[quote/]
ผมถึงกลับต้องค้นกูเกิลคำว่า [เจ๊อ๋อย คือใคร] ฮา ไม่ๆๆ ผมไม่ใช่ ฮา แนวคิดผมมันประเภท
ไม่สู้คน เป็นพวกเห็นแก่ตัว เห็นแก่คนรอบข้างเป็นสำคัญ สำคัญกว่าสังคม สำคัญกว่าประเทศ
ในสปอยล์เป็นข้อความนอกประเด็นไข้หวัด มันเป็นความรู้สึกในหัวสมอง ถึงการที่ทำไมผมคิดว่า
ทำตัวให้เป็นประชาชนของโลก ดีกว่าเป็นประชาชนของประเทศที่เกินเยียวยา มันเป็นทางออกที่
อย่างน้อยก็ทำง่ายกว่าเปลี่ยนแปลงประเทศที่ตัวเองยึดติด ทำอะไรเปลี่ยนแปลงมันต้องลงทุน ทั้ง
เวลา จิตใจที่ไม่ย่อท้อ และไม่มีอะไรรับประกันว่าชนะ ประเทศมาตุภูมิสำคัญ แต่สำคัญน้อยกว่า
ประเทศที่เราจะอาศัยอยู่ตลอดชีวิต
เอาแบบอยู่กับก๋งคือ
"เมืองจีนคือที่เกิดของก๋งแต่เมืองไทยคือที่ตายของก๋ง"สินะครับ
เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะตายที่อื่นได้
ว่ากันตามตรง ผมชอบความบ้าของอเมริกานะ
หากคิดว่าตนเองเก่ง เจ๋งจริงก็ไปได้เลย
แต่คนที่ขาดความมั่นใจ ไปอยู่ประเทศนั้นไม่น่าจะรุ่้ง ฮา
ไปเจอแนวคิดของฝ่ายนีโอนาซีมาว่า
พวกโลกที่สามอย่างเรา หากไปโลกที่หนึ่ง แทนที่จะปรับตัวเข้ากับโลกที่หนึ่ง
จะพยายามเปลี่ยนวัฒนธรรมของเขาให้กลายเป็นแบบเรา
และจะนำปัญหาของประเทศเราให้กลายเป็นของเขาไปด้วย
แนวความคิดของทักกี้ที่ว่าเถียงผู้ใหญ่นั่นผมว่าน่าจะจริง
ไปเจอเอาแบบ ผมไปเล่นเควสต์เรื่อง Gate JSDF
ล่ะครับ
ที่ในเควสต์นี้บรรยายว่า ทหารอเมริกาติดสอยห้อยตามไปกับทหารญี่ปุ่น
มีนายพล ฮาซามะของญี่ปุ่นเป็นผู้รับผิดชอบ
บรรยายว่านายพันของอเมริกา นั้นเสนอความเห็นแบบตรงไปตรงเสียดังฟังชัด
เรียกได้ว่าในสายตาของอเมริกาคือเฟรนลี่ด้วยซ้ำ
แต่ในสายตาของคนญี่ปุ่นที่ชอบพูดอ้อมๆ
นายพันชาวอเมริกากลับดูกลายเป็นคนก้าวร้าวเถียงคำไม่ตกฟากไป
ผมว่าก็จริงนะ
การเถียงของพวกนี้มันไม่ยอมกันจริงๆ อเมริกานั้นผมมองว่าหน่ากลัวเอามากๆ
เพราะวัฒนธรรมของเขาจะหวังชัยชนะจริงๆ
...
พูดให้เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้หน่อยก็คือ
มีคนบอกว่าให้ประเทศโลกที่หนึ่งมีการเสียชีวิตก่อน เขาจึงจะกังวล
มีแนวโน้มว่าพันธุกรรมของไวรัสจะติดตจ่อกันอย่างมากในกลุ่มของคนที่มีดีเอ็นเอของคนเอเซียว่าอย่างนั้น
และทฤษฎีสมคบคิดกันสารพัด