[quote/]
ไม่ได้เชื่อนิครับ เรื่องนี้ หากจำไม่ผิด ต่างชาติเป็นคนประเมิน
เหมือนกับพม่า ก่อนจะปฏิวัตินักวิเคาระห์ทั้งหลายก็ประเมินกันว่
พม่าจะเป็นหมาอำนาจใหม่
และจะยกตัวอย่างให้เห็นอีกเรื่อง ว่าไทยเรรับ กฏหมาย ระบบเศรษฐกิจฝรั่งมาใช้
แต่เแามาใช้ไม่หมด เติมแบบไทยๆ เข้า
โดยคนในรัฐบาล ยังบอกว่า คนไทยไม่เหมาะกับนมเนย
เราเอาระบบของเขามาบางส่วน แต่กลับใช้การวัดผลแบบฝรั่งล่วนๆ
แบบนร้มันถูกหรือไม่ ผมยังสงสัย
ทำไมไม่สร้างการวัดผลแบบไทยๆตามด้วย
เรื่องตัวเลขวัดได้ แล้วเรื่องความมันใจนี่เขาใช้อะไรวัยุคลุงแก
อะไรทำเอาความมั่นใจของต่างชาติลดลง เหมือนไทยโดนถีบหัว

@deaddy เรื่องพืชผลเมืองไทย เป็นเมืองตลก
รัฐส่งเสริมให้ปลูกของที่ล้นตลาด อยูแล้ว
คิดว่าคงเข้าใจนะว่าเกิดอะไร
จริงๆต้องเข้าใจก่อน 2 เรื่อง
1. ข้าราชการที่รับผิดชอบส่งเสริมไม่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตลาด คือเค้ารู้แต่ราคาปัจจุบัน
ราคาในอนาคตเค้าไม่รู้ ส่วนใหญ่เลยจะไม่มีปัญหากับพืชระยะสั้น แต่พวกผลไม้กับ ยางพาราที่ใช้เวลาหลายปี
กว่าราคาจะตก เพราะซัพพลายเกิน พื้นที่การปลูกก็เพิ่มไปเยอะมากแล้ว
คือยางพาราต้องรอ 6 ปี คือยอดการปลูกเพิ่มๆโดยไม่รู้ตัวหลายปี แถมยอดการปลูกดันไปเพิ่มในต่างประเทศด้วยนี่สิ
2. ยิ่งถูกๆพ่อค้าชอบ คือไม่มีนายทุนที่ไหนหรอก
จะเตือนว่าซัพพลายจะล้นแล้วเลิกปลูกได้แล้ว
3. อันนี้พอผมรู้ก็อึ้งเหมือนกัน คือเค้าไม่ได้สนับสนุนให้เกษตรกรรวย
แต่เค้าสนับสนุนเพื่อแก้ปัญหาคนยากจน
คือ ถ้าผลไม้แพงๆกิโลละ 500 ในขณะที่ ขาย 50 ก็อยู่ได้สบายๆ
เค้าก็จะสนับสนุนไปเรื่อยๆจนกว่าจะไปแต่ะ 50 บาท
เพราะเค้าต้องการให้กระจายรายได้มากกว่า
คือ ระหว่างรวย 1 คน กับพออยู่ได้ 10 คน เค้าจะเลือกพออยู่ได้ 10 คน
เพราะงั้นต่อให้ราคาตก แต่ถ้ายังกำไรดีอยู่เขาก็จะส่งเสริมต่อไป