ประวัติศาสตร์ที่พึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่

[KAGUYA]

จะหลักฐานแบบไหน สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเชื่อรึเปล่าน่ะแหละ

[Black7nos]

[quote/]
อันนี้ขอแย้งนิดหนึ่งครับไม่ไช่ว่าปติวัติไร้การนองเลือดแต่เจ้าหรือราชาของไทยตอนนั้นต้องการส่งมอบอำนาจอยู่แล้ว ที่พวกคณะปติวัตทำแค่เร่งไห้เร็วขึ้นอีกนิดหน่อยเพราะไทยโดนการกดดันต่างๆไม่ไหวอยู่แล้ว ดูจากการเปรี่ยนแปลงหลายๆอย่างตังแต่ชุดสิ่งก่อสร้างเพลงราชาตอนนั้นแค่ส่งอำนาจการปกครองไห้ แต่ต้องไม่ล้มระบบราชาทำแบบอังกฤษคือราชาจะไม่ยุ่งการเมืองแต่รายได้และอำนาจมีอยู่สามารถไช้ในเวลาฉุกเฉินได้ มันแค่หนีจากแรงกดดันต่างๆแค่นั้น

อย่างที่ผมเขียนในตอนแรกครับ เราต้องเทียบกับหลักฐานระดับ Tier กัน


ร.7 ต้องการพระราชทานรัฐธรรมนูญจริง แต่รัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตยครับ


จากหลักฐานรัฐธรรมนูญที่ร.7 ได้จ้างฟรานซิส บี.แซร์ เขียน มาตราที่ 1 อำนาจอธิปไตยเป็นของกษัตริย์ ย้อนกลับไปดูหลักฐานที่ผมเอามาลงได้เลยครับ


ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นว่า ร.7 ไม่ได้ต้องการประชาธิปไตยครับ เพียงแต่ต้องการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความชอบธรรมในการปกครอง เพราะ ยุคสมัยนั้นมันเป็นยุคที่หลายประเทศในโลกเกิด Revolution


คณะราษฎรเห็นรัฐธรรมนูญตัวนี้ก่อนออกประกาศใช้ไม่ใช่ประชาธิปไตย

พวกเขาจึงไม่ยอมและต้องการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยแบบที่ฝรั่งเศษเป็น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงก่อการปฏิวัติขึ้นครับ

ใครบอกคณะราษฎร์ต้องการเป็นประชาธิปไตยผมเถียงชน ฝา  พวกนี้ต้องการคอมมิวนิสครับ

อันนี้ผมจะชี้ให้ถึงข้อแตกต่างทั้งหลักการและการบริหารงานสมัยคณะราษฎรมีอำนาจได้เป็นรัฐบาล เทียบกับ Communist Manifesto ของคาร์ล มาร์ก 10 ประการ


อย่างแรกเราต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตย กับ คอมมิวนิสต์ แตกต่างกันอย่างไรก่อน(จริงๆเรื่องนี้ผมเคยอธิบายไว้หลายโพสต์แล้ว) ทราบมั้ยครับว่า ปชต. และคอมมี่ ต่างก็เป็นฝ่ายซ้าย


เพราะ จุดมุ่งหมายสูงสุดของทั้งสองระบอบคือ "คนทุกคนต้องเท่ากัน" เพียงแต่ต่างวิธีกัน


ประชาธิปไตย = คนเท่ากัน + กระจายอำนาจ


คอมมิวนิสต์ = คนเท่ากัน + รวมอำนาจ


ตามกราฟนี้เลยครับ



ทีนี้ผมอยากให้เรามาดูพิจารณา Communist Manifesto(คำประกาศคอมมิวนิสต์) ของคาร์ล มาร์ก
1.ขจัดซึ่งความเป็นเจ้าของที่ดินส่วนตัวในที่ดินและการปล่อยเช่าที่ดินของชนชั้นนายทุน
2.จัดเก็บภาษีบุคคลได้ในแบบอัตราก้าวหน้า หรือ ขั้นบันได
3.ขจัดซึ่งการสืบทอดทรัพย์สินมรดก
4.ทรัพย์สินของศัตรูกบฏและผู้อพยพจะถูกยึดเข้าสู่รัฐเป็นทรัพย์สินสาธารณะ
5.รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยมีการจัดตั้งธนาคารแห่งชาติและไม่อนุญาตให้จัดตั้งธนาคารเอกชนอันเป็นผลให้เกิดการผูกขาดทุน(ธนาคารแห่งชาติ)
6.รัฐมีหน้าที่จัดหาสาธารณูปโภคอันได้แก่ระบบการสื่อสารและระบบคมนาคมแก่ประชาชน
7.ขยายอุตสาหกรรมโรงงานการผลิต โดยโรงงานเหล่านี้มีเจ้าของกิจการคือรัฐ(รัฐวิสาหกิจ)
8.ประชาชนทุกคนจะมีหน้าที่และรับผิดชอบต่องานของตัวเองเท่าเทียมกัน มีจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อการทหารและการเกษตร
9.ผสมผสานการเกษตรและอุตสาหกรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองใหญ๋กับเมืองเล็กโดยการกระจายประชากรในแต่ละเมืองให้มีจำนวนเท่าๆกัน
10.ให้การศึกษาฟรีแก่เด็ก เยาวชนทุกคน ขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบสมัยก่อน(ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม) ให้การศึกษาพร้อมกับการฝึกวิชาชีพ(ปวช. และ ปวศ.)
อันนี้ผมแปะลิ้งค์ Communist Manifesto 10 ข้อให้ เลื่อนลงมาล่างๆจะเจอ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ส่วนตรงนี้ผมแปลลงให้
https://www.marxists.org/archive/marx/works/1848/communist-manifesto/ch02.htm





รูปนี้คือหลักการของคณะราษฎร ซึ่งประกอบด้วย 6 ประการ คือ เอกราช ปลอดภัย เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ การศึกษา


ทีนี้เรามาดูถึงสิ่งที่รัฐบาลของคณะราษฎรทำในสมัย 2475 - 2490 ซึ่งส่วนใหญ๋ดำเนินอิงตามแผนเค้าโครงเศรษฐกิจของอ.ปรีดี (ที่โดนร.7 วิจารณ์ว่าลอกเลนนิน ซึ่งจะจริงไม่จริง ผมอยากให้มาพิสูจน์กัน)
- เน้นทางด้านการศึกษา ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ก่อตั้งโรงเรียนประถมและมัธยม (โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีชื่อว่า บำรุงราษฎร์ เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งในสมัยคณะราษฎรทั้งสิ้น)
- กระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นสู่ชุมชน จัดตั้งเทศบาล ตามพระราชบัญญํติระเบียบเทศบาล ปี 2476
- จัดปรับปรุงระบบภาษี ยกเลิก ภาษีสมัยเก่าที่ไม่เป็นธรรม
- ทำให้เกิดการให้เงินบำนาญแก่ข้าราชการ
- ชำระประมวลกฎหมายตราสามดวงใหม่
- จัดตั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และอนุญาตให้เอกชนสามาถเป็นเจ้าของธนาคารเอกชนได้(อิงจากหนังสือเค้าโครงเศรษฐกิจของอ.ปรีดี)
- ยกเลิกระบบไพร่(ร.5 ยกเลิกทาส แต่ไม่ได้ยกเลิกไพร่) และการยกเลิกการเกณฑ์แรงงานเมื่อจ่ายภาษีไม่ได้ เข้า 6 เดือน ออก 6 เดือน
- ให้โอกาสบุคคลสามัญที่ไม่ใช่่ชนชั้นขุนนางเก่า สามารถรับราชการได้
- ก่อตั้งรัฐวิสาหกิจเพื่อสร้างงานแก่ประชาชน ในกรณีที่เอกชนไม่มีทุนลงทุน (อนุญาตให้เอกชนลงทุน แต่ถ้าเอกชนทำไม่ได้ รัฐจะช่วยลงทุนแทน)
- แยกทรัพย์สินส่วนพระองค์ กับ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง(ใครหลายคนงงว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นี้คืออะไร ผมอธิบายให้ ชื่อเต็มที่ถูกต้อง คือ ทรัพย์สินส่วนที่รัฐบาลกษัตริย์บริหารประเทศ โดยทรัพย์สินส่วนนี้เกิดจากภาษีประชาชน) ดังนั้นคณะราษฎรจึงได้แยกทรัพย์สินส่วนตน ออกจากทรัพย์สินสาธารณะส่วนรวม ครับ
อันนี้ผมแปะลิ้ง เค้าโครงเศรษฐกิจของอ.ปรีดี หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า สมุดปกเหลืองให้คุณได้ลองอ่าน และลองคิดพิจารณาดีๆว่า เป็นคอมมิวนิสต์อย่างที่คนอื่นกล่าวหาจริงหรือเปล่า
http://www.openbase.in.th/files/puey014.pdf


ซึ่งถ้ามาดูกันแล้ว การจัดตั้งเทศบาล โดยมีหลักฐานคือ ระเบียบเทศบาล 2476 และการยกเลิกไพร่ ถือเป็นหลักฐานสำคัญของการกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นหลักการของประชาธิปไตย
อย่างที่ผมกล่าวในตอนแรก คือ คนเท่ากัน + กระจายอำนาจ = ประชาธิปไตย


และเมื่อเทียบกับ คำประกาศคอมมิวนิสต์(Communist Manifesto) ของคาร์ล มาร์ก นั้น คือ คนเท่ากัน + รวมอำนาจ ซึ่งมันได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ


ดังนั้น วาทะกรรมของร.7 ที่บอกว่าเค้าโครงเศรษฐกิจของอ.ปรีดี ลอกมาจาก เลนนินนั้น ถือเป็นเรื่องเท็จที่กุขึ้นมาเพื่อ Discredit อ.ปรีดีและคณะราษฎร


สิ่งที่ร.7 ต้องการคือต้องการให้ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชกลับมา โดยอ้างอิงจากหลักฐานการสนับสนุนทุนแก่กลุ่มกบฏบวรเดช โดยได้เงินจากพระคลังข้างที่ไป 2 แสน(เยอนะสมัยนั้น)


โดยคนที่ให้ทุนแก่กบฎบวรเดช คือ กรมพระสวัสดิ์วัดนวิศิษฐ์ฯ พ่อตาของร.7 โดยมีพยานยืนยัน คือ ม.จ. พูนพิศมัย ดิศกุล(คุณหญิงพูน) และเจ้านายหลายคนต่างซ่องสุมกำลังที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์


ขณะที่ ร.7 เองทรงประทับที่วังไกลกังวลเป็นเวลาเดียวกัน หลังจากกบฏบวรเดชพ่ายแพ้ ร.7 จึงได้เสด็จหนีไปต่างประเทศ เพราะถูกคณะราษฎรฟ้องร้องว่าพระองค์ยักยอมทรัพย์สมบัติสมัยร.5


และคดียักยอกทรัพย์

หลายคนยังเชื่อตามที่เขาเล่าๆกันมาอยู่เลย เวลาเราถกกันด้านประวัติศาสตร์จำเป็นต้องอิงหลักฐานเอกสารที่เชื่อถือได้ สังเกตมั้ยครับ เวลาผมเขียนหรือผมเล่าอะไรไป


ผมจะแนบลิ้งค์เอกสารราชการ รูปถ่ายตลอด เพื่อเป็นหลักฐานข้อเท็จจริงระดับ Tier A Tier B ยันในสิ่งที่ผมได้เขียนลงไป ซึ่งหลักฐานเหล่านี้มี Bias ที่น้อยกว่าเรื่องเล่า Tier C


แน่นอนว่าผมแนะนำให้อ่านจากเอกสารราชการที่มีการรับรองจริงๆ อย่าเชื่อเพียงเขาเล่าๆกันมา แล้วคุณจะได้พบกับความจริง และตาสว่างว่าอันไหนคือเรื่องจริงอันไหนคือเรื่องเท็จ

[Black7nos]

อันนี้ผมแถมลิ้งค์ ระเบียบเทศบาล ปี 2476 โดยคนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นคือ อ.ปรีดี พนมยงค์
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2477/A/82.PDF

อันนี้เป็นกฎหมายที่ถูกตราออกมา เป็นหลักฐานชั้น Tier A

เวลาคุยถกประวัติศาสตร์ ผมอยากให้ยันกันด้วยหลักฐานแบบนี้ แล้วเราจะหาข้อสรุปได้

การถกเถียงไม่ได้เป็นเรื่องผิด แต่มันทำให้เกิดการขัดเกลาได้องค์ความรู้ที่ถูกต้องเป็นข้อเท็จจริงมากขึ้น

ที่ต้องจัดชั้นระดับหลักฐาน Tier A B และ C ก็เพื่อที่ไม่อยากให้คนหลงเชื่อวาทะกรรม Discredit คน แบบไม่มีข้อเท็จจริงครับ

ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะลดข้อขัดแย้งของสังคม ณ ขณะนี้ได้ คือ การยันกันด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง

[Hanaroo]

กระทู้ Bokuben ตำรานี้ไม่มีสอน ใช่มะเนี่ย 555

[Diamos]

ผมอยากให้การศึกษาวิชาประวัติศาสตร์บ้านเราทำแบบที่ท่าน Black7nos พูดนะ คือเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาสอน แล้วจัดสอบด้วยการอภิปราย โดยให้นักเรียนหยิบยกหลักฐานทั้งมวลมาวิเคราะห์ ว่าประวัติศาสตรที่เกิดขึ้นจริงควรเป็นยังไง ทำไมเราถึงเชื่อหลักฐานตัวนั้นตัวนี้ เพราะมันจะกระตุ้นให้เด็กคิด กับกระตุ้นให้เด็กรู้จักตั้งคำถามสงสัยในเนื้อหาคำสอนที่สืบทอดกันมาอย่างมีหลักการ รวมไปถึงฝึกให้เด็กรู้จักเคารพแนวคิดของกลุ่มอื่นผู้อื่นด้วย (ที่สำคัญ คืออาจารย์ไม่ควรให้คะแนนโดยการกำหนดผิดถูก แต่ควรให้คะแนนจากกระบวนการวิธีคิดมากกว่า)

[Hanaroo]

ผมอยากให้การศึกษาวิชาประวัติศาสตร์บ้านเราทำแบบที่ท่าน Black7nos พูดนะ คือเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาสอน แล้วจัดสอบด้วยการอภิปราย โดยให้นักเรียนหยิบยกหลักฐานทั้งมวลมาวิเคราะห์ ว่าประวัติศาสตรที่เกิดขึ้นจริงควรเป็นยังไง ทำไมเราถึงเชื่อหลักฐานตัวนั้นตัวนี้ เพราะมันจะกระตุ้นให้เด็กคิด กับกระตุ้นให้เด็กรู้จักตั้งคำถามสงสัยในเนื้อหาคำสอนที่สืบทอดกันมาอย่างมีหลักการ รวมไปถึงฝึกให้เด็กรู้จักเคารพแนวคิดของกลุ่มอื่นผู้อื่นด้วย (ที่สำคัญ คืออาจารย์ไม่ควรให้คะแนนโดยการกำหนดผิดถูก แต่ควรให้คะแนนจากกระบวนการวิธีคิดมากกว่า)

สอนแค่นี้ นักเรียน ก็ชู3นิ้วกันจะแย่แล้ว หากสอนเพิ่มนี่ครูเข้าร่วมด้วยแหงๆ

[Black7nos]

ผมอยากให้การศึกษาวิชาประวัติศาสตร์บ้านเราทำแบบที่ท่าน Black7nos พูดนะ คือเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาสอน แล้วจัดสอบด้วยการอภิปราย โดยให้นักเรียนหยิบยกหลักฐานทั้งมวลมาวิเคราะห์ ว่าประวัติศาสตรที่เกิดขึ้นจริงควรเป็นยังไง ทำไมเราถึงเชื่อหลักฐานตัวนั้นตัวนี้ เพราะมันจะกระตุ้นให้เด็กคิด กับกระตุ้นให้เด็กรู้จักตั้งคำถามสงสัยในเนื้อหาคำสอนที่สืบทอดกันมาอย่างมีหลักการ รวมไปถึงฝึกให้เด็กรู้จักเคารพแนวคิดของกลุ่มอื่นผู้อื่นด้วย (ที่สำคัญ คืออาจารย์ไม่ควรให้คะแนนโดยการกำหนดผิดถูก แต่ควรให้คะแนนจากกระบวนการวิธีคิดมากกว่า)

นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากจะให้เป็น มันควรจะให้ศึกษาจากหลักฐานจริงๆ แล้วเอามา Discuss หรือ Debate กัน หรือไม่ก็เขียนแสดงความเห็นว่าจากหลักฐานนั้นแสดงข้อเท็จจริงอะไร อันไหนขัดแย้งกัน


แล้วสังคมจะเกิดการพัฒนาครับ

[pol]

[quote/]


นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากจะให้เป็น มันควรจะให้ศึกษาจากหลักฐานจริงๆ แล้วเอามา Discuss หรือ Debate กัน หรือไม่ก็เขียนแสดงความเห็นว่าจากหลักฐานนั้นแสดงข้อเท็จจริงอะไร อันไหนขัดแย้งกัน


แล้วสังคมจะเกิดการพัฒนาครับ

ก็เขาไม่อยากให้พัฒนานี่ครับ สมัยก่อนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตท่านดูรายการทีวีแต่ละช่องมีแต่ละครห่วยๆ. สารคดีห่วยๆ.   ภาษีกระดาษก็แพงมากเพื่่อที่จะได้อ่านหนังสือกันน้อยๆ.  พอมีอินเตอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟนราคาถูกหรอกถึงปิดกั้นข่าวสารได้ยากขึ้น

[Hanaroo]

ดูสัมพาษณ์ดารา คนนึง เค้าบอกว่า หากไม่มีกษัตริย์ ไทยเราจะเป็นแบบเขมร3ฝ่าย

นั่นก็เพราะการศึกษาในยุคก่อนๆ สอนกันมาว่าแบบนั้นแหละนะ หากสอนให้วิเคราะห์ว่า เหตุใดจึงเป็นเหตุใดจึงไม่เป็นมันน่าจะยาว

[warakornboy]

[quote/] ก็เขาไม่อยากให้พัฒนานี่ครับ สมัยก่อนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตท่านดูรายการทีวีแต่ละช่องมีแต่ละครห่วยๆ. สารคดีห่วยๆ.   ภาษีกระดาษก็แพงมากเพื่่อที่จะได้อ่านหนังสือกันน้อยๆ.  พอมีอินเตอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟนราคาถูกหรอกถึงปิดกั้นข่าวสารได้ยากขึ้น

ผมว่าเราควรถามสมมุติฐานจาก  ประสบการณ์รับข่าวสารของชาวสยามตั้งแต่ -1990s อาจจะเป็นเรื่องดีกว่านะครับ  หนังสือพิมพ์  — วรรณกรรมกลอน  นิยายอื่นก่อนที่ Comic — Manga จะมาถึง;  ทุกครั้งที่มีการตีพิมพ์  ถึงไม่รวมเล่มหรือเขียนจนจบทั้งรายละเอียดบทความ  กับเมื่อมีการแก้ไขผ่านบรรณาธิกาาไปสักกี่ครั้งก็จะยังคงช่องโหว่หรือจุดที่ Route เชื่อมเข้าหากันไม่ได้อยู่เต็มไปหมด


เช่นเดียวกันกับรายการวิทยุที่จะออกอากาศเป็นเวลา  หลายสถานี  ทุกวันซึ่งเมื่อเพื่อพิจารณา Shorthand เสร็จแล้วก็แก้ไขไม่ได้เพราะค่าออกอากาศเพิ่มเร็วมาก  โทรทัศน์ก็เหมือนกันยิ่งพบช่องโหว่นับไม่ถ้วน  เท่าที่ผมเคยฟังวิทยุตอนก่อนไปเรียน — กลับบ้านมาฟังเพลงช่วงที่เทปเสียงยังขายอยู่


ถึงตรงนี้ Dark Age of Comics รวมทั้ง Uncensored Manga  ยังไม่นับช่วงที่ Internet ใช้งานผ่านสาย LAN คาดว่าเขื่อนข่าวสารแตกไปนับแต่นั้น  รวมทั้งอนามัยข่าวสารด้วย

[pol]

ดูสัมพาษณ์ดารา คนนึง เค้าบอกว่า หากไม่มีกษัตริย์ ไทยเราจะเป็นแบบเขมร3ฝ่าย

นั่นก็เพราะการศึกษาในยุคก่อนๆ สอนกันมาว่าแบบนั้นแหละนะ หากสอนให้วิเคราะห์ว่า เหตุใดจึงเป็นเหตุใดจึงไม่เป็นมันน่าจะยาว

  ถ้ารุ่นนั้นคนไทยยังมาจากเขาอัลไตอยู่เลยมั๊งครับ 555

[quote/]
ผมว่าเราควรถามสมมุติฐานจาก  ประสบการณ์รับข่าวสารของชาวสยามตั้งแต่ -1990s อาจจะเป็นเรื่องดีกว่านะครับ  หนังสือพิมพ์  — วรรณกรรมกลอน  นิยายอื่นก่อนที่ Comic — Manga จะมาถึง;  ทุกครั้งที่มีการตีพิมพ์  ถึงไม่รวมเล่มหรือเขียนจนจบทั้งรายละเอียดบทความ  กับเมื่อมีการแก้ไขผ่านบรรณาธิกาาไปสักกี่ครั้งก็จะยังคงช่องโหว่หรือจุดที่ Route เชื่อมเข้าหากันไม่ได้อยู่เต็มไปหมด


เช่นเดียวกันกับรายการวิทยุที่จะออกอากาศเป็นเวลา  หลายสถานี  ทุกวันซึ่งเมื่อเพื่อพิจารณา Shorthand เสร็จแล้วก็แก้ไขไม่ได้เพราะค่าออกอากาศเพิ่มเร็วมาก  โทรทัศน์ก็เหมือนกันยิ่งพบช่องโหว่นับไม่ถ้วน  เท่าที่ผมเคยฟังวิทยุตอนก่อนไปเรียน — กลับบ้านมาฟังเพลงช่วงที่เทปเสียงยังขายอยู่


ถึงตรงนี้ Dark Age of Comics รวมทั้ง Uncensored Manga  ยังไม่นับช่วงที่ Internet ใช้งานผ่านสาย LAN คาดว่าเขื่อนข่าวสารแตกไปนับแต่นั้น  รวมทั้งอนามัยข่าวสารด้วย

รุ่นใกล้ๆกับผมแน่เลยครับ. สมัยก่อนนี่ละครจะมีแต่พวกผู้ดี-เชื้อเจ้า-รักชาติฯลฯ. แล้วแบบเรีียนประวัติศาสตร์ก็จะเน้นเรื่่องอยุุธยา-พม่าเลว-แต่เรื่องสมัยล่าอาณานิคมจะไม่ค่อยพูดถึงเท่่่าไร

[sariora123]

กระทู้ Bokuben ตำรานี้ไม่มีสอน ใช่มะเนี่ย 555

เรื่องบางเรื่องที่ไม่สอน บางทีมันก็คุยกันยาก ถ้าไม่ใช่คอเดียวกันหรือไว้ใจกันอ่ะนะ

[quote/]

สอนแค่นี้ นักเรียน ก็ชู3นิ้วกันจะแย่แล้ว หากสอนเพิ่มนี่ครูเข้าร่วมด้วยแหงๆ

อาจารย์สมัยก่อนผม เห็นบางคนเขารู้บางเรื่องแต่ก็สอนมากไม่ได้อ่ะนะ

[quote/]

สอนแค่นี้ นักเรียน ก็ชู3นิ้วกันจะแย่แล้ว หากสอนเพิ่มนี่ครูเข้าร่วมด้วยแหงๆ

พม่าเลว เผากรุง เผาวัด
เคยมีคนงัดกลับมาด้วย ในอดีต พม่าเป็นรัฐที่นับถือพุทธ์อย่างเข้มแข็งมาก มีการสร้างสิ่งสำคัญทางศาสนาอย่างยิ่งใหญ่หลายแห่งฃ
การเล่าเรื่องพม่าเผาวัดลอกทองพระ ในอดีต จุตนี้จึงมีความน่าสงสัยอย่างมาก ว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะอดีด อยุธยา ก็เป็นรัฐพุทธ
เช่นเดียวกัน

[Hanaroo]

กษัตริย์พม่า อาจจะนับถือพุทธแรงกล้า แต่พงกทหมร แม่ทัพนายกองอาจจะไม่

อีกสาเหตุนึง คือ กลุ่มชาวจีนร่วมปล้นสดมภ์ด้วย แต่หากสอนแบบนี้น เดี๋ยวความเกลียดชังก้อไปลงที่พวกชาวจีนเชื้อไทยด้วยพอดี

ตอนผมเรรยนประวัติศาสตร?ตอนที่มีกบฏจีน เพื่อนในห้องทรทเชท้อจีนยังโดนล้อว่าเจ๊กกบฏไปตั้งหลายเดือน

[Black7nos]

[quote/]
เรื่องบางเรื่องที่ไม่สอน บางทีมันก็คุยกันยาก ถ้าไม่ใช่คอเดียวกันหรือไว้ใจกันอ่ะนะ

[quote/]
อาจารย์สมัยก่อนผม เห็นบางคนเขารู้บางเรื่องแต่ก็สอนมากไม่ได้อ่ะนะ

[quote/]

พม่าเลว เผากรุง เผาวัด
เคยมีคนงัดกลับมาด้วย ในอดีต พม่าเป็นรัฐที่นับถือพุทธ์อย่างเข้มแข็งมาก มีการสร้างสิ่งสำคัญทางศาสนาอย่างยิ่งใหญ่หลายแห่งฃ
การเล่าเรื่องพม่าเผาวัดลอกทองพระ ในอดีต จุตนี้จึงมีความน่าสงสัยอย่างมาก ว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะอดีด อยุธยา ก็เป็นรัฐพุทธ
เช่นเดียวกัน

https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1636731


พม่าไม่ได้เป็นคนเผ่ากรุงศรีฯ วาทะกรรมนี้เป็นวาทะกรรมเพื่อให้เกิดความชาตินิยม แต่จากหลักฐานนั้นคนที่ทำคือคนไทยเราเองนี่แหละ กับคนจีน


อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์จีน พอพม่าตีอยุธยาแตก จีนในสมัยพระเจ้าเฉียนหลง ราชวงศ์ชิง ก็ประกาศสงครามและยกทัพมาตีพม่า เนื่องจากระแวงนโยบายการเมืองพระเจ้ามังระที่ขยายดินแดน


แม่ทัพอะแซหวุ่นกี้จึงต้องยกทัพกลับไปป้องกันเมืองพม่า สงครามจีน - พม่า ครั้งนี้เรียกชื่อว่า Sino - Burmese War

[blakaros]

[quote/]


https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1636731


พม่าไม่ได้เป็นคนเผ่ากรุงศรีฯ วาทะกรรมนี้เป็นวาทะกรรมเพื่อให้เกิดความชาตินิยม แต่จากหลักฐานนั้นคนที่ทำคือคนไทยเราเองนี่แหละ กับคนจีน


อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์จีน พอพม่าตีอยุธยาแตก จีนในสมัยพระเจ้าเฉียนหลง ราชวงศ์ชิง ก็ประกาศสงครามและยกทัพมาตีพม่า เนื่องจากระแวงนโยบายการเมืองพระเจ้ามังระที่ขยายดินแดน


แม่ทัพอะแซหวุ่นกี้จึงต้องยกทัพกลับไปป้องกันเมืองพม่า สงครามจีน - พม่า ครั้งนี้เรียกชื่อว่า Sino - Burmese War

ตรงนี้นักประวัติศาสตร์ยังบอกเลย  ถ้าอยุธยายันได้อีกหน่อยอยุธยาก็รอดแล้ว    เพราะทัพใหญ่จีนลงมาแล้ว    พระเจ้ามังระต้องเรียกตัวอะแซหวุ่นกี้กลับไปเตรียมรับศึกจีน

[Hanaroo]

[quote/]ตรงนี้นักประวัติศาสตร์ยังบอกเลย  ถ้าอยุธยายันได้อีกหน่อยอยุธยาก็รอดแล้ว    เพราะทัพใหญ่จีนลงมาแล้ว    พระเจ้ามังระต้องเรียกตัวอะแซหวุ่นกี้กลับไปเตรียมรับศึกจีน

ยันไม่ได้เพราะเจ้าตากเอาทหารหนีไปหลายร้อยไปตีเมืองจันร์ไง

[Black7nos]

[quote/]ยันไม่ได้เพราะเจ้าตากเอาทหารหนีไปหลายร้อยไปตีเมืองจันร์ไง

พูดถึงพระเจ้าตากสิน อันที่จริงไม่ใช่พระนามที่ถูกต้องนักนะครับ


อ้างอิงจากเอกสารของพระบรมราชานุภาพและเอกสารอื่นๆ และนักประวัติศาสตร์สมัยจอมพลป.


พระนามที่แท้จริงของพระเจ้าตากหลังครองราชย์ คือ "พระเจ้าเอกาทศรถ" และกรุงธนบุรี อันที่จริงไม่ใช่ชื่อนี้ครับ ยังคงใช้ชื่อเดิมว่า "กรุงศรีอยุธยา"



อันนี้คือพระราชสาห์นที่พระเจ้าตากสินให้ทูตส่งให้แก่พระเจ้าเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงเพื่ออ้างความชอบธรรมในการตั้งตนเป็นกษัตริย์ พระเจ้าตากสินมีพระนามภาษาจีนว่า "เจิ้งจ้าว"

[samuison]

ฮืม หมยความว่าหากเราแต่งนิยายจีน ย้อนไปเฉียนหลงก็ลงมาทางนี้ได้สินะครับ ฮา

ว่้าไปแล้วไม่รู้เป็นไง ควีนอลิซาเบ็ธก็เป้นคนช่วงสมัยอยุทธยามั้ง?
คุ้นๆว่าคนยิ่งใหญ่หลายคนในประวัติศาสตร์อยู่ยุคคาบเกี่ยวกัน แต่ไม่เคยได้เจอกันว่าอย่างนั้น
..
ว่าด้วยเรื่องอยุทธยยา ท่าทางพวกเราจะชอบแนวสมมติเทพมาก
อ้างเชื้อสายเทพกันมาตลอด
ตั้งชื่อเมืองก็เหมือนกับเมืองในตำนาน
พราหมณ์ก็แต่งเหมือนเทวดา
บอกตามตรง ตอนเด็กผมค่อนข้างตกใจนะ ในวันพืชมงคล
ว่าทำไมเราแต่งตัวกันแบบนั้น

เรามีพิธีพราหมณ์แต่รู้สึกเหมือนเราไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับลบพราหมณ์เลย

จะเป็นมุกว่าเราไม่ได้อยู่ในวรรณะพราหมร์หรือเปล่า เขาเลยไม่ได้สอนเรา?

ผมคุย discord กับคนอินเดีย
เขาว่าตอนเด็กเขาเป็นพราหมณ์เลยล่้ะ ท่องบทสวดพิธีกรรมต่างๆ
แต่พอมาอยู่อเมริกา วรรณะทุกอย่างก็หายไป กลายเป้นคนอเมริกัน
อเมริกา คือ ดินแดนที่เป็นที่สุดในทุกอย่างจริงๆนั่นล่ะ

[pol]

[quote/]ตรงนี้นักประวัติศาสตร์ยังบอกเลย  ถ้าอยุธยายันได้อีกหน่อยอยุธยาก็รอดแล้ว    เพราะทัพใหญ่จีนลงมาแล้ว    พระเจ้ามังระต้องเรียกตัวอะแซหวุ่นกี้กลับไปเตรียมรับศึกจีน

พูดจริงๆอยุธยานี่แตกๆไปก็ดีแล้วครับจะได้มีผู้นำเก่งๆขึ้นมาบ้างเพราะตอนนั้นเน้นแต่การค้าขาย.  ขืนราชวงศ์นี้อยู่ต่่่อผมว่าประเทศไทยอาจจะมีพื้นที่แค่ภาคกลางก็ได้นะ

[Black7nos]

ฮืม หมยความว่าหากเราแต่งนิยายจีน ย้อนไปเฉียนหลงก็ลงมาทางนี้ได้สินะครับ ฮา

ว่้าไปแล้วไม่รู้เป็นไง ควีนอลิซาเบ็ธก็เป้นคนช่วงสมัยอยุทธยามั้ง?
คุ้นๆว่าคนยิ่งใหญ่หลายคนในประวัติศาสตร์อยู่ยุคคาบเกี่ยวกัน แต่ไม่เคยได้เจอกันว่าอย่างนั้น
..
ว่าด้วยเรื่องอยุทธยยา ท่าทางพวกเราจะชอบแนวสมมติเทพมาก
อ้างเชื้อสายเทพกันมาตลอด
ตั้งชื่อเมืองก็เหมือนกับเมืองในตำนาน
พราหมณ์ก็แต่งเหมือนเทวดา
บอกตามตรง ตอนเด็กผมค่อนข้างตกใจนะ ในวันพืชมงคล
ว่าทำไมเราแต่งตัวกันแบบนั้น

เรามีพิธีพราหมณ์แต่รู้สึกเหมือนเราไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับลบพราหมณ์เลย

จะเป็นมุกว่าเราไม่ได้อยู่ในวรรณะพราหมร์หรือเปล่า เขาเลยไม่ได้สอนเรา?

ผมคุย discord กับคนอินเดีย
เขาว่าตอนเด็กเขาเป็นพราหมณ์เลยล่้ะ ท่องบทสวดพิธีกรรมต่างๆ
แต่พอมาอยู่อเมริกา วรรณะทุกอย่างก็หายไป กลายเป้นคนอเมริกัน
อเมริกา คือ ดินแดนที่เป็นที่สุดในทุกอย่างจริงๆนั่นล่ะ

มันคือการอ้างความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจผ่านทางสายเลือดแค่นั้นครับ ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น


ไม่ว่าจะเป็น อาณัติแห่งสวรรค์ บุญญาธิการ สายเลือดสุริยเทพ สายเลือดอามาเทราสึ อะไรก็แล้วแต่


คนทุกคนเกิดมาย่อมเท่ากัน ไม่มีใครวิเศษไปกว่าใคร มีแต่มนุษย์นี่แหละที่สร้างเรื่องขึ้นมาและดันมีคนเชื่อตามๆกัน