แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า  (อ่าน 160441 ครั้ง)

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #520 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 01:43:50 PM »
[quote/]ความเสี่ยงตอนนี้ มันมาจาก คนไปเที่ยวมา กับมาแพร่เชื้อใส่คนในบ้าน แพร่ใส่บริเวณรอบ แล้วกระจายต่อไป คนขับแท็กซี่  บริกรร้านอาหาร  โรงแรม  พนักงานเซเว่น   สวนรถพยาบาลคุณคลั่งออกมาเอง กลัวติดคนอื่นระหว่างทางเรียกรถพยาบาลเลย ผมแค่บอกว่า คนแค่อยากเช็คจะต้องจ่ายเงินขนาดนั้นเลยหรือ ผมแค่พูดว่า เวลาคนพวกนี้ป่วย ไม่รู้ว่าป่วยเป็นไร มีจุดคัดแยกผู้ป่วย หน้าโรงบาลกับคนที่มีอาการเสี่ยงของโรค ก่อนจะให้เขาไปปนกับคนไข้ข้างใน มันเป็นอะไรจะเป็นจะตายขนาดนั้น  คนเป็นแรกๆประเทศไทย ใครครับ คนขับแท็กซี่... ผมแค่ไปอ่านคนไปตรวจบ่นว่ารอเป็นชาติ ราคาก็แพง โอกาสแพร่เชื้อของคนที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็น ที่ญี่ปุ่นก็เห็นมาแล้ว  ค่าตรวจแพงมากครับหลักๆที่บ่นกันนะ
งง?




ถ้าขนาดเจ้าตัวคนป่วยเองยังไม่รู้ตัวเองป่วยเป็นอะไร แถมไม่มีประวัติติดต่อกับกลุ่มเสี่ยงไปบอกอีก เจ้าหน้าที่เขาจะตรัสรู้ได้ยังไงว่าพวกนี้เป็น “กลุ่มเสี่ยง“ ต้องแยกพื้นที่จากคนอื่น?


ถ้ารู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่ใช่คนที่ไปสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง งั้นจะไปขอตรวจโคโรน่าทำแมวอะไรครับ? เปลืองเงิน เปลืองชุดตรวจ เหนื่อยเจ้าหน้าที่เอาเปล่าๆ


อีกอย่างก็รู้อยู่ว่าตอนนี้อยู่ช่วงระบาด ก็จำให้ขึ้นใจ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากาก ยืนห่างคน เลี่ยงที่ชุมชน ปฏิบัติตัวตามมาตรฐานควบคุมโรค แค่นี้มันก็ไม่ติดแล้ว

ถ้าประชาชนไม่ช่วยกันป้องกันตนเอง ต่อให้รัฐช่วยให้ตายจ่ายหมดทุกอย่างฟรีหมดทุกขั้นตอนยังไงก็หยุดความชิบหายไม่ได้ครับ.......
 

ออฟไลน์ biyonet

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 523
  • ถูกใจแล้ว: 233 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-24
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #521 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 02:16:08 PM »
เอาจริงๆ ปัญหาโคโรนาที่เป็นประเด็นตอนนี้นะ
เมืองไทยในขณะนี้เชื้อยังไม่แพร่ระบาดภายใน ส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคนี้จะเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกับครอบครัวหรืออาชีพที่ต้องคลุกคลีอยู่กับกลุ่มเหล่านี้ ตอนนี้เราถึงเน้นว่าจะทำยังไงให้กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้เพิ่มขึ้น
เค้าถึงรณรงค์ให้กักตัวเองไว้ 14 วันถ้าไปประเทศที่มีการระบาด แต่กลับมีกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้เมินเฉย ไม่สนใจ และไม่คิดจะช่วยป้องกันหรือรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดแล้วยังไม่แสดงอาการ การมาอ้างว่าตนเองจนไม่มีค่าตรวจหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวนี่คือการแสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างมาก เอาจริงๆ ค่าเดินทางต่อให้ตั๋วถูกยังไง ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวต่างประเทศยังไงก็ไม่ใช่หลักร้อยหลักพันแน่ๆ


เรื่องนี้มันอยู่ที่จิตสำนึกกับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเดียวเลย อย่าใช้ความจนมาอ้างเลย คนจนจริงเค้าไม่มีปัญญาไปเที่ยวทีเสียตังค์เป็นพันเป็นหมื่นหรอก


ปล.กลุ่มที่เป็นปัญหาตอนนี้จริงๆ คือกลุ่มที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดแล้วไม่ยอมกักตัวหรือผู้ป่วยที่ปกปิดข้อมูลการเดินทางนี่แหละ
 

ออฟไลน์ sechan

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,108
  • ถูกใจแล้ว: 1845 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-262
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #522 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 03:25:52 PM »
แล้วคุณกันคนพวกนั้นได้หรือไม่... สิ่งที่พูดมาคือความคาดหวังและอุดมคติครับ แต่สิ่งที่ผมหวังคือ ถ้ามีคนป่วยหรือเสี่ยงจะป่วยจากคนพวกนี้ มีการบริการอะไรที่จะตรวจหรือป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อเวลาพวกเขาไปขอตรวจตามโรงบาลรัฐที่คนแม่งแน่นยิ่งกว่าอะไร  เพราะคงไม่มีใครกล้าพูดกับ จุดลงทะเบียนหรอก ผมเป็นโควิท 19...  นึกภาพคนไปเกาหลีกลับมาที่สุวรรณภูมิ ตรวจอุณหภูมิผ่าน หาวเอามือปิดปาก แล้วไปขึ้นรถไฟ จับราวบนรถไฟ bts ด้วยมือที่หาว มีพนักงานออฟฟิสกับบ้านมาจับต่อ แล้วไปเล่นมือถือ ถึงบ้านทำอาหารให้ลูก จับมีดทำอาหาร แล้วล้างมือ แต่ไม่ล้างด้ามมีด เสร็จแล้วให้ลูกล้างจาน แล้วไปเด็กล้างแค่คมมีดไม่ล้างด้าม แล้วเก็บมีด แล้วเอามือไปเล่นมือถือ วางไว้ในห้องนอน  วัดดวงเอาชายกลับจากเกาหลีแพร่เชื้อให้คนทั่วไปหรือเปล่า  ที่ผมพูดคือ ถ้าแจ็คพ็อต คนป่วยเป็นคนประเทศที่ ไม่ได้ไปต่างประเทศ จะไม่ได้รับสิทธิในการตรวจฟรี ซึ่งมันแพงมากสำหรับคนจน  ที่ผมพูดไว้ในอันเก่าๆคือ เอาคำว่ากลับจากประเทศเสี่ยงออก  กับคัดแยกผู้ป่วยก่อนเข้าไปในตัวอาคารโรงพยาบาลรัฐหารถคัดแยกสักคันไว้ตรวจโควิท คุณก็มาบ้าบอพูดถึงจริยธรรม สิ่งที่ควรทำ รู้ไหมหมอลำบากขนาดไหน ชุดตรวจมีไม่พอ กลัวติดคนอื่นเรียกโรงพยาบาลมารับเลย...  แล้วของพวกนี้ถ้าคนมันป่วยไปแล้ว มันช่วยอะไรได้ไหมนอกจากเชื้อแพร่กระจายไปทั่ว ไม่มีใครตรัสรู้หรอก คนข้างๆมันป่วยเป็นโคโลน่าหรือเปล่า ปล่อยคนป่วยโควิท โต้งๆไปปนกับคนไข้ของโรงพยาบาลรัฐตรงๆนี่.... ไข้นี่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นไม่เป็น เพราะโควิทมันจะเกาะที่ปอดก่อนจะเข้ากระแสเลือด ถ้ายังไม่เข้ากระแสเลือดไข้ยังไม่ขึ้น


ไม่ก็จัดที่ตรวจสอบโรครักษาทางหายใจราคาถูกไว้เป็นพิเศษให้โรงพยาบาลเฉพาะทางบางทีฉุกเฉินเฉพาะช่วงนี้ รับเฉพาะโรคทางระบบหายใจไม่รับโรคอื่นก็ได้ แล้วก็จัดเป็นศูนย์ตรวจโควิทที่เดียวในประเทศกรุงเทพไปเลย  เพื่อลดความหนาแน่นของคนไข้ที่จะแพร่เชื้อใส่กันเองแล้วก็จัดพื้นที่นั่งรอให้ห่างๆกันแล้วเพิ่มการทำความสะอาดห้องน้ำ และอาคารให้ถี่ๆหน่อย ตรวจโควิท มันไม่ต้องตรวจได้หลายโรงบาลหรอก โรงพยาบาลรัฐ เลือกที่เดินทางสะดวก คนไม่เยอะ ทำให้ตรวจถูก ทำความสะอาดถี่ๆ จัดที่รอคนป่วยให้ห่างๆ ดีกว่าบอกมาตรวจโรงพยาบาลรัฐเลย ไอ้คนข้างๆมันไอแคกๆไม่สวมหน้ากากนะ.... คุณจะมาด่าไอ้นี่เลวไม่สวมหน้ากาก แต่ไอ้คนข้างๆที่นั่งชิดมันติดไปก็สายไปแล้ว..


ไอ้ที่ผมพูดหรือบ่นคิดขึ้นมามันแค่จากที่อ่านเจอ การตรวจรอนานแล้วแพง แม่ก็บ่นค่าตรวจโคตรโหดแค่นั้น ถ้าผมแค่บ่นว่าทำอย่างนู้นอย่างนี้มันเสี่ยง แล้วมานั่งด่ากัน  ไอ้อนุทินมันทำอะไรบ้างไปไม่ด่าล่ะ หน้าที่มันล้วนๆเลย ไม่ใช่เรื่องของประชาชนต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้ ระวังแค่ตัวเองก็พอแล้ว แต่เพราะรู้สึกว่ารัฐมันทำไม่เพียงพอผมจึงบ่นมันก็แค่นั้น
 

ออฟไลน์ hackac

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,227
  • ถูกใจแล้ว: 600 ครั้ง
  • ความนิยม: +65/-46
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #523 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 04:13:39 PM »
ยังไงกันเนี่ย จะเชื่อใครดี เกี่ยวกับคนไทยที่ติดเชื้อโคโรน่าเสียชีวิต
กรณีกระทรวงสาธารณสุข แถลงยืนยันว่า มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเป็นรายแรกในไทย โดยเป็นชายวัย 35 ปี เป็นพนักงานขาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยงคือนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยพบว่ามีอาการป่วยเป็นไข้เลือดออกก่อน ต่อมาจึงได้ตรวจว่าเป็นโรคโควิด-19 ด้วยนั้น
อาจารย์จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ระบุว่า ไข้เลือดออก ไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายนี้[/size]

[/size]
https://hilight.kapook.com/view/200730
 

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #524 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 07:27:11 PM »
แล้วคุณกันคนพวกนั้นได้หรือไม่... สิ่งที่พูดมาคือความคาดหวังและอุดมคติครับ แต่สิ่งที่ผมหวังคือ ถ้ามีคนป่วยหรือเสี่ยงจะป่วยจากคนพวกนี้ มีการบริการอะไรที่จะตรวจหรือป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อเวลาพวกเขาไปขอตรวจตามโรงบาลรัฐที่คนแม่งแน่นยิ่งกว่าอะไร  เพราะคงไม่มีใครกล้าพูดกับ จุดลงทะเบียนหรอก ผมเป็นโควิท 19...  นึกภาพคนไปเกาหลีกลับมาที่สุวรรณภูมิ ตรวจอุณหภูมิผ่าน หาวเอามือปิดปาก แล้วไปขึ้นรถไฟ จับราวบนรถไฟ bts ด้วยมือที่หาว มีพนักงานออฟฟิสกับบ้านมาจับต่อ แล้วไปเล่นมือถือ ถึงบ้านทำอาหารให้ลูก จับมีดทำอาหาร แล้วล้างมือ แต่ไม่ล้างด้ามมีด เสร็จแล้วให้ลูกล้างจาน แล้วไปเด็กล้างแค่คมมีดไม่ล้างด้าม แล้วเก็บมีด แล้วเอามือไปเล่นมือถือ วางไว้ในห้องนอน  วัดดวงเอาชายกลับจากเกาหลีแพร่เชื้อให้คนทั่วไปหรือเปล่า  ที่ผมพูดคือ ถ้าแจ็คพ็อต คนป่วยเป็นคนประเทศที่ ไม่ได้ไปต่างประเทศ จะไม่ได้รับสิทธิในการตรวจฟรี ซึ่งมันแพงมากสำหรับคนจน  ที่ผมพูดไว้ในอันเก่าๆคือ เอาคำว่ากลับจากประเทศเสี่ยงออก  กับคัดแยกผู้ป่วยก่อนเข้าไปในตัวอาคารโรงพยาบาลรัฐหารถคัดแยกสักคันไว้ตรวจโควิท คุณก็มาบ้าบอพูดถึงจริยธรรม สิ่งที่ควรทำ รู้ไหมหมอลำบากขนาดไหน ชุดตรวจมีไม่พอ กลัวติดคนอื่นเรียกโรงพยาบาลมารับเลย...  แล้วของพวกนี้ถ้าคนมันป่วยไปแล้ว มันช่วยอะไรได้ไหมนอกจากเชื้อแพร่กระจายไปทั่ว ไม่มีใครตรัสรู้หรอก คนข้างๆมันป่วยเป็นโคโลน่าหรือเปล่า ปล่อยคนป่วยโควิท โต้งๆไปปนกับคนไข้ของโรงพยาบาลรัฐตรงๆนี่.... ไข้นี่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นไม่เป็น เพราะโควิทมันจะเกาะที่ปอดก่อนจะเข้ากระแสเลือด ถ้ายังไม่เข้ากระแสเลือดไข้ยังไม่ขึ้น


ไม่ก็จัดที่ตรวจสอบโรครักษาทางหายใจราคาถูกไว้เป็นพิเศษให้โรงพยาบาลเฉพาะทางบางทีฉุกเฉินเฉพาะช่วงนี้ รับเฉพาะโรคทางระบบหายใจไม่รับโรคอื่นก็ได้ แล้วก็จัดเป็นศูนย์ตรวจโควิทที่เดียวในประเทศกรุงเทพไปเลย  เพื่อลดความหนาแน่นของคนไข้ที่จะแพร่เชื้อใส่กันเองแล้วก็จัดพื้นที่นั่งรอให้ห่างๆกันแล้วเพิ่มการทำความสะอาดห้องน้ำ และอาคารให้ถี่ๆหน่อย ตรวจโควิท มันไม่ต้องตรวจได้หลายโรงบาลหรอก โรงพยาบาลรัฐ เลือกที่เดินทางสะดวก คนไม่เยอะ ทำให้ตรวจถูก ทำความสะอาดถี่ๆ จัดที่รอคนป่วยให้ห่างๆ ดีกว่าบอกมาตรวจโรงพยาบาลรัฐเลย ไอ้คนข้างๆมันไอแคกๆไม่สวมหน้ากากนะ.... คุณจะมาด่าไอ้นี่เลวไม่สวมหน้ากาก แต่ไอ้คนข้างๆที่นั่งชิดมันติดไปก็สายไปแล้ว..


ไอ้ที่ผมพูดหรือบ่นคิดขึ้นมามันแค่จากที่อ่านเจอ การตรวจรอนานแล้วแพง แม่ก็บ่นค่าตรวจโคตรโหดแค่นั้น ถ้าผมแค่บ่นว่าทำอย่างนู้นอย่างนี้มันเสี่ยง แล้วมานั่งด่ากัน  ไอ้อนุทินมันทำอะไรบ้างไปไม่ด่าล่ะ หน้าที่มันล้วนๆเลย ไม่ใช่เรื่องของประชาชนต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้ ระวังแค่ตัวเองก็พอแล้ว แต่เพราะรู้สึกว่ารัฐมันทำไม่เพียงพอผมจึงบ่นมันก็แค่นั้น

แล้วคุณจะให้รัฐทำยังไงครับ? ส่งโดรนส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าติดตามการใช้ชีวิตของทุกคนที่อยู่ในพรมแดนประเทศ หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่ทำตามมาตรการควบคุมให้จัดการจับกุมหรือวิสามัญได้ทันที?

คุณบอกให้ทำโน้นทำนี้ ทำแบบนี้ยังไม่พอ เราต้องเพิ่มความเข้มงวดมากกว่านี้ บลาๆๆๆ ขอถามหน่อยว่าที่อยากให้ทำแบบนั้นแบบนี้นี่ เงินมีมั้ย? เครื่องมือมีมั้ย? บุคลากรมีมั้ย? สถานที่มีมั้ย?


ก็เพราะทางเจ้าหน้าที่มีกำลังไม่พอไม่ใช่เหรอไง เขาถึงต้อง “ขอความร่วมมือ“ จากประชาชนทุกคนให้ช่วยควบคุมโรคเท่าที่จะทำได้
หากประชาชนเอาแต่รอให้รัฐประเคนมาตรการให้ ไม่ให้ความร่วมมือด้วยตนเองแบบนี้ก็บันเทิงสิครับ แบบนั้นต่อให้เป็นมหาเมพอเมริกาก็เละครับ


ผมว่าแทนที่จะมาคอยบ่นด่าว่าทางการทำหน้าที่ไม่ดีพอ มาถามหาความรับผิดชอบหากเกิดการระบาด สู้คุณไปช่วยกระจายการตระหนักรู้ให้คนใกล้ตัวและคนที่คุณสามารถสื่อสารได้ให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อที่มันจะได้ไม่เกิดการระบาดขึ้นตั้งแต่แรก แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ?
ไหนๆ คุณก็ว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไว้วางใจไม่ได้แล้ว ในเมื่อคุณกลัวการระบาดนักก็เอาเวลาว่างที่คุณมีไปรณรงค์ให้คนป้องกันโรคดีกว่ามั้ยครับ จะมัวมาบ่นด่าถึงคนที่คุณเองก็ไม่คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการระบาดได้ไปทำไม? เสียเวลาเปล่าๆ (เหมือนที่เถียงกับผมไง) จริงมั้ย?
 

ออฟไลน์ Diamos

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,014
  • ถูกใจแล้ว: 29939 ครั้ง
  • ความนิยม: +446/-110
  • เพศ: ชาย
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #525 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 08:02:39 PM »
หนึ่งในข่าวเศร้าสะเทือนใจสำหรับผมมาก
https://mcmnt.com/vatican-confirms-pope-francis-and-two-aides-test-positive-for-coronavirus/ ลิงค์ต้นทางจาก MCM NEWS หายไปแล้ว

ท่านพระสันตะปาปาฟรานซิสป่วยด้วยโรคโคโรน่าแล้วครับ....
ขออวยพรให้ท่านจะหายดีในเร็ววันนะครับ

รอคอยข่าวเป็นทางการอีกทีดีกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2020, 08:47:32 PM โดย Diamos »
สถาปนิก, นักออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเหล่าหมีผู้น่ารัก
โครงการนิยายแต่ง หน้าหลัก;Age of War;DSU Board
 

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #526 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 08:15:21 PM »
หนึ่งในข่าวเศร้าสะเทือนใจสำหรับผมมาก
https://mcmnt.com/vatican-confirms-pope-francis-and-two-aides-test-positive-for-coronavirus/ ลิงค์ต้นทางจาก MCM NEWS หายไปแล้ว

ท่านพระสันตะปาปาฟรานซิสป่วยด้วยโรคโคโรน่าแล้วครับ....
ขออวยพรให้ท่านจะหายดีในเร็ววันนะครับ

รอคอยข่าวเป็นทางการอีกทีดีกว่าครับ

เรื่องจริงหรือครับเนี้ย ก่อนหน้านี้ท่านยังเพิ่งมาไทยนี่เอง
 

ออฟไลน์ sechan

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,108
  • ถูกใจแล้ว: 1845 ครั้ง
  • ความนิยม: +173/-262
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #527 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 08:39:35 PM »
[quote/]

แล้วคุณจะให้รัฐทำยังไงครับ? ส่งโดรนส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าติดตามการใช้ชีวิตของทุกคนที่อยู่ในพรมแดนประเทศ หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่ทำตามมาตรการควบคุมให้จัดการจับกุมหรือวิสามัญได้ทันที?

คุณบอกให้ทำโน้นทำนี้ ทำแบบนี้ยังไม่พอ เราต้องเพิ่มความเข้มงวดมากกว่านี้ บลาๆๆๆ ขอถามหน่อยว่าที่อยากให้ทำแบบนั้นแบบนี้นี่ เงินมีมั้ย? เครื่องมือมีมั้ย? บุคลากรมีมั้ย? สถานที่มีมั้ย?


ก็เพราะทางเจ้าหน้าที่มีกำลังไม่พอไม่ใช่เหรอไง เขาถึงต้อง “ขอความร่วมมือ“ จากประชาชนทุกคนให้ช่วยควบคุมโรคเท่าที่จะทำได้
หากประชาชนเอาแต่รอให้รัฐประเคนมาตรการให้ ไม่ให้ความร่วมมือด้วยตนเองแบบนี้ก็บันเทิงสิครับ แบบนั้นต่อให้เป็นมหาเมพอเมริกาก็เละครับ


ผมว่าแทนที่จะมาคอยบ่นด่าว่าทางการทำหน้าที่ไม่ดีพอ มาถามหาความรับผิดชอบหากเกิดการระบาด สู้คุณไปช่วยกระจายการตระหนักรู้ให้คนใกล้ตัวและคนที่คุณสามารถสื่อสารได้ให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อที่มันจะได้ไม่เกิดการระบาดขึ้นตั้งแต่แรก แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ?
ไหนๆ คุณก็ว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไว้วางใจไม่ได้แล้ว ในเมื่อคุณกลัวการระบาดนักก็เอาเวลาว่างที่คุณมีไปรณรงค์ให้คนป้องกันโรคดีกว่ามั้ยครับ จะมัวมาบ่นด่าถึงคนที่คุณเองก็ไม่คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการระบาดได้ไปทำไม? เสียเวลาเปล่าๆ (เหมือนที่เถียงกับผมไง) จริงมั้ย?

ไม่มีบุคลากร ไม่มีงบประมาณจะเจียดให้ ไม่มี ไม่มี ไม่มี ไอ้นั่นก็ไม่มี ไอ้นี่ก็ไม่มี แม้แต่สิทธิที่กูจะบ่นก็ยังไม่มี




จำเริญแหละประเทศไทย สาธุ อย่างน้อยป้องกันตัวพื้นฐาน ออกโฆษณาทีวีหน่อยก็ยังดี มีแต่มีนักวิชาการออกมาพล่าม หน้ากาก หน้ากาก หน้ากากหาซื้อไม่ได้. ไอ้ที่ต้องเน้นหนักๆคือล้างมือไม่ค่อยจะเน้น ใครๆถามหาแต่หน้ากาก ทำโฆษณาดูแลประชาชนว่าต้องทำไงออกช่องสาม ห้า เจ็ด เก้า สัญญาณของรัฐก็ยังได้


พูดกับคุณมันเปล่าประโยชน์ เหมือนที่คุณมาหาเรื่องด่าผมน่ะแหละ ทำไมคุณอยากพิมพ์ด่า มันก็อย่างเดียวกัน ไม่อยากตอบ ก็แค่ไม่ตอบ คุณแรงมาผมก็แค่แรงกลับ
 

ออฟไลน์ Diamos

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,014
  • ถูกใจแล้ว: 29939 ครั้ง
  • ความนิยม: +446/-110
  • เพศ: ชาย
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #528 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 08:46:31 PM »
[quote/]

เรื่องจริงหรือครับเนี้ย ก่อนหน้านี้ท่านยังเพิ่งมาไทยนี่เอง

เมื่อกี้นี้ยังเข้าได้อยู่... แต่ตอนนี้ข่าวลิ้งค์ต้นทางหายไปแล้ว (ของ mcm news) หรือว่าจะข่าวปลอมกันแน่หว่า -*- งงเป็นบ้าเลยวุ้ย เอาเป็นว่าคงต้องรอสรุปข่าวอย่างเป็นทางการอีกทีละครับ
สถาปนิก, นักออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเหล่าหมีผู้น่ารัก
โครงการนิยายแต่ง หน้าหลัก;Age of War;DSU Board
 

ออฟไลน์ Hikakichi

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 706
  • ถูกใจแล้ว: 166 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-14
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #529 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 08:54:56 PM »
เรื่องคัดกรองผู้ป่วยตามรพ.น่าจะมีการยกระดับให้เข้มข้นขึ้นใน1-2วันนี้นะครับ


ทำเนียบรัฐบาลนำร่องไปก่อนละ จะเริ่มคัดกรองบุคคลพรุ่งนี้


https://www.facebook.com/253609038076576/posts/2621987704572019/?d=n
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2020, 08:58:10 PM โดย Hikakichi »
 

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #530 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 09:15:41 PM »
[quote/]ไม่มีบุคลากร ไม่มีงบประมาณจะเจียดให้ ไม่มี ไม่มี ไม่มี ไอ้นั่นก็ไม่มี ไอ้นี่ก็ไม่มี แม้แต่สิทธิที่กูจะบ่นก็ยังไม่มี




จำเริญแหละประเทศไทย สาธุ อย่างน้อยป้องกันตัวพื้นฐาน ออกโฆษณาทีวีหน่อยก็ยังดี มีแต่มีนักวิชาการออกมาพล่าม หน้ากาก หน้ากาก หน้ากากหาซื้อไม่ได้. ไอ้ที่ต้องเน้นหนักๆคือล้างมือไม่ค่อยจะเน้น ใครๆถามหาแต่หน้ากาก ทำโฆษณาดูแลประชาชนว่าต้องทำไงออกช่องสาม ห้า เจ็ด เก้า สัญญาณของรัฐก็ยังได้


พูดกับคุณมันเปล่าประโยชน์ เหมือนที่คุณมาหาเรื่องด่าผมน่ะแหละ ทำไมคุณอยากพิมพ์ด่า มันก็อย่างเดียวกัน ไม่อยากตอบ ก็แค่ไม่ตอบ คุณแรงมาผมก็แค่แรงกลับ
งั้นก็จบประเด็น เพราะบ่นไปก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่ประชาชนอย่างเราทำได้ก็มีแค่ป้องกันตัวเองไม่ให้ติดกับกระจายข้อมูลเพื่อเตือนคนใกล้ตัวเท่านั้นแหละ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,718
  • ถูกใจแล้ว: 3079 ครั้ง
  • ความนิยม: +212/-3
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #531 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 09:31:33 PM »
[quote/]

แล้วคุณจะให้รัฐทำยังไงครับ? ส่งโดรนส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าติดตามการใช้ชีวิตของทุกคนที่อยู่ในพรมแดนประเทศ หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่ทำตามมาตรการควบคุมให้จัดการจับกุมหรือวิสามัญได้ทันที?

คุณบอกให้ทำโน้นทำนี้ ทำแบบนี้ยังไม่พอ เราต้องเพิ่มความเข้มงวดมากกว่านี้ บลาๆๆๆ ขอถามหน่อยว่าที่อยากให้ทำแบบนั้นแบบนี้นี่ เงินมีมั้ย? เครื่องมือมีมั้ย? บุคลากรมีมั้ย? สถานที่มีมั้ย?


ก็เพราะทางเจ้าหน้าที่มีกำลังไม่พอไม่ใช่เหรอไง เขาถึงต้อง “ขอความร่วมมือ“ จากประชาชนทุกคนให้ช่วยควบคุมโรคเท่าที่จะทำได้
หากประชาชนเอาแต่รอให้รัฐประเคนมาตรการให้ ไม่ให้ความร่วมมือด้วยตนเองแบบนี้ก็บันเทิงสิครับ แบบนั้นต่อให้เป็นมหาเมพอเมริกาก็เละครับ


ผมว่าแทนที่จะมาคอยบ่นด่าว่าทางการทำหน้าที่ไม่ดีพอ มาถามหาความรับผิดชอบหากเกิดการระบาด สู้คุณไปช่วยกระจายการตระหนักรู้ให้คนใกล้ตัวและคนที่คุณสามารถสื่อสารได้ให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อที่มันจะได้ไม่เกิดการระบาดขึ้นตั้งแต่แรก แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ?
ไหนๆ คุณก็ว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไว้วางใจไม่ได้แล้ว ในเมื่อคุณกลัวการระบาดนักก็เอาเวลาว่างที่คุณมีไปรณรงค์ให้คนป้องกันโรคดีกว่ามั้ยครับ จะมัวมาบ่นด่าถึงคนที่คุณเองก็ไม่คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการระบาดได้ไปทำไม? เสียเวลาเปล่าๆ (เหมือนที่เถียงกับผมไง) จริงมั้ย?



ผมว่าจริง หน่วยงานสาธารณะสุขควรทำแอพขึ้นมาซักตัวครับ
คอนเซ็ปคือการเข้าคิว


โดยแบ่งเป็น 2 เฟส
1.ตรวจอาการที่บ้าน เป็นแบบถามตอบ เช่น
มีอาการแบบไหน แบบเลือกตอบได้มากกว่า 1


ก. ตัวร้อน
ข. ไอ
ค. ปวดกล้ามเนื้อ
ง. อื่นๆ


แล้วก็พอตอบครบ ใครไม่มีอาการก็ บอกว่าอาจจะเป็นโรคอะไร
ควรรีบไปหาหมอไหม


เอาแค่นี้ก็ลดคนที่วิตกได้เยอะละ


2. พอผลจากแอพบอกว่าควรไปหาหมอ แอพก็จะมีมีจองคิวให้
แล้วพอคิวเริ่มใกล้แล้วก็จะมีถาม ต้องการการคอนเฟิม


โปรดคอนเฟิม แล้วมา รพ.


แต่แน่นอนบางคนอาจจะมาป่วนรึกดไว้กลัวเสียคิว
ก็ต้องให้แอพ ตรวจว่าตำแหน่ง gps ของมือถืออยู่ในระยะรึไม่
เช่น 20 คิวน่าจะใช้เวลา 1 ชม. คนเข้าคิวก็ต้องมาใกล้ๆ รพ.ละ
โดยระยะทางไม่เกิน 1 กม. รึ 2 กม.  ก็ว่าไป


คนจะได้ไม่ต้องไปนั่งรอใน รพ.นานๆทั้งวันแล้วไม่รู้จะถึงคิวตอนไหน


ถ้าหมอตรวจด้านนี้มี 4 คน คนไข้ที่ตรวจไวสุดใช้ 5 นาที
1 ชม. ก็ตรวจได้มากสุด 48 คน  พอถึงคิวเหลือ ซัก 50 ก็ต้องมาละ
ถ้าไม่มาคิวใน รพ. ก็จะโดนตัดออก


แต่ถ้ามาถึง รพ.ละ ก็จะมีตัวนับให้ว่าถึงคิวเท่าไหร่ละ
ใครอยากออกไปข้างนอกก็ตามใจ แต่ถ้ากลับมาไม่ทันเค้าก็จะข้ามคิวเอง


พอทำแบบนี้นอกจากผู้ป่วยจะไม่ต้องมาแออัดรอ
ยังทำให้คนที่ควรตรวจก็ต้องมา คนไม่ควรตรวจก็ยังไม่ต้องมา


ส่วนค่าใช้จ่าย รัฐก็อุดหนุนช่วงแรกไปก่อนเลย ขนาดแจกเงินให้เที่ยวฟรียังทำมาละ
อันนี้คุ้มกว่าอัดงบให้คนเที่ยวอีก


ส่วนงบ ผมว่าไม่เกิน 50 ล้าน ทำแอพแบบง่าย 1 เดือน
นำร่องแค่ รพ.รัฐพอ
สิ่งที่ รพ.ต้องทำเพิ่มคือ พยาบาลที่รับคิว ให้กดเลื่อนคิวเวลามีคนไข้เข้าไปตรวจ


ส่วนการคัดแยกการใช้บริการแบบ แอพกับ แบบ ปรกติ
ก็ให้แยกกันต่างหากเลย คือหมอคนนี้สำหรับแอพ คนนี้สำหรับปรกติ
ถ้าคนใช้แอพหมดคิว ก็เรียกคิวปรกติมาตรวจ
แต่ถ้ามีคิวแอพ ก็เรียกคิวแอพก่อนให้จนหมด

แล้วถ้าแอพได้รับความนิยมก็ค่อยๆเพิ่มอัตราส่วนการตรวจจากแอพก่อน
พอคนเริ่มรู้เค้าก็จะใช้แอพเพิ่มกันเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2020, 09:44:35 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ CatRules

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 675
  • ถูกใจแล้ว: 464 ครั้ง
  • ความนิยม: +31/-23
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #532 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 10:11:31 PM »
[quote/]


ผมว่าจริง หน่วยงานสาธารณะสุขควรทำแอพขึ้นมาซักตัวครับ
คอนเซ็ปคือการเข้าคิว


โดยแบ่งเป็น 2 เฟส
1.ตรวจอาการที่บ้าน เป็นแบบถามตอบ เช่น
มีอาการแบบไหน แบบเลือกตอบได้มากกว่า 1


ก. ตัวร้อน
ข. ไอ
ค. ปวดกล้ามเนื้อ
ง. อื่นๆ


แล้วก็พอตอบครบ ใครไม่มีอาการก็ บอกว่าอาจจะเป็นโรคอะไร
ควรรีบไปหาหมอไหม


เอาแค่นี้ก็ลดคนที่วิตกได้เยอะละ


2. พอผลจากแอพบอกว่าควรไปหาหมอ แอพก็จะมีมีจองคิวให้
แล้วพอคิวเริ่มใกล้แล้วก็จะมีถาม ต้องการการคอนเฟิม


โปรดคอนเฟิม แล้วมา รพ.


แต่แน่นอนบางคนอาจจะมาป่วนรึกดไว้กลัวเสียคิว
ก็ต้องให้แอพ ตรวจว่าตำแหน่ง gps ของมือถืออยู่ในระยะรึไม่
เช่น 20 คิวน่าจะใช้เวลา 1 ชม. คนเข้าคิวก็ต้องมาใกล้ๆ รพ.ละ
โดยระยะทางไม่เกิน 1 กม. รึ 2 กม.  ก็ว่าไป


คนจะได้ไม่ต้องไปนั่งรอใน รพ.นานๆทั้งวันแล้วไม่รู้จะถึงคิวตอนไหน


ถ้าหมอตรวจด้านนี้มี 4 คน คนไข้ที่ตรวจไวสุดใช้ 5 นาที
1 ชม. ก็ตรวจได้มากสุด 48 คน  พอถึงคิวเหลือ ซัก 50 ก็ต้องมาละ
ถ้าไม่มาคิวใน รพ. ก็จะโดนตัดออก


แต่ถ้ามาถึง รพ.ละ ก็จะมีตัวนับให้ว่าถึงคิวเท่าไหร่ละ
ใครอยากออกไปข้างนอกก็ตามใจ แต่ถ้ากลับมาไม่ทันเค้าก็จะข้ามคิวเอง


พอทำแบบนี้นอกจากผู้ป่วยจะไม่ต้องมาแออัดรอ
ยังทำให้คนที่ควรตรวจก็ต้องมา คนไม่ควรตรวจก็ยังไม่ต้องมา


ส่วนค่าใช้จ่าย รัฐก็อุดหนุนช่วงแรกไปก่อนเลย ขนาดแจกเงินให้เที่ยวฟรียังทำมาละ
อันนี้คุ้มกว่าอัดงบให้คนเที่ยวอีก


ส่วนงบ ผมว่าไม่เกิน 50 ล้าน ทำแอพแบบง่าย 1 เดือน
นำร่องแค่ รพ.รัฐพอ
สิ่งที่ รพ.ต้องทำเพิ่มคือ พยาบาลที่รับคิว ให้กดเลื่อนคิวเวลามีคนไข้เข้าไปตรวจ


ส่วนการคัดแยกการใช้บริการแบบ แอพกับ แบบ ปรกติ
ก็ให้แยกกันต่างหากเลย คือหมอคนนี้สำหรับแอพ คนนี้สำหรับปรกติ
ถ้าคนใช้แอพหมดคิว ก็เรียกคิวปรกติมาตรวจ
แต่ถ้ามีคิวแอพ ก็เรียกคิวแอพก่อนให้จนหมด

แล้วถ้าแอพได้รับความนิยมก็ค่อยๆเพิ่มอัตราส่วนการตรวจจากแอพก่อน
พอคนเริ่มรู้เค้าก็จะใช้แอพเพิ่มกันเอง

ผมได้อ่านกระทู้พันทิปที่รายงานสถานการณ์ในเมืองหางโจวแล้วทึ่งสุดๆ เพราะทางการจีนมีการนำเทคโนโลยีและการจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบและเด็ดขาดมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก มีแอปรายงานสุขภาพแบบที่คุณว่าด้วย. จริงๆ ไหนๆ รัฐบาลนี้ก็เอียงจีนแล้ว น่าจะเรียนรู้จากวิธีจัดการของจีนบ้างนะ ถึงแม้บางอย่างจะยังใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้(อาจต้องรอให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเกิดระบาดหนักๆ ก่อนถึงค่อยสามารถทำให้คนปฏิบัติแบบจีนได้) แต่ผมเห็นมีหลายอย่างเหมือนกันนี่น่าจะประยุกต์และนำมาใช้ได้เลย



อันนี้กระทู้ที่ผมพูดถึง


ป.ล. ผมเห็นกระทู้นั้นแล้วเปลี่ยนความคิดที่ว่าจีนไร้ระเบียบไปเลย และคิดว่าหลังจากนี้คนจีนอาจจะเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบมีวินัยมากขึ้นด้วย(รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทางไกลในการทำกิจกรรมต่างๆ)
 โดยปกติต่อให้มีนโยบาลของรัฐออกมา แต่หากประชาชนไม่เห็นความสำคัญยังไงก็ไม่ได้ผล แต่เพราะเหตุการณ์คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง ทำให้ประชาชนต้องนำวินัยและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการฝ่าวิกฤติ(เพื่อความอยู่รอดของตนเอง) ซึ่งจะทำให้พวกเขาเห็นความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวของพวกเขาเอง(โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับไวรัสกันนานแบบนี้) เรียกได้ว่า รัฐผลักดันไม่เท่าประชาชนริเริ่ม .....ผมมั่นใจเลยว่าหลังจากนี้จีนจะพัฒนาได้ไกลยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
 

ออฟไลน์ Hikakichi

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 706
  • ถูกใจแล้ว: 166 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-14
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #533 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 10:12:02 PM »
ถ้าตามโพสต์นึ้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป แต่ละรพ.จะเริ่มตรวจคัดกรองผู้ป่วยและญาติทุกรายที่มารพ.เพื่อเฝ้าระวังcovid-19 ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข


https://www.facebook.com/213965775315620/posts/2866923770019794/?d=n
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,353
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #534 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 10:34:32 PM »
[quote/]


ผมว่าจริง หน่วยงานสาธารณะสุขควรทำแอพขึ้นมาซักตัวครับ
คอนเซ็ปคือการเข้าคิว


โดยแบ่งเป็น 2 เฟส
1.ตรวจอาการที่บ้าน เป็นแบบถามตอบ เช่น
มีอาการแบบไหน แบบเลือกตอบได้มากกว่า 1


ก. ตัวร้อน
ข. ไอ
ค. ปวดกล้ามเนื้อ
ง. อื่นๆ


แล้วก็พอตอบครบ ใครไม่มีอาการก็ บอกว่าอาจจะเป็นโรคอะไร
ควรรีบไปหาหมอไหม


เอาแค่นี้ก็ลดคนที่วิตกได้เยอะละ


2. พอผลจากแอพบอกว่าควรไปหาหมอ แอพก็จะมีมีจองคิวให้
แล้วพอคิวเริ่มใกล้แล้วก็จะมีถาม ต้องการการคอนเฟิม


โปรดคอนเฟิม แล้วมา รพ.


แต่แน่นอนบางคนอาจจะมาป่วนรึกดไว้กลัวเสียคิว
ก็ต้องให้แอพ ตรวจว่าตำแหน่ง gps ของมือถืออยู่ในระยะรึไม่
เช่น 20 คิวน่าจะใช้เวลา 1 ชม. คนเข้าคิวก็ต้องมาใกล้ๆ รพ.ละ
โดยระยะทางไม่เกิน 1 กม. รึ 2 กม.  ก็ว่าไป


คนจะได้ไม่ต้องไปนั่งรอใน รพ.นานๆทั้งวันแล้วไม่รู้จะถึงคิวตอนไหน


ถ้าหมอตรวจด้านนี้มี 4 คน คนไข้ที่ตรวจไวสุดใช้ 5 นาที
1 ชม. ก็ตรวจได้มากสุด 48 คน  พอถึงคิวเหลือ ซัก 50 ก็ต้องมาละ
ถ้าไม่มาคิวใน รพ. ก็จะโดนตัดออก


แต่ถ้ามาถึง รพ.ละ ก็จะมีตัวนับให้ว่าถึงคิวเท่าไหร่ละ
ใครอยากออกไปข้างนอกก็ตามใจ แต่ถ้ากลับมาไม่ทันเค้าก็จะข้ามคิวเอง


พอทำแบบนี้นอกจากผู้ป่วยจะไม่ต้องมาแออัดรอ
ยังทำให้คนที่ควรตรวจก็ต้องมา คนไม่ควรตรวจก็ยังไม่ต้องมา


ส่วนค่าใช้จ่าย รัฐก็อุดหนุนช่วงแรกไปก่อนเลย ขนาดแจกเงินให้เที่ยวฟรียังทำมาละ
อันนี้คุ้มกว่าอัดงบให้คนเที่ยวอีก


ส่วนงบ ผมว่าไม่เกิน 50 ล้าน ทำแอพแบบง่าย 1 เดือน
นำร่องแค่ รพ.รัฐพอ
สิ่งที่ รพ.ต้องทำเพิ่มคือ พยาบาลที่รับคิว ให้กดเลื่อนคิวเวลามีคนไข้เข้าไปตรวจ


ส่วนการคัดแยกการใช้บริการแบบ แอพกับ แบบ ปรกติ
ก็ให้แยกกันต่างหากเลย คือหมอคนนี้สำหรับแอพ คนนี้สำหรับปรกติ
ถ้าคนใช้แอพหมดคิว ก็เรียกคิวปรกติมาตรวจ
แต่ถ้ามีคิวแอพ ก็เรียกคิวแอพก่อนให้จนหมด

แล้วถ้าแอพได้รับความนิยมก็ค่อยๆเพิ่มอัตราส่วนการตรวจจากแอพก่อน
พอคนเริ่มรู้เค้าก็จะใช้แอพเพิ่มกันเอง
มันทำไม่ได้ครับหมอมันไม่ได้ครับเก่งกาจด้านไอทีเต็มที่ก็ไห้ความรู้กับรักษาไอ้การจัดการคิวคนไข้นี่ยิ่งไม่ไช่งานหมอมันงานด้านธุรการ สำหรับการทำแอปหรือฟีตข่าวไทยมีสุดยอดหน่วยงานที่ทุกคุนลืมictหน่วยงานที่เก่งกาจด้านitที่ตังแต่ตังขึ้นมาจนบัดนี้ ผมยังไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอันส่วนเรื่องไห้ความรู้ มันมีป้ายตามโรงพยาบาลอยู่แล้วครับนี่ก็สุดความสามารถของหมอและโรงบาลแล้ว ผมเห็นด้วยที่หน่วยงานรัฐควรกระจายข้อมูลวีธีป้องกันวิธีสังเกตุอาการ ตอนนี้ผมก็ไม่เห็นใครทำอะไรไม่ต้องถึงขนาดสร้างแอปก็ได้เอาง่ายๆอย่างประกาศแบบตอนลุงตู๋ร้องเพลงทุกวันก็ได้

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,718
  • ถูกใจแล้ว: 3079 ครั้ง
  • ความนิยม: +212/-3
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #535 เมื่อ: มีนาคม 01, 2020, 11:32:20 PM »
[quote/]
มันทำไม่ได้ครับหมอมันไม่ได้ครับเก่งกาจด้านไอทีเต็มที่ก็ไห้ความรู้กับรักษาไอ้การจัดการคิวคนไข้นี่ยิ่งไม่ไช่งานหมอมันงานด้านธุรการ สำหรับการทำแอปหรือฟีตข่าวไทยมีสุดยอดหน่วยงานที่ทุกคุนลืมictหน่วยงานที่เก่งกาจด้านitที่ตังแต่ตังขึ้นมาจนบัดนี้ ผมยังไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอันส่วนเรื่องไห้ความรู้ มันมีป้ายตามโรงพยาบาลอยู่แล้วครับนี่ก็สุดความสามารถของหมอและโรงบาลแล้ว ผมเห็นด้วยที่หน่วยงานรัฐควรกระจายข้อมูลวีธีป้องกันวิธีสังเกตุอาการ ตอนนี้ผมก็ไม่เห็นใครทำอะไรไม่ต้องถึงขนาดสร้างแอปก็ได้เอาง่ายๆอย่างประกาศแบบตอนลุงตู๋ร้องเพลงทุกวันก็ได้


ไม่ได้ให้หมอทำแอพครับ
แต่เป็นการจ้าง บ. ทำแอพต่างหากครับ ไม่งั้นผมจะพูดเรื่องงบทำไม


ที่หมอต้องทำคือ การเขียนโฟลวชาร์ต ว่าเริ่มมาต้องไปยังไง
แล้วไปทางไหนต่อตามขั้นตอน เดี๋ยวให้ไปยังไงต่อ


ไม่ต้องเกี่ยวกับ ict เลยครับ มันเสียเวลา กว่าจะประชุม กว่าจะนู่นนี่ ครึ่งปีก็ไม่เสร็จ


เปิดจ้างเหมาแบบจำเพาะเจาะจงเลย
พวก บ.ที่เคยทำมันมีโค๊ดพื้นฐานอยู่
หน่วยงานรัฐเค้ามี บ.คู่ค้าอยู่ละ
มีหน่วย it  ถ้า รมต. สั่งสัปดาห์เดียวก็ได้ บ. จัดทำละ
ให้ บ.คู่สัญญาที่ทำงานอื่นอยู่ ช่วยจัดหาทีมทำฉุกเฉิน ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ

งบก็ทำตามทีหลัง ให้ทำตัวเร่งด่วนก่อน
แล้วค่อยตั้งโครงการทำแบบหรูตามมา
ตัดฟังชั่นที่เสียเวลาทำออกให้หมด เน้นง่ายก่อน
แล้วค่อยใส่ใน เวอชั่นจริง


แล้วก็แพทย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้เก่งคอมเท่าวิทคอม รึวิศวะคอม
แต่เค้าก็ไม่ได้โง่ it กันนะครับ


อย่างหมอที่เป็นญาติผม เค้าก็ติวคอมให้เพื่อนที่เรียนวิทยาคอมได้นะครับ
ตอนเล่นเกมไพ่ มันก็เขียนโปรแกรมการคำนวนหน้าไพ่
เพื่อให้เล่นชนะคอม


คนนี้ดีกรี คอมพิวเตอร์โอลิมปิก ตกรอบสุดท้ายชิงตัวแทนประเทศ


อย่าลืมนะครับ ว่าแพทย์ก็สายวิทย์ ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
แต่ก็คุยกันรู้เรื่องได้อยู่

ผมว่าคนวงการสาธารณะสุข ไม่ไร้คนมีความสามารถด้านไอที หรอกครับ
หลายๆรพ. ก็ต้องใช้เครื่องมือสมัยใหม่
มันก็ต้องใช้คอมทั้งนั้น

คือหมอแก่ๆอาจจะไม่เก่งเรื่องไอที
แต่หมอรุ่นใหม่ก็ใช้คอม มือถือสมาร์ทโฟน โซเชียลกันเป็นหมดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2020, 11:47:15 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ daijobu

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 985
  • ถูกใจแล้ว: 408 ครั้ง
  • ความนิยม: +28/-61
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #536 เมื่อ: มีนาคม 02, 2020, 12:28:12 AM »
ตอนนี้หน้ากากอนามัยเริ่มหาซื้อยาก แถมแบบผ้าที่ขายในตลาดก็รัดแน่นใส่ไม่สบายเลย
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าใส่แบบไอ้เฮนไตคาเมน มันสวมสบายกว่าไหม ???
 

ออฟไลน์ TamaNeko

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 446
  • ถูกใจแล้ว: 192 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-22
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #537 เมื่อ: มีนาคม 02, 2020, 01:28:16 AM »
หนึ่งในข่าวเศร้าสะเทือนใจสำหรับผมมาก
https://mcmnt.com/vatican-confirms-pope-francis-and-two-aides-test-positive-for-coronavirus/ ลิงค์ต้นทางจาก MCM NEWS หายไปแล้ว

ท่านพระสันตะปาปาฟรานซิสป่วยด้วยโรคโคโรน่าแล้วครับ....
ขออวยพรให้ท่านจะหายดีในเร็ววันนะครับ

รอคอยข่าวเป็นทางการอีกทีดีกว่าครับ

เป็นแค่หวัดไม่ใช่เหรอ?  ข่าวนี้วิตกมาหลายวันหล่ะ  สำนักข่าวนี้พึ่งนำมาเล่นแฮะ  พระสันตะปาปามีปอด
ข้างเดียว  เลยไม่สบายง่าย
 

ออฟไลน์ TamaNeko

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 446
  • ถูกใจแล้ว: 192 ครั้ง
  • ความนิยม: +13/-22
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #538 เมื่อ: มีนาคม 02, 2020, 02:01:39 AM »
[quote/]


ผมว่าจริง หน่วยงานสาธารณะสุขควรทำแอพขึ้นมาซักตัวครับ
คอนเซ็ปคือการเข้าคิว


โดยแบ่งเป็น 2 เฟส
1.ตรวจอาการที่บ้าน เป็นแบบถามตอบ เช่น
มีอาการแบบไหน แบบเลือกตอบได้มากกว่า 1


ก. ตัวร้อน
ข. ไอ
ค. ปวดกล้ามเนื้อ
ง. อื่นๆ


แล้วก็พอตอบครบ ใครไม่มีอาการก็ บอกว่าอาจจะเป็นโรคอะไร
ควรรีบไปหาหมอไหม


เอาแค่นี้ก็ลดคนที่วิตกได้เยอะละ


2. พอผลจากแอพบอกว่าควรไปหาหมอ แอพก็จะมีมีจองคิวให้
แล้วพอคิวเริ่มใกล้แล้วก็จะมีถาม ต้องการการคอนเฟิม


โปรดคอนเฟิม แล้วมา รพ.


แต่แน่นอนบางคนอาจจะมาป่วนรึกดไว้กลัวเสียคิว
ก็ต้องให้แอพ ตรวจว่าตำแหน่ง gps ของมือถืออยู่ในระยะรึไม่
เช่น 20 คิวน่าจะใช้เวลา 1 ชม. คนเข้าคิวก็ต้องมาใกล้ๆ รพ.ละ
โดยระยะทางไม่เกิน 1 กม. รึ 2 กม.  ก็ว่าไป


คนจะได้ไม่ต้องไปนั่งรอใน รพ.นานๆทั้งวันแล้วไม่รู้จะถึงคิวตอนไหน


ถ้าหมอตรวจด้านนี้มี 4 คน คนไข้ที่ตรวจไวสุดใช้ 5 นาที
1 ชม. ก็ตรวจได้มากสุด 48 คน  พอถึงคิวเหลือ ซัก 50 ก็ต้องมาละ
ถ้าไม่มาคิวใน รพ. ก็จะโดนตัดออก


แต่ถ้ามาถึง รพ.ละ ก็จะมีตัวนับให้ว่าถึงคิวเท่าไหร่ละ
ใครอยากออกไปข้างนอกก็ตามใจ แต่ถ้ากลับมาไม่ทันเค้าก็จะข้ามคิวเอง


พอทำแบบนี้นอกจากผู้ป่วยจะไม่ต้องมาแออัดรอ
ยังทำให้คนที่ควรตรวจก็ต้องมา คนไม่ควรตรวจก็ยังไม่ต้องมา


ส่วนค่าใช้จ่าย รัฐก็อุดหนุนช่วงแรกไปก่อนเลย ขนาดแจกเงินให้เที่ยวฟรียังทำมาละ
อันนี้คุ้มกว่าอัดงบให้คนเที่ยวอีก


ส่วนงบ ผมว่าไม่เกิน 50 ล้าน ทำแอพแบบง่าย 1 เดือน
นำร่องแค่ รพ.รัฐพอ
สิ่งที่ รพ.ต้องทำเพิ่มคือ พยาบาลที่รับคิว ให้กดเลื่อนคิวเวลามีคนไข้เข้าไปตรวจ


ส่วนการคัดแยกการใช้บริการแบบ แอพกับ แบบ ปรกติ
ก็ให้แยกกันต่างหากเลย คือหมอคนนี้สำหรับแอพ คนนี้สำหรับปรกติ
ถ้าคนใช้แอพหมดคิว ก็เรียกคิวปรกติมาตรวจ
แต่ถ้ามีคิวแอพ ก็เรียกคิวแอพก่อนให้จนหมด

แล้วถ้าแอพได้รับความนิยมก็ค่อยๆเพิ่มอัตราส่วนการตรวจจากแอพก่อน
พอคนเริ่มรู้เค้าก็จะใช้แอพเพิ่มกันเอง

เมื่อกี้พิมพ์ยาวแต่ขอลบไปก่อนเพราะฟังตอนสมองเบลอๆ  กลัวข้อมูลผิดพลาด  รอพรุ่งนี้น่าจะมี
การอธิบายอย่างเป็นทางการ  เกี่ยวกับทำไมถึงไม่ตรวจทุกคนที่อยากจะตรวจ  ทำไมถึงปล่อยให้
ผู้สงสัยกลับบ้านแล้วให้กักตัวเองไว้ 

จำได้คร่าวๆอันนึงก็  ไข้หวัดอันนี้ถ้าเป็นในระยะฟักตัวจะยังไม่มีโอกาสแพร่เจอเชื้อหน่ะ  เพราะงั้น
ถ้าใครอยากจะตรวจ  แล้วตรวจก็ผลเป็นลบไปแล้ว  แล้วถ้าได้ผลเป็นลบทั้งๆที่อาจจะเป็นโรคก็จะ
ทำให้มีผู้ได้รับการแพร่เชื้อจากคนที่ผลตรวจแสดงอาการในตอนแรกเป็นลบ  เพราะงั้นเราจึงเห็น
เหมือนว่าทางการแพทย์สะเพร่า  แต่เปล่าเลย  เพราะถึงตรวจก็ตรวจไม่เจอ  ยกเว้นคนที่มานั้น
เข้าข่ายตามที่ระบุในระเบียนการซักถามเบื้องต้น  (ประมาณว่าตอนมาเนี่ยเริ่มมีอาการแล้วแต่
ยังไม่เข้าช่วงแพร่เชื้อ  ถึงจะเป็นบวก)

เพราะงั้นเลยให้กักตัวดูอาการที่บ้าน  ระวังคนในครอบครัวด้วย  ถ้าครบ 14 วันไม่มีอาการก็นำ
มาตรวจเพื่อให้แน่ใจอีกทีก่อนยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ  มีเจ้าหน้าที่70คนโทรซักถามทุกวันต่ออัตรา
ผู้เฝ้าระวังจำนวนหลักพัน

สรุปคร่าวๆ  เพราะไม่สามารถเจอเชื้อเลยไม่ตรวจ  แต่ให้กักตัวในบ้านพร้อมติดตามอาการ 
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คงราวๆว่า  เราไปในที่ๆคนเป็นหวัดมา  แล้วกลับบ้านเกิดสงสัย
เลยไปหาหมอ  หมอตรวจยังไงก็ไม่เจอเพราะเชื้อไวรัสพึ่งเข้าสู่ร่างกาย  ต้องรอสักพัก  ถ้า
เป็นก็จะมีอาการ  ถ้าอาการเข้าข่ายก็เข้ารับตรวจ  ก่อนที่จะเข้าสู่ระยะแพร่เชื้อ  เพราะ
ผู้ต้องสงสัยมีจำนวนมาก  และยังหาเชื้อในระยะเริ่มต้นที่เข้าร่างกายไม่ได้ 

[เพราะงั้นทั่วโลกเลยใช้วิธีกักตัวรอดูอาการไง  เพราะถึงตรวจแล้วเป็นลบ  แต่ก็อาจ
เพราะยังไม่เข้าสู่ระยะแสดงโรค]


เหมือนตอนเราพึ่งติดหวัดจากเพื่อน  ตอนแรกก็อาการสบายดีไง  ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือเปล่า
ถึงถ้าเป็น  แต่ถ้ากักตัวอยู่บ้านแล้วหายมันก็จบ  แต่ถ้ามีอาการเข้าข่ายเมื่อไรจึงมา  เพราะ
กักตัวไว้แล้วยังไงๆถ้าถึงระยะแพร่เชื้อก็แพร่ให้ใครไม่ได้  ด้วยเพราะกักตัวอยู่บ้าน  แต่ถ้า
พบผู้กักตัวแสดงอาการ  ก็จะทำการกักตัวคนรอบข้างอีก40-50ราย  กันเหนียว

จำได้คร่าวๆเท่านี้แหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2020, 02:46:27 AM โดย TamaNeko »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,353
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
Re: คิดยังไงหกับข่าวไวรัสโคโรน่า
« ตอบกลับ #539 เมื่อ: มีนาคม 02, 2020, 04:05:53 AM »
[quote/]


ไม่ได้ให้หมอทำแอพครับ
แต่เป็นการจ้าง บ. ทำแอพต่างหากครับ ไม่งั้นผมจะพูดเรื่องงบทำไม


ที่หมอต้องทำคือ การเขียนโฟลวชาร์ต ว่าเริ่มมาต้องไปยังไง
แล้วไปทางไหนต่อตามขั้นตอน เดี๋ยวให้ไปยังไงต่อ


ไม่ต้องเกี่ยวกับ ict เลยครับ มันเสียเวลา กว่าจะประชุม กว่าจะนู่นนี่ ครึ่งปีก็ไม่เสร็จ


เปิดจ้างเหมาแบบจำเพาะเจาะจงเลย
พวก บ.ที่เคยทำมันมีโค๊ดพื้นฐานอยู่
หน่วยงานรัฐเค้ามี บ.คู่ค้าอยู่ละ
มีหน่วย it  ถ้า รมต. สั่งสัปดาห์เดียวก็ได้ บ. จัดทำละ
ให้ บ.คู่สัญญาที่ทำงานอื่นอยู่ ช่วยจัดหาทีมทำฉุกเฉิน ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ

งบก็ทำตามทีหลัง ให้ทำตัวเร่งด่วนก่อน
แล้วค่อยตั้งโครงการทำแบบหรูตามมา
ตัดฟังชั่นที่เสียเวลาทำออกให้หมด เน้นง่ายก่อน
แล้วค่อยใส่ใน เวอชั่นจริง


แล้วก็แพทย์ส่วนใหญ่จะไม่ได้เก่งคอมเท่าวิทคอม รึวิศวะคอม
แต่เค้าก็ไม่ได้โง่ it กันนะครับ


อย่างหมอที่เป็นญาติผม เค้าก็ติวคอมให้เพื่อนที่เรียนวิทยาคอมได้นะครับ
ตอนเล่นเกมไพ่ มันก็เขียนโปรแกรมการคำนวนหน้าไพ่
เพื่อให้เล่นชนะคอม


คนนี้ดีกรี คอมพิวเตอร์โอลิมปิก ตกรอบสุดท้ายชิงตัวแทนประเทศ


อย่าลืมนะครับ ว่าแพทย์ก็สายวิทย์ ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
แต่ก็คุยกันรู้เรื่องได้อยู่

ผมว่าคนวงการสาธารณะสุข ไม่ไร้คนมีความสามารถด้านไอที หรอกครับ
หลายๆรพ. ก็ต้องใช้เครื่องมือสมัยใหม่
มันก็ต้องใช้คอมทั้งนั้น

คือหมอแก่ๆอาจจะไม่เก่งเรื่องไอที
แต่หมอรุ่นใหม่ก็ใช้คอม มือถือสมาร์ทโฟน โซเชียลกันเป็นหมดครับ
ที่ผมจะสื่อคือจ้างบ.ทำแอปมันไม่ทันกินหรอกครับการจ้างหน่วยงานอื่นมาทำมันเสียเวลามากไหนจะต้องจัดงบอย่างต่ำ1สัปดาห์ ยืนซองจัดซื้ออีกเป็นเดือน กว่าจะเสร็จอย่างต่ำก็3เดือนโน่นละครับ และไอ้กระทรวงictนี่ทำอะไรได้บ้างแค่ฟิดข่าวลงเวปไซต์ทางการก็ควรจะเป็นอยู่ไหมทำใมต้องจ้างทำแอปสู้ลงเวปง่ายๆกดดูในบราวเซอร์ไหนที่ต่อเน็ตได้ก็ดูได้ไม่ง่ายกว่า แล้วประกาศวีธีป้องกันและวีธีดูอาการลงทีวีเลยก็ยังได้แถมเวปไซต์รายละเอียดในรายการเลยง่ายกว่าจ้างบ.นอกทำแอปเยอะ ขันตอนง่ายกว่ากันด้วยแค่ออกเอกสารราชการใบเดียวร่อนไปไห้ictที่ควรจะทำงานบ้าง กับจัดเวลาออกรายการในทีวีง่ายจะตายลุงร้องเพลงทุก5โมงทุกเย็นทุกช่องยังทำได้ ที่ผมเสนอคืองานง่ายๆที่เคยทำมาแล้วครับไอ้จ้างบ.อื่นทำแอปไห้ผมยังไม่แน่ใจเลยว่ารัฐฯชุดนี้รู้จักเเอปหรือปล่าวท่านคิดว่าไอเดียท่านรัฐชุดนี้จะทำเป็นไหม แค่กูเกิลยังต้องไช้เวลา5ปีถึงรู้จักไอ้สร้างแอปผมไม่รู้ว่าอีก10ปีจะได้ไช้ไหม

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก