[quote/]
แยกเป็นเรื่องครับ
การที่ทรัมป์ไปโบสถ์ ใจกลางม็อบนั้น แสดงให้เห็นถึงว่า" เรามีสิทธิเสรีภาพในการกระทำต่างๆ โดยหากมันไม่ขัดกับผู้อื่น" และ "หากขัดกับผู้อื่น เราก็พร้อมจะจัดการ"
หากทรัมป์ ไปโบสถ์อื่น ก็ไม่มีใครมองว่าดีหรอก มีแต่จะว่า" ขนาด ประธานาธิบดี ยังหลบม็อบเลย แล้วประชาชนจะเป็นไงล่ะ บลาๆๆๆ"
ในสายตาอีกฝ่าย การกระทำทุกอย่างนอกจากก้มกราบ มันคือการยั่วยุหมดแหละ
นโยบายทรัมป์ เรียกว่าเลือดกปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งสมควรแล้ว เพราะเค้ากีดกันคนชาติอื่นที่ไม่ใช่อเมริกา แล้วมันผิดตรงไหน เค้าไมไ่ด้ต้องการให้คนอพยพ เข้ามามากมายนิ
นโยบายทั้มป์ไม่ใช่ป้องกันไม่ให้เข้ามาเท่านั้นครับ
แต่รวมถึงคนอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศด้วยครับ
พูดง่ายๆทรั้มป์เอาใจคนขาวด้วยการหาเรื่องคนดำ(คนอเมริกา)
ขับไล่คนจีน ดูถูกคนเมกซิโก
ม็อบเมกซิโกก็มีนะครับถล่มสถานทูติสหรัฐ ส่วนนึงก็เพราะรอบนี้กับคดีเมื่อไม่นานนี้
คนเม็กซิโกโดนจับข้อหาไม่สวมหน้ากากอนามัย แล้วก็ตายขณะโดนคุมตัว
ส่วนเรื่องลุยไปโบสถ์ จะบอกว่าการประท้วงบนถนนไม่ชอบด้วยกฏหมายหรอครับถึงต้องขับไล่
การยิงแก๊ซน้ำตาขับไล่เพราะขวางทางเป็นการกระทำที่เหมาะสม
ภาระกิจการไปโบสถ์ไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้า แต่เกิดขึ้นตอนนั้น
แล้วทรั้มป์จะประกาศโดยถือคัมภีร์ใบเบิ้ลทำไมครับ
ศาสนาคริสต์เน้นที่การสอนเรื่องความรักและให้อภัย
แต่ประกาศว่าข้าจะเอาผิดทุกคนที่ทำผิด
ฟังเหมือนว่าทรั้มป์จะเน้นบังคับใช้กฏหมาย เป็นคนรักความถูกต้อง
แต่ตริงๆตรงกันข้ามครับ
กฏหมายจะยุติธรรมกับคนขาวเท่านั้น
คนประท้วงเลยออกมาเพื่อให้แก้ไขความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฏหมาย
อย่างคดีที่ตำรวจก่อครั้งนี้ ข้อหาที่โดนตั้ง นักกฏหมายออกมาฟันธงแล้ว
ว่าหลุดแน่นอน
การวินิจฉัยการตายที่รัฐประกาศ ก็เป็นไปในทางทำให้ ตร.หลุดข้อกล่าวหา
จนญาติผู้ตายขอเอาองค์กรอื่นมาวินิจฉัยใหม่ กลายเป็นสวนทางกับที่รัฐประกาศ
และส่งผลต่อรูปคดีในทิศทางเอาผิดเจ้าหน้าที่
สรุปคือ ผู้บังคับใช้กฏหมายของสหรัฐ เอื้อผลประโยชน์กันเอง
แล้วทรั้มป์ก็แสดงจุดยืนในการปกป้องความไม่เป็นธรรม
จะบอกว่าทรั้มป์รักษากฏหมายไหมก็ใช่ แต่จะรักษาเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์เท่านั้น เรื่องจริงแม่มใช้วิธีนอกกฏหมายตลอดแหล่ะครับ