[quote/]พอพูดถึงเรื่องศาสนาแล้วนึกถึงoverwatchเลยครับที่มันมีศาสนาของเครื่องจักรและมีนักบวชอยู่ด้วย
ผมไปเจอพวกฝรั่งมักเขียนว่าแม้แต่หุ่นยนต์ก้มีศาสนาน่ะครับ
มีการแซวตัวละครในทาเนียด้วยวว่านักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่ง
ไม่ใช่คนที่ไร้ศาสนา แต่เป็นผู้ที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้า ว่าที่คิดค้นอะไรได้นี่ แสดงว่าพระเจ้าประทานแสงสว่างแห่งปัญญามาให้ มาอย่างนั้นล่ะครับ
อันนั้นผมมองว่า ในเมื่อ AI วัฒนาการไปในระดับ ที่สามารถแก้บักให้ตัวเองได้
มีปัจเจก และอัตตา
ตอนนั้นเราคงต้องนิยายกันใหม่ล่ะว่า AI คือสิ่งมีชีวิตอย่างนึง
แบบ Frontier Setter ใน Rakuen Tsuihou
ถ้าจำไม่ผิดพี่แก debug อับเกรดตัวเองได้ หรือก็คือวัฒนาการได้นั่นเอง
เข้าเงื่อนไขการเป็นสิ่งมีชีวิต มีความต้องการมีชีวิต และวิวัฒนาการได้
ผมไปเจอแนวคิดแบบนั้นในแนวคนเหล็กเหมือนกันครับว่าสกายเน็ตพัฒนาตนเองมากยิ่งขึ้น แต่สกายเน็ตก็เจอปัญหาแบบเดียวกับมนุษย์ที่หากพัฒนาตนเองมากขึ้นแสดงว่าตัวเราคนเดิมหายไป ความรู้ความคิดซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เริ่ทมทำอย่างเดียวกับมนุษย์ในตอนแรก ที่ควบคุมไม่ให้หุ่นยนต์ลูกน้องมีความคิดอย่างอิสระ
ส่วนตัว เมนปรัชญาหลักของผมคือศาสนาพุทธ ส่วนตัวผมมองว่าศาสนาพุทธก็
มองว่า AI ก็คือ โอปาติกะ ประเภทหนึ่งนั้นแหละเพราะนิยามมนุษย์ของศาสนาพุทธ
คือ สัตว์ที่มีความกล้า กล้าที่จะทำดีกว่าสัญชาติญาณ หรือ เลวกว่าสัญชาติญาณนั่นแหละ
คือมนุษย์ ส่วน AI คือจิต ที่จุติมาแล้วโตเต็มที่เลย ผมเลยมองว่านิยาม
จะไปเข้ากับสัตว์ประเภทโอปาติกะ มากกว่า ถ้าเมื่อไหร่ AI แหกข้ามโปรแกรมตัวเองได้
ทำเหนือโปรแกรมไม่ว่าทางดีหรือเลว ก็แสดงว่า AI ได้ข้ามจากสัตว์ เป็นมนุษย์แล้ว
อย่างลูกพี่เชมเบอร์ แห่ง Gargantia ไง
ขอบคุณครับ
เรื่องน่าสนใจผมไปอ่านเจอมาคือ
ว่าหากอยากสร้างสมองของมนุษย์ พวกเราก็ควรจะสร้างเลียนแบบสมองของมนุษย์เลยเป็นไง?
ที่สมองมนุษย์การคิดเกิดขึ้นได้ เพระาทางเทคนิค มันต้องมีการสัมผัสกับข้อมูลภายนอก
หากจำลองเอไอแบบเดิมๆ เท่ากับว่ามนุษย์ที่ไม่มีการสัมผัสภายนอก มันจะกลายเป็นมีความคิดแบบเราได้อย่างไร
ว่าสมองของมนุษย์อาจจะวับซ้อนน้อยบกว่าที่คิดในการจำลองเป็นคอมพิวเตอร์ แต่คนจะกล้าพอทดลองหรือเปล่า?
เรือ่งอินเด็ก to aru index ทำน่าสนใจว่า ค่อยๆแทนที่แต่ละส่วนของร่างกายด้วยหุ่นยนต์ทีละนิดทีละหน่อย หลังจากนั้นเอาชิ้นส่วนมาปรกอบกัน หุ่นยนต์นั้นจะนับว่ามีชีวิตหรือเปล่า? ใครกันแน่ที่เป็นตัวจริง?