ความนิยม: +348/-417
  • เพศ: ชาย
วิ่งวันละ 10 km
ซิทอัพ 100 ครั้ง
วิดพื้น 100 ครั้ง
ลุกนั่งวันละ 100 ครั้ง


ทำเยอะๆผมร่วงได้
คนที่ชอบ FF7 มักมีแต่คนที่สมองไม่พัฒนา
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: mentkub, archenn123

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,401
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
แล้วจะฝึกแบบไหนแทนอ่ะ
ก็ถึงว่าล่ะครับ
ผมถึงบอกว่าการพยบายามเป็นสายเลือด หลั่งเหงือ่ หลั่งเลือด คือแนวคิดแบบโชวเน็นที่ความพยายามนั้นได้ผล นำมาซึ่งชัยชนะ
กระทั่งตัวร้ายในแนวโชวเน็นก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาในบางทีด้วยคนถึงประทับใจ
การบอกว่าการฝึกแบบไกและลีไม่ได้ผลรือกัซเหวี่ยงดาบแล้วหลังจะพัง
จะดำเนินเรื่องต่ออีท่าไหน?
..
ผมนึกถึงแนวทางที่ต้องให้เอี้ยก้วยทานดีงุและเหวี่ยงดาบดำไร้คมก็เพระาว่าจะต้องอธิบายว่า ทำไมผู้เยาว์รุ่นหลังถึงเก่งเว่อกว่าพวกผู้อาวุโสที่ฝึกมาก่อนหลายสิบปีว่างั้น
วิ่งวันละ 10 km
ซิทอัพ 100 ครั้ง
วิดพื้น 100 ครั้ง
ลุกนั่งวันละ 100 ครั้ง


ทำเยอะๆผมร่วงได้
เขาบอกว่าหากวิเคราะห์การฝึกของไซตามะไม่ใช่การฝึกที่หนักอะไรครับ คนที่พยายามหน่อยก็ทำได้ มันถึงเป็นการล้อเลียน
เพระาเคล้ดลับมันไมไ่ด้ยากอะไรเลยว่างั้น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ shinosuzu

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 109
  • ถูกใจแล้ว: 42 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-1
ฝึกแบบนายโยตะ ยิ่งเย็ด ยิ่งเก่ง
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: mentkub

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ไอ้ที่ฟรังว่าฝึกแบบมังงะอนิเมะเช่นแบกน้ำหนักห้าสิบเท่าไม่ได้ผลมันคือการดูแบบกายวิภาควิทยาศาจการกีฟาครับ ไม่ไช่ว่าแบกน้ำหนักฝึกไม่ได้ผลแต่แบกน้ำหนักตลอดเวลาไม่ได้ผลกับการฝึกของคนปกติครับ เพราะกล้ามเนื้อคนเรามันมีขีดจำกัดในการไช้งานถ้าฝึกแบบตลอดเวลาแบบมังงะกล้ามเนื้อมันจะขาดก่อนฝึกได้ครับ ดังนั้นคนเราเมื่อฝึกกล้ามเนื้อจึงต้องมีการพักบ้างไม่ไช่ฝึกตลอดเวลาซึ่งการพักที่ว่า ยาวนานกว่าการฝึกเป็นสิบๆเท่าเช่นเมื่อเราออกกำลังสัก1ชัวโมงเราต้องพักไห้ฟื้นตัวอย่างต่ำ10ชัวโมง หรือการฝึกแบบต่อเนื่องชัวโมงพักชัวโมงก็ยังต้องพักหลังฝึกเป็นวันดังนั้นการฝึกแบบโชเน็นจึงเอามาไช้จริงไม่ได้ แต่นะครับในเมื่อมันเป็นเรื่องแต่งมันจึงไม่ไช่ความจริงครับดังนั้นจึงมีพลังที่ไม่มีในโลกความจริงบวกเข้าไปด้วย เช่นคิของดราก้อนบอลฮาคิเน็นปรานเวทสารพัทความแฟนตาซีที่โลกไม่มีไอ้เรื่องที่สมจริง เดียวนี้ก็ไม่มีเรื่องไหนฝึกเกินขีดจำกัดแล้วครับ

ออฟไลน์ According to

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,549
  • ถูกใจแล้ว: 436 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-29
พลังแบบแฟนตาซี แต่จะเอาวิทยาศาสตร์ไปจับผิดวิธีฝึก แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว


แนวคิดที่ควรจะเป็นของการฝึกแบบโชเน็นคือไม่ต้องสนว่าวิธีการจะพิลึกพิลั่นแค่ไหน จะอิงวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์ก็ช่าง ขอแค่เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมก็พอ ยิ่งพยายามมากยิ่งเก่ง ยิ่งความเสี่ยงสูงผลลัพธ์ยิ่งแรง ยิ่งเงื่อนไขยากยิ่งโหด ยิ่งสังเวยยิ่งได้พลังเยอะ
 

ออฟไลน์ blackmon

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 98
  • ถูกใจแล้ว: 18 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
  • เพศ: ชาย
ฝึกพกน้ำหนักเท่าที่ดูคือทุกคนที่ฝึกแบบนี้คือมันฝึกจนสามารถรับน้ำหนักเท่านี้แล้วสามารถใช้ชีวิตปกติได้ ไม่ได้เริ่มวันแรกก็แบก10โล ร่างกายมันฝึกจนสามารถรับน้ำหนักเสริมเป็นน้ำหนักตัวได้แล้วเลยพกไว้ตลอดได้ไม่สร้างภาระให้ร่างกายแต่จะเพิ่มความเร็วเวลาปลดออก เหมือนลดน้ำหนักเฉยๆ
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,200
  • ถูกใจแล้ว: 2520 ครั้ง
  • ความนิยม: +348/-417
  • เพศ: ชาย
[quote/]
ก็ถึงว่าล่ะครับ
ผมถึงบอกว่าการพยบายามเป็นสายเลือด หลั่งเหงือ่ หลั่งเลือด คือแนวคิดแบบโชวเน็นที่ความพยายามนั้นได้ผล นำมาซึ่งชัยชนะ
กระทั่งตัวร้ายในแนวโชวเน็นก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาในบางทีด้วยคนถึงประทับใจ
การบอกว่าการฝึกแบบไกและลีไม่ได้ผลรือกัซเหวี่ยงดาบแล้วหลังจะพัง
จะดำเนินเรื่องต่ออีท่าไหน?
..
ผมนึกถึงแนวทางที่ต้องให้เอี้ยก้วยทานดีงุและเหวี่ยงดาบดำไร้คมก็เพระาว่าจะต้องอธิบายว่า ทำไมผู้เยาว์รุ่นหลังถึงเก่งเว่อกว่าพวกผู้อาวุโสที่ฝึกมาก่อนหลายสิบปีว่างั้น
[quote/]
เขาบอกว่าหากวิเคราะห์การฝึกของไซตามะไม่ใช่การฝึกที่หนักอะไรครับ คนที่พยายามหน่อยก็ทำได้ มันถึงเป็นการล้อเลียน
เพระาเคล้ดลับมันไมไ่ด้ยากอะไรเลยว่างั้น



เอ้า ก็คุณอยากได้แบบล้อเลียน ผมก็จัดให้ มาด่าผมอีก เออ เอาเข้าไป งง

ปัญญาอ่อนป่ะครับ
คนที่ชอบ FF7 มักมีแต่คนที่สมองไม่พัฒนา
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,401
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ฝึกแบบนายโยตะ ยิ่งเย็ด ยิ่งเก่ง
นั่นล่ะครับแนวความคิดของแนวโชวเน็นคือยิ่งทำซ้ำจะเก่ง แต่พวกฝรั่งมองว่าร่งกายจะเสียอันที่จริงแนวคิดนี้ มีให้เห็นในเรื่องอายชิลด์ อมิโน่ไซบอร์กที่ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาแต่ก็พ่ายแพ้พวกพระเอกไป
[quote/]


เอ้า ก็คุณอยากได้แบบล้อเลียน ผมก็จัดให้ มาด่าผมอีก เออ เอาเข้าไป งง

ปัญญาอ่อนป่ะครับ
ใจเย็นครับท่าน ผมแค่หาหัวข้อคุยด้วยเฉยๆ ฮาแบบเดียวกับที่มีคนแซวไซตามะว่าเป้นคตัวประกอบไมไ่ด้ออกโรงในเรื่องที่ตนเองเป็นพระเกนั่นล่ะครับ
เพระาเก่งเกินไปจะเขียนยากเลยต้องดันคนอื่นขึ้นมา

ว่าแนวคิดโชวเน็นน่ะ ที่มันมีแนวทางของมันนั้นมันมีที่มาที่ไปอยู่
หากวันพันซ์แมนอยากเขียนต่อ ก็ต้องเอาไซตามะไปเดินเล่นทีอื่นเสียสักหลายๆตอนอยู่แต่คนธรรมดาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมโชวเน็นถึงต้องมีแนวเรื่องหฟรือแนวคิดบางอย่างน่ะครับ
ผมว่ามันน่าสนใจดี
หากทำลายความตื่นเต้นของระดับพลังและการฝึกซ้อมไป ก็ต้องลงเอยอย่างไซตามะนั่นล่ะ ฮา
ฝึกพกน้ำหนักเท่าที่ดูคือทุกคนที่ฝึกแบบนี้คือมันฝึกจนสามารถรับน้ำหนักเท่านี้แล้วสามารถใช้ชีวิตปกติได้ ไม่ได้เริ่มวันแรกก็แบก10โล ร่างกายมันฝึกจนสามารถรับน้ำหนักเสริมเป็นน้ำหนักตัวได้แล้วเลยพกไว้ตลอดได้ไม่สร้างภาระให้ร่างกายแต่จะเพิ่มความเร็วเวลาปลดออก เหมือนลดน้ำหนักเฉยๆ
หมายถึงยี่สิบห้าตันนนั่นระดับโกคูน่ะครับ
ใครว่าข้าไม่เก่ง คิอิจิหรือบากิเองก็แบกหนักกว่ายี่สิบกิโลวิ่งข้ามเมืองข้ามจังหวัดกันเป็นเรื่องปรกติ
แต่เห็นด้วยครับเรือ่งเพิ่มน้ำหนักน่าจะเป็นการอธิบายให้สมเหตุสมผลได้มากกว่า
แต่ท่านจะอธิบายหลับตานั่งสมาธิใต้น้ำตกหรือบนภูเขาอย่างประธานเนเทโร่อย่างไรครับ? :P
พลังแบบแฟนตาซี แต่จะเอาวิทยาศาสตร์ไปจับผิดวิธีฝึก แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว


แนวคิดที่ควรจะเป็นของการฝึกแบบโชเน็นคือไม่ต้องสนว่าวิธีการจะพิลึกพิลั่นแค่ไหน จะอิงวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์ก็ช่าง ขอแค่เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมก็พอ ยิ่งพยายามมากยิ่งเก่ง ยิ่งความเสี่ยงสูงผลลัพธ์ยิ่งแรง ยิ่งเงื่อนไขยากยิ่งโหด ยิ่งสังเวยยิ่งได้พลังเยอะ
นั่นสินะครับคนเราต้องการ"ความยุติธรรม"เป็นตัวอธิบยายในเรื่องว่าทำไมเก่งได้เท่านี้การจะเก่งเร็วกว่าชาวบ้านก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนอะไรอย่างหนึ่งเช่นทำสัญยากับปีศาจ ปลุกพลังจิ้งจอกที่แฝฝงอยู่ในตัวหรือสายเลือดที่หลับไหลอะไรเทือกนั้น
คนเราไม่สามารถรับได้กับคำว่า
"ก็ตูเก่ง"
ยกเว้นจะออกแนวตัวร้ายที่เป็นเป้าหมายของพระเอก

อันที่จริงตัวร้ายก็มามุกเดียวกันตลอดน่ะครับ
แบบบรรยายยูจิโร่ว่าที่จริงไม่ใช่พวกไร้สมอง แต่เป็นคนเก่งศิลปะ วิทยาศาสตร์ด้านอื่นๆด้วย
ราชาจากฮันเตอร์ก็มามุกนี้
โกโต้จากปรสิตเดรัจฉานก็มามุกนี้

คือตัวร้ายจะต้องเป็นเป้าหมายของพระเอก ที่เทพทุกอย่างนอกเหนือไปจากการต่อสู้ด้วยว่าอย่างนั้นครับ
แต่การทุ่มเทฝึกต้องได้ผลตอบแทน
ไอ้ที่ฟรังว่าฝึกแบบมังงะอนิเมะเช่นแบกน้ำหนักห้าสิบเท่าไม่ได้ผลมันคือการดูแบบกายวิภาควิทยาศาจการกีฟาครับ ไม่ไช่ว่าแบกน้ำหนักฝึกไม่ได้ผลแต่แบกน้ำหนักตลอดเวลาไม่ได้ผลกับการฝึกของคนปกติครับ เพราะกล้ามเนื้อคนเรามันมีขีดจำกัดในการไช้งานถ้าฝึกแบบตลอดเวลาแบบมังงะกล้ามเนื้อมันจะขาดก่อนฝึกได้ครับ ดังนั้นคนเราเมื่อฝึกกล้ามเนื้อจึงต้องมีการพักบ้างไม่ไช่ฝึกตลอดเวลาซึ่งการพักที่ว่า ยาวนานกว่าการฝึกเป็นสิบๆเท่าเช่นเมื่อเราออกกำลังสัก1ชัวโมงเราต้องพักไห้ฟื้นตัวอย่างต่ำ10ชัวโมง หรือการฝึกแบบต่อเนื่องชัวโมงพักชัวโมงก็ยังต้องพักหลังฝึกเป็นวันดังนั้นการฝึกแบบโชเน็นจึงเอามาไช้จริงไม่ได้ แต่นะครับในเมื่อมันเป็นเรื่องแต่งมันจึงไม่ไช่ความจริงครับดังนั้นจึงมีพลังที่ไม่มีในโลกความจริงบวกเข้าไปด้วย เช่นคิของดราก้อนบอลฮาคิเน็นปรานเวทสารพัทความแฟนตาซีที่โลกไม่มีไอ้เรื่องที่สมจริง เดียวนี้ก็ไม่มีเรื่องไหนฝึกเกินขีดจำกัดแล้วครับ
ขอบคุณครับ
อันที่จริงการฝึกแบบเซียนเต่าดั้งเดิมของดราก้อนบอลเอง ไม่ได้ฝึกเกินขีดจำกัดน่ะครับ
มีเวลานอนพัก อ่านหนังสือโป๊อะไรด้วย
แต่ท่าทางหลายคนลืมไปแฃ้วสินะ ในเรื่องการฝึกตอนแรกๆ ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]
นั่นล่ะครับแนวความคิดของแนวโชวเน็นคือยิ่งทำซ้ำจะเก่ง แต่พวกฝรั่งมองว่าร่งกายจะเสียอันที่จริงแนวคิดนี้ มีให้เห็นในเรื่องอายชิลด์ อมิโน่ไซบอร์กที่ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาแต่ก็พ่ายแพ้พวกพระเอกไป[quote/]
ใจเย็นครับท่าน ผมแค่หาหัวข้อคุยด้วยเฉยๆ ฮาแบบเดียวกับที่มีคนแซวไซตามะว่าเป้นคตัวประกอบไมไ่ด้ออกโรงในเรื่องที่ตนเองเป็นพระเกนั่นล่ะครับ
เพระาเก่งเกินไปจะเขียนยากเลยต้องดันคนอื่นขึ้นมา

ว่าแนวคิดโชวเน็นน่ะ ที่มันมีแนวทางของมันนั้นมันมีที่มาที่ไปอยู่
หากวันพันซ์แมนอยากเขียนต่อ ก็ต้องเอาไซตามะไปเดินเล่นทีอื่นเสียสักหลายๆตอนอยู่แต่คนธรรมดาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมโชวเน็นถึงต้องมีแนวเรื่องหฟรือแนวคิดบางอย่างน่ะครับ
ผมว่ามันน่าสนใจดี
หากทำลายความตื่นเต้นของระดับพลังและการฝึกซ้อมไป ก็ต้องลงเอยอย่างไซตามะนั่นล่ะ ฮา
[quote/]
หมายถึงยี่สิบห้าตันนนั่นระดับโกคูน่ะครับ
ใครว่าข้าไม่เก่ง คิอิจิหรือบากิเองก็แบกหนักกว่ายี่สิบกิโลวิ่งข้ามเมืองข้ามจังหวัดกันเป็นเรื่องปรกติ
แต่เห็นด้วยครับเรือ่งเพิ่มน้ำหนักน่าจะเป็นการอธิบายให้สมเหตุสมผลได้มากกว่า
แต่ท่านจะอธิบายหลับตานั่งสมาธิใต้น้ำตกหรือบนภูเขาอย่างประธานเนเทโร่อย่างไรครับ? :P
[quote/]
นั่นสินะครับคนเราต้องการ"ความยุติธรรม"เป็นตัวอธิบยายในเรื่องว่าทำไมเก่งได้เท่านี้การจะเก่งเร็วกว่าชาวบ้านก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนอะไรอย่างหนึ่งเช่นทำสัญยากับปีศาจ ปลุกพลังจิ้งจอกที่แฝฝงอยู่ในตัวหรือสายเลือดที่หลับไหลอะไรเทือกนั้น
คนเราไม่สามารถรับได้กับคำว่า
"ก็ตูเก่ง"
ยกเว้นจะออกแนวตัวร้ายที่เป็นเป้าหมายของพระเอก

อันที่จริงตัวร้ายก็มามุกเดียวกันตลอดน่ะครับ
แบบบรรยายยูจิโร่ว่าที่จริงไม่ใช่พวกไร้สมอง แต่เป็นคนเก่งศิลปะ วิทยาศาสตร์ด้านอื่นๆด้วย
ราชาจากฮันเตอร์ก็มามุกนี้
โกโต้จากปรสิตเดรัจฉานก็มามุกนี้

คือตัวร้ายจะต้องเป็นเป้าหมายของพระเอก ที่เทพทุกอย่างนอกเหนือไปจากการต่อสู้ด้วยว่าอย่างนั้นครับ
แต่การทุ่มเทฝึกต้องได้ผลตอบแทน[quote/]
ขอบคุณครับ
อันที่จริงการฝึกแบบเซียนเต่าดั้งเดิมของดราก้อนบอลเอง ไม่ได้ฝึกเกินขีดจำกัดน่ะครับ
มีเวลานอนพัก อ่านหนังสือโป๊อะไรด้วย
แต่ท่าทางหลายคนลืมไปแฃ้วสินะ ในเรื่องการฝึกตอนแรกๆ ???
ไอ้ที่ไส่น้ำหนักเยอะๆตลอดเวลานี่คือสิ่งที่ทำไม่ได้ในความเป็นจริงไงครับ แล้วการเอาน้ำหนักออกแล้วตัวเบาเก่งขึ้นในความเป็นจริงคือเป็นไปไม่ได้ไง อย่างที่ผมบอกการแบกน้ำหนักตลอดเวลามันทำไห้ร่างกายรับภาระตลอดเวลา มันจะเกิดการช้ำในกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ในความเป็นจริงแบบเดียวกับแพลกดทับ ของผู้ป่วยติดเตียงถ้าพกน้ำหนักตลอดเวลาและถ้าชินกับน้ำหนักจนเหมือนไส่เสื้อผ้า ผลคือเหมือนไส่เสื้อผ้านั้นคือไม่ได้ฝึกอะไร การที่แบกของหนักมานานแล้วหยุดแบกมันไม่ได้ทำไห้เก่งขึ้น มันจะทำไห้เกิดอาการล้าจนอ่อนแรงกว่าเดิมไปพักหนึ่ง นี่คือหลักความเป็นจริงครับดังนั้นสิ่งที่อนิเมะทำมันจึงขัดกับความเป็นจริง มีบางส่วนที่เป็นจริงเช่นเมื่อแบกน้ำหนักคือการฝึกกล้ามเนื้อเท่านั้นเเต่แบกไม่พักกับแบกมาแล้ววางมันไม่เบาลงครับ ไม่เชื่อลองถืออะไรหรือแบกอะไรก็ได้นานๆแล้ววางผมรับรองว่ามือสันไปพักหนึ่งเลย

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,401
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]
ไอ้ที่ไส่น้ำหนักเยอะๆตลอดเวลานี่คือสิ่งที่ทำไม่ได้ในความเป็นจริงไงครับ แล้วการเอาน้ำหนักออกแล้วตัวเบาเก่งขึ้นในความเป็นจริงคือเป็นไปไม่ได้ไง อย่างที่ผมบอกการแบกน้ำหนักตลอดเวลามันทำไห้ร่างกายรับภาระตลอดเวลา มันจะเกิดการช้ำในกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ในความเป็นจริงแบบเดียวกับแพลกดทับ ของผู้ป่วยติดเตียงถ้าพกน้ำหนักตลอดเวลาและถ้าชินกับน้ำหนักจนเหมือนไส่เสื้อผ้า ผลคือเหมือนไส่เสื้อผ้านั้นคือไม่ได้ฝึกอะไร การที่แบกของหนักมานานแล้วหยุดแบกมันไม่ได้ทำไห้เก่งขึ้น มันจะทำไห้เกิดอาการล้าจนอ่อนแรงกว่าเดิมไปพักหนึ่ง นี่คือหลักความเป็นจริงครับดังนั้นสิ่งที่อนิเมะทำมันจึงขัดกับความเป็นจริง มีบางส่วนที่เป็นจริงเช่นเมื่อแบกน้ำหนักคือการฝึกกล้ามเนื้อเท่านั้นเเต่แบกไม่พักกับแบกมาแล้ววางมันไม่เบาลงครับ ไม่เชื่อลองถืออะไรหรือแบกอะไรก็ได้นานๆแล้ววางผมรับรองว่ามือสันไปพักหนึ่งเลย
ใช่ครับ การฝึกกล้ามเนื้อ ถึงต้องมีวันพักหรือการฝึกคนละส่วนของร่างกายเพื่อให้ได้การสร้างกล้ามเนื้อที่แข้งแกร่งเต็มที่ผมว่าไม่แพ้ศิลปะการต่อสู้ในการที่ต้องใช้สมองคำนวณเลยล่ะครับ
ปัญหาอย่างที่ท่านว่า กล้ามใหญ่อาจจะไม่ใช่กล้ามที่เมหาะกับการต่อสู้ แต่คือกล้ามที่น่าจะทนมือทนเท้าเหมาะกับแนวโชวเน็นที่สุดใช่ไหมล่ะครับ ???
เช่นเล่นมุกว่าเพราะกล้ามใหญ่ ทำให้กล้ามเนื้อทนแรงเสียดสีได้มาก จึงใช้การระเบิดพลังได้ดีมากกว่าคนตัวผอมๆ
ว่าต้องมีร่างอย่างอุโบกิ้นเท่านั้นถึงจะใช้บิ๊กแบงอิมแพ็คได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Sasageyo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจแล้ว: 340 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-24
ฝึกแบบเท่ๆ  เดี๋ยวคนแต่งก็หาเหตุผลมาประกอบได้เอง  ขอให้ดูเท่ดูเหมือนว่ามันเวิร์คก็พอ
ดูอย่างบากิสิ  หรือไม่ก็โรงเรียนลูกผู้ชายที่มีวิชามากมาย  ซึ่งมั่วเหตุผลสุดกู่ แต่ดูเหมือนจะ
เวิร์ค
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ฝึกแบบเท่ๆ  เดี๋ยวคนแต่งก็หาเหตุผลมาประกอบได้เอง  ขอให้ดูเท่ดูเหมือนว่ามันเวิร์คก็พอ
ดูอย่างบากิสิ  หรือไม่ก็โรงเรียนลูกผู้ชายที่มีวิชามากมาย  ซึ่งมั่วเหตุผลสุดกู่ แต่ดูเหมือนจะ
เวิร์ค
ไข่ครับดังนั้นนิยายการ์ตูนมันจึงเป็นเรื่องแต่งคิดว่ามันคือความจริงในโลกของมันก็ได้ครับ แต่อย่าเอาเรื่องแต่งมาปนกับความเป็นจริงเพราะคนแต่งมันไม่ได้มีความรู้ในกฏของโลก ผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่างสมัยก่อนที่ชอบแต่งนิยายเอาความรู้ครึ่งๆกลางๆ กับระเบิดฝุ่นเหมือนว่ารุนแรงไช้ง่ายแต่ความจริงมันทังเบาและเกิดขึ้นยาก เมื่อเทียบกับระเบิดทำเองชนิดต่างๆในปริมาณที่เท่ากันเช่นแป้งหลายกระสอบเอามาตีไห้ฟุ้งทังห้อง ต้องเกิดประกายไฟกี่ครังถึงจะระเบิดผมบอกเลยว่าหลายสิบครังและการเดินเอาคบไฟเข้าไปมันก็ไม่ระเบิด เพราะมันไม่ได้ระเบิดจากความร้อนเเต่ระเบิดจากการเสียดสีอย่างรุนเเรงของประกายไฟ และเอาดินประสิวเอาแบบกากสุดถ้าจำนวนเท่ากันหลายสิบกระสอบหรือน้อยกว่าสักครึง ถ้ามันระเบิดห้องหายไปแน่นอนแต่ ไอ้ระเบิดฝุ่นต่อไห้ระเบิดที่เดิมสักสิบรอบห้องก็ไม่พังความรุนแรงจึงต่ำกว่ามาก ยิ่งถ้าตังใจทำระเบิดด้วยดินประสิวเป็นกระสอบนี่ระเบิดกองทัพได้เลย นี่คือความไม่รู้ของผู้แต่งถ้าไช้ตระกรรในความเป็นจริง ดังนั้นการไช้สิ่งที่ไม่มีจริงมาเสริมอย่างเวทคิมานาปราณฮาคิบลาๆจึงเป็นการเติม ส่วนที่ความเป็นจริงมันไม่มีไห้เป็นไปได้
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,401
  • ถูกใจแล้ว: 3115 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
ฝึกแบบเท่ๆ  เดี๋ยวคนแต่งก็หาเหตุผลมาประกอบได้เอง  ขอให้ดูเท่ดูเหมือนว่ามันเวิร์คก็พอ
ดูอย่างบากิสิ  หรือไม่ก็โรงเรียนลูกผู้ชายที่มีวิชามากมาย  ซึ่งมั่วเหตุผลสุดกู่ แต่ดูเหมือนจะ
เวิร์ค
ขอบคุณครับท่านโกเปี้ยว
ลากเอาสำนักพิมพ์มินเมย์ออกมาอ้างอิง ฮา
ว่าแต่พวกนี้มันไปฝึกมาจากวัดตามป่าตามเขาแถวไหน ฟะ
[quote/]
ไข่ครับดังนั้นนิยายการ์ตูนมันจึงเป็นเรื่องแต่งคิดว่ามันคือความจริงในโลกของมันก็ได้ครับ แต่อย่าเอาเรื่องแต่งมาปนกับความเป็นจริงเพราะคนแต่งมันไม่ได้มีความรู้ในกฏของโลก ผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่างสมัยก่อนที่ชอบแต่งนิยายเอาความรู้ครึ่งๆกลางๆ กับระเบิดฝุ่นเหมือนว่ารุนแรงไช้ง่ายแต่ความจริงมันทังเบาและเกิดขึ้นยาก เมื่อเทียบกับระเบิดทำเองชนิดต่างๆในปริมาณที่เท่ากันเช่นแป้งหลายกระสอบเอามาตีไห้ฟุ้งทังห้อง ต้องเกิดประกายไฟกี่ครังถึงจะระเบิดผมบอกเลยว่าหลายสิบครังและการเดินเอาคบไฟเข้าไปมันก็ไม่ระเบิด เพราะมันไม่ได้ระเบิดจากความร้อนเเต่ระเบิดจากการเสียดสีอย่างรุนเเรงของประกายไฟ และเอาดินประสิวเอาแบบกากสุดถ้าจำนวนเท่ากันหลายสิบกระสอบหรือน้อยกว่าสักครึง ถ้ามันระเบิดห้องหายไปแน่นอนแต่ ไอ้ระเบิดฝุ่นต่อไห้ระเบิดที่เดิมสักสิบรอบห้องก็ไม่พังความรุนแรงจึงต่ำกว่ามาก ยิ่งถ้าตังใจทำระเบิดด้วยดินประสิวเป็นกระสอบนี่ระเบิดกองทัพได้เลย นี่คือความไม่รู้ของผู้แต่งถ้าไช้ตระกรรในความเป็นจริง ดังนั้นการไช้สิ่งที่ไม่มีจริงมาเสริมอย่างเวทคิมานาปราณฮาคิบลาๆจึงเป็นการเติม ส่วนที่ความเป็นจริงมันไม่มีไห้เป็นไปได้
มันต้องมีตัวจุดชนวนหรือเลป่าครับ?
ผมก็เล่นมุกน้เหมือนกันในการแต่งนิยาย แต่ก็อปมาจากโลกความจริง ที่ผู้ก่อการร้ายต้องเอารถกระบะบรรทุกของพวกนี้ไว้ด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการระเบิดมันระเบิดยากโดยอุบัติเหตุ หากแต่เเงื่อนไขครบถ้วนก็สามารถระเบิดได้ในระดับหนึ่ง
แต่ต้องมีตัวตั้งต้นที่เป็นตัวที่จะทำให้เกิดปฏิอกิริยาได้และฝุ่นมากพอคุ้นๆว่าการก่อการร้าสยในอินเดียนั้นเอารถกระบะบรรทุกพวกแผ้งไปน่ะครับ

..
แต่คิดอีกที เราบรรยายไม่สมจริงน่ะดีแล้วครับผม
นักเขียนอังกฤษเผลอเขียนกระบวนการเรือดำน้ำนิวเคลียร์ทำงานอย่างไร โดนพวกความมั่นคงโทรศัพท์ไปหาเลย ฮา
นักเขียนอเมริกัน ที่เขียนเรื่องแนวทหาร การดักฟัง ก็เจอหน่วยข่าวกรองโทรไปหาเมหือนกัน ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Sasageyo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจแล้ว: 340 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-24
ทำให้นึกถึงเกร็ดความรู้ในช่องสี่เหลี่ยมของโรงเรียนลูกผู้ชายอันนึง  มีตอนนึงที่คู่ต่อสู้จีน
ออกมา  พร้อมกับจักรยานนั่งล้อเดียว  แบบกายกรรมโชว์ของจีนนั่นแหละ  แล้วในกรอบ
ก็บรรยายว่า  บลาๆๆๆเป็นวิชาสี่พันปี  WTF!!  ก็ดันหลงเชื่อตั้งนาน(เพราะยังเด็กมาก)
เขียนเพิ่มหนึ่งบรรทัด  เผื่อใครไม่เก็ต :
จักรยานล้อเดียวมันมีตั้งกะสี่พันปีที่แล้วเรอะ !!  แถมมันคืออาวุธในสงคราม!!  =="


รู้สึกออกมาได้ไม่กี่หน้า  ก็โดนใครสักคนในโรงเรียนลูกชายจัดการไป  ใช่รุ่นพี่ดาบยาวๆ
หล่ะมั้ง  ชื่อดาบอิจิมอนจิหล่ะมั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2021, 10:06:47 AM โดย Sasageyo »
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20710 ครั้ง
  • ความนิยม: +363/-6
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ทำให้นึกถึงเกร็ดความรู้ในช่องสี่เหลี่ยมของโรงเรียนลูกผู้ชายอันนึง  มีตอนนึงที่คู่ต่อสู้จีน
ออกมา  พร้อมกับจักรยานนั่งล้อเดียว  แบบกายกรรมโชว์ของจีนนั่นแหละ  แล้วในกรอบ
ก็บรรยายว่า  บลาๆๆๆเป็นวิชาสี่พันปี  WTF!!  ก็ดันหลงเชื่อตั้งนาน(เพราะยังเด็กมาก)
เขียนเพิ่มหนึ่งบรรทัด  เผื่อใครไม่เก็ต :
จักรยานล้อเดียวมันมีตั้งกะสี่พันปีที่แล้วเรอะ !!  แถมมันคืออาวุธในสงคราม!!  =="


รู้สึกออกมาได้ไม่กี่หน้า  ก็โดนใครสักคนในโรงเรียนลูกชายจัดการไป  ใช่รุ่นพี่ดาบยาวๆ
หล่ะมั้ง  ชื่อดาบอิจิมอนจิหล่ะมั้ง
สำนักพิมพ์มินเมย์ครับ ???  ตอนเด็กๆผมก็อ่านนะอ่านไปอ่านมา มันใช่เหรอวะครับ? ???
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]
ขอบคุณครับท่านโกเปี้ยว
ลากเอาสำนักพิมพ์มินเมย์ออกมาอ้างอิง ฮา
ว่าแต่พวกนี้มันไปฝึกมาจากวัดตามป่าตามเขาแถวไหน ฟะ[quote/]
มันต้องมีตัวจุดชนวนหรือเลป่าครับ?
ผมก็เล่นมุกน้เหมือนกันในการแต่งนิยาย แต่ก็อปมาจากโลกความจริง ที่ผู้ก่อการร้ายต้องเอารถกระบะบรรทุกของพวกนี้ไว้ด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการระเบิดมันระเบิดยากโดยอุบัติเหตุ หากแต่เเงื่อนไขครบถ้วนก็สามารถระเบิดได้ในระดับหนึ่ง
แต่ต้องมีตัวตั้งต้นที่เป็นตัวที่จะทำให้เกิดปฏิอกิริยาได้และฝุ่นมากพอคุ้นๆว่าการก่อการร้าสยในอินเดียนั้นเอารถกระบะบรรทุกพวกแผ้งไปน่ะครับ

..
แต่คิดอีกที เราบรรยายไม่สมจริงน่ะดีแล้วครับผม
นักเขียนอังกฤษเผลอเขียนกระบวนการเรือดำน้ำนิวเคลียร์ทำงานอย่างไร โดนพวกความมั่นคงโทรศัพท์ไปหาเลย ฮา
นักเขียนอเมริกัน ที่เขียนเรื่องแนวทหาร การดักฟัง ก็เจอหน่วยข่าวกรองโทรไปหาเมหือนกัน ???
คือระเบิดฝุ่นมันคือปติกริยาลูกโซ่ที่เกิดจากอะตอมไปชนกันต่อเนื่องอย่างรุนแรงครับไม่ไช่ปติกริยาสันดาบจากความร้อน ความแรงของระเบิดฝุ่นจึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอะตอมที่เหมืองมันระเบิดรุนเเรงเพราะ มวลของฝุ่นมันหนักการระเบิดของระเบิดฝุ่นมันเกิดขึ้นยากต่อไห้ทังห้องมีฝุ่นแต่การจะไห้ระเบิดโดยตังใจ จากประกายไฟก็ไม่ไช่ง่ายๆมันมีเงื่อนไขที่มวลของฟุ่นที่ถูกประกายไฟจะเกิดปติกริยาลูกโซ่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนว่าง่ายๆ ระเบิดฝุ่นเราไม่รู้ว่าตัวจุดฉนวนไห้ระเบิดมันอยู่ตรงไหนต่างจากระเบิดชนิดต่างๆ ที่ทำขึ้นแค่จุดฉนวนมันก็ระเบิดแล้วแป้งสักห้าสิบกิโลถ้าระเบิดในห้องปิดตายอาจทำไห้คนตายได้พอริเจอร์เสียหายเล็กน้อย แต่ดินปืนห้าสิบกิโลถ้าเอามาพันระเบิดซากก็ไม่เหลือห้องนั้นจะพังแบบบ้านหายทังหลังนี่ คือความต่างครับต่อไห้ไช้ดินประสิวระดับกากสุดด้วยส่วนผู้ก่อการร้ายในอินเดียที่ว่าขนผงแป้ง มันยัดไส้ไดนาไมท์นี่ครับมันหวังผลการทำลายจริงจังเลย

ออฟไลน์ Sasageyo

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจแล้ว: 340 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-24
[quote/]
คือระเบิดฝุ่นมันคือปติกริยาลูกโซ่ที่เกิดจากอะตอมไปชนกันต่อเนื่องอย่างรุนแรงครับไม่ไช่ปติกริยาสันดาบจากความร้อน ความแรงของระเบิดฝุ่นจึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอะตอมที่เหมืองมันระเบิดรุนเเรงเพราะ มวลของฝุ่นมันหนักการระเบิดของระเบิดฝุ่นมันเกิดขึ้นยากต่อไห้ทังห้องมีฝุ่นแต่การจะไห้ระเบิดโดยตังใจ จากประกายไฟก็ไม่ไช่ง่ายๆมันมีเงื่อนไขที่มวลของฟุ่นที่ถูกประกายไฟจะเกิดปติกริยาลูกโซ่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนว่าง่ายๆ ระเบิดฝุ่นเราไม่รู้ว่าตัวจุดฉนวนไห้ระเบิดมันอยู่ตรงไหนต่างจากระเบิดชนิดต่างๆ ที่ทำขึ้นแค่จุดฉนวนมันก็ระเบิดแล้วแป้งสักห้าสิบกิโลถ้าระเบิดในห้องปิดตายอาจทำไห้คนตายได้พอริเจอร์เสียหายเล็กน้อย แต่ดินปืนห้าสิบกิโลถ้าเอามาพันระเบิดซากก็ไม่เหลือห้องนั้นจะพังแบบบ้านหายทังหลังนี่ คือความต่างครับต่อไห้ไช้ดินประสิวระดับกากสุดด้วยส่วนผู้ก่อการร้ายในอินเดียที่ว่าขนผงแป้ง มันยัดไส้ไดนาไมท์นี่ครับมันหวังผลการทำลายจริงจังเลย

งั้นก็แถว่าตัวเอกหรือเวทมนต์หรืออะไรสักอย่าง  ช่วยทำให้ปฏิกิริยามันง่ายขึ้น  มันดีขึ้น  มันเสถียรขึ้น

 :P

//พลังแห่งการ์ตูน!!
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]

งั้นก็แถว่าตัวเอกหรือเวทมนต์หรืออะไรสักอย่าง  ช่วยทำให้ปฏิกิริยามันง่ายขึ้น  มันดีขึ้น  มันเสถียรขึ้น

 :P

//พลังแห่งการ์ตูน!!
ไช่ครับมันควรไช้พลังแห่งการ์ตูนแถจะด้วยพลังเวทหรือพลังอะไรก็ได้ ที่ผมยกตัวอย่างมาคือคนแต่งอยากไห้มันเรียลดูสมจริงจึงไช้เหตุผลในความจริงไส่เข้าไปแต่ ความจริงที่คนแต่งรู้มันคือความรู้ทัวไปอย่างเช่นระเบิดฝุ่นเมื่อเกิดฝุ่นในห้อง และเกิดประกายไฟมันจะระเบิดทุกคนควรหลี่กเลี่ยง แต่สาเหตุความแรงและโอกาสเกิดคนปกติไม่รู้ไงครับ ตัวอย่างเหมืองที่มีเตาหลอมในเหมืองแต่ทำใมไม่ระเบิดเพราะความร้อนไม่ทำไห้เกิดระเบิดนั้นเเง
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TomDurrrr

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก