ไปเจอมาครับ จากเพจเดอะสังคม
https://web.facebook.com/Sangkomtoday/posts/1149725562085859เนื้อหาของโพสต์เท่าที่อ่านเม้นของคนไร้ศาสนาแต่ละคน ก็มักแต่จะพบกับการยกยอปอปั้นให้ตนเองดูดีขึ้นอย่างลอยๆโดยปราศจากข้อมูลที่ยืนยันถึงความดีใดๆ ซึ่งอาจเป็นเพียงแค่การปลอบใจตัวเองไม่ให้นึกถึงความหม่นหมองกับความชั่วของตนที่ผ่านมา
สิ่งหนึ่งที่นำมาตัดสินความชั่วช้าสามาลย์ของคนไร้ศาสนาได้ดีที่สุดคือข้อมูลที่เป็นจริงต่อไปนี้
สหรัฐอเมริกามีกฏหมายห้ามทำแท้งตั้งแต่ต้นปี1900 เพราะคริสตศาสนาต่อต้านมาโดยตลอด
แต่แล้วในวันที่ 22 มกราคม 1973 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ในวันนั้นศาลฏีกาได้มีมีคำพิพากษาของคดีโรและเวด และคำพิพากษานั้นก็ได้ทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องถูกกฏหมายไปทั่วสหรัฐอเมริกา
ในปีเดียวหลังคำพิพากษาได้มีการทำแท้งถึง 750,000 ครั้ง
ในปี 1980 จำนวนครั้งของการทำแท้งสูงถึง 1,600,000 ครั้ง
ทุกวันนี้สหรัฐอเมริกามีการทำแท้งโดยเฉลี่ยปีละ 1,500,000 ครั้ง
สถิติการทำแท้งทั่วโลก ช่วงปี 1990-1994/2533-2537..สถิติการทำแท้ง = 50 ล้านราย/ปี
ปี 2010-2014/2553-2557..สถิติการทำแท้ง = 56 ล้านราย/ปี
คนเราเสียชีวิตจากการทำแท้ง (56 ล้านคน/ปี)
1 ปี เกือบเท่าสงครามโลกครั้งที่ 2 (60-85 ล้านคน/6 ปี)
นี่แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เสื่อมทรามจากการไร้ศีลธรรมเพียงเพราะการรักความสนุกในอารมณ์ทางเพศ. พอผลพวงของมันออกมาด้วยการมีลูก ความเห็นแก่ตัวมันครอบงำถึงกับลงมือฆ่าลูกตนเอง มองสายใยตนเองเหมือนผักปลาตายด้วยสายตาที่เย็นชา. แม้แต่หมาที่มันพบกับความไม่พร้อมตลอดชีวิต..มันก็ยังอุ้มท้องเดินหาเศษอาหารที่เป็นประโยชน์กับลูกของมันเลย
มาถึงตอนนี้แล้วคนไร้ศาสนาจอมแถ ก็ควรจะรู้เสียทีว่า เราคือผู้หนึ่งที่จรรโลงความชั่วช้าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่จะเกิดมาดูโลกให้ยั่งยืนต่อไป
ความเห็นส่วนตัวคนไร้ศาสนาก็เหมือนคนมีศาสนานั่นแหละ มีดี-ไม่ดีปะปนกันไป แล้วการทำแท้งเนี่ย คือย้ำมาเป็นล้านรอบแล้วว่ามันเป็นการคุมกำเนิดประเภทนึงสำหรับคนไม่พร้อม เช่น โดนข่มขืนจนท้อง เด็กในครรภ์พิการ ฯลฯ
เด็กพิการแล้วทำแท้งคุ้นๆว่ากรณีก่อนหน้าเคยมีคนเปรียบเทียบไปถึงแนวคิดอำนวยความสะดวกผู้พิการบนรถโดยสาร-ถนน-ที่จอดรถด้วย ซึ่งแม่งคนละบริบทเลยครับ กรณีนั้นมันหมายถึงบางคนที่เกิดมาครบ32 แต่มาพิการทีหลังเพราะอุบัติเหตุหรือสุขภาพด้วยไง ยิ่งไปชี้หน้าคนทำแท้งเพราะโดนข่มขืนจนท้องมายิ่งเหี้ยใหญ่ มีหลายกรณีนะ ที่เด็กเกิดมาแบบนี้โดนผู้เป็นแม่ทารุณกรรมจากอาการทางจิต ยิ่งบริบทไทยๆชอบถือว่าเป็นเรื่องในบ้านคนนอกไม่ควรยุ่งด้วยอีก
อีกประเด็น คนไร้ศาสนาไม่ใช่ว่าจะเลวทุกคน ความจริงเขาอาจจะดีกว่าก็ได้ อย่างน้อยๆทำอะไรก็ไม่ต้องมาติดนั่นติดนี่ เอาง่ายๆ กรณีพ่อแม่ทารุณกรรมลูก ถ้าคนไม่มีศาสนาอาจจะคิดว่าสมควรช่วยเหลือ เพราะยึดกฎหมายบ้านเมืองมากกว่า ในขณะที่คนมีศาสนามักจะมองว่าเป็นเรื่องเวรกรรมแต่ปางก่อนและเรื่องหลักกตัญญู มโนเรื่องช้างตาบอดมากลบเกลื่อนก็มีจนกลายเป็นละเลยปัญหาไป
เรียกง่ายๆ มันก็เหมือนระบบราชการ-ระบบเอกชนนั่นแหละ คนมีศาสนา(แบบที่ค่อนข้างเคร่งขึ้นไป)ก็แนวๆราชการ ติดขั้นตอนนั่นนี่โน่น กลัวบาป กลัวเงื่อนไข มองอะไรแบบขาว-ดำ ดี-ชั่ว ไม่มีตรงกลาง ระเบียบจัด ทำอะไรต่างๆจะต้องมีการขอขมา เจิม ทำพิธีที่โคตรยุ่งยากแถมเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็นเปรียบเหมือนงานราชการที่ต้องมีหนังสือ-เอกสาร ในขณะที่คนไม่มีศาสนาก็เหมือนเอกชน คือทำอะไรได้เลยไม่ค่อยมีการติดพิธี-ธรรมเนียมนั่นนี่เท่าไหร่