แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: ทฤษฎีว่าด้วยแท้จริงแล้วภาษาของทุกภาษามีรากศัพท์มาจากภาษาเดียวกัน  (อ่าน 4082 ครั้ง)

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286

ทฤษฎีว่ากันว่ารากศัพท์ของทุกภาษา ไม่ว่าจะเป็น กรีก โรมัน และสันสกฤต คือ ภาษาของชาว Pontas Indo European (PIE)

สังเกตมั้ยครับคว่า Three กับ ไตร ที่แปลว่า 3 หรือ Two กับ โท ที่แปลว่า 2 มีความคล้ายกันมาก ทั้งที่ 2 ภาษาแทบจะอยู่คนละซีกโลก
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Handsome

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
นึกถึงมุกที่ครูเล่าสมัยมัธยม มีฝรั่งมาเที่ยวภาคอีสานแล้วบ่นว่าร้อน(hot) คนอีสานเข้าใจทันทีว่าร้อน เพราะ hot ที่แปลว่าร้อน ภาษาเหนือ-อีสานเรียกว่า ฮ้อน เสียง ฮ คล้ายๆกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 10, 2021, 08:34:08 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos, Handsome

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,180
  • ถูกใจแล้ว: 4978 ครั้ง
  • ความนิยม: +402/-442
แบบในมาครอส อาจจะเป็นจริงก็ได้ ที่แม้ว่า ภาษาคำเรียกสิ่งๆ นึงในแต่ละชาติ มันแตกต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของสิ่งๆ นั้น หากมีชื่อที่แท้จริงของสิ่งๆ นั้น จะเป็นภาษาที่ทุกสิ่งมีชีวิตเข้าใจได้ ในแบบเดียวกัน


เอา เพลงมา  ;D




เอาง่ายๆ คณิตศาส + - เลขเหมือนกันหมดทั่วโลกนั่นแหละ มันต้องมีกระบวนการ ภาษาทางชีวะอะไรสักอย่างที่สามารถ ใช้สื่อสารได้ทุกชาติพันธ์ของแค่เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน


 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Handsome

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,204
  • ถูกใจแล้ว: 3012 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-429
ผมไปอ่านเจอมานิดหนึ่งคือในอักษะของกระจกยามาโตะของญี่ปุ่นนยี่ มีอักษะของฮิบรูแฝงอยู่ล่ะครับ :P น่าสนใจเอามากๆ
ว่าชาวญี่ปุ่นยุคแรกอาจจะเป็นเผ่าหนึ่งตามคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือไม่ก้ต้องรับตัวอักษรมาใช้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Handsome

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,259
  • ถูกใจแล้ว: 20000 ครั้ง
  • ความนิยม: +361/-2
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ไม่ครับผมคิดว่ามันเป็นการยืมคำจากภาษาอื่นๆมากกว่าเช่นคอมพิวเตอร์ ที่ภาษาไทยก๊อบภาษาอังกฤษมาดื้อๆ  แล้วการยืมคำที่ว่าก็มาจากการค้าขายระหว่างชาติต่างๆ นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นิทานหรือเทพนิยายของหลายๆประเทศมีความคล้ายกัน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Handsome

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
เห็นด้วยหมด  และขอเสริมอันนึงคือ  ทุกภาษาจะมีคำร่วมคล้ายๆกัน  ที่เป็นคำง่ายๆ  คำพื้นฐาน
ที่เอาไว้พูดตอนแรกเริ่มที่พูดได้ในช่วงทารก  อย่างคำว่าม๊า(แม่)  ทั่วทั้งโลกคล้ายกัน  เคยคุย
กับเพื่อนคนนึง  เขาอธิบายอะไรไม่รู้  มันค่อนข้างยากมาก  จับใจความได้ราวๆว่า  มนุษย์จะมี
ชุดคำสั่งเกี่ยวกับคำพูดพื้นฐานที่เอาไว้ใช้ร่วมกันได้กับเผ่าอื่น  คล้ายๆหมาแมวที่มันก็มีชุดคำสั่ง
ภาษาของพวกมันที่ถึงแม้จะต่างพันธุ์แต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่อง

แล้วพูดเรื่องยากๆเกี่ยวกับนก  ว่านกแต่ละฝูงมีภาษาต่างกัน  ปลาโลมาแต่ละฝูงก็มีภาษาต่างกัน
บลาๆๆๆ  แต่ภาษาพื้นฐานสำหรับสื่อสารก็ยังมีเหมือนกัน


เรื่องภาษากลางของเผ่ามนุษย์ทั่วโลกเหรอ อืม แนวคิดนี้น่าสนใจมากๆ และถือเป็นอะไรที่นอกกรอบดี ดังนั้นก็จะตั้งได้ 2 สมมุติฐาน
1.บรรพบุรุษสมัยประวัติศาสตร์เดิมคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน มีภาษาและวัฒนธรรมเดียวกัน ตามทฤษฎีในคลิป และภายหลังก็ได้อพยพกระจัดกระจาย
2.แต่ละเผ่าแยกกันตั้งแต่แรก เพียงแต่ทุกเผ่ามีการทำข้อตกลงร่วมกันให้ใช้ภาษากลางเดียวกัน
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ 29Forever

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 517
  • ถูกใจแล้ว: 256 ครั้ง
  • ความนิยม: +12/-53
[quote/]


เรื่องภาษากลางของเผ่ามนุษย์ทั่วโลกเหรอ อืม แนวคิดนี้น่าสนใจมากๆ และถือเป็นอะไรที่นอกกรอบดี ดังนั้นก็จะตั้งได้ 2 สมมุติฐาน
1.บรรพบุรุษสมัยประวัติศาสตร์เดิมคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน มีภาษาและวัฒนธรรมเดียวกัน ตามทฤษฎีในคลิป และภายหลังก็ได้อพยพกระจัดกระจาย
2.แต่ละเผ่าแยกกันตั้งแต่แรก เพียงแต่ทุกเผ่ามีการทำข้อตกลงร่วมกันให้ใช้ภาษากลางเดียวกัน

คิดแบบภาษาคอมพิวเตอร์  ถึงจะมีภาษามากมาย  แต่คำสั่งพื้นฐานจะเหมือนกัน  เช่น  เมื่อเกิดมา
ก็คลำหาเต้าเพื่อดูดนม  มันเป็นคำสั่งพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต  ภาษาก็น่าจะมีคำพื้นฐานที่เป็นชุดคำสั่ง
ตั้งกะเริ่ม  อย่างภาษากาย  หัวเราะ  ร้องไห้  (มนุษย์ผูกมิตรด้วยแยกฟัน  ลิงถ้าแยกฟันหมายถึงจะสู้)
น่าจะราวๆนี้
 

ออฟไลน์ lepton

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 445
  • ถูกใจแล้ว: 145 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-17
  • เพศ: ชาย
ไม่อะครับเห็นชัด ๆ นะครับ มี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ อะครับ
1. กลุ่มภาษาภาพ เช่น ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน เกาหลี (ถือเป็นส่วนน้อยในภาษาปัจจุบัน) ถือว่า 1 ตัวอักษรเท่ากับ 1 คำ ต้องจำอย่างเดียว
2. กลุ่มภาษาเสียง เช่น ไทย กลุ่มภาษาละติน

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
ไม่อะครับเห็นชัด ๆ นะครับ มี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ อะครับ
1. กลุ่มภาษาภาพ เช่น ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน เกาหลี (ถือเป็นส่วนน้อยในภาษาปัจจุบัน) ถือว่า 1 ตัวอักษรเท่ากับ 1 คำ ต้องจำอย่างเดียว
2. กลุ่มภาษาเสียง เช่น ไทย กลุ่มภาษาละติน




งั้นสมมุติเรามาตั้งสมมุติฐานว่า รากของภาษามีกลุ่มไหนบ้าง
1.ภาษาสันสกฤต ภาษาละตินโรมัน ภาษากรีก คือ กลุ่มภาษาหนึ่ง
2.ภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่น คือ กลุ่มภาษาภาพ


ดูเหมือนจะมีอยู่ 2 กลุ่มจริงๆ


ทีนี้เรามาดูกันตรงความเชื่อด้านเทพ กลุ่มภาษาแรก จะมีคำเรียกเทพสูงสุดว่า Sky Father ซึ่งมันทำให้ผมเอะใจถึงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือศาสนา Tengrism ของชนเผ่าเร่ร่อน เช่น มองโกล เกี๋ยง ซงหนู


เช่นเดียวกับ Zeus ของ กรีก และชนเผ่าเร่ร่อนพวกนี้ก็ถนัดในการขี่ม้าและใช้เกวียนเทียมม้ามาก


https://en.wikipedia.org/wiki/Tengrism



ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ blakaros

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,153
  • ถูกใจแล้ว: 6202 ครั้ง
  • ความนิยม: +268/-3
[quote/]


งั้นสมมุติเรามาตั้งสมมุติฐานว่า รากของภาษามีกลุ่มไหนบ้าง
1.ภาษาสันสกฤต ภาษาละตินโรมัน ภาษากรีก คือ กลุ่มภาษาหนึ่ง
2.ภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่น คือ กลุ่มภาษาภาพ


ดูเหมือนจะมีอยู่ 2 กลุ่มจริงๆ


ทีนี้เรามาดูกันตรงความเชื่อด้านเทพ กลุ่มภาษาแรก จะมีคำเรียกเทพสูงสุดว่า Sky Father ซึ่งมันทำให้ผมเอะใจถึงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือศาสนา Tengrism ของชนเผ่าเร่ร่อน เช่น มองโกล เกี๋ยง ซงหนู


เช่นเดียวกับ Zeus ของ กรีก และชนเผ่าเร่ร่อนพวกนี้ก็ถนัดในการขี่ม้าและใช้เกวียนเทียมม้ามาก


https://en.wikipedia.org/wiki/Tengrism




ถ้าความเชื่อเรื่องเทพนี่   ผมว่าลากยาวแน่  เพราะจะมีทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,180
  • ถูกใจแล้ว: 4978 ครั้ง
  • ความนิยม: +402/-442
[quote/]ถ้าความเชื่อเรื่องเทพนี่   ผมว่าลากยาวแน่  เพราะจะมีทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ


มันก็จริง นะครับ เพราะเรื่องพวกนี้ จริงๆ แล้วพวกนี้ บางอย่าง ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ มันก็มีอะไรแปลกๆ เหมือนกันแหละนะ(เท่าที่เคยฟังมาอ่ะ)


เอาแบบค่อนข้างชัดก็แบบ พระเจ้าของชาวอินคา นี่ถ้าจำไม่ผิดเขาบอกว่า มาจากดวงดาวไม่ใช่ สวรรค์
เอาเข้าจริงๆ ก็มีทฤษฏีแปลกๆ อีกอย่างเช่นว่า มนุษย์เราค้นพบวิธีถลุงแร่โลหะได้ยังไง อันนี้มีคำตอบไหมครับ


เพราะเท่าที่ฟังๆ มาคือยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนนักว่าค้นพบได้ไง
เหมือนกับหมาอ่ะแหละ ที่มนุษย์เริ่มมีประวัติศาสตร์ หมาก็อยู่กับคนแล้ว
แต่หลักฐานทางโบราณคดี บ่งบอกว่าสมัยก่อน คนยุคโบราณกินหมา ไม่ได้เลี้ยง



 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
ไม่อะครับเห็นชัด ๆ นะครับ มี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ อะครับ
1. กลุ่มภาษาภาพ เช่น ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน เกาหลี (ถือเป็นส่วนน้อยในภาษาปัจจุบัน) ถือว่า 1 ตัวอักษรเท่ากับ 1 คำ ต้องจำอย่างเดียว
2. กลุ่มภาษาเสียง เช่น ไทย กลุ่มภาษาละติน



ถ้าจำไม่ผิด  ภาษาภาพคือภาษาโบราณ  ก่อนที่จะมีภาษาที่ใช้การอัลกอริทึม(ผสมตัวอักษร)
ภาษาภาพมีมาตั้งกะยุคหิน  ก่อนที่จะมีการคิดค้นภาษาอักษรขึ้นเนื่องด้วยภาพแสดงความหมาย
ได้ไม่พอกับความต้องการ  ปัจจุบันภาษาภาพอย่างจีนยังต้องสังคยานาหลายครั้ง  เช่นยุคราวๆ
สงครามโลกหรือหลังสงครามเนี่ยแหละ  จะมีการลดขีดของอักษรจีน  ดังนั้นอักษรภาพจีนยุคเก่า
กับอักษรภาพยุคใหม่  จึงไม่เหมือนกันจนแทบงง  แล้วจึงมีอักษรพินอิน  ฮั่นหยู่พินอิน  เนื่องด้วย
ภาษาภาพมันไม่ตอบสนองต่อการใช้งานแล้ว  มันเป็นเพียงการอนุรักษ์เพื่อความเป็นเชาติ  เพื่อ
หลอมรวมชาติก็เท่านั้น  ภาษาภาพมันจึงยังอยู่  ไม่งั้นโดนโละไปแล้ว 


(เคยสงสัยมั๊ยทำไมไม่ให้คนไทยเรียนภาษาอังกฤษไปเลย  ทำไมทุกประเทศยังจำต้องมีภาษาเขียน 
ภาษาพูดเป็นของตัวเองให้ยุ่งยาก  ทั้งๆที่ใช้ภาษาสากลไปเลยจะดีกว่า  ไม่ยุ่งยาก  อย่างเช่นประเทศ
เกิดใหม่ในโลก  อย่างสิงคโปร์  อเมริกา  เขาสะดวกสบายมากเพราะไม่ต้องอนุรักษ์ภาษา)


และเกาหลีกับญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นอักษรภาพ  แต่ยืมคำจากจีน  ญี่ปุ่นจึงมีอักษรคันจิ  เกาหลีก็เช่นกัน
เรียกว่าฮั่นจา ฮั่นจื๊อ  ก่อนจะมีฮั่นกึล และเกาหลีเนี่ยต้องนับที่เกาหลีใต้เท่านั้น  เกาหลีเหนือเลิกใช้


นอกจากเกาหลีกับญี่ปุ่นแล้ว  ภาษาอักษรภาพของจีนยังมีอิทธิพลมากต่อเวียดนาม  จนมาในยุค
ล่าอาณานิคม  ที่โดนฝรั่งเศสยึดนั่นหล่ะ
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 12,180
  • ถูกใจแล้ว: 4978 ครั้ง
  • ความนิยม: +402/-442
อเมริกา นี่มีพูดกันหลายภาษานะ แต่หลักๆ สื่อสารกัน ก็ อังกฤษ แต่ว่าตอนนี้


ตามเมือง รัฐต่างๆ นี่บางเมือง ภาษาประเทศอื่น แทบจะเป็นภาษาหลักเพราะคนเชื้อสายนั้นๆ มาอยู่กันเยอะมาก
มีลูกมีหลาน ไม่ยอมสอนภาษาอังกฤษหรือไรไม่ทราบ แต่จริงๆ หลายคนมันพูดได้ 2 ภาษานั่นแหละ


ประมาณการกันว่า ภายใน 10 ปีอเมริกาจะเป็นประเทศที่มีคนพูดสเปนได้ มากกว่าคนในประเทศสเปน แล้วล่ะนะ ;D
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,424
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
[quote/]


มันก็จริง นะครับ เพราะเรื่องพวกนี้ จริงๆ แล้วพวกนี้ บางอย่าง ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ มันก็มีอะไรแปลกๆ เหมือนกันแหละนะ(เท่าที่เคยฟังมาอ่ะ)


เอาแบบค่อนข้างชัดก็แบบ พระเจ้าของชาวอินคา นี่ถ้าจำไม่ผิดเขาบอกว่า มาจากดวงดาวไม่ใช่ สวรรค์
เอาเข้าจริงๆ ก็มีทฤษฏีแปลกๆ อีกอย่างเช่นว่า มนุษย์เราค้นพบวิธีถลุงแร่โลหะได้ยังไง อันนี้มีคำตอบไหมครับ


เพราะเท่าที่ฟังๆ มาคือยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนนักว่าค้นพบได้ไง
เหมือนกับหมาอ่ะแหละ ที่มนุษย์เริ่มมีประวัติศาสตร์ หมาก็อยู่กับคนแล้ว
แต่หลักฐานทางโบราณคดี บ่งบอกว่าสมัยก่อน คนยุคโบราณกินหมา ไม่ได้เลี้ยง




คือวีธีการได้มาของความรู้มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้นบางอันมาจากนักคิดที่โคตรเก่ง บางอันก็เรื่องบังเอิณเช่นการทำสบูแม่งก็มาจากการที่แม่บ้านทำของหลายๆอย่างพร้อมกัน อย่างซื้อของในนั้นมีน้ำมันเอาผ้าไปซักเทขึ้เถ้าแล้วผ้าที่จะซักดันเปื้อนขี้เถ้ากับน้ำมันแต่ดันล้างคราบอื่นๆในผ้าง่ายซะงัน ไอ้ถลุงแร่นี่ผมว่ามันง่ายกว่านั้นอีกเพราะจะทำอาวุธมันต้องเผาอยู่แล้ว การเอาวัสดุแข็งๆมาเผาจนเกิดการถลุงแร่ผมว่ามันดูจะเกิดขึ้นง่ายกว่าการทำสบู่ซะอีก เพราะวิทยาการที่ไช้ไฟนะมันเกิดง่ายกว่าแบบอื่นเยอะอย่างซีเมนต์เองก็เกิดจากการโยนหินเข้าเตาหลอม ไอ้การถลุงแร่ผมว่าการเกิดมันง่ายๆกว่ามากคือคนเราโยนทุกอย่างเข้าไฟอยู่แล้วครับ และไฟก็ถูกพัตนาไห้ร้อนขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย การโยนแร่ดิบเข้าไฟแล้วเกิดการถลุงแร่ผมว่ามันมีโอกาศเกิดง่ายแบบสุดๆอยู่แล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2021, 05:40:57 AM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
[quote/]
คือวีธีการได้มาของความรู้มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้นบางอันมาจากนักคิดที่โคตรเก่ง บางอันก็เรื่องบังเอิณเช่นการทำสบูแม่งก็มาจากการที่แม่บ้านทำของหลายๆอย่างพร้อมกัน อย่างซื้อของในนั้นมีน้ำมันเอาผ้าไปซักเทขึ้เถ้าแล้วผ้าที่จะซักดันเปื้อนขี้เถ้ากับน้ำมันแต่ดันล้างคราบอื่นๆในผ้าง่ายซะงัน ไอ้ถลุงแร่นี่ผมว่ามันง่ายกว่านั้นอีกเพราะจะทำอาวุธมันต้องเผาอยู่แล้ว การเอาวัสดุแข็งๆมาเผาจนเกิดการถลุงแร่ผมว่ามันดูจะเกิดขึ้นง่ายกว่าการทำสบู่ซะอีก เพราะวิทยาการที่ไช้ไฟนะมันเกิดง่ายกว่าแบบอื่นเยอะอย่างซีเมนต์เองก็เกิดจากการโยนหินเข้าเตาหลอม ไอ้การถลุงแร่ผมว่าการเกิดมันง่ายๆกว่ามากคือคนเราโยนทุกอย่างเข้าไฟอยู่แล้วครับ และไฟก็ถูกพัตนาไห้ร้อนขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย การโยนแร่ดิบเข้าไฟแล้วเกิดการถลุงแร่ผมว่ามันมีโอกาศเกิดง่ายแบบสุดๆอยู่แล้วครับ


นักวิชาการหลายคนคาดการณ์ว่า สัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้ใช้งานแรกๆ น่าจะเป็นม้า มากกว่าครับ


เพราะคำว่า ม้า กับ เกวียน เกือบทั่วโลกมีรากศัพท์คำเดียวกัน และออกเสียงคล้ายกันมาก เหมือนในคลิปที่ผมลง
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ name123

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 268
  • ถูกใจแล้ว: 132 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-4
คุยเรื่องแร่กันเหรอ??  งั้นเอาบ้าง

แร่เนี่ย  เริ่มต้นจากแร่พวกจุดหลอมเหลวต่ำ  การกำเนิดเกิดก็คล้ายๆพวกเครื่องปั้นดินเผา
เพราะกองไฟทำให้ดินบริเวณนั้นแข็ง  มนุษย์ที่สังเกตุก็สนใจ  เลยทำภาชนะต่างๆแล้วนำไป
ใกล้ไฟ  เอาไปเผา  ช่วงแรกๆก็มีแตกมีร้าว  ก็ทดลองทำผิดทำถูกไป  พวกแร่ที่อยู่ในกองไฟ
นานๆมันก็หลอม  แล้วมันก็แข็งก็เลยทดลองหาสินแร่ต่างๆ  ตอนแรกก็ได้สินแร่ห่วยๆและเป็น
แร่ที่จุดหลอมเหลวต่ำ  อย่างทองเหลืองทองแดงบลาๆๆๆๆ  เราก็เลยมีอาวุธโบราณที่ทำจาก
ทองเหลืองไง(ใช่ทองเหลืองมั๊ยนะ  เบลอๆ) 


ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ยุคสงคราม  การสงครามทำให้วิทยาการก้าวไกล  เผ่าที่ค้นพบแร่เหล็กซึ่ง
จุดหลอมมันสูงแต่มันทำให้อาวุธคมและคงทน  ก็ชนะสงครามไป  ฝ่ายแพ้ก็เร่งเรียนรู้การ
ถลุงเหล็กไป ไม่รู้ว่าฝั่งจีนหรือยุโรปใครค้นพบถลุงแร่เหล็กก่อนกัน  แต่จำได้ว่ายุคจิ๋นซียังคง
ใช้อาวุธทำจากทองแดงห่วยๆ  น่าจะทางยุโรปก่อนมั้ง??


หลักการเดียวกับการคล้ายๆการกำเนิดค้นพบว่าหินมันหลอมจนเป็นแก้ว


ส่วนสัตว์เลี้ยง  น่าจะหมามาก่อนแมว  และม้ามาก่อนแมว  เพราะถึงแม้มนุษย์จะกินหมา
แต่ก็เลี้ยงหมา  คัดสายพันธุ์หมามาตั้งกะดึกดำบรรพ์เพื่อให้ร่วมมือกันล่าสัตว์  แมวพึ่ง
นิยมหลังสุดในช่วงอียิปโรมัน  ม้ามาก่อนแมวเพราะเอาไว้ขนของ  แล้วม้ากับวัวควายหรือ
แกะแพะอะไรมาก่อนกันหว่า??  แต่ยังไงๆหมาก็มาก่อนทุกสัตว์ 

หมามาเป็นเพื่อนมนุษย์ก็เมื่อตอนที่สมัยก่อน  มนุษย์กินเหยื่อที่ล่ามาได้แล้วกินทิ้งกินขว้าง
หมามันเลยแอบมากินเศษอาหาร  ไล่ไปเดี๋ยวก็มาใหม่  แบบในหนังในนิยาย  ที่เวลากลางคืน
หมาป่ามันแอบมาหาของกินแถวกองไฟพวกพระเอกหรือหมู่บ้าน  แอบมากินบ่อยๆ  กินไปกินมา 
อ้าวเดินตามมนุษย์ต้อยๆ  ตัวไหนดุก็ฆ่าทิ้งแล้วเอามากิน  ตัวไหนไม่ดุเชื่องๆก็ขยายพันธุ์ไป
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
คุยเรื่องแร่กันเหรอ??  งั้นเอาบ้าง

แร่เนี่ย  เริ่มต้นจากแร่พวกจุดหลอมเหลวต่ำ  การกำเนิดเกิดก็คล้ายๆพวกเครื่องปั้นดินเผา
เพราะกองไฟทำให้ดินบริเวณนั้นแข็ง  มนุษย์ที่สังเกตุก็สนใจ  เลยทำภาชนะต่างๆแล้วนำไป
ใกล้ไฟ  เอาไปเผา  ช่วงแรกๆก็มีแตกมีร้าว  ก็ทดลองทำผิดทำถูกไป  พวกแร่ที่อยู่ในกองไฟ
นานๆมันก็หลอม  แล้วมันก็แข็งก็เลยทดลองหาสินแร่ต่างๆ  ตอนแรกก็ได้สินแร่ห่วยๆและเป็น
แร่ที่จุดหลอมเหลวต่ำ  อย่างทองเหลืองทองแดงบลาๆๆๆๆ  เราก็เลยมีอาวุธโบราณที่ทำจาก
ทองเหลืองไง(ใช่ทองเหลืองมั๊ยนะ  เบลอๆ) 


ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ยุคสงคราม  การสงครามทำให้วิทยาการก้าวไกล  เผ่าที่ค้นพบแร่เหล็กซึ่ง
จุดหลอมมันสูงแต่มันทำให้อาวุธคมและคงทน  ก็ชนะสงครามไป  ฝ่ายแพ้ก็เร่งเรียนรู้การ
ถลุงเหล็กไป ไม่รู้ว่าฝั่งจีนหรือยุโรปใครค้นพบถลุงแร่เหล็กก่อนกัน  แต่จำได้ว่ายุคจิ๋นซียังคง
ใช้อาวุธทำจากทองแดงห่วยๆ  น่าจะทางยุโรปก่อนมั้ง??


หลักการเดียวกับการคล้ายๆการกำเนิดค้นพบว่าหินมันหลอมจนเป็นแก้ว


ส่วนสัตว์เลี้ยง  น่าจะหมามาก่อนแมว  และม้ามาก่อนแมว  เพราะถึงแม้มนุษย์จะกินหมา
แต่ก็เลี้ยงหมา  คัดสายพันธุ์หมามาตั้งกะดึกดำบรรพ์เพื่อให้ร่วมมือกันล่าสัตว์  แมวพึ่ง
นิยมหลังสุดในช่วงอียิปโรมัน  ม้ามาก่อนแมวเพราะเอาไว้ขนของ  แล้วม้ากับวัวควายหรือ
แกะแพะอะไรมาก่อนกันหว่า??  แต่ยังไงๆหมาก็มาก่อนทุกสัตว์ 

หมามาเป็นเพื่อนมนุษย์ก็เมื่อตอนที่สมัยก่อน  มนุษย์กินเหยื่อที่ล่ามาได้แล้วกินทิ้งกินขว้าง
หมามันเลยแอบมากินเศษอาหาร  ไล่ไปเดี๋ยวก็มาใหม่  แบบในหนังในนิยาย  ที่เวลากลางคืน
หมาป่ามันแอบมาหาของกินแถวกองไฟพวกพระเอกหรือหมู่บ้าน  แอบมากินบ่อยๆ  กินไปกินมา 
อ้าวเดินตามมนุษย์ต้อยๆ  ตัวไหนดุก็ฆ่าทิ้งแล้วเอามากิน  ตัวไหนไม่ดุเชื่องๆก็ขยายพันธุ์ไป


เมื่อกี้ผมลองไป Search คำว่า หมา ในหลายภาษา ทั้งสันสกฤต กรีก และละติน


สันสกฤต
कुक्कुरः  อ่านว่า Kukkuraḥ

กรีก
κύων อ่านว่า kýo̱n

ละติน
canis อ่านว่า canis


รากศัพท์จาก Proto-Indo-European
kwon


จะเห็นได้ว่าค่อนข้างมีจุดคล้ายกันตรงเสียงพยัญชนะของคำแรก ด้วยเสียง ค.


แต่ของไทย คำว่า หมา ไม่ใช่คำจากสันสกฤต คำนี้ไม่ใช่คำยืม แต่อาจจะเป็นคำท้องถิ่นเดิมที่ไม่ได้รับวัฒนธรรม PIE


ซึ่งคำว่า หมา นั้น ยังมีเผ่าหนึ่งที่ออกเสียงและความหมายคล้ายไทย คือ ชาวจ้วงที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เขตการปกครองกวาง ซี


การออกเสียงและความหมายของคำของชาวจ้วงคล้ายกับภาษาไทยมาก แต่ต้องเป็นคำง่ายๆและคำดั้งเดิมที่ไม่ได้เกิดจากการยืมคำ ลองดูคลิปนี้ดู


คำว่า กิน เหล้า หมู ไก่ ขาย ซื้อ ไป เรา บ่ เงิน ตัว หับ ดอง ต่อ ก.ู ม.ึง เหมือนกันมาก


แต่คำใหม่ที่ไม่ใช่ภาษาของชาวจ้วงดั้งเดิมไม่มีภาษาสันสกฤต แต่ไปทางจีนเสียมากกว่า ขณะที่ภาษาไทยนั้นมีส่วนผสมของภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรเป็นส่วนใหญ่


เสียงตรงกันเกือบหมด แถมการเรียงไวยากรณ์ยังเรียงเหมือนไทยมาก


อีกอันหนึ่งคือ คำว่า ม้า ของไทย ไม่ตรงกับภาษาสันสกฤต ละตินและกรีก นั้นมันไปตรงกับคำว่า 马 อ่านว่า หม่า ของจีนมากกว่า
และม้าก็ไม่ใช่สัตว์ท้องถิ่นของประเทศไทย จึงคิดว่าคนไทยโบราณไม่น่าจะรู้จักม้าจนกระทั่งชาวฮั่นของจีนอพยพหรือซื้อขายแลกเปลี่ยนถึงได้รู้จักคำว่า ม้า


ดังนั้นผมตั้งสมมุติฐานว่า ชนชาติหรือชาติพันธุ์ไทยน่าจะเป็นการผสมของ 3 เผ่า
1.ชาวจ้วงคือรากของภาษาไทยเดิม(มากที่สุด)
2.ชาวเบงกอลคือภาษาสันสกฤต(รองลงมา)
3.ชาวฮั่นคือภาษาจีน(น้อย)


และเมื่อเรารู้ว่าคนไทยกับชาวจ้วงคือชนชาติพันธุ์เดียวกันแต่ดั้งเดิม มันก็มีคำถามต่อมาว่า
1.คนไทยกับคนลาวแยกตัวออกจากชาวจ้วงอพยพลงมาใต้อยู่ที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
2.หรือชาวจ้วงเป็นฝ่ายที่แยกตัวออกจากคนไทยและลาวอพยพขึ้นเหนือไปอยู่กวางซี


ตอนนี้ผมคิดว่ามี 2 ทฤษฎีนี้ที่น่าสนใจมาก กำลังคิดอยู่ว่าแบบไหนเป็นไปได้มากกว่ากัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2021, 11:15:07 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,259
  • ถูกใจแล้ว: 20000 ครั้ง
  • ความนิยม: +361/-2
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
เมนต์บน ผมก็ชื่อว่าชาวไทยน่าจะอพยพมาจากแถวๆ12ปันนามากกว่าภูเขาอัลไตครับ 8)  เพราะว่ามันใกล้กว่าแล้วก็วัฒนธรรมก็ใกล้กันค่อนข้างมาก
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,601
  • ถูกใจแล้ว: 3450 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-286
เมนต์บน ผมก็ชื่อว่าชาวไทยน่าจะอพยพมาจากแถวๆ12ปันนามากกว่าภูเขาอัลไตครับ 8)  เพราะว่ามันใกล้กว่าแล้วก็วัฒนธรรมก็ใกล้กันค่อนข้างมาก


ขยายเพิ่มเติมจาก คุณ@pol ว่าเทือกเขาอัลไตอยู่ที่ไหน



อีกนิดเดียวก็จะขึ้นไปรัสเซียอยู่แล้วครับ ตรงนั้นมันแหล่งวัฒนธรรมชาวสลาวิค(รัสเซีย) กับ ชนเผ่าเร่ซิเถียน(ญาติๆมองโกล)


คนที่ที่เขียนหนังสือบอกว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต คือ ขุนวิจิตรมาตรา (นาย สง่า กาญจนาคพันธ์)


ส่วนคนที่บอกใกล้เคียงที่สุดว่ามาจากทางตอนใต้ของจีนได้แก่ 12 ปันนา กับ กวางซี คือ จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งเป็นนักภาษาศาสตร์ที่หาตัวจับได้ยาก (เก่งเกิน ต้องยอมเขาจริงๆสำหรับคนๆนี้)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2021, 01:07:22 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ thetoy323

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 788
  • ถูกใจแล้ว: 220 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-14
  • เพศ: ชาย
คุยเรื่องแร่กันเหรอ??  งั้นเอาบ้าง

แร่เนี่ย  เริ่มต้นจากแร่พวกจุดหลอมเหลวต่ำ  การกำเนิดเกิดก็คล้ายๆพวกเครื่องปั้นดินเผา
เพราะกองไฟทำให้ดินบริเวณนั้นแข็ง  มนุษย์ที่สังเกตุก็สนใจ  เลยทำภาชนะต่างๆแล้วนำไป
ใกล้ไฟ  เอาไปเผา  ช่วงแรกๆก็มีแตกมีร้าว  ก็ทดลองทำผิดทำถูกไป  พวกแร่ที่อยู่ในกองไฟ
นานๆมันก็หลอม  แล้วมันก็แข็งก็เลยทดลองหาสินแร่ต่างๆ  ตอนแรกก็ได้สินแร่ห่วยๆและเป็น
แร่ที่จุดหลอมเหลวต่ำ  อย่างทองเหลืองทองแดงบลาๆๆๆๆ  เราก็เลยมีอาวุธโบราณที่ทำจาก
ทองเหลืองไง(ใช่ทองเหลืองมั๊ยนะ  เบลอๆ) 


ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ยุคสงคราม  การสงครามทำให้วิทยาการก้าวไกล  เผ่าที่ค้นพบแร่เหล็กซึ่ง
จุดหลอมมันสูงแต่มันทำให้อาวุธคมและคงทน  ก็ชนะสงครามไป  ฝ่ายแพ้ก็เร่งเรียนรู้การ
ถลุงเหล็กไป ไม่รู้ว่าฝั่งจีนหรือยุโรปใครค้นพบถลุงแร่เหล็กก่อนกัน  แต่จำได้ว่ายุคจิ๋นซียังคง
ใช้อาวุธทำจากทองแดงห่วยๆ  น่าจะทางยุโรปก่อนมั้ง??


หลักการเดียวกับการคล้ายๆการกำเนิดค้นพบว่าหินมันหลอมจนเป็นแก้ว


ส่วนสัตว์เลี้ยง  น่าจะหมามาก่อนแมว  และม้ามาก่อนแมว  เพราะถึงแม้มนุษย์จะกินหมา
แต่ก็เลี้ยงหมา  คัดสายพันธุ์หมามาตั้งกะดึกดำบรรพ์เพื่อให้ร่วมมือกันล่าสัตว์  แมวพึ่ง
นิยมหลังสุดในช่วงอียิปโรมัน  ม้ามาก่อนแมวเพราะเอาไว้ขนของ  แล้วม้ากับวัวควายหรือ
แกะแพะอะไรมาก่อนกันหว่า??  แต่ยังไงๆหมาก็มาก่อนทุกสัตว์ 

หมามาเป็นเพื่อนมนุษย์ก็เมื่อตอนที่สมัยก่อน  มนุษย์กินเหยื่อที่ล่ามาได้แล้วกินทิ้งกินขว้าง
หมามันเลยแอบมากินเศษอาหาร  ไล่ไปเดี๋ยวก็มาใหม่  แบบในหนังในนิยาย  ที่เวลากลางคืน
หมาป่ามันแอบมาหาของกินแถวกองไฟพวกพระเอกหรือหมู่บ้าน  แอบมากินบ่อยๆ  กินไปกินมา 
อ้าวเดินตามมนุษย์ต้อยๆ  ตัวไหนดุก็ฆ่าทิ้งแล้วเอามากิน  ตัวไหนไม่ดุเชื่องๆก็ขยายพันธุ์ไป
มนุษย์เริ่มเลี้ยงแมวตั้งแต่มนุษย์เริ่มทำการเกษตรแล้วครับ และก็แมวเป็นสัตว์ชนิดแรกที่มนุษย์เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงจริงๆ ในสมัยนั้นหมายังเลี้ยงเป็นปศุสัตว์อยู่
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก