[ไร้สาระ] มีใครคิดไหมครับว่า Isekai แบบ Fantasy RPG นั้นโกงน้อยกว่า Strategy

[thepingman]

ต้องบอกว่า ตอนที่กำลังเซ็งเรื่องที่ Isekai Apocalypse Mynoghra ไม่มีคนแปล (คนแปล Eng Paywall ไว้) เลยทำให้มาลองนึกเล่นๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่า สาเหตุหนึ่งที่คนไม่ค่อยทำ Isekai Fantasy Strategy game แบบสร้างเมืองสร้างกองทัพสู้กัน แต่นิยมเล่นสกิลเล่นเวทมนตร์ในเกม Fantasy RPG กันมากกว่าไม่ใช่เพราะมันเข้าถึงคนได้มากกว่าอย่างเดียว

แต่เพราะการแปลงความสามารถใน Strategy game มาเป็นนิยายแล้วสกิลมันจะโกงโอเวอร์มากๆ หากเอามาใช้ใน Standard RPG World

ตัวอย่างเช่น Heroes of Might and Magic เวทระดับกากที่สุดโจมตี/บัพ/ดีบัพ เป้าหมายทีละ "ยูนิต" ดูเผินๆ เหมือนห่วย แต่ว่า "ยูนิต" ที่ว่านั่นอาจจะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ชาวนา 1 คน ไปจนถึงไฮดร้า 9999 ตัว ซึ่งมันหมายความว่าขนาดเวทระดับห่วยที่สุดใน Heroes นั้นก็เป็นเวทล้างกองทัพแล้ว นับประสาอะไรกับเวทระดับสูงสุดหรือเวท "ยิงหมู่" ซึ่งหลายๆ ครั้งจะไม่สนเลยว่าเป้าหมายของสกิลหรือเวทนั้นมันอยู่ที่ไหนในสนามรบ หรือสภาพภูมิประเทศมีสิ่งกีดขวางบังยังไง ฯลฯ ขอแค่เป็น "พวกเดียวกัน" หรือ "ศัตรู" เท่านั้นแหละโดนทันที

ส่วนในอีกมุมหนึ่งก็มีเกมแนว Disciples กับ Age of Wonders ซึ่ง "กองทัพ" หนึ่งๆ มียูนิตน้อยและกำลังพลน้อย แต่ดันโกงไปอีกแบบคือเวทในสองเกมนั้นแม้แต่เวทที่กากที่สุดก็เป็นแบบยิงที่ไหนก็ได้ในแมพราวกับ Superweapon ใน Red Alert 2 ขอแค่มี "ยูนิต" ของฝ่ายเราชี้เป้าให้เท่านั้น ต่อให้อยู่คนละซีกโลกก็โดนบอมบ์ได้ทันที ส่วนเวทระดับ Superweapon จริงๆ น่ะเหรอ? ยิงโดนทั้งแมพ หลบยังไงก็ไม่พ้น

และนั่นก็อีกอันนึงที่โกง คือมองเห็นโลกแบบ overworld ทั้งแมพได้และรับรู้ทุกอย่างที่กองทัพเรารู้เป็นเรื่องพื้นฐาน ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าพวกที่มีสกิลวิเคราะห์เสียอีก

แล้วพวกคุณๆ คิดว่ายังไงครับ

• Tweet

[Overmars]

ความนิยมของเรื่องที่อ้างอิงจากเกมแต่ละแบบ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสกิลโกง/ไม่โกง แต่คนญี่ปุ่นนิยมเล่นเกม RPG มากกว่า มีความเข้าใจระบบเกมแนวนี้มากกว่า ทั้งคนเขียนและคนอ่าน
เรื่องที่อ้างอิงเกม RPG จึงโผล่มาเยอะกว่าเรื่องที่อ้างอิงเกม Strategy

ลองยกชื่อเกมแนว Strategy ดัง ๆ ขึ้นมา แล้วลองดูว่าเกมไหนเป็นเกมของญี่ปุ่นมั่ง ?

และนั่นก็อีกอันนึงที่โกง คือมองเห็นโลกแบบ overworld ทั้งแมพได้และรับรู้ทุกอย่างที่กองทัพเรารู้เป็นเรื่องพื้นฐาน ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าพวกที่มีสกิลวิเคราะห์เสียอีก

อันนี้คุณพูดเหมือนคุณไม่เคยเล่นเกม RTS เลยนะ คือเห็นแมพกว้างมันก็มีประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ที่การวิเคราะห์ในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อรับมือยูนิตอีกฝ่ายมากกว่า
คนเล่นเกมแนวนี้เก่งสกิลวิเคราะห์โคตรสำคัญ คุณต้องรู้ว่าอีกฝ่ายออกยูนิตอะไร เพื่อคุณจะได้ออกยูนิตรับมือถูก

อย่างพวกแชมป์ Starcraft นี่ เห็นฐานคุณแค่ไม่กี่ฐาน แมร่งก็เดาแล้วว่าคุณจะไต่เทคไปทางไหน จะออกยูนิตอะไร

[imarisgano]

ไม่น็อกราห์ นี่มันก็สรา้งเมืองไม่ค่อยต่างจากโอเวอร์ลอร์ดเท่าไหร่แหละ

ว่าแต่ทีมพระเอก จะมีฮีโร่ น่ารักๆ แบบอาโทว์ อีกไหม

[thepingman]

ความนิยมของเรื่องที่อ้างอิงจากเกมแต่ละแบบ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสกิลโกง/ไม่โกง แต่คนญี่ปุ่นนิยมเล่นเกม RPG มากกว่า มีความเข้าใจระบบเกมแนวนี้มากกว่า ทั้งคนเขียนและคนอ่าน
เรื่องที่อ้างอิงเกม RPG จึงโผล่มาเยอะกว่าเรื่องที่อ้างอิงเกม Strategy

ลองยกชื่อเกมแนว Strategy ดัง ๆ ขึ้นมา แล้วลองดูว่าเกมไหนเป็นเกมของญี่ปุ่นมั่ง ?


[quote/]
อันนี้คุณพูดเหมือนคุณไม่เคยเล่นเกม RTS เลยนะ คือเห็นแมพกว้างมันก็มีประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ที่การวิเคราะห์ในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อรับมือยูนิตอีกฝ่ายมากกว่า
คนเล่นเกมแนวนี้เก่งสกิลวิเคราะห์โคตรสำคัญ คุณต้องรู้ว่าอีกฝ่ายออกยูนิตอะไร เพื่อคุณจะได้ออกยูนิตรับมือถูก

อย่างพวกแชมป์ Starcraft นี่ เห็นฐานคุณแค่ไม่กี่ฐาน แมร่งก็เดาแล้วว่าคุณจะไต่เทคไปทางไหน จะออกยูนิตอะไร


 

ก็จริงครับ เรื่องว่าพอให้ยกชื่อเกม Strategy ของญี่ปุ่นแล้วก็นึกไม่ออก (ฮา) แต่ส่วนเรื่องสกิลวิเคราะห์นี่ผมพูดถึงพวกวิเคราะห์แบบตาแก่ Deckard Cain วิเคราะห์ไอเทมจาก Diablo 2 หรืออะไรแบบนั้นเทียบกับการมองเห็นแบบ Overworld Map น่ะครับว่า Overworld map vision จากยูนิตของเราที่ส่งไปท่องโลกมันทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่จะมาวิเคราะห์เยอะกว่า สกิลวิเคราะห์แบบที่เห็น Isekai บางเรื่องใช้นั้นมันต้องมีของที่จะวิเคราะห์มาอยู่ตรงหน้าหรือในละแวกใกล้เคียงถึงจะวิเคราะห์ได้ ทำให้การได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารมันจำกัดไงครับ

[gaiar33]

กลับกันนะ    RPG ไม่ต้องวางแผนนะครับ     ขอแค่  LV ตัน  ITEM เทพ  ตี้เทพ  ชนิดตบ GM หัวทิ่ม คุณก็ไม่ต้องสนการวางแผนอะไรแล้ว

[Flady]

เอาจริงแล้วหัวข้อนี้น่าจะหมายถึง 'เคยคิดไหมว่าจริงๆแล้ว Isekai ที่ใช้ระบบเกมแบบ Strategy โกงกว่า Isekai ที่ใช้ระบบเกมแบบ RPG?' มากกว่า 
นอกจากเหตุผลที่มีคนยกขึ้นมาแล้ว เราจะขอเสนอเหตุผลสำคัญอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ... ระบบเกม Strategy นั้นนำมาประยุกต์ใช้กับในนิยายได้ยากกว่า
ในทางกลับกันระบบ RPG นั้นสามารถใช้แสดงภาพให้คนอ่านนึกตามได้อย่างง่ายดาย(ประกอบกับที่มีตัวอย่างนิยายให้เห็นเป็นหลักร้อย...) นอกจากนี้ Isekai RPG ยังสามารถ
โดยงเนื้อเรื่องให้ครอบคลุมด้านการจัดการวางแผนได้ (Management RPG) โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบแบบเกม Strategy เลย เรียกได้ว่ามีความยืดหยุ่นสูงกว่ากันอย่างชัดเจน
การที่ระบบมี 'ความเป็นส่วนตัว' กับตัวละครก็ทำให้ตัวเอกดูมีความโกงได้อย่างชัดเจน ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ชอบอ่านแนว 'สูตรโกง'
จริงอยู่ที่เมื่อเปรียบเทียบตามระบบเกมแล้ว เกมแนว Strategy จะดูให้อำนาจกับตัวละครมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นอำนาจจริงๆก็อยู่ที่ตัวผู้แต่งอยู่ดี
พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ... ถึงแนว Strategy จะโกงกว่าในระดับพื้นฐาน คนที่จะกำหนดว่าตัวละครจะมีพลังแข็งแกร่งแค่ไหนก็คือคนแต่งอยู่ดี
เพราะอย่างนั้นจะเป็น Isekai ที่มีต้นแบบเกมแนวไหนก็ไม่สำคัญ จะเป็น Age of Empire, Pokemon หรือว่า Dark Soul ก็ไม่ต่างกัน... 

[warakornboy]

ความนิยมของเรื่องที่อ้างอิงจากเกมแต่ละแบบ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสกิลโกง/ไม่โกง แต่คนญี่ปุ่นนิยมเล่นเกม RPG มากกว่า มีความเข้าใจระบบเกมแนวนี้มากกว่า ทั้งคนเขียนและคนอ่าน
เรื่องที่อ้างอิงเกม RPG จึงโผล่มาเยอะกว่าเรื่องที่อ้างอิงเกม Strategy

ลองยกชื่อเกมแนว Strategy ดัง ๆ ขึ้นมา แล้วลองดูว่าเกมไหนเป็นเกมของญี่ปุ่นมั่ง ?


[quote/]
อันนี้คุณพูดเหมือนคุณไม่เคยเล่นเกม RTS เลยนะ คือเห็นแมพกว้างมันก็มีประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ที่การวิเคราะห์ในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อรับมือยูนิตอีกฝ่ายมากกว่า
คนเล่นเกมแนวนี้เก่งสกิลวิเคราะห์โคตรสำคัญ คุณต้องรู้ว่าอีกฝ่ายออกยูนิตอะไร เพื่อคุณจะได้ออกยูนิตรับมือถูก

อย่างพวกแชมป์ Starcraft นี่ เห็นฐานคุณแค่ไม่กี่ฐาน แมร่งก็เดาแล้วว่าคุณจะไต่เทคไปทางไหน จะออกยูนิตอะไร

Warcraft — Starcraft ผมว่าเป็น RTS ที่ค่อนข้างใหม่ และมีข้อจำกัดด้านขนาดกองทัพที่แน่นอน และทรัพยากรที่สามารถเก็บได้จำกัดมากกว่า เพราะจุดด้อยคือ Player ต้องบริจาค Units จำนวหนึ่งให้ทำหน้าที่บริหารฐานตัวเอง และทหารจำนวนจะน้อยลงทำให้ต้องวางกำลังรบแบบที่ว่า


เก่าหน่อยก็ Heroes of Might & Magic III —RA2 และ C&C อื่น ก็เจอกับข้อจำกัดเรื่องการจัดทัพเหมือนกันแต่ไม่จำกัดจำนวน อย่างไรก็ตามการบริหารรายได้และความปลอดภัยของฐานหลัก จะทำให้การขยายพื้นที่อื่น เพื่อบุกเบิกแหล่งทรัพยากรที่ยังไม่มีใครพบได้ง่าย


ซึ่ง = จะยิ่งทำให้ Production Power สูงขึ้นด้วย เมื่อเทพกับ RPG จ๋าแล้วส่วนใหญ่ Setting มันแค่ทำให้ตัวเอกโชคดี แล้วก็ฝึกฝนจนเก่งแค่นั้น เมื่อเทียบกับ Scale เท่ากันตัวเอกจะต้องเจอกับ Enemies จำนวนตั้งไม่รู้กี่ 100 -1,000 units ถึงแม้จะ Farm ตัวละครจน Max Level & Item ล้นกระเป๋า ถ้าลองมาเจอกับการวางกับดักและกดดันด้วยจำนวนที่มากกว่าหรือประเภทที่แพ้ทาง เก่งแค่ไหนก็ผลาญ Item จนตายได้


ขนาด Heroes ในเกม C&C — Warcraft เองก็ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งถ้าแต่งให้มีโลคเหลือเกินแสดงว่า ‘ผิดกติกา’ ของเกมนั้นแล้ว

[samuison]

อันที่จริงมันยากกว่านะครับอย่างที่โมมอนกะกังวลว่าลูกนร้องจะทรยศนั้นถูกแล้วหากคนเคยเล่นเกมส์มาบ่อย ต้องกังวลการก่อกบฎแลฃะค่าความไม่พอใจของงลุกน้อง
แนวที่มีลูกน้องเป็นดาร์กเอลฟ์ก็เช่นกัน ควรจะเป็นเผ่าพันธู์หรือประเทศที่ปกครองยากที่สุดด้วยซ้ำ เพราะจะหักหลังกันบ่อยมากๆๆๆๆ

"ดาร์กเอลฟ์มีความมั่นคงภายในสูงสุด"
what?
นี่ก็ทำให้ผมแปลกใจแล้วครับ
ดาร์กเอลฟ์ไม่ใช่เผ่าที่ความมั่นคงภายในสูงสุด แต่แทบจะน้อยสุดเลยและไม่ใช่ isolationism เก็บตัวแต่คือslaver นักล่าทาสตัวฉกาจ
isolationsim นี่คือสายคนแคระครับไม่ใช่ดาร์กเอลฟ์ ที่มีความมั่นคงภายในสูงน่ะ
แต่อย่างว่าล่ะ หากอยากให้ตรงตาม lore คงหน้าตาไม่หล่อ เลยเลือกเป็๋นเอลฟ์ที่หล่อสวยกว่า

[cyberstein]

คนแต่งส่วนใหญ่จะให้พระเอกโกง แต่จะไม่เอาไอ้ที่โกงเกินไปมาเพราะ ส่วนใหญ่จะชอบแต่งให้มีลุ้นบ้างตอนสู้
บางเรื่องพอสักพักคนแต่งต้องเอาไอ้ที่โกงมาเนิฟด้วยซำ้

หรือถ้าจะให้โกงเว่อร์มันก็มีหลายวิธีใช้แทนได้

เพราะงั้นพวกสกิลแนวสงครามไม่จำเป็นเท่าไหร่

[Rumia]

ขีดจำกัดของrpgมันกว้างกว่าเยอะเพราะยูนิทที่เราเล่นมีตัวเดียวจึงงไส่อะไรหลายๆอย่่่างจนมันโกงตอนระดับสูงสุด ส่วนเกมแนววางแผนการรบมันมีหลายยูนิตจริงแต่ขีดความสามารถแต่ละยูนิตมันมีขีดจำกัด ยูนิตระดับต่ำต่อไห้เวลตันก็สู้ยูนิตระดับสูงไม่ได้ และถ้าเอามาแต่งนิยายมันมีเงื่อนไขด้านทรัพยากรจำนวนยูนิตและพื้นที่่จัดเก็บ สู้แบบrpgมีคนเดียวทรัพยากรก็เก็บในช่องเก็บของได้พื้นที่แค่นอนโรงแรมก็จบ ถึงจะบอกว่าแบบวางแผนถ้ามีจำนวนเยอะวางแผนดีๆก็เก็บแนวrpgได้ไม่ยากแต่ขอบเขตสูงสุดของเกมแนวrpgเป็นหลัก กับเกมแนววางแผนการรบขีดจำกัดมันต่างกันเยอะ อย่างดิสไกอาของตันเวลตันมันยิ่งกว่าคอสมิคบีอิงอีกเพราะเกมแนวrpg มันมียูนิตที่ไห้ความสำคัณน้อยจึงไส่พลังมาได้เยอะแต่เกมแนววางแผนการรบมันมียูนิตเยอะ จึงไส่พลังมาน้อยเพราะเมื่อเล่นเกมแนววางแผนรบมันต้องเกิดการสูญเสียยูนิต แต่กลับกันแนวrpgไม่ต้องการไห้ยูนิตสูณเสียนอกจากจะเก่งขึ้นเรื่อยๆการตายจึงเป็นไปไม่ได้้สำหรับเกมแนวนี้ แนวคิดของเกมสองแบบมันต่างกันถ้าถามผมว่าสองแนวนี้แบบไหนจะชนะถ้าสู้กัน ผมบอกเลยว่าแนวrpgแน่นอนแม้บอกว่าวางแผนมาดีๆแต่ใครจะไห้วางแผนครับบุกไปตบแม่ทัพตรงๆก็จบแล้ว หรือสู้ไปถอยนานไปพวกยูนิตเยอะก็แบกรับความเสียหายไม่ได้ไปเองถ้าวัดกันจากการต่อสู้ผมว่าแนววางแผนแพ้100% ไม่มีหนทางสู้ได้เลยแต่เกมแนววางแผนมันได้เปรียบด้านการปกครองหรือยึดครองโลกครับ เหมือนจอมมารมีลูกน้องเยอะกระจายกำลังไปยึดครองโลกแต่จอมมารแพ้ทันที่เมื่อผู้กล้กล้าเดินไปตบ ผมยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆแต่มันคือการเอาเกมสองแนวมาเทียบกันครับถ้าจะแต่งเรื่องมันขึ้นอยู่กับคนเขียน แต่ผมบอกจุดต่างไปแล้วถ้าเกมที่เวลตัน9999ระเบิดจักรวาลได้ด้วยการต่่อยแพ้เพราะโดนยูนิตรถถังรุมอันนี้ก็ต้องรับคำวิจารแล้ว แต่อย่างว่าครับเกมแต่ละเกมมันมีระดับของมันอยู่ถ้าเอาเกมวางแผนอย่างยูริ มาเจอเกมrpgที่พลังต่ำอย่างดาร์กโซลก็อีกเรื่องหนึ่ง

[nosta]

จริงๆถ้าปรับสเกลให้สมเหตุสมผลจะโกงขึ้นอีกเยอะ อย่างใน age of wonder  ยูนิตต้องคูณพันไปเลย ทำให้สเกลรบทีนึงหลักพันหลักหมื่น ไม่ใช่ทั้งอาณาจักรมีกองทัพแค่หลักสิบ ซึ่งจะทำให้เวททย์ บัฟและทำลาย เว่อร์วังอลังการมาก อย่าง   master of magic เกมส์โปรดผมนี่ มันมีเวทย์แบบลงทั้งแมพ amargeddon  นี่ภูเขาไฟค่อยๆขึ้นในแดนข้าศึกจนเต็ม แต่ละภูเขาเพิ่ม mana  ให้ผู้ร่าย 1 ต่อเทิร์น ถ้าขึ้นตรงเมืองคือสิ่งก่อสร้างมีโอกาสพัง แถมค่าความไม่พอใจพุ่ง  meteor strom  คือร่ายที โจมตียูนิตทุกฝ่ายทุกเทิร์น มีโอกาสทำลายสิ่งก่อสร้างทุกฝ่ายทุกเทิร์นยกเว้นผู้ร่าย ค่าความไม่พอใจฝ่ายอื่นพุ่งอีก คือแบบชนะ  call the void  สูบยูนิต ทำลายสิ่งก่อสร้างในเมืองทุกเทิร์น ร้ายใส่เมืองหลวงนี่แทบเป็นเมืองร้าง เอาทัพมายึดชนะได้ง่ายๆ  magic of the masteryร่ายทีชนะครองโลกเลยจบ ฝ่าย life น๊าเลือกหนังสือ ไลฟ์ล้วน 11 เล่มร่าย  incarnation  ลงบัฟรัวๆนี่แทบจะเป็นอมตะ

[cemeteryzx]

ถ้าเรื่องนี้...RPG ก็มีความโกงในแบบของมันอยู่

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

แต่จากตอนล่า ความโกงถึงขีดสุด..

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[samuison]

ถ้าเรื่องนี้...RPG ก็มีความโกงในแบบของมันอยู่[spoiler/]
แต่จากตอนล่า ความโกงถึงขีดสุด..
[spoiler/]

ผมงงงวยกับ lore ของเรือ่งนี่ล่ะครับ ว่าดาร์กเอลฟ์ทำอีท่าไหน ถึงมีความมั่นคงภายในสูงได้ หรือจะเล่นมุกว่า lore ไม่ได้เอาของต่างประเทศมาแต่มีอะไรก็ใส่ไปว่างั้น
อันที่จริงอย่างที่ผมบอก แนวคิดของโมมอนกะที่ระแวงว่าลูกน้องจะทรยศหรือเปล่า คือแนวคิดปรกติของคนเล่นเกมส์กระดานมาบ่อยๆจะระแวงทุกอย่าง

[KAGUYA]

พลังแบบเกมวางแผนเขายกให้พวกพระเจ้าหรือเทพมารที่ดูโลกจากเบื้องบนไงละ  จะว่าไปจันทรานำพาสู่ต่างโลกtsukiที่พระเอกหน้าธรรมดาจนโดนเทพธิดาห่ารากโยนทิ้งไปแดนรกร้างก็เป็นตัวอย่าง นางชอบบัพเผ่ามนุษย์ดีบัพเผ่ามารและอมนุษย์จนสร้างความได้เปรียบแก่เผ่ามนุษย์ที่นางถูกใจหน้าสวยก็ถือว่าโกงแบบที่ท่านว่า ฝ่ายมารต้องหาทางแก้อย่างลำบาก
- การอวยพรของนักบุญที่เพิ่มบัพให้กับกองทัพก็มีหลายเรื่องแต่มักไม่ใช่เรื่องยาวและนางเอกมักถูกขับตั้งแต่ตอนหนึ่งจนอาณาจักรล่มสลาย นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงบัพยุทธศาสตร์ที่นางเอกได้รับจากพระเจ้า
- หรือโกงอย่างเทพอะไรองค์นึงที่จอมมารคามาจิรวมมิตรนิยายหลายเรื่องของตัวเองที่ตัวเอกโลกมนุษย์ไปลุยร่วมกันในโลกเทพของวาลคิรี่ ที่มีบัพชัยชนะว่าอยู่ข้างไหน ฝ่ายนั้นจะได้รับชัยชนะอย่างไร้ข้อกังขา
- ถ้าเอาเกมก็เหมือนบางเกมที่เคยได้ยินเขาคุยว่ายูนิตชาวสปาตันถือหอกบุกถล่มกองทัพสมัยใหม่ เกมไรน้า นั่นแหละ พลังของเกมวางแผน ทำให้ยูนิตมนุษย์เทพราวเซอแวนต์fateได้ ซึ่งก็เหมือนการอัพพลังสกิลโกงให้แนวแฟนตาซี

- สรุป พลังแนววางแผนมักเป็นของเบื้องบน ลงมาเล่นเองก็ชิลๆเกินไป

อ๋อ เรื่องนั้นของอีตาจอมมารนะเหรอ แต่สุดท้ายพอราชินี่ขาวโผล่มาก็วงแตกเลยไม่ใช่เหรอเพราะชีเป็นตัวตนที่ระดับสูงกว่าเทพที่บัพ

[thetoy323]

นึกถึงเกม PVP(Battleswarm) เลยแฮะ ฝั่ง fps มันเล่นง่ายกว่า rts มากก็จริง  แต่ฝั่ง rts นี่ ถ้าวางแผนดีๆรู้สึกว่าแม่มโคตร op  ที่ผมใช้บ่อยๆก็เอาunitล่องหนมาดักตีหัวนี่ล่ะ ฝั่งคนเดินผ่านทีตัวแตกแบบงงๆ

[gaiar33]

ยกตัวอย่างพื้น เดธมาร์ท หรือ มือถือ ก็ได้ สองหน่อนี้ ใครเอามันลงบ้างถามจริง
เสกอุกาบาตระดับล้างเผ่าพันธุ์มังกรที จัดมากี่ล้านยูนิตก็ตายเรียบ

ถึงได้บอกไง มันเทียบกันไม่ได้ ถ้าฝั่ง rpg มันสเตตัสกับของเทพตัน

[pol]

ไม่ครับเกมวางแผนการรบโกงน้อยกว่าเยอะเพราะแนวเกมของมันจะสร้างให้มีความสมดุลไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเกินไป. อย่างน้อยไม่มียูนิตมหาเทพที่ใช้ตัวเดียวกวาดได้ทั้งMapแน่นอนครับ.  แต่แนวRPG มันทำได้

[Rumia]

ไม่ครับเกมวางแผนการรบโกงน้อยกว่าเยอะเพราะแนวเกมของมันจะสร้างให้มีความสมดุลไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเกินไป. อย่างน้อยไม่มียูนิตมหาเทพที่ใช้ตัวเดียวกวาดได้ทั้งMapแน่นอนครับ.  แต่แนวRPG มันทำได้

ไช่ครับเพราะเกมวางแผนรบมันสร้างมาเพื่อเอายูนิตรบไปตายถึงจะบอกว่าวางแผนดีๆอย่างเอายูนิตล่องหนไปดัก แต่เจอโปรเล่นกันหรือเล่นกับคนมันก็ต้องมีการเสียยูนิตกันบ้างเกมแนวนี้มันเหมือนหมากรุกนั้นแหละครับ แต่เกมrpgมันไม่ยอมไห้ยูนิตที่เล่นตายครับอย่างน้อยก็ตัวหลักที่เราเล่นและต่อไห้เป็นเกมที่จำกัดพลัง แบบสุดๆของrpgก็ยังมีวีธียือชิวีตสาระพัดวิธีส่วนเกมที่สเกลใหณ่ๆมันระดับคนเดียวสยบโลกได้เลย(ถ้าเราเป็นตัวเอกอะนะ) และเกมrpgในนิยายมักมีคำว่าถ้าเลเวลต่ำกว่า50การโจมตีไม่มีผล มันคือพยายามลดสเกลของrpgแบบสุดๆแล้วครับผมยกตัวอย่างเกมff6ที่บิลตัวละครเต็มสูบเวลตันของตัน ผลคือหลบหลีก200%ป้องกันเวท300%หลบหลีกเวท150%ป้องกันกายภาพ500%ผลของเวทมนต์ธาตุทังหมดเปรี่ยนเป็นพลังชิวีต ไม่สามารถติดสถานะปกติได้เมื่อตายจะคืนชีพทันที่พลังโจมตีกายภาพ1200 พลังเวท850ว่าง่ายๆศัตรูทังเกมตีเข้า0แต่เราตบที่เดียวตายมีแค่บอสที่ต้องตบนานขึ้นเกมrpgมันทำได้ระดับนี้เลย ถ้าเอาตัวละครที่มีพลังขนาดนี้ไปสู้กับเกมวางแผนรบมันจะสู้กันไหวเหรอครับ จริงอยู่ว่าถ้าเกมrpgที่สเกลบ้านๆมันไม่โกงอาจจะอ่อนกว่าเกมวางแผนรบแต่สำหรับสเกลสูงสุดสำหรับrpg มันคือระดับกดเอปุ่มเดียวเคลียเกมได้นะครับคิดว่ามีเกมวางแผนรบเกมไหน สร้างยูนิตที่ตีโคตรแรงและไม่มีวันตายแบบrpgได้ไหมละ

[warakornboy]

[quote/]
ไช่ครับเพราะเกมวางแผนรบมันสร้างมาเพื่อเอายูนิตรบไปตายถึงจะบอกว่าวางแผนดีๆอย่างเอายูนิตล่องหนไปดัก แต่เจอโปรเล่นกันหรือเล่นกับคนมันก็ต้องมีการเสียยูนิตกันบ้างเกมแนวนี้มันเหมือนหมากรุกนั้นแหละครับ แต่เกมrpgมันไม่ยอมไห้ยูนิตที่เล่นตายครับอย่างน้อยก็ตัวหลักที่เราเล่นและต่อไห้เป็นเกมที่จำกัดพลัง แบบสุดๆของrpgก็ยังมีวีธียือชิวีตสาระพัดวิธีส่วนเกมที่สเกลใหณ่ๆมันระดับคนเดียวสยบโลกได้เลย(ถ้าเราเป็นตัวเอกอะนะ) และเกมrpgในนิยายมักมีคำว่าถ้าเลเวลต่ำกว่า50การโจมตีไม่มีผล มันคือพยายามลดสเกลของrpgแบบสุดๆแล้วครับผมยกตัวอย่างเกมff6ที่บิลตัวละครเต็มสูบเวลตันของตัน ผลคือหลบหลีก200%ป้องกันเวท300%หลบหลีกเวท150%ป้องกันกายภาพ500%ผลของเวทมนต์ธาตุทังหมดเปรี่ยนเป็นพลังชิวีต ไม่สามารถติดสถานะปกติได้เมื่อตายจะคืนชีพทันที่พลังโจมตีกายภาพ1200 พลังเวท850ว่าง่ายๆศัตรูทังเกมตีเข้า0แต่เราตบที่เดียวตายมีแค่บอสที่ต้องตบนานขึ้นเกมrpgมันทำได้ระดับนี้เลย ถ้าเอาตัวละครที่มีพลังขนาดนี้ไปสู้กับเกมวางแผนรบมันจะสู้กันไหวเหรอครับ จริงอยู่ว่าถ้าเกมrpgที่สเกลบ้านๆมันไม่โกงอาจจะอ่อนกว่าเกมวางแผนรบแต่สำหรับสเกลสูงสุดสำหรับrpg มันคือระดับกดเอปุ่มเดียวเคลียเกมได้นะครับคิดว่ามีเกมวางแผนรบเกมไหน สร้างยูนิตที่ตีโคตรแรงและไม่มีวันตายแบบrpgได้ไหมละ

ถ้า RPG ทำตัวละครเหนือกว่าปกติ 200% - 500% = อาจวิ่งได้ราวๆ 40 -60 km/h RTS หรือป้องกันการโจมตีทะลวงทำลาย Full Plate ได้ เท่านั้น หากเอาตรรกะ Realistic ของจริงลงไป ต้องพูดได้ว่าจะ Scale Downed ไปเยอะมาก


เพราะอาวุธดินปืน แค่ Modern Warfare พวกนี้ก็จู่โจมกันระดับ 800 - 1,000 m/s เป็นอย่างต่ำ จอมเวทย์แอบร่ายคาถามาจากไหนก็โดน Snipe เก็บระยะเกิน 1.5 km ขอแค่มองเห็น ถ้านั่นยังไม่ดีพอ เกินระยะสายตาออกไป


ถ้าชี้เป้าก็เจอ Mortar ถล่มเข้าไป 10km+  Camp กองทัพอาวุธโลหะและเวทย์ไม่ต่างอะไรกับเป้านิ่ง ตามมาด้วย Assault ผ่านพวกยานเกราะและ Chopper หรือแม้แต่พลร่มลำเลียง ฯลฯ ที่ไม่ต้องพึ่ง ICBM อย่างไรก็ตามถ้าประกาศ Full-Scale นั่นจะ = กองทัพปัจจุบันทึ่ไม่มีข้อกำหนดการใช้อาวุธขัดขวางอีกต่อไป ก็เตรียมเจอกับการบุกรุกผ่านลงมาจากชั้นบรรยากาศ


โดยของเล่นเล็กๆแบบนี้ Ion Cannon ของ Tiberium Wars เป็นของขั้นต่ำสุดและอะไรก็ตามที่ Warhammer 40k สามารถมีได้

[TheFakeMan]

Unit เอาจริงๆ 1 unit = 1 ชิ้น/คน นะครับ ดังนั้น เวทย์ที่โดน 1 Unit จึงไม่มีทางโดนทีเดียวทั้งกองทัพ

การโจมตีแบบ RTS ถ้าเทียบแบบเห็นภาพชัดๆ สำหรับผมนะ ขอเทียบกับ Red Alert 2 แล้วกัน

ที่ 1 Unit สามารถยิงโดนได้ครั้งละ 1 Unit ซึ่ง 1 Unit ที่ว่า คือ อาคาร 1 หลัง คน 1 คน สุนัข 1 ตัว รถ 1 คัน  ดังนั้น การโจมตี 1 ครั้ง โดน 1 Unit จึงไม่เท่ากับโดนทีเดียวเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันแน่นอน

ถ้าพวกที่โจมตีแบบโดนทีละหลายๆ Unit พวกนี้จะเป็น Area Weapon ถ้าเทียบกับพวกเวทย์ ก็จะเป็น เวทย์โจมตีหมู่ครับ ที่ลงทีเดียว โดนหมด ไม่สนจำนวน แต่จำกัดขอบเขตตามเงื่อนไขเท่านั้น

แล้วก็ การที่แต่งเรื่องแนว RTS ออกมาน้อย เพราะมันต้องใส่ใจรายละเอียดมากกว่าแบบ RPG Style ครับ

ไม่ว่าจะเป็น Unit แบบกีกี้ Unit กลางๆ  หรือจะพวก Unit พิเศษ แถมยังต้องจัดสมดุลให้ดีด้วยครับ เพราะถ้าโกงเกินไป เนื้อเรื่องมันจะเหมือนเวลาเราเล่นเกมแล้วเปิดสูตรเงินเต็ม สร้างได้ไม่จำกัด ประมาณนี้ครับ