คนไม่ค่อยเข้าใจล่ะนะ
ที่นักการเมืองด่ากันในสภาไม่สามัคคีกัน มันเป็นจุดเด่น ไม่ใช่จุดอ่อนของประชาธิปไตย
มันแปลว่าช่องทางการเมืองของผู้แทนนั้นมีผล
คนชั่วสองกลุ่มกำลังขัดแข้งขัดขากันและกัน
การใช้พลังวัตร 250 เสียงนั้นจะนำมาซึ่งการไม่แคร์ฝ่ายค้านหรือแม้แต่พรรคร่วม
บิดเบือนกลไกที่ควรจะเป็นยของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ไม่ได้ชื่นชมว่าฝ่ายไหนดีหรือตำหนิว่าฝ่ายไหนไม่ดี
แต่โดยระบบเราจงใจวางไว้ให้นักการเมืองทะเลาะกันและพวงกเขาหากทำงานจริงๆก็ควรจะทะเลาะกัน
ประเด็นหลักก็คือ แรกๆทะเลาะกันบนเวที
ต่อมาทะเลาะกันข้างถนน
หลังๆคนนอนอยู่ในบ้านเฉยๆก็ยังลากออกมาให้ช่วยทะเลาะด้วย
พอคนนอนในบ้าน ออกมาดูว่าเกิดไรขึ้น แล้วเดินกลับไปนอนต่อ
ดันมาด่าคนกลับไปนอนอีก....
ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบบที่ปกครองบนความเห็นต่าง
แต่คนส่วนใหญ่รักสงบ แต่ก็มีบางคนรับไม่ได้ที่มีคนรักสงบ
ใครเสพสื่อน้อยไปก็ต้องไปเสพซะ ใครเห็นต่างก็ผิดซะ
ตรรกะประมาณนี้ ก็ได้เถียงกันไปตลอดชีวิตนั่นแหล่ะ
ขนาดบางคนรู้ว่ากินเหล้าไม่ดีควรเลิก แต่ก็มีหลายคนไม่สน
จะไปฝืนทำไมเสียเวลาทะเลาะเปล่าๆ
แต่ถ้าอยากเถียงก็เอาข้อมูลมายัน โน้มน้าว
มาใส่อารมณ์ดูถูกคนเห็นต่างเสียเวลาเปล่า
ทุกคนเสพสื่อไม่เท่ากันและไม่มีทางเท่ากัน
ต่อให้เสพสื่อเดียวกันก็เห็นต่างกันได้
ใครอยากด่า รบ. จะชุดไหนๆก็ด่าไป ตามสบาย
แต่พวกชอบด่าเหมารวมคนทำงาน
ปลาเน่าบางส่วน แต่เหมารวมทั้งหมด
ใครผ่านชีวิตมานานก็จะรู้ ว่าชีวิตส่วนใหญ่ก็เทาๆนั่นแหล่ะ
มีทั้งคนดีคนเลว คนดีที่เลว คนเลวที่ดี
คนทำงานเงียบๆเก็บเงินงกๆไม่ยอมเที่ยวก็โดนว่าโง่
พอคนเอาแต่ใช้ตังไม่มีตังเก็บ เกิดปัญหามาขอยืมเงิน
คนเอาแต่เก็บตังไม่ให้กโดนด่าว่างก
แต่ถ้าหลงเชื่อไปใช้เงินหมดไม่เหลือเก็บ
พอเกิดปัญหา คนที่ชวนเราไปใช้ตังจะมาช่วยเราไหม
ถ้าสนิทก็อาจจะช่วย แต่ยังไงก็ไม่มีทางช่วย
เท่ากับคนมีปัญหาก็ช่วยตัวเองหรอก
อันนี้เป็นผลพวงของความต้องการรักษาอำนาจครับ
อันที่จริงการเมืองไทยมันแบ่งเป็น 2 ฝ่ายมาตั้งแต่เริ่ม 2475 คือ ฝ่ายก้าวหน้า ได้แก่ คณะราษฎรและผู้สืบทอดอุดมการณ์คณะราษฎร กับ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม(ฝ่ายเจ้า + รอยัลลิสต์)
ประเด็นมันมีแค่นี่้เองครับ
ถ้าอยากเข้าใจการเมืองไทยให้อ่านประวัติศาสตร์นอกตำรา ย้อนไปตั้งแต่ ปี 2475, 2476, 2481, 2490, 2500, 2516, 2519 เรียงตามปีไปเลยครับ
แล้วคุณจะทราบถึงรากปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทยว่าแท้จริงแล้วมันเกิดจากอะไร อะไรที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนกัน มันเป็นประวัติศาสตร์ที่แต่งขึ้นมาใหม่เพื่อจุดประสงค์ยกยอคนบางคนให้สูงกว่ามนุษย์ทั่วไปเสมือนเทวดา ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันบิดเบือนด้วยวาทะกรรม
พระเอกในอดีตอาจจะเป็นผู้ร้ายในปัจจุบัน และผู้ร้ายในอดีตอาจจะเป็นพระเอกในปัจจุบันก็ได้
แล้ววันหนึ่งพวกคุณจะได้เบิกเนตรเหมือนนักศึกษา นักเรียนตอนนี้ที่ประท้วงกัน พวกเขารู้ว่าอะไรคือรากแห่งปัญหา
และ Hidden Agenda ของพวกเขาคืออะไร(ถ้าอ่านป้ายประท้วงดีๆน่าจะเดากันออก) เขาต้องการส่งสารนี้ถึงใคร?
ญาติผมสมัยเป็นนักศึกษา ก็บ้าการเมืองจนได้หนีเข้าป่า
ข้อหาคอมมิวนิส
ตอนนี้เกษียณละ ก่อนนี้ก็อยู่ฝั่งเสืัอแดง ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังสนการเมืองไหม
สิ่งที่คนคิดว่าถูกเวลานั้นๆ เวลาเปลี่ยนมุมมองก็เปลี่ยนได้
เหมือนสมัยก่อนคนว่านักแสดงเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน
รึจะไปเป็นครูทำไมได้เงินเดือนแค่ข้าว 1 กระสอบ
มาทำนาดีกว่าปีนึงๆได้ตั้งเยอะ
เวลาผ่านไป..........
ถ้าถามผม รบ.ชุดนี้เป็นคนดีไหมก็ไม่
แต่จะให้ต้องรู้สึกว่าต้องรังเกียจ รึออกมาต่อต้านไหม
อันนี้ไม่ใช่คำถามที่เป็นแค่ 1+1=?
ถึงมีคนพูดถึงเรื่องกบเลือกนายไง
ไม่ใช่ว่าทุกคนไม่รู้ แต่ถึงรู้แล้วก็ใช่ว่าจะมีคำตอบเดียวกัน