ง้าวจีนนี่ให้ท่านลองดูหนังเรื่อง"โค่นบัลลังค์วังทอง" ช่วงท้ายๆที่จะมีทหารง้าวมาสู้กับทหารหอกดูครับ. ในเรื่องนี่เขาไม่ได้เหวี่ยงง้าวกันมั่วๆนะต้องขยับร่างกายให้ถูกต้องก่อนเพราะง้าวมันหนักมาก. สุดท้ายก็เลยถูกหอกเสียบตาย
เขาเอาหอกมาสู้ง้าวก็ถูกแล้ว หอกมันเอาไว้สู้กับของพวกนี้ได้ดี โดยคนใช้ไม่ต้องเป็นยักษ์เหมือนอาวุธพวกนั้น
ลองนึกภาพดู ถ้าสู้ 1ต่อ 1 ฝ่ายนึงคนธรรมดาใช้หอก อีกฝ่ายสูง2เมตร หนักร้อยกว่าๆ ทั้งตัวสวมเกราะ
ฝ่ายคนธรรมดไม่ต้องพูดถึงเลยถ้าสวมเกราะทั้งตัวก็เดินแทบไม่ไหวแล้ว ในขณะที่ฝ่ายใช้ง้าวนั้นหวดง้าวได้ราวกับหวดไม้กวาด
สู้กัน 1:1 ไม่ต้องสู้ก็เดาผลได้แล้ว อย่างเก่งหอกก็แทงได้แผลนึง แต่หอกไม่รอดแน่ๆ ส่วนแผลจะร้ายแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเสื้อเกราะเป็นหลัก
หอกนั้นยาวแต่ไม่ได้หนักแบบเวอร์วัง ดังนั้นแรงทิ่มแทงจึงไม่ได้มากนัก(ไม่มาก แต่ก็พอที่จะไส้ไหลแหละถ้าไม่ใส่เกราะดีๆ) หอกทั่วๆไปจึงไม่ได้มีไว้สู้กับเกราะและโล่
หอกเน้นแหลมคม ไม่เน้นทรงพลัง ทีนี้อาวุธยักษ์ทั้งหลายมันมีไว้ทำลายเกราะทำลายโล่และทำลายอาวุธอื่นๆที่เอามาบล๊อก
คนจะใช้ได้อันดับแรกเลยคือต้องแข็งแรงมาก ตัวใหญ่ยักษ์ และนอกจากนั้นยังต้องฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ไม่งั้นโดนหอกแทงตายโง่ๆ
อย่างๆรก็ตาม เก่งแค่ไหนก็ไม่ถึงขนาดครึ่งเทพ สู้ไป10-20คน ยังไงก็หน้ามืด ยิ่งถูกรุมยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ยักษ์พวกนี้หายากฝึกยาก ดังนั้นเขาต้องเอาไว้เป็นทหารม้า เป็นหัวขบวนใช้ตีฝ่าทัพศัตรู
ถ้าตัวใหญ่อย่างเดียวแต่ดันไร้ฝีมือก็คงเป็นได้แค่ท้ายขบวน เอาไว้บังลูกธนูให้คนข้างหน้า
ปล. ไม่มีใครเอาง้าวมาสู้บนพื้นหรอกถ้าไม่ไร้อาวุธอื่นจริงๆ แล้วถ้าหวดง้าวเหมือนหวดไม้กวาดไม่ได้ -ก็แสดงว่าตกคุณสมบัติตั้งแต่ข้อแรกแล้ว
อาวุธยักษ์พวกนี้ถ้าถูกบล๊อกถูกหยุดได้ มันก็ไร้ค่าทันที ที่เขาสร้างมาใช้เพราะมันมีจุดเด่นของมันตรงที่ฟาดฟันแล้วไม่อาจถูกหยุดได้นี่แหละ
ปล2. อาวุธฟาดฟัน ถ้าออกท่าแล้ว 1/3 วินาทียังไม่ถึงเป้า ก็แปลว่าใช้ไม่ได้แล้ว 1/3 วินาทีนี่เพียงพอที่อีกฝ่ายจะตอบสนองและโต้ตอบแล้ว
ปล3. ไหนๆก็พูดเรื่องอาวุธโบราณ เคยได้ยินเรื่อง อาวุธใส่ปรอท ไหมครับ (คุยเล่นๆนะ) อาวุธใส่ปรอท ถูกคิดค้นขึ้นมาเพราะว่า ยักษ์ที่ใช้อาวุธยักจริงๆได้มันไม่มี
อาวุธใส่ปรอท ให้พลังฟาดฟันมากกว่าอาวุธธรรดา และรวดเร็วกว่าการเอาคนธรรมดาไปใช้อาวุธยัก ข้อด้วยคืออาวุธใส่ปรอทมันกลวงมันเลยมีความทนทานน้อย
ยุคหลังๆก็เลยมีการทำห่วงน้ำหนัก ไปถ่วงแทน (หลักการของอาวุธพวกนี้คือ เริ่มเหวี่ยงน้ำหนักอยู่ไกล้มือ แต่ตอนกระทบเป้าน้ำหนักอยู่ที่ปลายสุด)
หลักการเดียวกันนี้ถูกเอามาใช้ทำอาวุธ ที่น้ำหนักเคลื่อนที่ได้ ที่ไม่ใช่อาวุธยักด้วย อย่างกระบองสองท่อนและเขน แม้ความรุนแรงจะมาพร้อมความเร้ว โดยไม่เสียความทนทาน
แต่ก็แลกมาด้วยความยากในการใช้งาน ผู้ใช้ต้องมีทักษะเฉพาะของอาวุธนั้น(กระบองสองท่อนและเขน)