คงจะปฏิเสธได้ยากว่า ในสังคมของเรานั้นมีเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม เช่นเดียวกันกับโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ที่เต็มไปด้วยสีสันมากมายหลายเฉดทั้งสีขาว สีดำ สีเหลือง สีแดง หรือแม้แต่สีม่วงอมน้ำเงิน ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
และวันนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งมาฝากเพื่อนๆ กัน เพื่อให้ทุกๆ คนได้เห็นว่าในอีกมุมหนึ่งของโลกก็ยังมีเฉดสีอื่น ที่เรายังไม่เคยรู้จักเช่นกัน
ย้อนกลับไปในช่วงสมัยเอโดะ มีเด็กหนุ่มมากมาย ที่ใช้ร่างกายของพวกเขาเพื่อแลกกับเงิน หรือที่เรียกว่า “Kagema” (คาเกะมะ)
จุดเริ่มต้นของ Kagema มักจะมาจากเด็กที่ฝึกงานอยู่กับคณะการแสดงคาบูกิ ซึ่งการขายบริการทางเพศนั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการทำงานของพวกเขา และจะมีลูกค้าทั้งเพศหญิงและเพศชาย
สิ่งที่น่าสนใจของ Kagema คือเหล่าลูกค้าผู้ชาย ซึ่งจากเอกสารของในช่วงเอโดะไม่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องรักร่วมเพศ แต่มีข้อมูลบอกว่าการร่วมเพศทางทวารหนักนั้นเป็นการเสริมพลังทางเพศ เนื่อจากตามความเชื่อของจีนโบราณในจุดนี้คือจุดศูนย์รวมของพลังนั่นเองโดยการติดต่อ Kagema นั้นไม่ได้ทำการติดต่อผ่านทางคณะคาบูกิแต่อย่างใด แต่จะติดต่อผ่านซ่องโสเภณี หรือร้านน้ำชาแทน ซึ่งหลังจากที่ติดต่อเรียบร้อยแล้ว เจ้าของโรงน้ำชาจะเป็นคนที่นำธูปไปปักที่หน้าป้ายชื่อของ Kagema เพื่อเป็นการบอกเวลาของลูกค้า
แขกของ Kagema นั้นมีหลากหลายชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นเหล่าขุนนางทั้งชายและหญิง แม่หม้าย ซามูไร หรือแม้แต่พระก็ด้วย
ซึ่งค่าบริการของพวกเขานั้นก็เริ่มต้นตั้งแต่ 1 บุ ประมาณ 20,000 เยน (ประมาณ 6,000 บาท) ไปจนถึง 1 เรียว ประมาณ 100,000 เยน (ประมาณ 30,000 บาท) สำหรับค้างคืน
ขั้นตอนในการเตรียมตัวก่อนที่จะมาเป็น Kagema นั้นเด็กหนุ่มจะต้องมีการดูแลหน้าตาและผิวพรรณให้ดี โดยพวกเขาจะใช้ผลทับทิมขัดผิว และใช้ไม้หนีบจมูกก่อนนอนทุกคืนเพื่อให้จมูกโด่ง นอกจากนี้ยังมีการใช้กลีบซากุระถูตัวซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้อีกด้วย
และนอกจากการดูแลผิวพรรณแล้ว ยังมีการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับแขกผู้ชาย จากข้อมูลระบุว่า Kagema จะใช้วัสดุต่างๆ ขยายรูทวารไล่ตั้งแต่นิ้ว ไปจนกระทั่งถึงอวัยวะเพศชายจริงๆ
เมื่อการเวลาผ่านไป กฎหมายต่างๆ เริ่มสร้างข้อจำกัดเรื่องรสนิยมทางเพศให้กับชาวญี่ปุ่น ในปี 1873 การร่วมเพศทางทวารหนักถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ทว่ามันกลับถูกยกเลิกในอีก 7 ปีถัดมาตามประมวลกฎหมายนโปเลียนที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส
Kagema ถือเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยเอโดะ และดูเหมือนว่าเรื่องราวจากประวัติศาสตร์เรื่องนี้กำลังบอกอะไรกับพวกเราบางอย่าง
https://www.catdumb.com/kegema-kon-on-nung-larn-kon-007/?fbclid=IwAR1qZ7q4Dbd8tFFxTqqQ9pPcstqUqrA5pOZdqCvIqsVFhGzlhydKgL0rIoE